มังกรโบราณ กลางถนน อาร์ซีเอ โอวเล้ง

มังกรโบราณ กลางถนน อาร์ซีเอ โอวเล้ง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
"เรื่องราวอดีตคล้ายดั่งหมอกควัน ความฝันครั้งเก่ายาก จะเสาะแสวงหา ที่สูญเสียไปนั้นก็ได้สูญเสียไปแล้ว ที่กระทำผิดไปนั้น ก็ได้กระทำผิดไปแล้ว แล้วจะต้องไปคิดถึงมัน ทำไมอีก คิดถึงมันใหม่แล้วจะมีประโยชน์อันใดกัน" เดียวดายใต้เงาจันทร์ โก้วเล้งรำพัน เขียน : โก้วเล้ง, แปล : เรืองรอง รุ่งรัศมี บทรำพันของโก้วเล้งมักจะวาบอยู่ในความคำนึงของบินเดี่ยว ทุกครั้งที่มีโอกาสไปเยี่ยมโรงเหล้าโอวเล้ง ที่มีนิวาสถานอยู่ตอนกลาง ของถนนอาร์ซีเอ ถนนที่ครั้งหนึ่งเปรียบประดุจสวรรค์ของนักเที่ยว แต่เป็นนรกในสายตาของผู้มีอำนาจบางคน และพลันที่มีประโยคหนึ่งดังขึ้นกลางอาร์ซีเอว่า "ไม่อยากจะเชื่อว่า จะมีสถานที่แบบนี้ในประเทศเรา" ทำให้ครั้งหนึ่งอาร์ซีเอกลับกลายเป็น เมืองร้างเหลือเพียงไม่กี่ร้านเท่านั้นบนถนนเส้นนี้ที่รอดพ้นจากการถูกล่า อาณานิคม แต่ในวันนี้อาร์ซีเอ กลับมามีชีวิตอีกครั้ง แสงสว่างจากหลอด นีออนหลากสีสว่างไสวตั้งแต่หัวถนนจรดปลายถนนอีกด้านหนึ่งทีเดียว เกือบ ห้าเดือนแล้วที่บินเดี่ยวไม่ได้กลับสัมผัสกลิ่นกลางคืนของถนนเส้นนี้ หากไม่เพราะครั้งนี้ต้องมาด้วยเหตุผลบางอย่าง คงนานอีกหลายเดือน กว่าที่ละอองฝุ่นจาก RCAจะติดขอบรองเท้าบินเดี่ยวกลับเข้าบ้านไปด้วย 20.15 น. กลุ่มคนคุ้นเคยที่นัดไว้กำลังนั่งล้อมวงพิสูจน์ความอร่อยของ โจ๊กหม้อดินหน้าโอวเล้ง อย่างขมักเขม้น จวบกระทั่งเดินไปถึงระยะประชิดนั่นแหละ สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นถึงจะรู้สึกตัวว่ามีตัวตนอีกหนึ่งคน ยืนอยู่เบื้องหลังของพวกเขา กว่าจะเสร็จจากการ พิสูจน์หลักฐานหมูสับชิ้นสุดท้ายในชามโจ๊ก เวลาก็ล่วงเลย ไปเกือบ 20.30 นบรรดาสิ่งมีชีวิตที่ใช้พลังแอลกอฮอล์ในการขับเคลื่อนจิตวิญญาน ถึงได้เคลื่อนไหว ผ่านบานประตูไม้ โอวเล้ง สู่ภายใน เพียงวูบแรกที่ผ่านพ้นเข้ามาในโอวเล้ง สัมผัสทางสายตาที่เพื่อนๆจะรู้สึกได้ บรรยากาศที่เหมือนลูกผสมระหว่าง โรงเตี้ยมของเหล่าจอมยุทธ บวกกับซาลูนบาร์ สำหรับนั่งดวด เบอร์เบิ้นของเหล่าคาวบอยตะวันตกฉากในร้านที่ถูกจัดขึ้น อารมณ์คล้ายๆ เหมือนกำลังนั่งอยู่ในฉากของหนังเรื่อง ฤทธิ์มีดสั้น ลี้กิมฮวง บวกกับ Young Gun โต๊ะเก้าอี้นั้นเป็นผลิตผลที่มาจากไม้ล้วนๆ ในขณะที่องค์ประกอบของร้าน ประดับโดยรอบไปด้วย ใบปิดหนัง ขวดโค้กเก่า ตู้เพลงโบราณ ตู้โค้กโบราณ และอีกหลากหลายองค์ประกอบที่ต้องเติมคำว่า โบราณ เข้าไปเป็นท่อนสร้อย ที่สำคัญการจัดแสงภายในร้านที่ไม่สว่างเกินไป และ ไม่ทึมทึบเกินไป นี่แหละถูกใจนายบินเดี่ยวมาก เรียกว่าด้วยแสงแบบนี้ทำให้นั่งกันได้ยาวนาน จนกว่าจะปิดร้านแม้จะเป็นพุธ กลางสัปดาห์แต่ดูเหมือนว่าวันนี้ โอวเล้งจะคงความคึกคักได้ ตามอัธยาศัยของตัวเอง ในขณะที่นักเดินฉลากดำ โซดา และ น้ำ กำลังปฏิบัติหน้าที่ สร้างอรรถรสในวงสนทนา หลากหลายคนริมขอบโต๊ะสุราต่างพากันกล่าวถึงอดีต ที่ผ่านพ้นในวัยที่วันนี้พวกเขามายืนอยู่ในจุดที่ก้าวเข้าไปสู่ ครึ่งทางของวงชีวิต หากมองภาพนี้ผ่านเฟรมหนัง คุณจะเห็นผู้คนนั่งร่ำสุราภายใต้แสงสลัวของ ไฟนีออนคละคลุ้งไปด้วยควันบุหรี่ มีฉากหลังที่เป็นร้านโอวเล้ง คลอไปกับเสียงเพลง โฟลค์ซองในช่วงสามทุ่ม เป็นฉากที่งดงาม และดูจะอมตะยิ่ง สำหรับชีวิตยามค่ำคืน เหมือนกับที่ โกวเล้งเคยรำพันไว้ว่า "ข้าพเจ้ามิได้ชมชอบการร่ำสุรา แต่ข้าพเจ้าชมชอบ บรรยากาศในการร่ำสุรา" เกือบเที่ยงคืน สาวกน้ำสีอำพันเริ่มถอนกำลังประจำการจากแก้วเหล้า เบื้องหน้าเมื่อโซดาขวดสุดท้ายเดินทางไปรวมตัวกับนักเดินฉลากดำ ซากของยำถั่วพลู กับ สามกรอบรสชาติโดนลิ้นเมื่อชั่วโมงก่อน ถูกยกไปเก็บหลังร้าน มีบางคนในกลุ่ม ติดใจกับบางบรรยากาศของโอวเล้ง เอ่ยขึ้นมาให้ เปิดนักเดินทิ้งไว้สักขวดดีไหม หลายคนเห็นด้วยรวมถึงนายบินเดี่ยว เพราะไม่ว่าจะนักเดินฉลากดำ หรือ ชีวิตที่รู้กันฉลากเงิน ก็เปิดในราคาเท่ากันที่ 990 บานประตูร้านโอวเล้งถูกผลักออกอีกครั้งแต่ครั้งนี้เป็นการผลักจากภายในสู่ ภายนอกเสียงของการร่ำลา ดังขึ้นจนกลายเป็นโวยวาย ร่ำลาวันนี้เพื่อพบกันในวันหน้า ซึ่งไม่รู้ว่าเมื่อไร บินเดี่ยวรู้เพียงว่า บัดนี้บัตรฝากนักเดินฉลากดำ ซุกตัวอย่าง อบอุ่นอยู่ในกระเป๋าสตางค์บินเดี่ยวแล้ว (เสร็จโจร.. ฮา.) เมื่อการร่ำลาสิ้นสุดรอบด้าน มีเพียงเสียงฝีเท้าของบินเดี่ยวเดินไปตาม พื้นถนน RCAอากาศอบอ้าวเกินกว่าที่มันควรจะเป็นไม่มีแม้แต่ลม แหงนดูเบื้องบน ฝนกำลังตั้งเค้าและคงเคลื่อนตัวมาในไม่ช้า หากวันนี้เมฆฝนจะเข้ามาปกคลุม บรรยากาศเมือง มันคงไม่แทรกเข้าไปถึงภายในของบินเดี่ยวได้อีกเพราะวันนี้เมฆฝน อารมณ์กลุ่มนั้นได้ผ่านพ้นไปแล้วครับ ขอบคุณเพื่อนทุกคนที่ทำให้บินเดี่ยวรู้ว่า ยังมีอีกหลายคนที่พร้อมจะโอบกอดเราเสมอ แม้เมื่อเราล้ม มีความสุขกับชีวิตครับ นายบินเดี่ยว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook