วัดอัมพวันเจติยาราม

วัดอัมพวันเจติยาราม

วัดอัมพวันเจติยาราม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กว่า 7 ศตวรรษมาแล้วที่ชาวไทยรับเอา พุทธศาสนามาเป็นศาสนา ประจำชาติของตน โดยมีจุดศูนย์รวมอยู่ที่วัด อาราม โดยมีพระมหากษัตริย์ เป็นองค์อุปถัมภ์ เมื่อกล่าวถึงพระมหากษัตริย์แล้ว ในรัชสมัยของพระบาท สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก พระปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีเอง ก็ ทรงมีประวัติการบำเพ็ญพระราชกุศลยัง ต่างเมืองอยู่ไม่น้อย อาทิ จังหวัด พระนครศรีอยุธยา หรือ จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นต้น ที่จังหวัดสมุทรสงครามเองก็มีหลักฐานการบำเพ็ญพระราชกุศล ทางพุทธศาสนาของพระมหากษัตริย์ ให้เราเห็นอยู่จนถึงทุกวันนี้ ความน่า สนใจอยู่ที่อารามนี้ เป็นอารามหลวงที่มีประวัติสำคัญของพระมหากษัตริย์ ยุคกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น ทั้ง 3 รัชกาลเลยทีเดียว วัดนี้ตั้งอยู่ที่อำเภออัมพวา และตั้งชื่อวัดตามชื่ออำเภอว่า "วัดอัมพวา"วัดอัมพวา เป็นวัดที่สร้างขึ้นด้วยแรงศรัทธาของสมเด็จพระ อมรินทรามาตย์ (นาค) พระมเหสีในรัชกาลที่ 1 ซึ่งทรงเสด็จมาประทับใน ขณะที่ทรงมีพระครรภ์ และพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยก็ทรง มีพระประสูติกาล ณ บริเวณอารามหลวงแห่งนี้ด้วย ดังนั้น วัดนี้จึงมี อนุสาวรีย์รัชกาลที่ 2 ในฐานะที่เป็นองค์อุปถัมภ์อยู่หน้าวัด เหมือนดั่งที่เรา เห็นหน้าพระปรางค์วัดอรุณฯ ที่ฝั่งธนบุรี กาลล่วงเข้าสู่แผ่นดินของพระราชโอรส พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้า เจ้าอยู่หัว ทรงโปรดให้สถาปนาวัดอัมพวาขึ้นใหม่หมดทั้งอาราม พร้อมทั้งโปรดฯ ให้สร้างพระปรางหน้าโบสถ์ เพื่อใช้เป็นที่บรรจุพระบรมอัฐิของพระราชบิดา จากนั้นจึงทรงพระราชทานนามใหม่ว่า "วัดอัมพวันเจติยาราม" แล้วจึงทรงอัญเชิญ พระวินัยมุนี (บัว) มาเป็นเจ้าอาวาส และนับแต่นั้นมา พระมหากษัตริย์และ พระราชินีแห่งราชวงศ์จักรีทุกพระองค์ก็ทรงเสด็จมาถวายผ้าพระกฐินยังวัดนี้ มาโดยตลอดในปี พ.ศ.2510 อันเป็นปีที่มีการเฉลิมฉลองครบรอบ 200 ปีพระพุทธ เลิศหล้านภาลัย พระบาทสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารีทรง เสด็จมาเป็นประธานมูลนิธิพระพุทธเลิศหล้านภาลัย โดยทรงนำเงินบริจาคมา บูรณะสังขรณ์วัดแล้วทรงประทานพระนามอีกนามว่า "วัดราชินีกุลบางช้าง" อันหมายถึงพระมเหสี สมเด็จพระอมรินทรามาตย์ (นาค) ในราชกาลที่ 1 ซึ่งทรง เป็นพระราชมารดาในรัชกาลที่ 2 พร้อมทั้งยกให้เป็นวัดประจำราชนิกูลต้น ตระกูลบางช้างสืบไป สิริลักษณ์ จินตนะดิลกกุล
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook