มาสูดโอโซนอันดับเจ็ดที่ วังน้ำเขียว กันเถอะ

มาสูดโอโซนอันดับเจ็ดที่ วังน้ำเขียว กันเถอะ

มาสูดโอโซนอันดับเจ็ดที่ วังน้ำเขียว กันเถอะ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

มาสูดโอโซนอันดับเจ็ดที่ วังน้ำเขียว กันเถอะ

หากมีใครถามผมว่า...ที่ไหนในเมืองไทยที่ผมไปเที่ยว บ่อยที่สุด ผมตอบได้ทันทีครับว่า วังน้ำเขียว

มาสูดโอโซนอันดับเจ็ดที่ วังน้ำเขียว กันเถอะ

มาสูดโอโซนอันดับเจ็ดที่ วังน้ำเขียว กันเถอะ

ไม่ใช่แค่เพราะว่าอยู่ใกล้บ้านผม บ้านผางาม เมืองผจญภัย เพียง 7 กม.เท่านั้น แต่เพราะมีแหล่งท่องเที่ยวมากมายที่เหมาะกับคนที่ชื่นชอบ การท่องเที่ยวเชิงเกษตร และรักธรรมชาติ ให้เราได้จัดโปรแกรมที่เราชอบใจได้ไม่รู้จบ ที่สำคัญ ความคุ้มค่าจากการได้เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่สดจากไร่ มีคุณภาพ ที่ช่างถูกใจคนชอบช๊อปอย่างผม จึงเป็นสาเหตุให้ผมเขียนบทความนี้ครับ

มาสูดโอโซนอันดับเจ็ดที่ วังน้ำเขียว กันเถอะ

ลืมแนะนำตัว...ผม..ณัฐภณ วุฒิกานากร (เอ) แห่งบ้านผางาม เมืองผจญภัยครับ ผมได้เขียนบทความเที่ยวต่างแดนมาแล้วใน ตะลุยพรมแดนธรรมชาติ อะลาสก้า และ มหัศจรรย์เหลือเชื่อนี่หรือ อินเดีย ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวต่างประเทศ โอกาสจะได้เข้าถึงที่ หรือ ไปซ้ำแล้วซ้ำอีก คงเทียบกับวังน้ำเขียว ไม่ได้หรอกครับ ที่สำคัญ ผมรับปากกับชาววังน้ำเขียวไว้ด้วยครับว่า จะนำเรื่องราวดีๆ มาบอกกับทุกๆ คน เพื่อไม่ให้เสียเวลา เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ

ผมขอย้ำก่อนนะครับว่า วังน้ำเขียว เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบอากาศบริสุทธิ์ รักพืชผัก ไม้ดอก ไม้ใบ ใส่ใจสุขภาพ หรือชื่นชมวิถีชีวิตเกษตร เพราะนี่คือ หัวใจหลักของคนในท้องที่นี้เลยครับ ใครที่วางแผนวันหยุดเน้นการพักผ่อนด้วยการอำนวยความสะดวกสบายเต็มรูปแบบ อาจจะไม่ตรงวัตถุประสงค์ เพราะการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ ซึ่งอาศัยไปศึกษาวิถีชีวิตของเจ้าบ้านในท้องที่เป็นหลัก เรานักเดินทางหรือแขกผู้เยี่ยมเยือน ต้องเรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากับท้องที่ จึงจะได้เรียนรู้เรื่องราวดีๆ ของคนในบ้านหลังนั้นได้

มาสูดโอโซนอันดับเจ็ดที่ วังน้ำเขียว กันเถอะ

ด้วยความที่วังน้ำเขียว อาศัยชัยภูมิที่อยู่บนหุบเขาที่ราบสูง ทำให้มีบรรยากาศกลางขุนเขาที่งดงาม มีสภาพอากาศที่ชุ่มชื้นและเย็นสบายด้วยลมพัดผ่านตลอดปี เป็นเคล็ดลับที่ทำให้ไม้ดอกก็สวยใหญ่ ไม้ใบก็หนาดก ประกอบกับอยู่หนึ่งในแหล่งอากาศดีที่สุดของไทย (โอโซนอันดับ 7 ของโลก : ทำการวัดที่ มณฑลชีวสงวน สะแกราช โดยองค์การยูเนสโก้) ทำให้เอื้อต่อสุขภาพกายและใจ ของทั้งพืชผักและคนในท้องที่ หลายคนจึงมีความสุขกับการมาอยู่ระยะยาว ทำไร่ทำฟาร์มมากมาย หรือแม้แต่กระทั่งหลบลี้เมืองกรุง มาใช้ชีวิตพอเพียง ทำงานศิลป์ / ปลูกพืชผักดอกไม้ / ไว้จำหน่ายให้นักท่องเที่ยว จนผมชอบตั้งฉายาให้ว่า ปาย..เล็กๆ ของผม ด้วยลักษณะวิถีคนและเมืองที่คล้ายๆ กัน

สำหรับหลายคนที่จะมาเที่ยววังน้ำเขียว แล้วยังไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร นี่คือเคล็ดลับที่ผมจะนำมาฝากทุกคนครับ เส้นทางที่ผมจะแนะนำต่อไปนี้ เป็นเพียงความชอบส่วนตัวของผมเอง ไม่ได้เน้นการโปรโมทที่ใดที่หนึ่งโดยเฉพาะ ผมขอเน้นที่หมู่บ้านไทยสามัคคี ซี่งจริงๆ ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอีกมากมายในวังน้ำเขียวที่ผมไม่ได้เอ่ยถึง เช่น ดูกระทิงเขาแผงม้า, ชมไร่องุ่น, ฯลฯ และอาจยังมีที่เที่ยวอื่นที่เปิดโอกาสให้คุณได้ค้นพบ และจัดวางแผนการเดินทางด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นโปรแกรมเฉพาะตัวที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ

สวนดอกเบญจมาศตามเส้นทาง พูดถึงวังน้ำเขียวแล้ว ไม่พูดถึงดอกเบญจมาศเลยก็คงไม่ถึงวังน้ำเขียวครับ เพราะเป็นหนึ่งในแหล่งที่มีการปลูกดอกเบญจมาศที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และดอกเบญจมาศยังเป็นไม้ตัดดอกที่มูลค่าสูงเป็นอันดับสี่ของโลกอีกด้วย โดยมีรูปแบบที่หลากหลายถึง 60 กว่าสายพันธุ์ และได้รับความนิยมในเกือบทุกสี

โดยทั่วไปตลอดทางเข้าหมู่บ้านไทยสามัคคี เราจะพบฟาร์มดอกเบญมาศที่สร้างความสดใสตลอดรายทาง ซึ่งมักจะปลูกกันหนาแน่นในช่วงฤดูหนาว และในช่วงปลายปีจะมีเทศกาลดอกเบญมาศบานในม่านหมอก ซึ่งมักจะจัดในช่วงสิ้นปี ซึ่งอยู่กลางฤดูหนาว โดย อ.บ.ต.ไทยสามัคคี โดยบางฟาร์มสามารถอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าไปตัดดอกเองได้

มาสูดโอโซนอันดับเจ็ดที่ วังน้ำเขียว กันเถอะ

สวนดอกเบญจมาศดวงพร สวนนี้ประสบความสำเร็จในการปลูกดอกเบญมาศตลอดปี ซึ่งอาศัยการควบคุมสภาพแวดล้อมโดยรวมเกือบทั้งหมด ทั้งอุณหภูมิ,แสง,น้ำ,พื้นที่,ฯลฯ เพื่อให้ได้ดอกเบญมาศนอกฤดู ที่มีสีสันหลากหลาย และทนทาน คุณแม่ดวงพรและคุณหนึ่งที่ดูแลฟาร์ม ให้การต้อนรับอย่างดีมากครับ แม้ว่ากำลังง่วนอยู่กับการห่อดอกไม้ ซึ่งเป็นงานหลักของทางฟาร์ม คือ ขายส่งดอก มักจะมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมเยอะมากช่วงหลังออกรายการทีวี หรือลงในหนังสือพิมพ์

มาสูดโอโซนอันดับเจ็ดที่ วังน้ำเขียว กันเถอะ

แต่ทางฟาร์มไม่ได้เน้นเปิดเพื่อการท่องเที่ยวโดยตรง คำตอบของเค้าน่ารักมากจนผมอดยิ้มไม่ได้ว่า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมีความสุขมากกว่าถ้าได้รับฟังคำอธิบายอย่างละเอียด เพราะแต่ละคนก็ต้องการความรู้ความเข้าใจกลับไป แต่ทางฟาร์มยังไม่คุ้นกับการเปิดต้อนรับในแบบแหล่งท่องเที่ยว บางทีเจอคณะที่เน้นการต้อนรับอย่างเป็นทางการ ก็กลัวว่าจะดูแลไม่ทั่วถึง

สำหรับนักท่องเที่ยวที่เป็นกันเองๆ และเข้าใจข้อจำกัดทางฟาร์ม ก็จะไม่มีปัญหา ... ( ผมว่าเป็น หัวใจของคนบริการ เลยครับ คิดถึงความสะดวกลูกค้าก่อน) ใครที่ชื่นชอบดอกเบญจมาศ หรือไม้ดอก ไม่ควรพลาดครับ ผมว่าดูภาพกันเองเลยดีกว่า

มาสูดโอโซนอันดับเจ็ดที่ วังน้ำเขียว กันเถอะ
มาสูดโอโซนอันดับเจ็ดที่ วังน้ำเขียว กันเถอะ

สวนคุณเจี๊ยบ สวนดอกไม้ เรียบง่าย สไตล์บ้านไร่ แต่เน้นไม้แปลกที่ไม่ค่อยเห็น อาจจะเป็นชื่อที่เคยได้ยิน แต่เน้นสายพันธ์ใหม่ / สายพันธ์นอก ที่ให้ดอกสวยกว่า จึงได้เห็นไม้ดอกที่ค่อนข้างดก สีจัดจ้าน และรูปทรงแปลกตา ที่ขึ้นชื่อ น่าจะเป็นตระกูลพวงทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น พวงหยก / พวงแสด / พวงคราม / พวงโกเมนทร์

มาสูดโอโซนอันดับเจ็ดที่ วังน้ำเขียว กันเถอะ

ซึ่งได้ใจผมทุกทีที่ไป ให้แอบเก็บไปฝันว่า บ้านเราจะรกครึ้มด้วยพรรณไม้เหล่านี้ ออกสะพรั่งดอกพร้อมกัน เวลาไปเยี่ยมตอนช่วงหน้าหนาว ยิ่งสมบูรณ์มาก วันหยุดยาวแต่ละทีจะมีรถจอดแน่นไปหมด เพราะถูกล่อตาล่อใจด้วยกำแพงพวงแสดที่สีสันเตะตา แต่หน้าฝนถึงแม้พันธุ์ไม้จะน้อยก็ยังน่าตื่นตาตื่นใจ เหมือนกับรูปพวงหยกที่ผมเอามาฝากให้ทุกท่านดูนะครับ เวลาเห็นไม้ดอกเข้าขบวนมาให้เราชื่นชมก็จะนึกถึงกวีบทนี้ทุกทีครับ

เป็นเพราะรักมากจึงงาม หรือเป็นเพราะงามมากจึงรัก ก็หมู่มวลบุปผชาติมีมากนัก จะเลือกลืมเลือกรัก..ช่างหนักใจ เฮ้อออออ...................

มาสูดโอโซนอันดับเจ็ดที่ วังน้ำเขียว กันเถอะ
มาสูดโอโซนอันดับเจ็ดที่ วังน้ำเขียว กันเถอะ

สวนลุงไกร ไกลสมชื่อจริงๆ ครับ 55555 เพราะเข้าไปตั้ง 7.5 กิโล จากปากทางเข้า แต่ก็ยิ่งทำให้ประหลาดใจ เพราะขนาดลึกมากมาย ยังมีนักท่องเที่ยวเข้าไปกันไม่ขาดสาย โดยเฉพาะปีใหม่ ที่จอดรถแน่นถึงที่สุด แปลกใจที่สุดก็คือ ตอนที่ไปเห็นลุงไกร (เจ้าของฟาร์ม) กำลังเล่นดนตรีโฟล์คซองให้ผักฟัง เนี่ยแหละครับ นัยว่าเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่ทำให้ผักงอกงามดี อันที่จริงลุงไกรมีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องของเกษตรอินทรีย์ ซึ่งไม่ใช้เคมีเลยครับ ทำให้ผักสลัดในไร่ของคุณลุง ทั้งผักกาดแก้ว, โอ๊คแดง, โอ๊คเขียว, กระหล่ำม่วง, คอส, ฯลฯ อุดมสมบูรณ์ ใหญ่โต และที่สำคัญ เรามั่นใจได้ว่าปลอดสาร 100 %

มาสูดโอโซนอันดับเจ็ดที่ วังน้ำเขียว กันเถอะ

แต่ที่เป็นเสน่ห์จริงๆ ก็คงจะเป็น ความคิดของปราชญ์เดินดินคนนี้ ที่คอยพูดคุยกับเราให้ได้เรียนรู้ชีวิตและการมองโลกในอีกแบบ ทั้งเรื่องเล็กๆน้อยๆ ไปจนถึงระดับมหภาค ที่ลุงไกรได้เรียนรู้จากการอยู่ร่วมกันอย่างเป็นมิตรกับธรรมชาติ นักท่องเที่ยวจึงไม่ควรเร่งรีบเดินทางโดยไม่ได้พูดคุยกับเจ้าของบ้าน ซึ่งอัธยาศัยของลุงไกรกับป้าก็สร้างความประทับใจให้ผมเสมอมาครับ

ลุงไกรบอกกับผมว่า สภาพแวดล้อมปัจจุบันเปลี่ยนแปลงมาก ทั้งความร้อน ฝนฟ้าอากาศ สภาพดิน มีผลทำให้ศัตรูพืชกลายพันธ์ ขยายจำนวน ป้องกันยากขึ้น ซึ่งทำให้ชีวิตการเกษตรของลุงเป็นเรื่องที่สนุกท้าทาย เพราะมีอะไรให้เรียนรู้ได้ไม่รู้จบ ...ผมว่าลุงไกร มองปัญหาโลกร้อนไร้ทางแก้ เป็นสีสันของชีวิต .... ทำให้ผมมองโลกในแง่ดีขึ้นอีกเยอะครับ

มาสูดโอโซนอันดับเจ็ดที่ วังน้ำเขียว กันเถอะ
มาสูดโอโซนอันดับเจ็ดที่ วังน้ำเขียว กันเถอะ

วังน้ำเขียวฟาร์ม ( Mr. Mushroom) ที่ชนะลุงไกรได้ในเรื่องของระยะทาง ก็คือ ที่ฟาร์มเห็ดเมืองหนาวแห่งนี้ล่ะครับ 555 รถราแน่นที่จอด พอๆกับคิวขอดูงาน ซึ่งมีจองตลอดเกือบครึ่งปี เจ้าของฟาร์มคือ พะคุณภา ซึ่งอัธยาศัยดีมาก จนทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่า คนที่ใช้ชีวิตอยู่กับพืชผักต้นไม้ มักเป็นคนอ่อนโยนและใจกว้าง

มาสูดโอโซนอันดับเจ็ดที่ วังน้ำเขียว กันเถอะ

แต่ด้วยความเป็นคนที่สู้ไม่ถอยของพี่วีระและพี่ภา ที่บุกเบิกทำฟาร์มเห็ดเมืองหนาว (ปริมาณอุตสาหกรรม) ในสภาพแวดล้อมที่ควบคุมอย่างใกล้ชิดทุกอย่าง ทั้งการผลิต /โรงเรือน / ห้องเย็น / ก้อนเชื้อ / แพ๊คกิ้ง / สื่อการขาย / เมนูเห็ด ฯลฯ ทำให้วังน้ำเขียวฟาร์ม ประสบความสำเร็จอย่างมากในการเพาะเห็ดเมืองหนาวหลายชนิด ทั้ง เห็ดโคนญี่ปุ่น,เห็ดออรินจิ,เห็ดหลินจือ,เห็ดหอมสด,เห็ดหัวลิง,ฯลฯ

และยังต่อยอดผลิตภัณฑ์จากเห็ดอีกมากมาย ทั้ง ข้าวเกรียบเห็ดหอม,น้ำเห็ดสามเซียน,น้ำพริกเห็ดหอม,เห็ดดอง,ซุปตุ๋นยาจีนเห็ด,ฯลฯ จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะได้มาเยี่ยมชมขบวนการการผลิต และเลือกซื้อผลิตภัณฑ์และเห็ดสดจากถึงแหล่ง ซึ่งทำให้เราได้เห็นภาพรวมทั้งระบบ ตั้งแต่เกิดในโรงเพาะ จนกลายเป็นเมนูเห็ดจานเด็ดที่เราสามารถไปทำกินเองที่บ้านได้

มาสูดโอโซนอันดับเจ็ดที่ วังน้ำเขียว กันเถอะ
มาสูดโอโซนอันดับเจ็ดที่ วังน้ำเขียว กันเถอะ

ผาเก็บตะวัน จัดว่า ชนะเลิศเหรียญทอง เป็นที่หนึ่งในเรื่องของ ระยะทาง (ไกล) 55555 เพราะอยู่ลึกที่สุดเลยครับ เป็นจุดชมวิวล่าสุดซึ่งอยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติทับลาน นอกจากจะมีหลักกิโลเมตรอันใหญ่ให้ได้ถ่ายรูปกันเป็นที่ระลึก ว่าท่านได้มาถึงวังน้ำเขียว จ.นครราชสีมาแล้ว ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยสุดๆ อีกด้วย สมกับชื่อผาเก็บตะวันจริงๆ

มาสูดโอโซนอันดับเจ็ดที่ วังน้ำเขียว กันเถอะ

มีหุบเขาและผืนป่าเบื้องล่างเป็นเหมือนหีบธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ ท้องฟ้าเป็นฝาหีบ ก้อนเมฆและสีสันยามเย็นเป็นลวดลาย ปิดฉากที่งดงามของแสงสุดท้ายแห่งวัน เพื่อที่จะกลับมาเปิดให้ความหวังอีกครั้งในเช้าวันใหม่....

ยังมีกิจกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ที่ไม่ควรพลาด นั่นก็คือ การปลูกป่ายิงหนังสติ๊ก โดยทางอุทยานฯ จะบรรจุถุงเมล็ดพืชลูกใหญ่ เช่น ลูกมะค่า (หรือพันธุ์ไม้อื่น ตามฤดูกาล) โดยที่เราซื้อเมล็ด และสามารถยืมหนังสติ๊กได้และมาคืนเมื่อใช้เสร็จแล้ว

ซึ่งหนังสติ๊กหลากสไตล์ได้สร้างความเฮฮาและแปลกตาให้กับผมอย่างมากๆ ไม่ว่าจะเป็น อันที่มีสี่ง่ามห้าง่าม หรือ มีขนาดใหญ่เท่ากับตัวผม แต่สุดท้ายผมก็เลือกอันที่เล็กและเหมาะมือมากที่สุด เพราะหวังผลในการยิงให้ไกลมากที่สุด และหวังว่าเมล็ดพันธุ์เหล่านี้ จะเติบโตงอกงามเป็นป่าที่สมบูรณ์ต่อไป

มาสูดโอโซนอันดับเจ็ดที่ วังน้ำเขียว กันเถอะ
มาสูดโอโซนอันดับเจ็ดที่ วังน้ำเขียว กันเถอะ  มาสูดโอโซนอันดับเจ็ดที่ วังน้ำเขียว กันเถอะ  มาสูดโอโซนอันดับเจ็ดที่ วังน้ำเขียว กันเถอะ 
มาสูดโอโซนอันดับเจ็ดที่ วังน้ำเขียว กันเถอะ

ร้านอาหาร โวค บัลลังค์เมฆ ถ้าจะพูดถึงอาหารการกิน ก็คงจะขาดไม่ได้ที่จะแนะนำร้านอาหารที่มีดีไซน์เรียบง่าย สบายตา แต่ไม่ล้อเล่นกับเรื่องรสชาติอาหาร คุณแอนเดรียเจ้าของร้านมากความสามารถ นอกจากดูแลเรื่องการตกแต่งร้านเองทั้งหมด ยังควบคุมเรื่องรสชาติอาหารที่ขึ้นชื่อ โดยเฉพาะเค็กและเบเกอรี่ ที่ทำเองทุกวัน

ในเรื่องราคาผมขอบอกว่า ไม่ถูกมากนัก ..หุหุหุ แต่ก็คุ้มค่าสมกับราคา ซึ่งป็นเหตุผลโดยตรงที่เราเข้าใจกันได้ง่ายว่า รสชาติดี ต้องเน้นในเรื่องของวัตถุดิบคุณภาพ ที่ใส่เต็มๆ แบบไม่หวง ในเรื่องของอาหารมื้อหนัก ก็อร่อยทุกอย่าง (ที่ผมได้ทาน) ไม่ว่าจะเป็น จับฉ่ายไม่ธรรมดา,สลัดผักปลอดสาร และสเต็คหมูเป็ปเปอร์ ยังมีผลิตภัณฑ์ที่สามารถซื้อนำกลับบ้านได้มากมาย ทั้งสลัดครีม,สปาเก็ตตี้ซอส,ช็อคโกแลตซอส,แยมองุ่น,ฯลฯ สาธยายไม่หมด เอาเป็นว่าก่อนเข้าหมู่บ้านไทยสามัคคี หรือก่อนกลับ ลองแวะไปดูเองนะครับ อยู่ตรงปากทางเลย สำหรับผมไปประจำทุกสัปดาห์ เพราะในวังน้ำเขียวที่มีเค้กอร่อยๆระดับโรงแรมให้ทาน ก็ต้องที่นี่ล่ะครับ

มาสูดโอโซนอันดับเจ็ดที่ วังน้ำเขียว กันเถอะ

ตลาดปากทาง และมินิมาร์ท สำหรับนักท่องเที่ยวบางรายที่อาจจะยังกังวลเรื่องของความสะดวกสบายไม่ได้ ผมลองสำรวจมาแล้วครับ ไม่ลำบากจนเกินไปแน่นอน เพราะมีร้านมินิมาร์ทปากทาง ชื่อร้านดีมิก มาร์ท ซึ่งมีของครบครันจริงๆ เหมือนซุปเปอร์มาเก็ตเล็กๆ เลย

มาสูดโอโซนอันดับเจ็ดที่ วังน้ำเขียว กันเถอะ

และใครที่เร่งรีบจนไม่มีเวลาไปแวะถึงข้างในไทยสามัคคีลึกๆ ก็แวะซื้อที่ตลาดหน้าปากทาง ซึ่งเป็นตลาดขายของรวมมิตรหลากหลาย ทำเป็นแพคเล็กใหญ่ให้หยิบฉวยนำกลับง่าย โดยราคาอาจจะสูงกว่าเล็กน้อย แต่เพื่อความสะดวกในเวลาเร่งรีบ ก็เป็นทางเลือกที่ไม่ควรพลาดครับ

มาสูดโอโซนอันดับเจ็ดที่ วังน้ำเขียว กันเถอะ

บ้านผางาม เมืองผจญภัย แหม..ถ้าไม่พูดถึงบ้านผมเลย ก็แย่ซิครับ 555555555 แต่ถ้าท่านอยากจะเห็น ภาพสถานที่จริงของ เส้นทางความสุขที่ 15 : วังน้ำเขียว แหล่งที่มีโอโซนอันดับ 7 ของโลก คงห้ามพลาดเด็ดขาดครับ เพราะภาพนี้ที่หลายคนรู้จัก ก็คือ สวนดอกไม้ที่บ้านผางาม นั่นเองครับ

มาสูดโอโซนอันดับเจ็ดที่ วังน้ำเขียว กันเถอะ

นอกจากนี้ยังมีความสำคัญ เพราะเป็นสถานที่ถ่ายทำละครเรื่องดังอย่าง เพลิงพายุ และ ดั่งดวงหฤทัย(โดยเฉพาะฉากจบ)

นอกจากนี้ เรายังมีความท้าทายใหม่ๆไว้ต้อนรับนักผจญภัย ไม่ว่าจะเป็น Water Challenge ภาคใหม่ (ผจญภัย 7 คาบสมุทร) ที่พี่ๆ จะต้องผ่านด่านน้ำมากมาย

มาสูดโอโซนอันดับเจ็ดที่ วังน้ำเขียว กันเถอะ

และสรุปท้ายด้วยการเป็นเชลยบนเรือโจรสลัดขนาดยักษ์ที่ต้องหลบหนีจากการจับกุม หรือ Tarzan Tour เส้นทางใหม่ ซึ่งต้องห้อยโหน ผ่านยอดไม้มากมาย และจะมีเสน่ห์ที่สุดก็คือในช่วงหน้าฝนในบรรยากาศของผืนป่าดงพญาเย็นอย่างแท้จริง ปิดท้ายด้วยกิจกรรมที่สร้างความตื่นตาตื่นใจมากที่สุด

 มาสูดโอโซนอันดับเจ็ดที่ วังน้ำเขียว กันเถอะ

นั่นก็คือ Sky Coaster หรือชิงช้ายักษ์ตัวแรกและตัวเดียวในประเทศไทย ที่จะพาท่านเหวี่ยงไปสุดฟ้า อย่าลืมมาแวะเล่นและเก็บภาพความประทับใจก่อนเดินทางกลับนะครับ เพราะอยู่บนทางผ่านขากลับพอดี (ปล. สอบถามตารางเวลากิจกรรมล่วงหน้า เพื่อการวางแผนท่องเที่ยววังน้ำเขียวอย่างมีประสิทธิภาพนะครับ )

 มาสูดโอโซนอันดับเจ็ดที่ วังน้ำเขียว กันเถอะ
มาสูดโอโซนอันดับเจ็ดที่ วังน้ำเขียว กันเถอะ

เล็กๆ น้อยๆ รายทาง มาถึงบทสรุป ซึ่งทุกท่านจะได้เห็นว่า วังน้ำเขียว ไม่ใช่เพียงแค่สถานที่เท่านั้น บางคนอาจจะคิดแค่ว่าต้องมาเที่ยวในฤดูกาลที่เหมาะสม หรือแวะให้ได้ตามจุดหมายที่วางไว้

มาสูดโอโซนอันดับเจ็ดที่ วังน้ำเขียว กันเถอะ

ระหว่างการเดินทาง ผมได้พบเห็นสิ่งสวยงามและเรื่องราวมากมาย ตามวาระตามโอกาสที่จะเป็น ที่พึงเจอ ได้พูดคุยกับผู้คนที่น่ารัก รับฟังเรื่องราว แลกเปลี่ยนพูดคุยกับเพื่อนต่างวัย ต่างอาชีพ อะไรอีกมากมาย ที่ทำให้ผมรู้สึกว่า วังน้ำเขียว มีอะไรอีกมากมาย รอให้เราค้นพบ

มาสูดโอโซนอันดับเจ็ดที่ วังน้ำเขียว กันเถอะ

บางคนประหลาดใจกับการที่ผมไปวังน้ำเขียวได้เป็นร้อยๆ ครั้ง เค้าถามว่าไม่เบื่อบ้างเหรอ วังน้ำเขียวมีอะไร ผมก็มักจะบอกกับตัวเองในใจว่า ไม่เบื่อหรอก เพราะวังน้ำเขียวเป็นแค่เพียงปลายทาง แต่จุดหมายระหว่างทางที่ได้พบเจอเรื่องราวและผู้คนมากมายต่างหากที่สำคัญ.....บางทีคำพูดที่ว่า คำตอบของเมืองไทย อยู่ที่ ชุมชน.... คุณอาจค้นพบได้ที่วังน้ำเขียว.........ปาย เล็ก เล็ก ของผม...

มาสูดโอโซนอันดับเจ็ดที่ วังน้ำเขียว กันเถอะ

ปล.ภาพทุกภาพถ่ายทำจากสถานที่จริง (วังน้ำเขียว) ต่างกันแต่ละช่วงฤดูกาล และจุดแวะพักรายทางที่ผ่าน ผมฝากแผนที่การเดินทาง และลายแทงหมู่บ้านไทยสามัคคีไว้ด้วย หวังว่า ทุกท่านจะมีโอกาสได้พบเห็นความสวยงามเช่นนี้ ... หรือในแบบที่ในชีวิตผมอาจจะยังไม่เคยเห็นมาก่อน.....ก็เป็นไปได้ครับ

ลายแทงไทยสามัคคี

ณัฐภณ วุฒิกานากร (เอ) แห่งบ้านผางาม...เรื่อง / ภาพ ออนไลน์เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2551

 เรื่องท่องเที่ยวสนุกๆ จาก ณัฐภณ วุฒิกานากร เอ บ้านผางาม โอ้ ! อัศจรรย์เหลือเชื่อ.....นี่หรืออินเดีย (ตอนจบ) โอ้ ! อัศจรรย์เหลือเชื่อ.....นี่หรืออินเดีย (ตอนที่ 1) 7 วัน ตะลุยอลาสก้า...พรมแดนสุดท้ายแห่งโลกธรรมชาติ (ตอนจบ) 7 วัน ตะลุยอลาสก้า...พรมแดนสุดท้ายแห่งโลกธรรมชาติ (ตอนที่1) บ้านผางาม บ้านผางาม รีสอร์ท ภาคแรก (โรยตัวน้ำตกเวฬุวัน)   

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook