พาไปเที่ยวไร่ยาสูบ เพชรบูรณ์ ตอนที่ 2

พาไปเที่ยวไร่ยาสูบ เพชรบูรณ์ ตอนที่ 2

พาไปเที่ยวไร่ยาสูบ เพชรบูรณ์ ตอนที่ 2
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คราวที่แล้วเราพาทุกคนออกเดินทางไปอ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เที่ยวไร่ยาสูบ จนไปเจอกับคุณลุงใจดีพาเที่ยวไร่ แล้วยังอธิบายถึงขั้นตอนการปลูกต้นยาสูบให้พวกเราได้ความรู้กัน ทำให้เราได้ข้อมูลจากการไปเยี่ยมชมไร่ยาสูบมาหลายอย่าง

พาไปเที่ยวไร่ยาสูบ เพชรบูรณ์


พันธุ์ยาสูบที่ปลูกหลักๆมี 3 สายพันธุ์ คือ Burley, Virginia, และ Turkish

แหล่งปลูกต้นยาสูบแต่ละสายพันธุ์
1) Burley เพชรบูรณ์ (อ.หล่มสัก อ.วังโป่ง อ.เมือง) สุโขทัย นครพนม หนองคาย
2) Virginia ภาคเหนือ ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย แพร่ น่าน แม่ฮ่องสอน
3) Turkish อีสานตอนกลาง ได้แก่ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม ขอนแก่น

ขั้นตอนการปลูกต้นยาสูบ Burley
1) ปักชำต้นกล้า ใช้เวลา 45 วัน จากนั้นอีก 60 วันจึงเริ่มเก็บเกี่ยวได้ โดยเก็บประมาณ 3 รอบ ไล่จากการเก็บใบล่าง ใบกลาง และใบบน (ใบล่างจะแก่ก่อนใบบน) คุณภาพของแต่ละใบจะต่างกัน ต้องแยกเอาไว้ให้ชัดเจน (ประมาณ 60 วันจึงเก็บหมดทั้งต้น)
2) หลังจากเก็บใบยาสูบจากไร่ จะนำมาคัดแยกคุณภาพเพื่อนำมาร้อยเป็นกลุ่ม นำไปทำการบ่มอากาศ การบ่มใช้เวลา 35 วัน
3) หลังการบ่มจะนำมาอัดมัดเป็นห่อ เพื่อขายต่อให้โรงงานยาสูบ  มาตรฐานของโรงงานยาสูบ ในหนึ่งห่อจะต้องมีน้ำหนักประมาณ 65-70 กก. ทางโรงงานยาสูบ จะกำหนดโควต้ารับซื้อมาให้ชาวบ้านตั้งแต่ก่อนปลูก

พาไปเที่ยวไร่ยาสูบ เพชรบูรณ์


ส่วนรายได้เกษตรกรนั้น ทางคุณลุงเล่าให้เราฟังว่า

- ปกติทำนาได้ไร่ละประมาณ 5,000 บาท
- ทำไร่ยาสูบได้ประมาณไร่ละ 20,000-25,000 บาท หรือมากกว่าทำนา 4-5 เท่า
- ต้นทุนไร่ยาสูบต่อไร่ประมาณ 8,000 บาท
- แต่การทำไร่ยาสูบต้องอาศัยความขยัน หมั่นดูแลเอาใจใส่ จึงไม่สามารถทำในปริมาณที่เยอะเกินความสามารถของแรงงานได้
- การทำไร่ยาสูบจะทำได้ปีละหนึ่งครั้งช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนมีนาคม (แล้วแต่ครอบครัว) กินเวลาประมาณหกเดือน หลังหมดหน้าส่วนใหญ่จะทำนาและปลูกผัก

พาไปเที่ยวไร่ยาสูบ เพชรบูรณ์

 
บทบาทของโรงงานยาสูบที่มีต่อชาวเกษตรกรยาสูบ
 - ให้การสนับสนุนการปลูกต้นยาสูบ ทั้งการคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ การดูแล สูตรปุ๋ยที่เหมาะสม การควบคุมสารนิโคตินในใบยา การควบคุมปริมาณยาฆ่าแมลง การเก็บเกี่ยว การคัดแยก และการบ่ม รวมไปถึงการออกทุนสร้างโรงบ่มให้กับเกษตรกรหลังละ 50,000 บาท(ต้นทุนต่อหลังประมาณ 100,000 บาท) โดยเริ่มโครงการนี้มาแล้ว 3 ปี
 - การควบคุมคุณภาพใบยาสูบภายใต้มาตรฐาน GAP ซึ่งเป็นมาตรฐานสากล
 - ให้การสนับสนุนด้านการเงิน โดยร่วมมือกับธนาคารออมสินให้ปล่อยกู้แก่เกษตรกรโดยไม่ต้องมีหลักประกัน (ใช้เป็นหลักประกันกลุ่ม) โดยทางโรงงานยาสูบจะแจ้งโควต้ารับซื้อให้แก่เกษตรกร ก่อนทำการเพาะปลูกชัดเจนและรับซื้อจริงตามที่ตกลงไว้ จึงเป็นหลักประกันที่น่าเชื่อถือได้
 - กองทุนภัยพิบัติช่วยเหลือเกษตรกรยาสูบ วงเงินเริ่มต้น 100 ลบ. เพื่อเป็นทุนสนับสนุนเกษตรกร กรณีประสบภัยพิบัติธรรมชาติ (วางแผนจะเริ่มโครงการในเร็วๆนี้) (และเนื่องจากเกษตรกรยาสูบ ไม่มีการสนับสนุนใดๆจากทางภาครัฐเลย)
 - ศูนย์วิจัยพันธุ์ยาสูบที่แม่โจ้ เพื่อพัฒนาเมล็ดพันธุ์แจกจ่ายให้กับเกษตรกรโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ตัวอย่างความสำเร็จได้แก่ ยาสูบพันธุ์ Turkish ซึ่งเป็นสายพันธุ์ต่างประเทศที่สามารถปรับปรุงพัฒนาให้ปลูกในภาคอีสานได้
 - สวัสดิการอื่นๆ เช่น การตรวจสุขภาพประจำปี  มอบทุนการศึกษาแก่ลูกหลานเกษตรกร เป็นต้น

พาไปเที่ยวไร่ยาสูบ เพชรบูรณ์

ที่จริงแล้วมาเที่ยวดับร้อนแบบนี้ก็ทำให้เราได้ความรู้ติดตัวกลับบ้านไปด้วย ขอบคุณคุณลุง คุณป้า พี่ๆ น้าๆ ที่มาให้ความรู้กับพวกเราด้วยนะครับ

อัลบั้มภาพ 10 ภาพ

อัลบั้มภาพ 10 ภาพ ของ พาไปเที่ยวไร่ยาสูบ เพชรบูรณ์ ตอนที่ 2

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook