ริบบิ้นสีขาว ยุติความรุนแรงต่อสตรี

สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี จัดกิจกรรม ริบบิ้นสีขาวยุติความรุนแรงต่อสตรี ระหว่างวันที่ ๑๙-๒๕ พฤศจิกายนนี้ รณรงค์ให้ผู้ชายติดริบบิ้นสีขาว เพื่อเป็นคำมั่นสัญญา จะไม่กระทำรุนแรงต่อเด็กและสตรี เรียกร้องให้สังคมตั้งปณิธานว่า ในปี ๒๕๔๕ จะทำให้ ความรุนแรงต่อเด็กและสตรีลดลง ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๑๐ เผยสถิติความรุนแรงต่อเด็กและ สตรี ในปี ๒๕๔๓ เฉลี่ยชั่วโมงละ ๑ คน

ด้านสมาชิกวุฒิสภา ชี้การแก้ไขความรุนแรงต้อง ทำให้ความเท่าเทียมเกิดขึ้นจริงสำหรับชายหญิง พ.ต.ต.ยงยุทธ สาระสมบัติ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานแถลงข่าว ริบบิ้นสีขาว ยุติความรุนแรงต่อสตรี

โดย พ.ต.ต.ยงยุทธ กล่าวว่า ตามที่คณะ รัฐมนตรี ประกาศให้เดือนพฤศจิกายนเป็น เดือนยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี และ สหประชาชาติได้ประกาศให้วันที่ ๒๕ พฤศจิกายนของทุกปีเป็นวันยุติความรุนแรงต่อสตรี สากล สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี จึงจัดกิจกรรมรณรงค์ให้สังคมเกิดการรับรู้และ ตระหนักถึงปัญหานี้ โดยจัดรณรงค์ให้ผู้ชายติดริบบิ้นสีขาวเป็นการแสดงเจตนารมย์ว่า สนับสนุนการยุติความรุนแรงต่อสตรีและให้คำมั่นว่า จะไม่ยอมรับ ไม่นิ่งเฉย ไม่กระทำ ความรุนแรงต่อสตรีซึ่งมูลนิธิเอเชีย (Asia Foundation)

ได้จัดทำเข็มกลัดโลหะรูปสัญลักษณ์ริบบิ้นสีขาว และริบบิ้นผ้าสีขาวแจกจ่ายไปยังกลุ่มผู้ชายในสาขาต่างๆ โดยขอให้ติดที่ปกเสื้อหรือที่อกเสื้อ เป็นเวลา ๑ สัปดาห์ คือตั้งแต่วันที่ ๑๙ - ๒๕ พฤศจิกายนนี้

ตามสถิติเกี่ยวกับคดีทำร้ายร่างกายและความผิดทางเพศที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงไทย ในปี ๒๕๔๓ เฉลี่ยแล้วชั่วโมงละ ๑ ราย หรือเฉลี่ย ๘,๗๖๕ รายต่อปีและปี ๒๕๔๔ มีสถิติ ความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในปี ๒๕๔๕ อยากให้ตั้งปณิธานร่วมกันว่า จะช่วยลดความรุนแรง ต่อเด็กและสตรีลงให้ได้อย่างน้อยร้อยละ ๑๐ จะได้ยึดเป้าหมายกำหนดเป็นยุทธศาสตร์ลด ความรุนแรง

โดยได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมและประสานงานสตรี แห่งชาติ ในสังกัดสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี จัดทำแผนแม่บทในการลดความ รุนแรงหรือคุ้มครองสตรี เพราะขณะนี้ยังไม่มีแผนแม่บท และให้ร่วมมือกับหน่วยงานอื่นๆ โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย นำชุมชนมาช่วยด้วย รวมทั้งให้ผนวกงานในเรื่องการคุ้มครอง และลดความรุนแรงต่อสตรีไปยังงานอื่น เช่น ผนวกกับงานป้องกันยาเสพติดในชุมชน

นอกจากนี้ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า อยากให้ติดริบบิ้นสีขาวในใจด้วย และร่วมมือกันยุติปัญหาโดยไม่เป็นผู้กระทำความรุนแรง แต่ควรที่จะเรียนรู้และหาวิธีแก้ไข ปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธี การประนีประนอม ความอดกลั้น ช่วยเป็นผู้เฝ้าระวัง เมื่อ พบเห็นการกระทำรุนแรงเกิดขึ้น ควรถือเป็นหน้าที่ที่จะต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่หรือผู้เกี่ยวข้อง ทราบ เพื่อช่วยเหลือแก้ไขโดยทันการณ์ สำหรับกิจกรรมของสำนักงานปลัดสำนักยกรัฐมนตรี ในเดือนยุติความรุนแรง

นอกจากรณรงค์ติดริบบิ้นสีขาวแล้ว จะมีการจัดคอนเสิร์ตรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก และสตรี ในวันเสาร์ที่ ๑๗ พฤศจิกายนนี้ ในรายการ ๗ สีคอนเสิร์ต และการจัดค่ายเยาวชน อาสาสมัคร เพื่อรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี สำนักข่าวไทย