จุดพลุดอกไม้ไฟ ครั้งประวัติศาสตร์ ฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี

จุดพลุดอกไม้ไฟ ครั้งประวัติศาสตร์ ฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี

จุดพลุดอกไม้ไฟ ครั้งประวัติศาสตร์ ฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จุดพลุดอกไม้ไฟ ครั้งประวัติศาสตร์ ฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี

จุดพลุดอกไม้ไฟ ครั้งประวัติศาสตร์ ฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี สวยงามตระการตา กว่าสามหมื่นนัด

    สถานเอกราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย ร่วมกับมูลนิธิเอกชนพัฒนาภูมิภาค , บริษัท เมืองทอง ไซโก้ จำกัด , บริษัท จีสตีล จำกัด (มหาชน) , บริษัทโรงแรมอโนมา จำกัด , บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด , บริษัท เอ็น.ซี.ซี. เมนเนจเมนท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด และภาคเอกชน ร่วมกันจัดงานจุดพลุและดอกไม้ไฟ ครั้งประวัติศาสตร์ ฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี สุดยิ่งใหญ่ ครั้งแรกในเมืองไทย รวม 3 วัน คือในวันที่ 9 มิถุนายน จะมีการจุดพลุและดอกไม้ไฟประกอบการบรรเลงเพลงของวง ORCHESTRA ที่สวนเบญจกิติ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตั้งแต่ 18.00-21.00 น. พร้อมฉายพระบรมฉายาลักษณ์ และพระราชกรณียกิจต่างๆผ่านจอม่านน้ำ ส่วนวันที่ 10 มิถุนายน จุดบริเวณกลางลำน้ำเจ้าพระยา ระหว่างสะพานพระพุทธยอดฟ้า และสะพานพระปิ่นเกล้า เวลา 20.30-21.30 น. และในวันที่ 11 มิถุนายน จุดที่บริเวณ ราชตฤนมัยสมาคม (สนามม้านางเลิ้ง) เวลา 20.30-21.30 น.

    พลเอก ดร. มนตรี ศุภาพร จเรทหารทั่วไป ประธานอนุกรรมการ โครงการจุดพลุและดอกไม้ไฟ ฉลองศิริราชสมบัติครบ 60 ปี เปิดเผยว่า การจุดพลุและดอกไม้ไฟในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยมีกาก่อน เป็นพลุที่จุดด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงสุด ไร้ควัน สีสันสวยสดใส เสียงเบา และเคลื่อนไหวได้ กิจกรรมจุดพลุฉลองครองราชย์ จะจัดขึ้น 3 วันคือ

    วันที่ 9 มิถุนายน 2549 เวลา 18.00-21.00 น. จะจุดที่บริเวณสวนเบญจกิติ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างเวลา 18.00-21.00 น. เป็นการจุดพลุประกอบการบรรเลงวง ORCHESTRA บริเวณสระน้ำของสวนเบญจกิตติ พลุที่จะใช้จุดมีทั้งหมด 5 ชุด โดยมีความสูงระหว่าง 100-200 เมตร ซึ่งพลุส่วนใหญ่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน เป็นพลุที่มีจังหวะขึ้นลงตามเสียงดนตรี มีสีสันสดใส สว่างสวยงาม และมีชีวิตชีวา สะบัดเส้นสายไปมาได้ อาทิ ชุดมงกุฎเงินมงกุฎทอง ที่มีทั้งรูปดาวพระศุกร์ ดาวเสาร์ รูปจักรวาลต่างๆ เป็นต้น นอกจากนี้ระหว่างการจุดพลุจะมีดนตรีบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ พร้อมฉายพระบรมฉายาลักษณ์ พระราชกรณียกิจต่างๆของพระองค์ท่านตั้งแต่ทรงพระเยาว์ จนถึงปัจจุบัน ผ่านจอม่านน้ำ มีทั้งหมด 5 ช่วง โดยมีชื่อช่วงต่างๆดังนี้

    ช่วงที่ 1 พระภูมินทร์แห่งสยาม ดนตรีบรรเลงเพลงแสงเทียนจอม่านน้ำฉายภาพตั้งแต่ทรงพระเยาว์ จนถึงขึ้นครองราช มีความยาว 3 นาที

    ช่วงที่ 2 เถลิงราช บาทบงกช บรรเลงเพลง แผ่นดินของเรา จอม่านน้ำฉายภาพบรรยากาศในพิธีขึ้นครองราชย์และการเฉลิมฉลอง ความยาว 3 นาที

    ช่วงที่ 3 เย็นศิระเพราะพระบริบาล บรรเลงเพลง สายฝน จอม่านน้ำฉายภาพพระราชกรณียกิจต่างๆ และการเยี่ยมเยียนผสกนิกรในทุกพื้นที่ ความยาว 3 นาที

    ช่วงที่ 4 พระบารมีจักรีเกริกฟ้า บรรเลงเพลงใกล้รุ่ง จอม่านน้ำฉายภาพพระอัจฉริยภาพของพระองค์ในด้านต่างๆ เช่น ด้านกีฬา ดนตรี การปกครอง ความยาว 3 นาที

    ช่วงที่ 5 สดุดีมหาราชา บรรเลงเพลง สดุดีมหาราชา (มาร์ชราชวัลลภ) เป็นการจุดพลุชุดสุดท้าย จอม่านน้ำฉายภาพพระอัจฉริยภาพของพระองค์ในด้านต่างๆ เช่น การกีฬา ดนตรี การปกครอง ความยาว 3 นาที

    ส่วนในวันที่ 10 มิถุนายน จุดบริเวณกลางลำน้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่เวลา 20.30-21.30 น.เป็นพลุที่มีสีสันสวยงามตระการตา โดยได้รับการสนับสนุนจากประเทศญี่ปุ่น โดยมีหน่วยงานกรมวิทยาศาสตร์ทหารบก เป็นผู้ดูแลการจุด โดยจะเริ่มจุดจากเรือท้องแบนของกรมการขนส่งทางบก 4 ลำ ขนาบซ้ายขวา มองเห็นได้จากเรือว่าพลุจะมาทิศทางไหน ซึ่งจะวิ่งเข้าหากันเป็นรูปตัววี ยิงเรียบแม่น้ำเข้ามาแตกตัวกลางลำน้ำเจ้าพระยา โดยจะจุดต่อเนื่องเป็นเวลา 15 นาที ไม่มีเว้นช่วง โดยพลุจะเปลี่ยนทุก 5 วินาที จะเริ่มจากพลุที่มีความสูงจากพื้นน้ำจนถึงท้องฟ้า 150 เมตร มีระดับจังหวะแตกต่างกันไป เป็นพลุที่มีชีวิต เคลื่อนที่ไปมาได้ รวมกว่า 200 ชนิด ท้องฟ้าในค่ำคืนนั้นจะเต็มไปด้วยสีสันสวยสดงดงามตระการ ถือเป็นการจุดพลุครั้งประวัติศาสตร์ที่มีความสวยงามใช้เทคโนโลยีชั้นสูงเข้าร่วมเป้ฯครั้งแรกในเมืองไทย พลุในวันดังกล่าวนับเป็นเทคโนโลยีใหม่จากประเทศญี่ปุ่น เป็ฯพลุไม่มีควัน มีสีสวยสดกว่าพลุทั่วไปที่เคยเห็น เป็นพลุที่มีชีวิตเคลื่อนที่ไปมาได้ รวมกว่า 200 ชนิด และที่สำคัญ เสียงไม่ดัง มีจำนวนทั้งสิ้นกว่า 20,000 นัด ขณะที่ในช่วงงาน 5 ธันวาคมที่ผ่านมา เคยจุดมากที่สุดแค่ 300 นัด เราจุดพลุแบบขนิดว่ายุงบินผ่านไม่ได้ คือเราจุดทุกวินาที มีความหนาแน่นสูงและต่อเนื่อง

    วันที่ 11 มิถุนายน จะมีการจุดพลุ ณ ราชตฤนมัยสมาคม (สนามม้านางเลิ้ง) เวลา 20.30-21.30 น. เป็นพลุขนาด 8,10 และ 12 นิ้ว สูง 100-350 เมตร จำนวน 1,010 นัด ใช้เวลาจุดนานถึง 20 นาที เป็นตัวเลขไทยและอารบิค 60 บนท้องฟ้า มีสีสันสวยสดงดงาม ซึ่งเป็นพลุของ บริษัท เมืองทอง ไซโก้ จำกัด มาร่วมสร้างประวัติศาสตร์ในการจุดพลุครั้งนี้ด้วย

สำหรับประชาชนทั่วไปสามารถเข้าชมได้ฟรี ในวันที่ 9 มิถุนายน ที่สวนเบญจกิติ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ส่วนในวันที่ 10 มิถุนายน จุดบริเวณกลางลำน้ำเจ้าพระยา ประชาชนสามารถรอชมได้บริเวณสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ระหว่างสะพานพระพุทธยอดฟ้า และสะพานพระปิ่นเกล้า รวมทั้งแถวท่าพระจันทร์ ท่าช้าง เชิงสะพานพุทธ และในวันที่ 11 มิถุนายน ที่บริเวณ ราชตฤนมัยสมาคม (สนามม้านางเลิ้ง)

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่     สำนักงานจเรทหารทั่วไป ในศาลาว่าการกระทรวงกลาโหม โทร. 0 2271 3371 , 0 6392 5335 , 0 1780 5553 (สำหรับวันที่9,10,11)

    วันเสาร์ที่ 17 มิถุนายน 2549 เวลา 19.00-20.00 น. ณ บริเวณทะเลสาบเมืองทองธานี      เนื่องในวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี เพื่อเฉลิมพระเกียรติและแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กองทัพไทยร่วมกับส่วนราชการและภาคเอกชน จัดงาน"แสดงมัลติมีเดียและพลุเฉลิมพระเกียรติ 60 ปีครองราชย์" วันเสาร์ที่ 17 มิถุนายน 2549 เวลา 19.00-20.00 น. ณ บริเวณทะเลสาบเมืองทองธานี ในพื้นที่ประมาณ 300 ไร่ มีความสวยงาม กว้างขวาง และมีความสะดวกในการจอดรถ สามารถเข้าชมได้หลายหมื่นคน การแสดงในครั้งนี้จัดขึ้นเพียงรอบเดียวเท่านั้น เปิดให้ประชาชนเข้าชมโดยไม่เสียค่าบัตรเข้าชม ได้ตามจุดต่างๆ หรือรับชมการถ่ายทอดสดทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5

กิจกรรม การแสดงพลุขนาดใหญ่ประกอบแสงสีเสียงต่อเนื่องใช้เวลาประมาณ 50 นาทีให้ชื่อว่า "ดวงประทีปแห่งความหวังและความจงรักภักดี" ผ่านสื่อมัลติมีเดียต่างๆ ทั้งม่านน้ำขนาดกว้าง 22 เมตร สูง 15 เมตร และ จอน้ำพุขนาดใหญ่ 3 จอ ยิงพลุอีก 3 จุดทางด้านหลัง ด้านซ้ายและขวาของทะเลสาบ และมีการแสดงภาพต่างๆ ที่เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจ และความเจริญรุ่งเรืองของชาติไทยควบคู่กันไปด้วย

สำหรับลำดับการแสดงแบ่งออกเป็น 4 องค์ องค์ที่ 1 ความฝันอันสูงสุด องค์ที่ 2 ตามรอยเบื้องพระยุคลบาท องค์ที่ 3 ดวงประทีปแห่งความจงรักภักดี มีการสวนสนามของขบวนยานยนต์ของทหาร 3 เหล่าทัพ องค์ที่ 4 ความเจริญรุ่งเรืองของชาติไทย ภาพสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่สำคัญๆ ของประเทศไทย              ซึ่งจะแสดงไปพร้อมการแสดงจุดพลุเฉลิมพระเกียรติที่มีขนาดใหญ่สุดครั้งแรกของเอเชีย จำนวน 5,000 นัด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook