บ้านผางาม

บ้านผางาม

บ้านผางาม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

บ้านผางาม ภาค 2 

นุ บางบ่อ...เรื่อง อรรถพล...ภาพ 

เรื่องเสียวๆ ในวันสบายๆ

เหิรฟ้าผางาม

      อาการตื่นเต้นจนหน้าชา และซีดขึ้นเป็นลำดับ ผมพยายามเรียกสติและสมาธิกลับมาแต่ก็ยากเหลือเกิน  กองเชียร์ที่ยืนรายล้อมอยู่ด้านล่าง ต่างส่งเสียงโหวกเหวกปลอบใจฟังไม่ได้ศัพท์  คงเป็นเพราะวินาทีนี้ผมกำลังตื่นเต้นสุดขีด

       ร่างของผมถูกห้อยต่องแต่งอยู่ระหว่างสองเสาสูงที่ปลายเสาทั้งสองถ่างออกจากกันคล้ายรูปตัววี สายสลิงแข็งแรงถูกโยงมาจากเสาทั้งสองด้าน โดยมาล็อคกับร่างผมด้วยฮาร์เน็ตตัวใหม่  ผมเชื่อมั่นในความมั่นคงปลอดภัยแข็งแรงของอุปกรณ์  แต่ในทุกขณะเมื่อสายสลิงอีกสายหนึ่งที่โยงมาจากมอเตอร์ไฟฟ้า มาดึงร่างของผมให้ลอยสูงขึ้นๆ แล้วก็สูงขึ้น จนสายสลิงสองเส้นที่โยงมาจากสองเสาขนานกับพื้นล่าง ... นี่เขากำลังจะทำอะไรกับผม...            
      มีทางเดียวที่ผมจะหลุดพ้นจากความรู้สึกสุดขีดตรงนี้ได้ก็คือ ผมต้องปลดสลัก ซึ่งเป็นเชือกเส้นเล็กที่ขัดอยู่กับสายสลิงเส้นที่ดึงร่างผมให้สูงขึ้นมา  มันเป็นความรู้สึกที่ผมบรรยายไม่ถูกจริงๆ ถ้าผมดึงสายสลักนี้ออก ผมพอจะเดาความรู้สึกต่อไปได้ว่าผมจะต้องพบกับอะไร... เสียงเชียร์ยังคงกึกก้อง แต่ผมก็ฟังไม่รู้เรื่องเหมือนเช่นเคย  ผมลืมเรื่องเครียดทุกเรื่องจากที่ทำงาน และเกือบจะลืมทุกๆ อย่าง สมองที่ว่างเปล่า สายตาตอนนี้จดจ้องอยู่ที่สลักสีเหลือง ผมอยากจะให้เขาค่อยๆ หย่อนสายสลิงเพื่อลดความสูงลง แต่ก็สายไปเสียแล้ว

       เอาน่า...เป็นไงเป็นกัน...สาวๆ เขายังทำกันได้เลย แถมยังขึ้นไปสูงกว่าผมเสียอีก... ผมปลอบตัวเองเงียบๆ อย่างงั้น

      ผมเอื้อมมือให้นิ้วชี้ไปเกี่ยวตัวสลัก แล้วหลับตาปี๋..ใช่ครับ ผมกลัว... แล้วผมก็ดึงมันออกทั้งๆ ที่ไม่อยากจะดึง... โอ๊ยยยยยย !!! (สำเนียงโหยหวนยาวๆ) ร่างของผมแหวกไปในอากาศลงไปในแนวโค้งลงอย่างรวดเร็ว คล้ายๆ คนนั่งชิงช้า แต่ชิงช้าตัวนี้ไม่ช้าเลย มันรวดเร็วมากแถมเหวี่ยงผมไปมาให้ลอยสูง แล้วต่ำลง ให้สูงแล้วก็ต่ำลง สลับไปมาอย่างนี้ ลมเย็นๆ ที่ผมไม่เคยมองเห็นประทะร่างกายจนรู้สึกสดชื่น แน่ละซิ...ก็บรรยากาศในบริเวณนี้ ติดอันดับ 1 ใน 7 ของโลก ที่เป็นแหล่งโอโซนสูง ผมชอบอากาศของที่นี่จริงๆ
      ชิงช้ายักษ์ใหญ่ตัวนี้แกว่งผมไปมาอย่างสะใจ  อาการเสียวปนกลัวในตอนแรกหายไป ตอนนี้ความมันสะใจเข้ามาแทน  ร่างกายที่ปรับตัวได้แล้วเริ่มคุ้นเคย  ผมยังไม่อยากให้เจ้าชิงช้ายักษ์นี้หยุดแกว่ง อยากให้มันแกว่งไกวไปเรื่อยๆ เพราะผมรู้สึกว่าตัวผมเองเหาะเหิรได้อย่างไงอย่างงั้น  มันเป็นความรู้สึกอิสระอย่างบอกไม่ถูก รู้แต่เพียงว่า หากผมเลือกที่จะไม่เล่น ผมคงจะเสียดายไปตลอด
       ถึงเวลาที่ผมต้องลงจากเจ้าชิงช้ายักษ์ตัวนี้แล้ว แต่ขาผมยังสั่นไม่หาย ผมไม่รู้จะระบายอารมณ์กับใครก่อนดี  นอกเสียจากคุณเอ และคุณบี คู่แฝดอภินิหารที่น่ารัก ซึ่งมายืนให้กำลังใจอย่างใกล้ชิดตั้งแต่ช่วงแรกเริ่มต้น และยังแถมเป็นคนต้นคิดที่หากิจกรรมสุดยอดๆ แบบนี้มาให้เล่นในบ้านผางาม รีสอร์ท อีกด้วย หลังจากที่ระบายความในใจที่สุดยอดให้คุณเอ และคุณบี ฟังแล้ว ผมถึงรู้ว่า เจ้าชิงช้ายักษ์นี้มีชื่อเรียกน่ารักๆ ว่า เหิรฟ้าผางาม หรือ ชื่อภาษาอังกฤษว่า Sky Coaster ผมจะจำชื่อนี้ไปตราบนานเท่านานเลยทีเดียวเชียว :  )

บ้านทาร์ซาน

       กิจกรรมท้าทายหัวใจให้พองโตตัวต่อมา ที่คุณเอ และคุณบี เล่าให้ฟังว่า เป็นอีกตัวหนึ่งที่ไม่อยากให้ผมพลาด ตั้งแต่เมื่อเช้าผมและคุณเอ ได้วนๆ มาดูฐานที่ตั้งกิจกรรมนี้รอบนึงแล้ว  โดยฐานกิจกรรมนี้ตั้งอยู่ในบริเวณบ้านผางาม รีสอร์ท เช่นเดียวกัน และตั้งอยู่ด้านเชิงเขาทางทิศตะวันออก ซึ่งเป็นที่ลาดเชิงเขา มีทิวทัศน์สวยงามมองเห็นภูเขาเป็นลูกๆ ได้สุดสายตา

       จุดเด่นของกิจกรรมนี้อยู่ที่ เราต้องห้อยโหน (อีกแล้ว!!)  ด้วยรอกไปตามสายสลิงที่ขึงตึงยาวเป็นระยะๆ โดยมีจุดพักอยู่บนต้นไม้ใหญ่คล้ายบ้านบนต้นไม้  ซึ่งเป็นที่มาของชื่อกิจกรรมนี้  บ้านทาร์ซาน ผู้เล่นกิจกรรมบ้านทาร์ซาน นี้ต้องซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับการเคลื่อนตัว การหยุด ก่อนจากทีมสตาฟ เมื่อสตาฟเห็นว่าผู้เล่นมีความเข้าใจและสามาถควบคุมตนเองได้แล้วจึงจะอนุญาตให้ผู้เล่นคนนั้น สามารถลงไปโลดแล่นร้อง โห่ ฮิ้ว โห่ เหมือนกับทาร์ซานที่เราเคยดูในหนังตอนเด็กๆ ซึ่งหลายคนอาจจะเคยฝันอยากจะเป็น
       การซักซ้อมจนถึงการลงไปเล่นจริงนั้น ไม่มีอะไรยากเย็นเลย แค่เพียงเราใส่ถุงมือพิเศษที่ทางทีมสตาฟจัดไว้ให้ในมือข้างที่ถนัด  ฮาร์เน็ตที่มีรูปร่างคล้ายกางเกงขาสั้นแต่แข็งแรงที่สุด และอุปกรณ์ต่างๆ ที่มาเชื่อมโยงฮาร์เน็ตเข้ากับรอกเคลื่อนที่ เพียงแค่นี้เราก็ไปเป็นทาร์ซานกันได้แล้ว จะไม่เหมือนทาร์ซานจริงก็ตรงที่ เราใส่เสื้อผ้ามากชิ้นกว่าเท่านั้นเอง
      เสียงโห่ร้องแปล่งๆ พร้อมเสียงปรบมือให้กำลังใจ ดังกึกก้องขึ้นอีกครั้ง เมื่อมีน้องชายน้ำหนักเยอะคนหนึ่ง รับอาสาขอเป็นทาร์ซานรายแรกเพื่อล่วงหน้าไปเปิดบ้านบนต้นงิ้ว (ต้นงิ้วจริงๆ ครับ) รอรับแขกทาร์ซานหญิงชายรายต่อไป  นัยว่าเพื่อเป็นการทดสอบสายสลิงด้วยแหละครับว่า หากทาร์ซานคนแรกนี้ผ่านไปได้ คนอื่นๆ ที่ตามมากก็ไม่น่าห่วง         
     ทาร์ซานหญิงชายหลายคนผ่านไปเกือบหมดแล้ว ตอนนี้เหลือเพียงผมที่ยืนทำใจอยู่ว่าจะไปเป็นทาร์ซานดี หรือว่าจะเป็นทาร์ซานป๊อด...ดี  :  (   มาถึงตรงนี้คงต้องเลือกไปเป็น ทาร์ซานดีกว่าครับ เพราะยังมี ทาร์ซานน้อย อายุประมาณ 4 ขวบเศษๆ ที่สำคัญทาร์ซานน้อยนี้เป็นเด็กผู้หญิงซะด้วย ผมสังเกตมาตั้งแต่เช้าแล้ว เธอเล่นกิจกรรมทุกตัวเลยครับ ไม่มีงอแงเลยสักแอะ ไม่มีสีหน้ากลัว ผมกำลังงงจริงๆ ว่า ด้วยความไร้เดียงสาของเธอ หรือ ด้วยความชอบของเธอกันแน่ ?...

        คุณคงนึกภาพออก ถ้าผมยกเลิกการเป็นทาร์ซานเสียกลางคันตอนนี้ ผมคงต้องถูกมวลหมู่ทาร์ซานโห่ร้องเยอะเย้ยเป็นแน่  ยิ่งไปกว่านั้นถ้าถูก ทาร์ซานน้อยโห่ผมด้วยแล้ว นุ บางบ่อ คงจะถึงคราวอับอายมลายสิ้น ที่บ้านผางาม รีสอร์ท แห่งนี้นี่แหละ เพื่อเป็นการกู้สถานการณ์ และใบหน้าตัวเองตัวเอง

     คุณเอ๋ย อะไรจะมันเท่าตอนนี้ ผมโห่ร้อง ไม่รู้จำไม่ได้ว่าโห่ออกมาอย่างไร มือขวาที่ใส่ถุงมือพิเศษรูดไปกับสายสลิง กำพอหลวมๆ เพื่อควบคุมความเร็ว แต่ระยะทางสู่บ้านทาร์ซานช่วงแรกที่ยาวประมาณหนึ่งร้อยเมตรนี้ ทำให้ผมรู้สึกว่ามันไกลเหลือเกิน เมื่อไหร่จะถึงซะทีนะ...ยิ่งมองไปข้างล่างด้วยแล้ว หวือ...เสียววววว
        และผมก็ผ่านมันมาได้ ผมอยู่บนต้นงิ้วแล้วโดยที่ผมไม่ต้องปีนขึ้นมา แต่ยังมีสายสลงอีกสองช่วงที่ผมต้องห้อยโหนโห่ร้องต่อไป  มาถึงตอนนี้ความกลัวหมดสิ้นไป ความสนุกสนานเร้าใจเข้ามาแทน แล้วผมก็โห่ร้องตามคนอื่นๆ ไป จนถึงจุดสุดท้ายที่อยู่เบื้องล่าง
       ทาร์ซานน้อยวัย 4 ขวบเศษ ตามผมมาติดๆ โดยมีคุณบีประคับประคองมาอย่างทนุถนอม ผมไม่เข้าใจทาร์ซานน้อยเลยจริงๆ ที่เธอมีแต่รอยยิ้ม และไม่ความหวาดกลัวอะไรแม้แต่น้อยเลย  เธอเดินมาหาผมขณะที่ผมพึ่งผ่านพ้นอาการขาสั่น เธอเดินเข้ามาหาในระยะประชิดแล้วถามผมว่า รองเท้าหนูสวยไหม?  ผมงง...งง จริงๆ ครับ นี่มันอารมณ์ไหนของเด็กเนี่ย... ผมก้มมองรองเท้าสีชมพูคู่น้อย แล้วบอกเธอพร้อมๆ กับยิ้มให้ว่า ..สวยครับสวย...

วอเตอร์ แชลเลนจ์

          ยังไม่หมดครับ แผนทำร้ายจิตใจคนป๊อดอย่างผม จากคุณเอ และคุณบี กิจกรรมวอเตอร์ แชลเลนจ์ เป็นอีกหนึ่งฐานกิจกรรมใหม่ในบ้านผางาม รีสอร์ท ฐานนี้ได้รับการโหวตจากผู้ที่เข้ามาเล่นกิจกรรมต่างๆ ว่า เป็นฐานกิจกรรมที่สนุกที่สุด ... น่าสนใจแล้วซิ ผมต้องไม่พลาดแน่ฐานนี้ แค่ชื่อก็พอจะเดาได้แล้วว่าต้องเปียกแน่ๆ  ผมรีบแอบเข้าห้องพักเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมพร้อมก่อนดีกว่า             

       ฐานวอเตอร์ แชลเลนจ์ ประกอบไปด้วยสระน้ำ และด่านต่างๆ ที่ผู้เล่นต้องทำการผ่านไปให้ได้ เริ่มจากเดินบนเชือกที่ปริมน้ำผู้เล่นต้องเดินไปบนเชือกเส้นเดียวโดยมีเชือกอีกสองเส้นที่อยู่ด้านให้ยึดเกาะ แน่นอนครับเปียกตั้งแต่ด่านแรกนี้กันถ้วนหน้า  ต่อด้วยเดิน หรือวิ่ง แล้วแต่สะดวก แต่ที่ไม่สะดวกคือ ต้องเดินหรือวิ่งบนโฟม มันส์ละ..คราวนี้ ต่อด้วยการลงแพพร้อมกับสาวเชือกให้แพเคลื่นไปส่งอีกฝั่ง แต่ไม่ถึงฝั่งนะ งงงง...ละซิ  เมื่อไม่ถึงฝั่งผู้เล่นต้องกระโดดน้ำลงไปว่ายน้ำต่อไป อ้อ..เกือบลืม ที่นี่เขามีกฏเหล็กอยู่ข้อหนึ่งคือ ผู้เล่นกิจกรรมนี้ทุกคนต้องสวมใส่เสื้อชูชีพ ไม่อย่างนั้น อย่าหวังเลยครับว่าสตาฟจะอนุญาตให้ลงไปเล่น ข้อนี้ผมชอบมากครับ กิจกรรม Adventure ต้องควบคู่ไปกับความปลอดภัย  

      เมื่อขึ้นฝั่งได้ก็ต่อด้วยโหนรอกลงน้ำ โอ๊ย..มันส์ อีกแล้ว.. นี่ถ้าผมเป็นตากล้องนะ ผมชอบเวลาที่คนกำลังจะตกน้ำ แล้วน้ำมันกระเซ็น กระจายแตกเป็นเม็ดๆ วินาทีนั้นภาพจะได้อารมณ์มากทีเดียว  เฮ้อๆ...ถอนหายใจก่อนครับ เพราะยังไม่หมดความสนุก  เมื่อตกน้ำแล้วผู้เล่นต้องว่ายน้ำต่อไปยังจดเริ่มต้น แล้วปีนตาข่ายเชือกขึ้นบนหอ หอนี้คล้าย Spring Board ที่นักกีฬาเขากระโดดลงน้ำกัน  หอนี้มีความสูงประมาณ 7 เมตร ผมดูแล้วเดะๆ มักๆ ... แล้วก็ปีนป่ายตาข่ายเชือกขึ้นไป

        เอาละซิ ... ทำไมตอนอยู่ข้างล่างมันดูเหมือนไม่สูง พอขึ้นมาแล้ว สั่นครับ สั่นจริงๆ สาวๆ ที่อยู่ในคิวกระโดดก่อนผม เธอเดินไปยืนหลับตาปี๋ แล้วก็วิ่งกลับมาบอกไม่เอาๆ ลงดีฝ่า... แต่ก็อย่างว่าแหละครับ เธอถูกกองเชียร์เรียกร้อง และให้กำลังใจ ตากล้องอย่างคุณเอก็ยกกล้องเตรียมกดเต็มที่ แล้วเธอก็ตัดสินใจกระโดดลงไปพร้อมกับส่งเสียงร้อง ว้ายยยยย.... อย่างดัง
      ถึงตาผมละคราวนี้  ผมค่อยย่างก้าวออกไป พยายามระงับอาการขาสั่นไม่ให้ใครเห็น พยายามยืนตัวตรงให้เท่ห์ที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อเก็บอาการป๊อด เพราะผมรู้ว่าคุณเอกำลังจะถ่ายภาพผม ผมยืนอยู่สักพักในใจคิดว่า ทำไมๆ..เราต้องกระโดดลงไปด้วย ที่นี่เขาเซ็ทจุดให้ตรงกับความหวาดเสียวของมนุษย์เราพอดี แค่เพียง 7 เมตร เท่านั้น ทำไมมันถึงทำให้ผมกลัวได้ล่ะนี่... ผมคิดยังไม่ทันจบ  ก็มีมือนิ่มๆ มาจากด้านหลัง สัมผัสผมผ่านเสื้อชูชีพที่ใส่เพียงแผ่วเบา  แล้วร่างของผมก็ลอยหล่นลงไปตามแรงดึงดูดของโลก  ตูมมมมม... ผมถึงผิวน้ำแล้ว

      เป็นฐานที่สุดยอดจริงๆ  ผมเข้าใจแล้วหละครับว่าที่เขาโหวตกันให้ฐานนี้เป็นฐานที่มันส์สะใจที่สุดใน บ้านผางาม รีสอร์ท นั้นเป็นความจริงที่ผมเห็นด้วย

โชว์ควงกระบองไฟ

       ผ่านเรื่องมันส์ๆ สะใจ...มาแล้ว ผมเข้าห้องพักอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมตัวทานอาหารค่ำ และเตรียมตัวพบกับการแสดงโชว์กระบองไฟของทีมงานบ้านผางามรีสอร์ท หลังอาหารค่ำที่อร่อยอิ่มหนำสำราญท้องแล้ว คุณเอ และคุณบี ได้ประกาศว่า อีกสักครู่ขอเชิญทุกท่านพบกับการแสดงโชว์อันเป็นไฮไลท์ของบ้านผางาม ในยามค่ำคืนวันเสาร์.... ผมตื่นเต้นอีกครั้งพร้อมกับรีบไปจับจองที่นั่งเหมาะๆ ริมสนามหญ้า ซึ่งถูกใช้เป็นลานการแสดง         

      และแล้วสุดยอดคู่แฝดอภินิหาร คุณเอ คุณบี พร้อมทีมงานอีกนับสิบคน ได้เปลี่ยนเครื่องแต่งกายมาในชุดใหม่ที่ดูแปลกตากว่าเดิม เสื้อไม่ใส่แลเห็นผิวขาวเรืองเมื่อแสงจากเปลวไฟที่ติดอยู่ปลายกระบองมากระทบ ส่วนกางเกงนั้นเห็นเป็นสีดำสั้น แต่ขาดลุ่ยพลิ้วไหวไปตามจังหวะการเต้นแกมกระโดดตามจังหวะเสียงเพลงระทึกใจ  ดูคล้ายช่วงเวลานี้ผมและคนอื่นๆ กำลังจะย้อนไปอยู่ในยุคหินอะไรทำนองนั้น บรรยากาศโดยรอบตอนนี้ถูกเซ็ตขึ้นมาให้ผู้ชมและผู้แสดงอยู่ในห้วงแห่งอดีต
      ความสนใจอยู่ตรงหน้า ทีมงานคนป่าแต่ละคนต่างโห่ร้อง ในมือของทุกคนมีกระบองไฟเป็นอุปกรณ์ที่ไม่หยุดนิ่ง บ้างควงไปมา บ้างโยนขึ้นไปบนฟ้าแล้วรับเมื่อมันตกลงมาได้อย่างช่ำชอง คนป่าบางคนอมน้ำมันไว้แล้วเป่าออกมาเป็นลูกไฟดวงโตคล้ายๆ ก๊อตซิล่า พ่นเปลวไฟ คุณบีควงโซ่ คุณเอควงกระบองโยกย้ายไปตามจังหวะเพลงด้วยท่วงท่าพิสดารน่าหวาดเสียว ทั้งสองปรับเลี่ยนท่าทางการแสดงไปอีกหลายท่าสลับกับทีมคนป่าคนอื่นๆ นี่คือการแสดงที่หาชมได้ยากจากรีสอร์ทที่พักทั่วไป
       ช่วงเวลาแห่งการแสดงโชว์ควงกระบองไฟ ได้สะกดสายตาทุกคู่ของแขกผู้มาพักได้อย่างอัศจรรย์ การแสดงใกล้จะจบลงแล้วผมเดาได้จากจังหวะเพลง และแล้วทุกอย่างก็ยุติลง พลันเสียงปรบมือกึกก้องของผู้ชมดังเข้ามาแทนที่ ผู้ชมหลายคนวิ่งเข้าไปหาคนป่าน่ารักเพื่อขอถ่ายภาพเป็นที่ระทึก (ผมเองก็ด้วยเหมือนกัน..อิอิ)

       ค่ำคืนนี้ยังอีกยาวไกล ผมกลับขึ้นไปบนชั้นสองของร้านอาหารอีกครั้ง บนชั้นบนนี้ตกตแงแบบง่ายๆ สบายๆ ดัดแปลงมาจากตัวบ้านเก่าซึ่งเป็นบ้านหลังแรกของบ้านผางาม รีสอร์ท ข้างฝา และบนเสามีภาพดาราคุ้นหน้าหลายคนถูกใส่กรอบติดไว้ ส่วนใหญ่ก็เป็นภาพเกี่ยวกับการมาเล่นกิจกรรมสนุกๆ ในบ้านผางามแห่งนี้ ผมจำชื่อดาราไม่ได้หมดทุกคน เพราะมีมากมายหลายภาพเหลือเกิน  จากนี้ยังมีเสียงเพลงเพราะๆ จากคุณเอ คุณบี และเพื่อนๆ ผู้มาพักอีกหลายท่าน  ผมแหงนหน้ามองฟ้าเห็นดาวดาวมากมายต่างส่องแสงประกายพรั่งพราว  อากาศเย็นสดชื่นช่วยทำให้ผมคิดถึงเครื่องดื่มน้ำสีทอง และผมได้ละเลียดมันลงคอไปพร้อมๆ กับเสียงเพลงสนุกสนานจากเพื่อนๆ นักผจญภัย

       บรรยากาศความสนุกของค่ำคืนไม่ได้มาจากเสียงเพลงเพียงอย่างเดียว การได้พูดคุยกับมิตรใหม่ หรือมิตรเก่าอย่างคุณเอ เป็นเรื่องที่สนุกไม่แพ้กัน  พวกเราคุยกันหลายเรื่อง  เหมือนกับเพื่อนสนิทที่ไม่ได้พบกันมานาน เรื่องราวของการผจญภัยเมื่อตอนกลางวันถูกนำมาพูดถึงมากที่สุด  มีบางคนนับนิ้วว่ามาที่นี่กี่ครั้งแล้ว เราคุยกันอยู่นานจนเป็นเวลาดึก จึงแยกย้ายกันไปนอน

       ก่อนกลับเข้าไปนอน คุณเอ ยังได้กระซิบบอกผมว่า คุณนุๆ...รู้มั๊ยครับว่าห้องที่คุณนุพักน่ะ เป็นห้องสุดพิเศษ ? .... ผมขนลุกซู่... ไม่เอานะผมไม่อยากฟัง จะมาเล่าอะไรตอนนี้ นอกจากผมจะกลัวความสูงแล้ว ผมยังกลัวความมืดด้วยนะ ....

        คุณเอ คงกลัวผมจะเข้าใจผิดไปกันใหญ่ เลยรีบบอกว่า "ไม่ใช่ๆ อย่างนั้น คือห้องที่คุณนุ นอนเนี่ย เป็นห้องที่คุณอั้ม พัชราภา นางเอกสาวสุดเซ็กซี่ ได้เคยมาพักเมื่อตอนที่มาถ่ายละครเรื่อง เพลิงพายุ น่ะครับ..."  อ้าวเหรอ ... โธ่ ตอนแรกผมก็นึกว่าอะไร..เลยกลัวซะขนลุกไปก่อน อ่ะนะ...

        คืนนี้อย่าอิจฉาผมนะครับ เพราะผมเองก็ไม่ทราบว่า กลิ่นน้ำหอมสดชื่นๆ จากคุณอั้ม นั้นยังคงเหลือติดอยู่ตามช่องแอร์บ้างหรือเปล่า อย่างไงก็ลองไปพิสูจน์กันเองนะครับ บอกให้ก็ได้ครับว่า ห้องนี้อยู่ที่ บ้านพราวหมอก ห้อง 117  ห้องนี้สะอาดใหม่หมดจด ห้องน้ำสวยน่าใช้  ตอนนี้ผมต้องขอตัวเข้าไปตามหากลิ่นโสภาที่ว่าก่อน แต่ก็ยังงงๆ อยู่ว่า วันนั้นคุณอั้มใช้น้ำหอมกลิ่นอะไรน๊า..... 

      ที่นี่ ทำให้เราเรียนรู้ว่า สิ่งที่เรา " ทำไม่ได้ "        อาจหมายถึง สิ่งที่เรา "คิดว่าทำไม่ได้ "        หรือ " ยังไม่ได้ ลองทำ "  

 เรื่องที่เกี่ยวข้อง   บ้านผางาม รีสอร์ท ภาคแรก (โรยตัวน้ำตกเวฬุวัน)  

 
คุณเอ คุณบี และ ทีมงานบ้านผางาม รีสอร์ท ทุกท่าน


บ้านผางาม รีสอร์ท บ้านพักแห่งการผจญภัย 201 หมู่ 4 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี 25220 Tel : 0 3728 2797   (6 คู่สายอัตโนมัติ) Fax : 0 3728 2799 www.pangam.com

สำนักงานกรุงเทพฯ 64 ซอย 52 ถ.จรัญสนิทวงศ์ บางยี่ขัน บางพลัด กรุงเทพฯ 10700 Tel : 0 2424 3476 , 0 2433 4884  , 0 2883 5043 , 0 2883 5160-1 Fax : 0 2883 4547 EMail : mail@pangam.com  

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook