UNSEEN Vietnam (ตอนที่1)

UNSEEN Vietnam (ตอนที่1)

UNSEEN Vietnam (ตอนที่1)
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

9 มกราคม 2547 เรื่อง/ภาพ โดย ... โน้ต

สวัสดีครับ กลับมาอีกครั้งกับผม โน้ต เจ้าเก่า คราวนี้ผมจะพาคุณไปเก็บตกควันหลงซีเกมส์ที่เวียดนามกัน พร้อมออกเดินทางไปกับผมหรือยังครับ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปกันเลย ผมมุ่งหน้าไปเวียดนามด้วย สายการบิน Air France (AF 162) ตอนบ่ายของวันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม เพียงไม่กี่อึดใจก็ถึงไซ่ง่อนแล้ว คราวนี้ผมมีเพื่อนเดินทางเป็นน้องชื่อ จี ครับ ไซ่ง่อน (เป็นชื่อที่คนตอนใต้ของประเทศเรียก) หรือ โฮจิมินห์ ( ชื่อที่คนทางเหนือของประเทศเรียก เหมือน longan กับ lichee จริง ๆ ก็คือลำไยทั้งคู่นะครับ แต่ลำหรับคนไทยคือ ลำไยกับลิ้นจี่นะครับ) ในสัมผัสแรกของผม ไม่เหมือนที่ผมคิด มันตื่นตาตื่นใจมาก ไม่เหมือนที่ผมคิดเอาไว้ จากสนามบิน เรานั่งTaxi ไปที่พักโดยมีคุณลุงเจ้าของบ้านมารอรับเราที่สนามบิน ตลอดสองข้างทางสร้างความประทับใจให้ผมกับจี อีกทั้งคุณลุงเจ้าของบ้านยังพูดภาษาไทยได้อีกด้วยนะครับ ทำให้รู้สึกเป็นกันเองมากยิ่งขึ้น เมื่อถึงที่พัก พวกเราไม่รอช้ารีบออกสำรวจเมืองในยังไม่ค่ำ แล้วก็กลับมาอาบน้ำ พร้อมกับออกสำรวจเมืองในยามค่ำคืน โดยมีคุณลุงขับมอเตอร์ไซด์พาเราเที่ยวชมเมือง ไปจนถึงท่าเรือแล้วก็ปล่อยให้เราสำรวจเมืองกันเอง

HCMC Post Office

ไม่อยากบอกว่าความรู้สึกของการนั่งมอเตอร์ไซด์ว่าตื่นเต้นแค่ไหน ที่เวียดนามขับรถเลนส์ขวาแต่ว่าจริงๆแล้วขับทั้งสองเลนส์ ส่วนไฟเขียวไฟแดงก็ไม่มีผล ขับฝ่ากันไปแบบไม่รู้สึกผิด และถ้าหากคุณจะข้ามถนนละก็.. ต้องมองรถทั้งสองฝั่งหรือถ้าจะให้ดีไม่ต้องมองเลย ยังไงรถก็หลบเราอยู่ดี (วันหลัง ๆ ผมใช้วิธีนี้ เพราะว่าได้ผลดีกว่า และที่นี่เค้าก็ใช้วิธีนี้นะครับ) อาหารมื้อแรกสำหรับเวียดนามก็คือ Pho ครับ เราเลือกทานที่ร้าน Pho24 อร่อยมาก ราคาอาจจะแพงนิดหน่อยเหมือนทานร้านอาหารจานด่วน แต่ว่าคุณจะไม่ผิดหวังเลยครับ

วันที่สอง เราตื่นกันแต่เช้า เพื่อออกสำรวจเมืองอย่างจริงจัง ที่แรกที่เราไปก็คือ War History Museum ปกติผมไม่ชอบเรื่องเกี่ยวกับสงคราม แต่ว่าที่นี่เค้าทำดีมาก เรียกได้ว่าถ้าไม่มาต้องเสียใจ เพราะคุณจะรู้เรื่องสงครามเวียดนามมากยิ่งขึ้น สงครามไม่เคยมีผลดีกับใครเลยจริงๆ

Notre Dame Cathedral

จากนั้น เราก็ไปทัวร์ Reunification Palace ซึ่งเป็นทำเนียบประธานาธิบดีเก่า แล้วก็ไปที่ ที่ทำการไปรษณีย์เมืองไซ่ง่อน (ต้องเรียกแบบนี้เพราะว่าผมอยู่ที่ไซ่ง่อน) แล้วก็ไปเที่ยวโบสถ์ Notre Dame Cathedral โดยโบสถ์นี้จะเปิดให้เข้าชมภายในได้เพียงวันละ 2 ครั้งคือ 8.30-10.00 และ 15.00-16.00 ที่วิเศษที่สุดก็คือวันนี้ผมเป็นคนแรกที่ได้เข้าไปในโบสถ์นะครับ ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ไม่ไกลกัน คุณสามารถเดินเที่ยวถึงกันได้ อ้อ! มีข้อแนะนำนิดนึงว่า เวลาเดินตามถนน ระวังอย่าเดินเหยียบน้ำ เพราะว่าอาจจะเป็นฉี่ก็ได้ และต้องทำใจกับกลิ่นฉี่ที่จะลอยมากระทบคุณเป็นระยะ และก่อนกลับบ้าน เราก็แวะทาน Pho และปอเปี๊ยะกุ้งสดกันข้างถนน แถวๆตลาด Ben Thanh (ตลาดที่ใหญ่ที่สุดในไซ่ง่อนมีของขายทุกอย่างโดยเฉพาะของฝาก) อร่อยมากแต่ว่าไม่ได้ถูกเลย เพราะว่าย่านนี้เป็นแหล่งของนักท่องเที่ยว

ภาพภายในโบสถ์

วันที่สาม ผมตื่นตั้งแต่ตีห้าครึ่งเพราะว่ามีนัดกับคุณลุงไปวิ่งที่สวนสาธารณะใกล้ๆบ้าน ส่วนจีของบาย นอนหลับต่อ ก่อนวิ่งคุณลุงก็เลี้ยงน้ำเต้าหู้เป็นการเติมพลังก่อนวิ่ง แต่จริง ๆ เราเน้นเดินกันซะมากกว่า คุณลุงพาผมเดินชมสวนจนทั่วพร้อมกับร้องเพลงค่าน้ำนม และเพลงรัสเซีย ให้ผมฟังด้วยนะ ประมาณ 7 โมงเราก็กลับบ้าน ในขณะที่ชาวเวียดนามเริ่มออกเดินทางไปทำงานหรือไปโรงเรียนกันแล้ว วันนี้ผมได้เห็นกองทัพผีเสื้อขาวแล้วครับ ก็คือภาพผู้หญิงเวียดนามใส่ชุดอ๋าวใหญ่สีขาว ปั่นจัรยานบ้าง ขับมอเตอร์ไซด์บ้าง ไปเรียนหนังสือนะครับ เป็นภาพที่มีเสน่ห์ภาพนึงเลยทีเดียว ส่วนโปรแกรมการท่องเที่ยวของวันนี้ เราจะเดินทางไปเที่ยวยานไชน่าทาวน์ของไซ่ง่อนกัน ไซ่ง่อนแบ่งการปกครองเป็น 22 เขต แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือเขตที่เรียกชื่อเป็นย่านนั้นๆ กับเขตที่เรียกชื่อเป็นตัวเลข Guesthouse ที่ผมอยู่อยู่ที่เขต1 (District 1) ส่วนไชน่าทาวน์อยู่เขต5 ซึ่งไม่ไกลกันมากนัก เราเลือกนั่งรถเมล์สาย1 Ben Thanh Binh Tay ค่ารถก็ 2000 VND โดย1บาทเท่ากับ 383 VND นะครับ ส่วนสถานีที่จะขึ้นรถก็อยู่ตรงข้ามกับ Ben Thanh Market นั่นเอง สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเป็นวัดจีน ซึ่งสามารถเดินเที่ยวได้โดยใช้ lonely planet นะครับ เราเที่ยวกันถึงตอนบ่ายนิด ๆ แล้วก็กลับเข้ามาเขต1 มาเที่ยว City Museum กันต่อ ที่นี่เป็นสถานที่ยอดฮิตที่คู่แต่งงานนิยมมาถ่ายรูปเก็บเป็นที่ระลึก คิดดูเองนะครับว่า บัตรเข้าชมพิพิธภัณฑ์ที่นี่ที่เดียว มี 3 ราคา คือของคนเวียดนาม ของชาวต่างชาติ แล้วก็ Package ถ่ายรูปแต่งงาน ซึ่งแพงที่สุด

ส่วนตอนเย็นทีแรกกะว่าจะไปทานเข้าข้างนอก แต่ว่าคุณป้าแฟนคุณลุงให้คุณลุงมาชวนเราทานข้าวที่บ้านด้วยกัน เพราะคุณลุงคุณป้ามีแขกมาที่บ้านพอดี ถือว่าเป็นเกียรติมากนะครับ อ้อ! ลืมบอกไปว่าคุณป้าเป็นคนไทยแต่งงานกับคุณลุงมาหลายปีตั้งแต่ก่อนสงครามเวียดนามแล้วนะครับ ทั้งสองท่านใจดีมาก ทำให้ผมรู้สึกเหมือนมาพักอยู่บ้านญาติผู้ใหญ่มากกว่าจะเป็น Guesthouse

อาหารเย็นนี้เริ่มต้นด้วยแหนมเนืองนะครับ แต่ว่าไม่ได้เป็นหมูก้อนๆ ที่เหมือนลูกชิ้น แต่ว่าเป็นปลานึ่ง ซึ่งใช้เป็นไส้ แล้วก็มีผัดผักบุ้ง หมูยอ ปอเปี๊ยะทอด อร่อยมาก ที่เด็ดก็คือน้ำจิ้มนะครับเป็นแบบมีปลาร้าเป็นส่วนผสม แซบจริงๆ ส่วนเครื่องดื่มก็คือน้ำราสเบอรี่ หรือที่เรารู้จักว่าลูกหม่อน จากนั้นก็มียำมะละกอคล้ายๆ ส้มตำ แล้วก็ต้มจืดและข้าวสวย ตบท้ายด้วยผลไม้ อิ่มแปล้ไปเลย

การสวดมนต์ประจำวันในตอนกลางวัน ที่ Cao Dai Temple

วันที่สี่ วันนี้ผมซื้อ Package tour 1 day trip ไปเที่ยว Cao Dai Temple และ Cu Chi Tunnel ราคาแค่ 4 USD คือ ไปวัดหรือไม่ไปวัด ก็ 4 เหรียญ ผมก็เลือกไปวัดซิครับเพราะว่าคุ้มกว่า Cao Dai Temple เป็นวัดที่สำคัญที่สุดแห่งนึงในศาสนาใหม่ที่เพิ่งเกิดในเวียดนามเมื่อไม่นานมานี้ เป็นส่วนผสมในแบบ พุทธ คริสต์ เต๋า แล้วก็เวียดนามนะ
ส่วน Cu Chi tunnel นั้นเป็นอุโมงค์ใต้ดินที่มีเครือข่ายยาวถึง 250 กิโลเมตร เป็นอุโมงค์ที่เวียดนามใช้ต่อสู้กับอเมริกาในสงครามเวียดนาม ผมเองได้ลงไปในอุโมงค์ของจริง ซึ่งเล็กและแคบมาก แต่เห็นแล้วก็ต้องทึ่งในความสามารถของคนเวียดนามว่ามีความอดทนใช้เพียงจอบ (ไม่รู้ว่าจะเรียกอะไรนะครับ อุปกรณ์ที่เอาไว้ขุด) กับบุ้งกี๋แค่สองอย่าง สามารถสร้างอุโมงค์นี้ได้ ซึ่งก็ควรค่าที่เค้าจะเอาชนะอเมริกาได้ ที่นี่จะมีกิจกรรมให้คุณทำมากมายและได้เรียนรู้ถึงความเป็นอยู่ของคนเวียดนามสมัยที่ต่อสู้สงครามได้เป็นอย่างดี ลืมบอกไปนะครับว่าค่าทัวร์ ไม่รวมค่าเข้าอุโมงค์คนละ 65,000 VND ส่วนขากลับวันนี้ ผมได้รู้ซึ้งถึงอาการรถติดที่ไซ่ง่อนแล้วว่ารุนแรงแค่ไหน เป็นประสบการณ์ที่ประทับใจอีกอย่างนึงเลยทีเดียวครับ กลับมาถึงก็อาบน้ำนอนพักเอาแรงกัน เพราะว่าวันนี้วันที่ 31 เรากะว่าจะออกไป countdown กันตอนเที่ยงคืน ประมาณ 4 ทุ่มก็ออกไปเก็บบรรยากาศส่งท้ายปีเก่ากัน ....แต่ว่าไม่มีอะไรพิเศษกว่าวันก่อน ๆ เท่าไรนัก ก็มีการแสดงตามจุดสำคัญ ๆ เช่นที่ Reunification Palace , Opera Theater แล้วก็ Park ใกล้ๆ Ben Thanh Market เราก็เลยตัดสินใจกลับไปนอนหลับดีกว่า
อ่าน UNSEEN Vietnam ตอนที่ 2 คลิ้กที่นี่ครับ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook