ออกล่า (ภาพ) วาฬบรูด้าที่แหลมผักเบี้ย

ออกล่า (ภาพ) วาฬบรูด้าที่แหลมผักเบี้ย

ออกล่า (ภาพ) วาฬบรูด้าที่แหลมผักเบี้ย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

thtravel201001402

เป็นข่าวที่พอจะหาพื้นที่แทรกในหน้าสื่อได้บ้าง สำหรับการเผยโฉมของเจ้าวาฬบรูด้า สัตว์โลกใต้ทะเลขนาดมหึมาที่แหวกว่ายเข้ามาหากินใกล้ชายฝั่งทะเล จ. เพชรบุรี 

ผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าวแห่งหนึ่งรายงานว่า มีผู้พบวาฬบรูด้าหลายสิบตัวว่ายน้ำหากินอยู่บริเวณชายฝั่งระหว่าง ต. บางตะบูน และ ต. แหลมผักเบี้ย อ. บ้านแหลม จ. เพชรบุรี จึงรุดไปตรวจสอบ ณ จุดที่ห่างจากชายฝั่งแหลมผักเบี้ยไปราว 6-7 กิโลเมตร ก็พบกับฝูงวาฬบรูด้าหลายตัวหากินอยู่ บางตัวมีขนาดลำตัวยาวถึง 14 เมตร

วาฬบรูด้าเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ที่มีลักษณะลำตัวค่อนข้างเพรียว สีเทาออกดำ เมื่อเจริญวัยเต็มที่จะมีความยาวถึง 15 เมตร น้ำหนักกว่า 25 ตัน กินสัตว์น้ำขนาดเล็กจำพวกแพลงตอน เคย หมึก และปลาเล็กปลาน้อยเป็นอาหาร โดยมีถิ่นอาศัยอยู่ในบริเวณอ่าวไทยบ้านเรานี่เอง

วาฬยักษ์ชนิดนี้ได้ชื่อตาม Johan Bryde กงศุลชาว Norway ผู้ร่วมก่อตั้งสถานีล่าวาฬในประเทศแอฟริกาใต้ เมื่อปี 1908 ซึ่งในปัจจุบันประเทศไทยได้คุ้มครองเจ้าวาฬบรูด้าด้วยอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์ (CITES) ในบัญชีหมายเลข 1 ซึ่งเป็นชนิดพันธุ์ของสัตว์ป่าและพืชป่าที่ห้ามค้าโดยเด็ดขาดเนื่องจากใกล้จะสูญพันธุ์ ยกเว้นเพื่อการศึกษา วิจัย หรือเพาะพันธุ์ ซึ่งก็ต้องได้รับความยินยอมจากประเทศที่จะนำเข้าเสียก่อน

ชาวสารคดีหลายท่านก็มีโอกาสออกทะเลแถบแหลมผักเบี้ยไปชมวาฬเช่นกัน แทบทุกคนมีกล้องดิจิตอลมืออาชีพพร้อมเลนส์ซูมเป็นอุปกรณ์ล่า (ภาพ) เจ้าวาฬยักษ์ชนิดนี้

เสือจุ่น หนึ่งในผู้ร่วมคณะเล่าว่า "...บ่ายโมงครึ่งเกือบบ่ายสอง จึงได้ลงเรือกว้างสองวา ยาวสามวา ล่องคลองแหลมผักเบี้ย ออกพ้นหัวแหลม ไปจนถึงกลางทะเล ใช้เวลากว่าชั่วโมงจึงพบเป้าหมาย มีนกนางนวลแกลบฝูงใหญ่บินร่อนอยู่บนฟ้าใก้ลผิวน้ำ ระยะห่างประมาณสองสามร้อยเมตร ทันได้เห็นวาฬโผล่หัวขึ้นมากินปลากะตัก เห็นคางสีชมพูสวย ท่ามกลางวงล้อมของเรือนับสิบลำ..."

แต่ใช่ว่าพวกเขาจะได้ชื่นชมความมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติกันแบบ "เพลินวาฬ" เมื่อเรืออีกหลายลำจากหลายถิ่น ทั้งปราณบุรี อัมพวา บ้านแหลม บางตะบูน แหลมผักเบี้ย หลายจังหวัดต่างมาตามดูวาฬด้วยเช่นกัน

"...ทุกลำรวมถึงเรือเราพยายามเข้าไปใกล้ๆ ในระยะสี่ห้าสิบเมตร แต่ก็มีบางลำที่พอเห็นวาฬโผล่ขึ้นมาหายใจ เห็นครีบหลัง ก็รีบเร่งเรือเข้าไปใกล้ วาฬก็ว่ายหนี เป็นแบบนี้นานนับชั่วโมง

...4 โมงกว่า พวกเราจึงบอกให้เรือกลับ เพราะนับดูแล้วมีเรือกว่า 30 ลำ ทั้งขนาดกว้างวาเดียว นับสิบลำไปจนถึงเรือหาปลากว้างสี่วา สองสามลำ กับเรือเร็วอีกสองไล่ตามดู วาฬอาจไม่เครียด แต่แทบไม่ได้กินปลากะตัก คนดูอย่างเราเครียด เพราะแทบจะไม่มีใครหยุดเรือ พอวิทยุบอกกันให้ชะลอเรือ พอเรือกลุ่มบ้านเดียวกันชะลอ ก็จะมีเรือถิ่นอื่นวิ่งตรงเข้าหาวาฬ..." เสือจุ่นตัดพ้อเล็กๆ

การที่เรือบางลำพยายามพาแขกของตนเข้าไปใกล้กับวาฬให้มากที่สุด ทั้งๆ ที่การเข้าไปใกล้กับฝูงวาฬบรูด้าในระยะประชิดจะเป็นการรบกวนกิจกรรมการกินอาหารของพวกเขา และในที่สุดฝูงวาฬก็จะละจากเหยื่อ แล้วดำหายไปในท้องทะเล ซึ่งนั่นก็หมายถึงการจบทริป "เพลินวาฬ" ทั้งที่ยังไม่ถึงเวลาอันสมควร

ถึงกระนั้นนักล่า (ภาพ) ของเราก็สามารถเก็บภาพความงดงามและยิ่งใหญ่ของวาฬบรูด้ามาฝากเราที่ไม่ได้มีโอกาสดีๆ แบบนี้ โอกาสที่ได้ชื่นชมยักษ์ใหญ่ใจดีแห่งน่านน้ำอ่าวไทย

และหากใครมีแผนจะเดินทางไปชมวาฬบรูด้า ก็อย่าลืมบอกคนขับเรือว่าขอให้ทิ้งระยะห่างจากฝูงวาฬอย่างน้อยๆ สักราว 50-100 เมตร

เพราะการยิ่งเข้าไปใกล้พวกเขามากเท่าไหร่ ยิ่งเป็นการทอนช่วงเวลาแห่งความสุขของคุณให้สั้นลงมากเท่านั้น


เรื่อง : บัณฑิต ภิรมย์น้อย


ขอขอบคุณภาพสวยๆ จาก
คุณบันสิทธิ์ บุญยะรัตเวช (ภาพที่ 5, 6, 7)
คุณรุ่งโรจน์ จุกมงคล (ภาพที่ 1, 4, 9)
คุณอนุรัตน์ วัฒนาวงศ์สว่าง (ภาพที่ 2, 3, 8)

(คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขนาดใหญ่)

อัลบั้มภาพ 9 ภาพ

อัลบั้มภาพ 9 ภาพ ของ ออกล่า (ภาพ) วาฬบรูด้าที่แหลมผักเบี้ย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook