3 หน้าผาท้าหัวใจ ในจังหวัดอุบล

3 หน้าผาท้าหัวใจ ในจังหวัดอุบล

3 หน้าผาท้าหัวใจ ในจังหวัดอุบล
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นุ บางบ่อ... เรื่อง / นุ บางบ่อ , กนกเพชร , หัวหน้าปัญญา บุญญาอดุลยกิจ... ภาพ

     ห่างหายกันไปเสียนานแต่ก็หวังว่าเพื่อนๆ นักเดินทางยังคงจำกันได้อยู่กับคอลัมน์ เที่ยวผจญภัยกับ นุ บางบ่อ ความจริงแล้วก็ไม่ได้แอบไปนอนหลับที่ไหนหรอกครับ เพียงไปเดินดุ่มๆ แบกเป้ท่องแดนอีสานใต้จังหวัดอุบลราชธานี ดินแดนแห่งสองธรรม อันได้แก่ ธรรมชาติ และ ธรรมะ ตลอดจนเตลิดเข้าไป สปป. ลาว เที่ยวเมืองปากเซ โน่น เลยมีเรื่องสนุกตื่นเต้นใหม่ๆ กลับมาเล่าสู่กันฟังในวันนี้แหละ

 

    เริ่มจากเมืองปากเซ ของ สปป.ลาว ก่อนก็แล้วกัน จังหวัดอุบลราชธานี วันนี้เขาเปิดเส้นทางเดินรถยนต์โดยสารข้ามประเทศแล้ว !! โดยวิ่งระหว่าง สถานี บขส.ในตัวจังหวัดอุบล ถึง เมืองปากเซ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของแขวงจำปากสัก แห่ง สปป.ลาว โดยมีบริการวันละ 4 เที่ยวเริ่มตั้งแต่ 07.00 ,09.30 , 14.30 , 15.30 ส่วนเที่ยวกลับจากเมืองปากเซมีเที่ยว 07.00 , 08.30 , 15.30 , 16.30 ด้วยราคาค่ารถเพียง 200 บาท/คน/เที่ยว 
และทั้งนี้ผู้โดยสารจะต้องทำเอกสาร Passport หรือ บัตรผ่านแดนชั่วคราว มาก่อน หากไม่มีสามารถติดต่อขอทำบัตรผ่านแดนชั่วคราวได้ที่ ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี หรือ ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองช่องเม็ก โดยใช้รูปถ่าย 1 นิ้ว หรือ 2 นิ้ว จำนวน 2 ใบ สำเนาบัตรประชาชนอีก 2 ใบ โดยมีค่าธรรม 30 บาท หากสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถติดต่อสอบถามได้ตามหมายเลขโทรศัพท์ด้านล่าง  อ้อ..รถโดยสารระหว่างประเทศนี้ ไม่จอดแวะรับส่งผู้โดยสารระหว่างทางนะ อย่าหวังไปยืนโบกอยู่ข้างทางกันล่ะ เขาไม่จอดรับหรอกครับ 
     เมืองปากเซ ถือเป็นเมืองหลวงของแขวงจำปาสัก มีความเจริญที่แฝงไว้ด้วยภาพวิถีชีวิตของชาวลาว และมีสถาปัตยกรรมงดงามสไตล์ฝรั่งเศสโบราณเมื่อครั้งที่ฝรั่งเศสเคยเข้ามาครอบครองดินแดนในแถบนี้หลายสิบปีก่อน 
และเมืองปากเซแห่งนี้ถือเป็นเมืองหน้าด่านของนักเดินทางที่มีเป้าหมายปลายทางไปชมความงดงามอันยิ่งใหญ่ของสายน้ำ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี อาทิ น้ำตกตาดผาส้วม น้ำตกตาดฟาน น้ำตกตาดเยือน น้ำตกหลี่ผี น้ำตกคอนพะเพ็ง และสถานที่ท่องเที่ยวทาวัฒนธรรมอื่นๆ อีกมากมาย 

     เมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางมาถึงเมืองปากเซแล้ว การเดินทางต่อเพื่อไปชมธรรมชาติยังสถานที่ต่างๆ ดังกล่าว สามารถหาเช่าเหมารถตู้ หรือรถสามล้อเครื่อง และถ้าหากมีเวลามากๆ ก็สามารถใช้บริการรถสองแถวประจำทางต่อไปยังสถานที่ต่างๆ ได้สะดวก เรื่องการติดต่อสอบถามนั้นไม่เป็นปัญหา ชาวลาวเขาฟังภาษาไทยได้เข้าใจ (เพราะเขาชอบดูรายการทีวีของไทย) ภาษาของไทยกับลาวนั้นต่างกันไม่มาก เรียกว่าต่อรองราคากันได้สบายครับ ส่วนเรื่อสกุลเงินก็ไม่เป็นปัญหาเช่นเดียวกัน ยิ่งถ้าเป็นเงินบาทไทยไปใช้จ่ายในลาวแล้วละก็เขายินดีรับครับ เพราะเขาจะไปแลกเปลี่ยนเป็นเงินสกุลกีบได้มากขึ้นอีกนิดหน่อย  

   ต้องลองไปกันดูครับ รถยนต์โดยสารระหว่างประเทศสายนี้ ทำให้การเดินทางเข้าไปเยี่ยมชมประเทศเพื่อนบ้านของเราสะดวกสบายขึ้นมากทีเดียว 

    ผ่านเรื่องท่องเที่ยวแบบสบายๆ กันไปแล้ว มาเข้าเรื่องท่องเที่ยวแบบลำบากๆ กันบ้างดีกว่า อย่างที่ผมได้เกริ่นไว้ตอนต้นแล้วครับว่า ห่างหายจากการเดินทางไปพักใหญ่ เพราะฉะนั้นการเดินทางแบบผจญภัยก็เลยห่างๆ ตัวไปด้วย การมาเยือนจังหวัดอุบลทริปนี้ จึงมีกิจกรรมท่องเที่ยวผจญภัยแบบสุดขั้วพ่วงอยู่ในทริปด้วย กิจกรรมนั้นก็คือ "การโรยตัว 3 หน้าผาท้าหัวใจ" แต่จะสุดขั้วแค่ไหนลองติดตามอ่านกันดูครับ

 

หน้าผาแรก : ผาผึ้ง ทบทวนความจำ      เป็นธรรมดาครับ คนอายุเยอะอย่างผม ความทรงจำจึงค่อนข้างเลอะเลือนไปบ้าง การใช้อุปกรณ์ในการโรยตัวลงจากหน้าผา ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความละเอียดรอบครอบที่สุด และต้องใช้ผู้ที่มีความชำนาญเท่านั้น ในการดูแลและเซ็ทกิจกรรมนี้ขึ้นมา ผมเองก็แค่เพียงมือสมัครเล่น งานนี้จึงต้องขอแรงมืออาชีพอย่าง นายเพชร แห่งเว็บไซต์ hyperventure.com มาเป็น Super Staff  คอยเซ็ทเชือก และอุปกรณ์ต่างๆ ให้ 

    ผาผึ้ง อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ ถึงแม้หน้าผาแห่งนี้จะไม่สูงมากนัก แต่ก็ถือเป็นบทแรกที่เราได้ใช้เป็นที่ซักซ้อม และรื้อฟื้นวิชาการโรยตัวให้แก่ผมจากที่ห่างหายจนเกือบลืมเข้ากรุไป ความสูงประมาณ 10 เมตร หลายคนคงรู้สึกชิลล์ๆ แต่ผมคิดว่า การโรยตัวลงหน้าผาแห่งนี้ค่อนข้างยากเหมือนกัน เพราะเนื่องจากตรงชะง่อนหน้าผาที่ยื่นออกไปนั้น เป็นหินที่มีความคม และเมื่อเราโรยตัวลงไปแล้ว เท้าของเราก็ไม่สามารถเหยียบกับผาหินได้ถึง จึงถือเป็นจุดที่เสี่ยงต่อการได้รับแผลถลอกนิดๆ หน่อยๆ ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องปกติครับกับกิจกรรมประเภทนี้ หากใครได้เคยลองแล้วคงจะทราบดีว่าก็ต้องมีกันบ้าง ถือเป็นที่ระลึกกันไปนิดๆ หน่อยๆ สนุกดี

    นอกจากหน้าผาของผาผึ้งแล้ว สิ่งที่ผมประทับใจภายในอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะนี้ก็คือ การทำงานของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่นี่ครับ เจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ ให้การต้องรับที่ดีมาก และผมคิดว่าไม่มีที่ไหนเหมือน คือ ไม่ว่าเราจะเดินทางกันมากลุ่มเล็ก หรือ กลุ่มใหญ่ หากเข้ามาถึงอุทยานแห่งนี้แล้ว เจ้าหน้าที่จะต้อนรับด้วยเสียงเพลงไพเราะ ซึ่งเจ้าหน้าที่เป็นผู้แต่งขึ้นเอง ประกอบเครื่องดนตรี เช่น ขลุ่ย แคน กีต้าร์ เสียงร้องด้วยท่วงทำนองประสานเสียงทั้งหญิงชาย มีเนื้อหาเกี่ยวกับธรรมชาติป่าเขาในจังหวัดอุบล ผมอดใจไม่ได้ที่จะเก็บภาพคววามทรงจำอันดีนี้ไว้ในกล้องวีดีโอที่เตรียมมาด้วย เดี๋ยวตัดต่อเสร็จแล้วจะนำมาออนไลน์ให้ชมกันครับ

หน้าผาที่สอง : ผาแต้ม โบกมือลาใต้หน้าผามุมมองใหม่สองฝั่งโขง     ไม่มีเสียงเล็ดลอดใดๆ มาจกผมที่นั่งอยู่ตอนหน้าคู่กับตำแหน่งคนขับรถกระบะ ที่ตีด่วนขึ้นไปยังผาแต้มก่อนตะวันลับขอบฟ้า ซึ่งขับโดยพี่ธงชัย เจ้าหน้าที่จากสำนักงาน ททท. ภาควันออกเฉียงเหนือ เขต 2 ส่วนนายเพชร hypervenger.com นั่งหัวเราะร่วนพร้อมตระเตรียมอุปกรณ์การโรยตัวอยู่ในตอนหลังของรถ อย่างขะมักเขม้น พร้อมพูดหว่านล้อมผมด้วยคำพูดต่างๆ นานา ซึ่งรวมๆ แล้ว ผมพอตั้งสติจับใจความได้ว่า "พี่นุ พี่ต้องโรยลงไปเป็นเพื่อนผม." 
    ผมชักสงสัยว่าเจ้าเพชรคนนี้ นั้นปกติเหมือนมนุษย์ทั่วไปหรือเปล่า ผาแต้มที่สูงนับร้อยเมตร ถึงแม้ว่าเป้าหมายการโรยตัวครั้งนี้เพียงจุดแรกคืออยู่ที่ความสูง 45 เมตร แต่ด้วยความที่ผาแต้มเป็นหน้าผาที่โล่ง มองออกไปเห็นทิวทัศน์ของฝั่งลาว และสายแม่น้ำโขงคดเคี้ยวงดงาม จุดที่พวกเรายืนกันอยู่นี้สร้างความน่าสะพรึงกลัวและสวยงามได้ในเวลาเดียวกัน 
   "ใส่ฮาเน็ต..สิพี่" เจ้าเพชรสั่งผม "(((((ไม่)))))" ผมตอบแบบเด็ดขาด เวลาใกล้ค่ำไปทุกขณะ ความยากลำบากในกิจกรรมทดสอบกำลังใจเริ่มมากขึ้น ผมเคยถามเจ้าเพชรว่า "ทำไมถึงชอบการโรยตัวในที่สูงๆ แบบนี้" เจ้าเพชรตอบผมว่า "มันเป็นการเอาชนะความกลัว ซึ่งความกลัวนั้นมีอยู่ในทุกๆ คนอยู่แล้ว การที่เราลงไปได้ถือเป็นการเอาชนะตัวเราเองได้อย่างหนึ่ง และนอกจากนั้นยังเป็นการฝึกสมาธิ สร้างนิสัยให้มีความละเอียดรอบคอบขึ้นอีกด้วย" อืม...แฮะ.. นายเพชรก็พูดมีเหตุผล แต่สำหรับหน้าผานี้ผมบ๊ายบายก่อนก็แล้วกัน สรุปผมปล่อยให้เจ้าเพชรโรงตัวลงไปคนเดียว ส่วนผมอ้างว่าจะคอยดูแลเชือกอยู่ด้านบน (เผื่อมีใครเดินมาตัดเชือกผมจะได้ส่งมีดคมๆ ให้เขา ...อิอิ) 
     เจ้าเพชรหายลับลงไปจากขอบหน้าผาได้สักพัก ผมก็วิ่งลงไปตามเก็บภาพขณะที่มนุษย์บ้าบิ่นห้อยโหนแขวนตัวเองไว้บนเส้นเชือก มันช่างเป็นภาพที่น่าประทับใจ ที่มนุษย์คนถึงห้อยต่องแต่งอยู่ใต้หน้าผา ผมนึกถึงโฆษณาสุรายี่ห้อดังขึ้นมาทันที หน้าผาแห่งนี้แหละที่ถูกเลือกให้ใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำ 

    แม่น้ำโขงยามโพล้เพล้ ช่างเป็นภาพที่งดงามเสียจริง ผมถ่ายภาพมนุษย์ใจกล้าคนนี้ได้ไม่ชัดนักเพราะด้วยข้อจำกัดของขนาดเลนส์ จากด้านบนของหน้าผาที่เป็นชะง่อนหินยื่นออกมา เท้าของเจ้าเพชรไม่ได้แต่หน้าผาเลย เส้นเชือกที่ตรงดิ่งลงมาโดยมีเจ้าหน้าที่ของอุทยานฯ คอยดูแลให้ เวลาผ่านไปเกือบ 20 นาทีที่เจ้าเพชรใช้เวลาชมวิวสองฝั่งโขงบนเส้นเชือก จากนั้นก็ลงมาสู่พื้นด้วยความปลอดภัย และประทับใจในภาพแห่งความทรงจำ 

    กิจกรรมการโรยตัวที่ผาแต้มครั้งนี้ เป็นเพียงการสำรวจจากพวกเราเท่านั้น ทางอุทยานฯ ยังไม่มีให้บริการ แต่ในขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงศึกษาความเป็นไปได้ ซึ่งก็ถือเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจของการท่องเที่ยวภายในอุทยานแห่งชาติอีกกิจกรรมหนึ่ง

 

   พวกเราเก็บอุปกรณ์ แล้วเดินทางกลับเข้าสู่ตัวจังหวัดอุบล เพื่อพักผ่อนก่อนวันรุ่งขึ้นที่จะต้องเผชิญกับอีกหนึ่งหน้าผาที่มีความสูงไม่แพ้กัน 

 

หน้าผาที่สาม : น้ำตกห้วยหลวง หรือ น้ำตกบักเตว     วันนี้เป็นวันสุดท้ายของทริปการเดินทางมาเยือนดินแดนสองธรรม แต่คณะสำรวจของเราก็มีภารกิจที่ต้องทำอีกหนึ่งอย่างคือ การโรยตัวที่น้ำตกห้วยหลวง ในอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของจังหวัดอุบล อุทยานแห่งชาติภูจองนายอยมีน้ำตก และเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติที่น่าสนใจอยู่หลายเส้นทาง แต่ด้วยเวลาที่เรามีอยู่อย่างจำกัด คณะของเราจึงตรงดิ่งเข้าสู่น้ำตกห้วยหลวง เพื่อปฏิบัติภารกิจการสำรวจบนความเสี่ยงกันอีกครั้ง
    ทริปนี้เราได้รับความอนุเคราะห์หลายอย่าง จากทางท่านหัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย ท่านหัวหน้าปัญญา บุญญาอดุลยกิจ ได้อำนวยความสะดวกและแนะนำความเป็นมา สภาพป่า สัตว์ป่าต่างๆที่อยู่ภายในอุทยานฯ ทำให้เราทราบถึงภูมิประเทศ และประเมินถึงความเป็นไปได้ในกิจกรรมที่เรากำลังจะทำการทดสอบ นั่นคือ การโรยตัวจากด้านบนของน้ำตก ที่มีความสูงเกือบ 50 เมตร ลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง
    วันนี้ผมหมดมุข ที่จะปฏิเสธเจ้าเพชรได้แล้ว ด้านบนของน้ำตกตอนนี้พอมีร่องหินที่น้ำกัดเซาะเป็นรู พอให้พวกเราร้อยเชือกลงไปได้ ความปลอดภัยต้องมาก่อนเสมอ เรา save กันหลายจุด และใช้อุปกรณ์ที่มีความพร้อมและใหม่ จนพวกเราแน่ใจในความปลอดภัย สิ่งต่อไปที่ได้ทำคือ การค่อยๆ เดินถอยหลังแล้วทิ้งตัวลงหน้าผาไป 
    จำได้ว่าขณะนั้นผมลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยคิดว่าเป็นเรื่องที่น่าปวดหัว ไม่ว่าจะเป็นงานประจำที่วุ่นวายเคร่งเครียด ตลอดจนถึงเรื่องที่ว่าผมเหลือเงินเท่าไรอยู่ในกระเป๋า ตอนนั้นจิตใจผมคิดอยู่เพียงอย่างเดียวว่าจะทำอย่างไรให้ตัวเองปลอดภัยที่สุด แน่นอนครับผมยอมรับว่าผมกลัวมาก และก็เป็นคนที่กลัวความสูงด้วย แต่ผมก็อยากที่จะเอาชนะมัน การลอยตัวอยู่บนอากาศแบบเท้าไม่แตะพื้น ผมรู้สึกเป็นอิสระ เมื่อมองลงไปด้านล่างก็รู้สึกถึงความน่ากลัว ขาที่สั่นเพราะอาการกลัวความสูงเริ่มดีขึ้นเป็นลำดับ เราสองคนค่อยๆ รูดเส้นเชือกลงมา พร้อมละอองน้ำจากน้ำตกที่ประพรมพวกเราให้สดชื่นเย็นฉ่ำ 

     พวกเราทำสำเร็จบนพื้นฐานของความไม่ประมาท เรื่องราวที่ท้าทายในเมืองอุบลได้เริ่มถูกพิชิตแล้ว การเดินทาง และความสำเร็จในครั้งนี้จะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าขาดความช่วยเหลือจากหลายๆ ฝ่าย จังหวัดอุบลราชธานี ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายที่ยิ่งไปกว่า อันซีน อินไทยแลนด์ วันนี้การเดินทางสู่จังหวัดอุบลราชธานีสะดวกสบายขึ้นมาก มีหลายสายการบินที่ไปลงที่นั่น โรงแรมหรูหลายดาวก็มีให้บริการ เหลือแต่เพียงว่า คุณกล้าที่จะไปสัมผัสดินแดนแห่งสองธรรม และแม่น้ำสองสี โขงสีปูน มูลสีคราม นี้หรือเปล่าเท่านั้นเอง  

นุ บางบ่อ

.............................................................................

 

 

ขอขอบคุณ / สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 2 (ผอ.นพรัตน์ กอกหวาน , คุณธมลวรรณ (พี่หน่อง) , คุณธงชัย (พี่ธง) ) โทร. 0 4524 3770 , 0 4525 0714 

บขส.อุบลราชธานี โทร. 0 4531 2773 

ด่านตรวจคนเข้าเมืองช่องเม็ก โทร. 0 4548 5107 

อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ อุทยานแห่งชาติผาแต้ม อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย 

เว็บไซต์ www.hyperventure.com  คุณกนกเพชร

โรงแรมอุบลบุรีรีสอร์ท 0 4526 6777 โรงแรมทอแสง โขงเจียม โทร. 0 4535 1174-6 ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมกาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี โทร. 0 4535 2031

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook