Lima Coco Resort (เกาะเสม็ด)

     ตลอดเวลาที่ผ่านมามีหลายคนเปรยๆ ว่า "อิจฉาชีวิตผมเหลือเกิน จะหางานที่ไหนได้ ที่ทำไปได้เที่ยวไป ใช้ชีวิตแบบสบายๆ ได้พบกับธรรมชาติ ไม่ต้องมาผจญมลพิษ เบียดเสียด วุ่นวายในสังคมเมือง" แต่...จะมีใครบ้างหนอที่จะรู้ความจริง ความจริงที่ว่า ชีวิตการทำงานของคนทำงานเกี่ยวกับท่องเที่ยวนั้น ไม่ได้เป็นอย่างที่คิดๆ กันหรอก จะมีใครบ้างจะรู้ว่า คนทำงานท่องเที่ยวก็อยากจะพักผ่อนอย่างจริงๆ จังๆ อยากจะเดินเล่นดูธรรมชาติ อยากจะนอนในเตียงนุ่มๆ สบายๆ อยากจะลิ้มรสอาหารอร่อยๆ อยากจะดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ แล้วปล่อยใจให้ล่องลอยเป็นอิสระไป เหมือนกับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ กับเขาบ้างเหมือนกัน

ปลายฤดูหนาวที่กำลังย่างกรายเข้าสู่ฤดูร้อนตอนนี้ ทำให้ผมหวนคิดถึง ความประทับใจเมื่อปีที่แล้วบนเกาะเสม็ด จ.ระยอง มันเป็นภาพชัดเจนผุดขึ้นมาในช่วงที่ผมกำลังมองหาสถานที่พักผ่อนชายทะเล ที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก      ปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกัน ผมมีความสุข ปล่อยตัวสบายๆ ไปกับสายลม และทิวคลื่น บนหาดทรายสวยขาวละเอียด ทอดตัวโค้งเป็นอ่าวสงบร่มรื่น ไม่วุ่นวาย...ใช่แล้วครับ อ่าวที่ผมกำลังพูดถึงอยู่นี้ จะเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจาก อ่าวพร้าว ที่ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของเกาะเสม็ด ซึ่งเป็นอ่าวที่มีทิวทัศน์งดงาม และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตก ได้สวยงามที่สุดของเกาะ

ประกอบกับการได้เข้าพักในที่พักสบายๆ ของ Lima Coco Resort (อ่านว่า ลีมา โคโค รีสอร์ท เป็นภาษาอินโดนิเซีย แปลว่า ห้า) ซึ่งปรับปรุงใหม่ ราคาไม่แพง ทำให้วันหยุดของผมคราวนั้น ต้องลางานเพิ่มไปอีกหนึ่งวัน ทั้งที่วันหยุดมีเพียงน้อยนิด และทุนรอนเพียงน้อยนิด เช่นเดียวกัน....      ภาพความประทับใจจากปีที่แล้วยังคงตราตรึงอยู่  วันนี้ผมจึงไม่ต้องคิดอะไรต่อให้มากเรื่อง รีบติดต่อจองห้องพักแล้ววางแผนการเดินทางไป Lima Coco Resort ในทันที

เกาะเสม็ด วันนี้ยังคงมีนักท่องเที่ยวให้ความนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวกันมากเหมือนเดิม อาจจะเป็นเพราะอยู่ไม่ไกล เพียง 2 ชั่วโมง จากกรุงเทพฯ ก็ถึงท่าเรือโชคกฤษดาแล้ว (อยู่ในตำบลบ้านเพนั่นแหละครับ) หากขับรถยนต์ส่วนตัวมาก็ฝากไว้ที่ท่าเรือ หรือ มารถทัวร์จากเอกมัย ก็มีสายตรง ปอ.1 มาถึงบ้านเพ จากนั้นก็ลงเรือของ Lima Coco Resort ซึ่งในวันธรรมดา (จันทร์ - ศุกร์) จะมีบริการวันละ 1 เที่ยว คือเวลา 12.00 น. ส่วนในวันหยุดเสาร์ - อาทิตย์ จะมีเรือบริการ 2  คือ เที่ยว 10.30 น. และ 14.00 น. เรือก็จะพามาส่งถึงอ่าวพร้าว อันเป็นที่ตั้งของรีสอร์ท จากนั้นก็เดินตัวเปล่าขึ้นไปดื่ม Wel come Drink ให้สดชื่นสบายใจ ระหว่างนั้นทางรีสอร์ท ก็จะยกกระเป๋าจากเรือขึ้นไปเก็บให้ สะดวกสบายแบบนี้แหละ ที่ทำให้ผมตัดสินใจเลือกมาพักผ่อน

ไม่ได้มาเสียเกือบปีวันนี้ Lima Coco Resort พัฒนาไปอีก ห้องพักบนเขา ที่มองเห็นทิวทัศน์ทะเลสุดสายตา ได้เนรมิตเป็นห้องพักแบบ Deluxe room (ดีลักซ์)  สองชั้น ภายในตกแต่งเก๋ไก๋ เื่องสุขภัณฑ์สะอาดใหม่เอี่ยมทันสมัย น้ำแรงใสสะอาด เฟอร์นิเจอร์ครบครัน  จากชั้นบนมองออกไปนอกหน้าต่างเหนือยอดไม้ เห็นทะเลสีคราม กว้างใหญ่สุดตา ภายนอกทาสีขาวดูสะอาด ร่มรื่นไปด้วยกิ่งก้านสาขาของแมกไม้

     ผมเองล่ะอยากจะพักห้องนี้เสียจริงๆ แต่วันที่โทรจองๆ ไม่ทัน เลยไปได้ห้อง Beach Front แทน แต่จะว่าไป ห้องพักแบบ Beach Front นี่ก็ดีอย่าง ถึงจะไม่ได้ชมทิวทัศน์ท้องทะเลในมุมสูง แต่ก็เป็นห้องที่ตั้งอยู่ใกล้ทะเลมากทีเดียว เรียกได้ว่าเดินออกจากห้องก็เกือบจะถึงทะเลเลย      นอกจากห้องพักแบบ Beach Front จะใกล้ทะเลแล้ว ยังอยู่ใกล้ Bagus Cafe ห้องอาหารริมทะเล ซึ่งมีอาหารอร่อยๆ หลากหลายเมนู ทั้งอาหารไทย ฝรั่ง สดใหม่ทุกวัน ปรุงโดยแม่ครัวฝีมือเยี่ยม อีกทั้งเครื่องดื่มเย็นๆ อีกหลายชนิดตามต้องการ ยิ่งมีเพลงแนว Chill Out ที่เปิดคละเคล้าไปกับเสียงคลื่น ทำให้ผมรู้สึกเพลิดเพลิน ลืมวันลืมคืนกันไปเลย การบริการของที่นี่ก็ถือว่าใช้ได้ กระฉับกระเฉงว่องไว เป็นกันเองทั้งกับคนไทย และชาวต่างชาติ

วันหยุดนี้ผมพักอยู่ที่ Lima Coco Resort เป็นเวลาสามวันสองคืน ผมได้สูดกลิ่นอายธรรมชาติอย่างเต็มปอด ได้ทานอาหารอร่อยๆ ได้เล่นน้ำทะเลบนหาดสวยๆ ได้ปล่อยจิตนาการให้ล่องลอยไป ได้นอนหลับบนเตียงริมทะเล ได้เห็นดวงอาทิตย์ดวงโตสีแดงตกน้ำไปต่อหน้าต่อตา และได้เห็นคู่รักคู่แล้วคู่เร่ามีความสุขระเริงรื่นผ่านหน้าไป ข้อหลังที่ได้เห็นนี้ผมไม่รู้ว่าผมจะมีความสุขดี หรือ เปล่า เพราะตอนนั่งเรือขากลับก็ได้แต่นั่งสบถตัวเองอยู่ในใจว่า "จำไว้มา Lima Coco Resort คราวหน้าอย่าได้มาคนเดียวนะ นุ บางบ่อ"