อุทยานแห่งชาติเทือกเขาบูโด-สุไหงปาดี

อุทยานแห่งชาติเทือกเขาบูโด-สุไหงปาดี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ใบไม้สีทอง ภาพประกอบจากอุทยานแห่งชาติ

อุทยานแห่งชาติเทือกเขาบูโด-สุไหงปาดี เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารและพันธุ์ไม้มีค่า อุทยนแห่งชาตินี้มีนกและสัตว์ป่าต่าง ๆ ที่หายาก เช่น แรด ชะนีมือดำ และสมเสร็จ ตั้งอยู่ห่างจากจังหวัดนราธิวาสตามเส้นทางนราธิวาส-ปัตตานี ประมาณ 26 กิโลเมตรครับ สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในอุทยาน ได้แก่ น้ำตกปาโจ น้ำตกภูแว และน้ำตกจำปากอครับ

ความเป็นมาของอุทยานแห่งชาติบูโด

อุทยานแห่งชาติบูโด-สุไหงปาดี มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในพื้นที่อำเภอบาเจาะ อำเภอรือเสาะ อำเภอยี่งอ อำเภอเจาะไอร้อง อำเภอระแงะ อำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส อำเภอรามัน จังหวัดยะลา และอำเภอกะพ้อ จังหวัดปัตตานี มีสภาพภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร มีพันธุ์ไม้ที่มีค่านานาชนิด โดยเฉพาะปาล์มบังสูรย์และใบไม้สีทอง มีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง เช่น น้ำตกต่าง ๆ ตลอดจนมีประวัติศาสตร์เป็นพื้นที่ของผู้ก่อการร้ายในนามขบวนการบูโดและขบวนการพูโล มีเนื้อที่ประมาณ 213,125 ไร่ หรือ 341 ตารางกิโลเมตร

ในอดีตพื้นที่ของป่าเทือกเขาบูโดและเทือกเขาสุไหงปาดี เป็นพื้นที่ที่มีโจรผู้ร้าย ชุกชุม มีการก่อการร้ายในรูปแบบต่างๆ มากมายในนาม “ขบวนการพูโล” และ “ขบวนการโจรบูโด” จนในปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวได้มีความสงบเรียบร้อยและปลอดภัยมากขึ้นแล้ว ประกอบกับสภาพป่าทั้งสองมีความอุดมสมบูรณ์ และสวยงามตามธรรมชาติ ในปี พ.ศ. 2517 กรมป่าไม้ได้ดำเนินการจัดตั้งวนอุทยานน้ำตกปาโจ ซึ่งอยู่บริเวณป่าเทือกเขาบูโด และในปี พ.ศ. 2519 ได้จัดตั้งวนอุทยานน้ำตกฉัตรวาริน ซึ่งอยู่ในบริเวณป่าเทือกเขาสุไหงปาดีให้อยู่ในความควบคุมดูแลของสำนักงานป่าไม้เขตปัตตานี

เมื่อครั้งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จไปเยี่ยมเยือนประชาชน ในเขตพื้นที่อำเภอสุไหงปาดี และอำเภอระแงะ ทรงพระราชดำรัส เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2524 ว่า “เทือกเขาสุไหงปาดีมีความสูง 1,800 ฟุต เป็นเทือกเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดนราธิวาส มีไอน้ำเกาะทำให้เกิดความชุ่มชื้นและเป็นแหล่งน้ำมีลำธารไหล 3 สาย ควรมีการรักษาแหล่งน้ำอย่างจริงจัง” ซึ่งกองอนุรักษ์ต้นน้ำได้ตรวจสอบแล้วรายงานว่า พื้นที่ป่าบริเวณเทือกเขาสุไหงปาดีมีสภาพดีมาก และมีธรรมชาติที่สวยงาม เห็นควรจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ได้มีคำสั่งที่ 740/2525 ลงวันที่ 1 มิถุนายน 2525 ให้ นายสัมพันธ์ มิเดหวัน ไปสำรวจเบื้องต้น ซึ่งได้รับรายงานตามหนังสือ ที่ กษ 0713 (ขป) /พิเศษ ลงวันที่ 11 กันยายน 2526 ว่า บริเวณเทือกเขาสุไหงปาดี อำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส มีสภาพภูมิประเทศเหมาะสมที่จะจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติได้


ต่อมากองอุทยานแห่งชาติ ได้รับหนังสือของศูนย์อำนวยการบริหารชายแดนจังหวัดภาคใต้ ที่ มท 1501/1955 ลงวันที่ 2 กันยายน 2526 และหนังสือสำนักงานป่าไม้เขตปัตตานี ที่ กษ 0714 (ปน)/1689 ลงวันที่ 8 กันยายน 2526 เสนอความเห็นว่า บริเวณเทือกเขาบูโด จังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส มีสภาพป่าอุดมสมบูรณ์ สัตว์ป่าชุกชุม มีธรรมชาติสวยงามหลายแห่ง ซึ่งป่าไม้เขตได้มีคำสั่งที่ 222/2526 ลงวันที่ 27 มิถุนายน 2526 ให้นายอภัย หยงสตาร์ นักวิชาการป่าไม้ 4 และนายสุธน จันทร์สว่าง เจ้าพนักงานป่าไม้ 2 ไปสำรวจเบื้องต้นแล้ว เห็นสมควรจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ

กองอุทยานแห่งชาติได้มีหนังสือ ที่ กษ 0706/1073 ลงวันที่ 22 เมษายน 2527 เสนอนายจำนงค์ โพธิสาโร อธิบดีกรมป่าไม้ ซึ่งได้มีบันทึกลงวันที่ 22 พฤษภาคม 2527 ให้ดำเนินการกำหนดเป็นอุทยานแห่งชาติ กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ จึงได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ไปดำเนินการจัดตั้งพื้นที่ป่าทั้งสองเป็นอุทยานแห่งชาติ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2527 และได้นำเสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติซึ่งมีมติในการประชุมครั้งที่ 2/2531 เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2531 เห็นชอบให้กำหนดพื้นที่ป่าเทือกเขาบูโด ป่าเทือกเขาสุไหงปาดี เป็นอุทยานแห่งชาติ

ปัจจุบันอุทยานแห่งชาติบูโด-สุไหงปาดี ได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 แล้ว โดยได้ตราพระราชกฤษฎีกากำหนดที่ดินป่าเทือกเขารือเสาะ ป่ายี่งอ และป่าบาเจาะ ในท้องที่ตำบลปะลุกาสาเมาะ ตำบลบาเระเหนือ ตำบลกาเยาะมาตี ตำบลลุโบะสาวอ อำเภอบาเจาะ ตำบลสุวารี ตำบลสามัคคี ตำบลรือเสาะออก ตำบลลาโละ อำเภอรือเสาะ ตำบลตะปอเยาะ ตำบลลุโบะบายะ ตำบลจอเบาะ อำเภอยี่งอ และตำบลมะรือโบตก อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส ป่ากะรุบี ในท้องที่ตำบลตะโละดือรามัน และตำบลกะรุบี อำเภอกะพ้อ จังหวัดปัตตานี ป่าจะกว๊ะ ในท้องที่ตำบลเกะรอ และตำบลจะกว๊ะ อำเภอรามัน จังหวัดยะลา และป่าบูเก๊ะตาเว แปลงที่ 2 ป่าบองอ และป่าบูเก๊ะตาเว แปลงที่ 1 ในท้องที่ตำบลจวบ ตำบลบูกิต อำเภอเจาะไอร้อง ตำบลบองอ อำเภอระแงะ ตำบลโต๊ะเด็ง ตำบลริโก๋ ตำบลสากอ อำเภอสุไหงปาดี และตำบลเกียร์ อำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส เป็นอุทยานแห่งชาติ ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 116 ตอนที่ 48 ก วันที่ 17 มิถุนายน 2542 เป็นลำดับที่ 95 ของประเทศ

พืชพรรณและสัตว์ป่า
สภาพป่าโดยทั่วไปเป็นป่าดงดิบขึ้นปกคลุมเทือกเขาทั้งหมด มีไม้ขนาดใหญ่ เช่น ตะเคียน กาลอ ไข่เขียว สยา หลุมพอ นากบุด ตีนเป็ดแดง ฯลฯ พืชพื้นล่างได้แก่ หวาย ปาล์ม ใบไม้สีทอง และมีพรรณไม้ที่หายากมีราคาแพงและกำลังจะสูญพันธุ์ คือ “หวายตะค้าทอง” และ “ปาล์มบังสูรย์ หรือลีแป” พบตามบริเวณป่าลึกบนภูเขาสูงและสันนิษฐานว่ามีอยู่แห่งเดียวในป่าบริเวณนี้
ใบไม้สีทอง หรือ ย่านดาโอ๊ะ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Bauhnia aureifolia เป็นไม้เถาเลื้อยขนาดใหญ่ มีลักษณะเด่นตรงที่มีใบสีทองและผิวใบนุ่มเนียราวกับกำมะหยี่ รูปร่างคล้ายกับใบกาหลงหรือชงโค แต่ขนาดใหญ่กว่า มีขอบหยักเข้าทั้งโคนใบและปลายใบ คล้ายใบรูปไข่สองใบเชื่อมติดกัน พบเห็นได้ทั่วไปในผืนป่าบูโด และบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ
สภาพป่าโดยทั่วไปเป็นป่าดงดิบ ขึ้นปกคลุมเทือกเขาทั้งหมด มีไม้ขนาดใหญ่ เช่น ไม้ตะเคียนชนิดต่าง ๆ ไม้กาลอ ไม้ไข่เขียว ไม้สยา ไม้หลุมพอ ไม้นาคบุตร ไม้ตีนเป็ดแดง และมีพันธุ์ไม้ที่หายากมีราคาแพงและกำลังจะสูญพันธุ์ คือ หวายตะค้าทอง และปาล์มบังสูรย์ หรือ
(ลีแป) และ ใบไม้สีทอง มีชื่อทางท้องถิ่นอีกชื่อหนึ่งว่า "ย่านดาโอ๊ะ" พบทั่วไปในป่าบริเวณ 3 จังหวัดภาคใต้ "ย่านดาโอ๊ะ” ใบไม้สีทอง ไม้ใบงามของจังหวัดนราธิวาส

สัตว์ป่า ประกอบด้วย เก้ง กระจง เลียงผา บ่าง ลิง ค่างแว่นถิ่นใต้ นกอินทรี นกยางเขียว นกกระทา นกเปล้า นกหัวขวานแดง นกกางเขนดงหางแดง นกกางเขนดง นกเงือกปากดำ นกกาฝาก ไก่ป่า เป็นต้น

การเดินทาง
รถยนต์
จากกรุงเทพฯถึงอำเภอบาเจาะ ระยะทางประมาณ 1,122 กิโลเมตร ไปตามทางหลวงหมายเลข 42 จากอำเภอบาเจาะ ถึงอุทยานแห่งชาติบูโดฯ ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร

เครื่องบิน
จากสนามบินบ้านทอน ตำบลโคกเคียน อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติบูโด - สุไหงปาดี ระยะทางประมาณ 16 กิโลเมตร

รถไฟ
จากกรุงเทพฯ ถึงอำเภอสถานีรถไฟตันหยงมัส อำเภระแงะ และจากสถานีตันหยังมัส ประมาณ 30 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติบูโด - สุไหงปาดี

ทิวทัศน์ของอุทยานแห่งชาติบูโด

น้ำตกปาโจ ชั้นที่ 1 ผาสีทอง เป็นหน้าผาขนาดใหญ่ มีพรรณไม้ปกคลุมโดยรอบ โดยเฉพาะใบไม้สีทอง (ย่านดาโอะ) ทอดเลื้อยชูใบสีทองระยิบระยับคู่กับหน้าผาอันสูงตระหง่าน ที่มีความชุ่มชื้นตลอดทั้งปี

น้ำตกฉัตรวาริน : ตั้งอู่บริเวณบ้านโผลง ตำบลโต๊ะเด็ง อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส เดิมมีชื่อว่า “ไอปายง” เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ เป็นที่รู้จักกันดีของนักท่องเที่ยวในจังหวัดใกล้เคียง และนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย มีน้ำตกถึง 7 ชั้น ระยะห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติบูโด-สุไหงปาดี ประมาณ 85 กิโลเมตร

น้ำตกวังทอง : ตั้งอยู่บริเวณบ้านบองอ ตำบลบองอ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส เป็นน้ำตกที่สายน้ำไหลลดหลั่นลงมาจากเทือกเขา ลงมาเป็นสายน้ำที่ไหลผ่านโขดหินน้อยใหญ่ มีแอ่งน้ำขนาดใหญ่สามารถเล่นน้ำได้ มีน้ำไหลตลอดปี ระยะห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติบูโด-สุไหงปาดี ประมาณ 53 กิโลเมตร

หินสลักจารึกพระปรมาภิไธยย่อ : หิน ภปร. ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ราชกาลที่ 9 สิริกิติ์ในสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้ทรงเสด็จประพาสน้ำตกปาโจ วันที่ 24 มีนาคม 2502

พลับพลาที่ประทับ (รัชกาลที่ 7 ) : ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติบูโด – สุไหงปาดี ถ.พิพิธปาโจ ตำบลบาเจาะ อำเภอ บาเจาะ จังหวัดนราธิวาส เป็นที่ประทับของรัชกาลที่ 7 ในคราวเสด็จประพาสจังหวัดนราธิวาส ของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว มีชื่อว่า “ ศาลาธารทัศน์ ”

ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์ุพืช

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook