อาบป่าอาบใจ : ผาเดียวดาย (ที่ไม่) เดียวดาย

หลายเรื่องราวรอบตัวช่วงนี้เหมือนมีมรสุมเกิดขึ้นในชีวิตจนใจหดหู่ เราจึงเดินทางไปป่าใหญ่ให้ช่วยปลอบประโลมหัวใจสักหน่อย หากตอนนี้คุณรู้สึกหดหู่โดดเดี่ยวแนะนำให้ไปผาเดียวดาย

ผาเดียวดาย ฟังดูหดหู่ใจจริงๆ แต่หากลองไปสัมผัสจะเห็นได้ว่าชื่อเป็นเพียงแค่ชื่อเท่านั้น

บริเวณผาเดียวดายเป็นป่าดิบเขา เกิดบนพื้นที่สูง 1000 เมตรจากระดับน้ำทะเลขึ้นไป เมื่ออยู่บนที่สูงจึงมีอากาศเย็น รวมทั้งยังชุ่มชื้นเพราะได้รับอิทธิพลจากเมฆปกคลุมตลอดทั้งปี เมื่อก้าวเข้าลงบันไดขั้นแรกสู่ทางเดินไม้ เรากลับไม่รู้สึกเดียวดาย  แค่สัมผัสแรก ความเย็นสบายเข้ามาปกคลุมร่างกาย เสียงนกร้อยเรียงเป็นเสียงดนตรีมากระทบหู ปกติแล้วหากเรายืนอยู่คนเดียวคงรู้สึกโดดเดี่ยวแน่ๆ แต่ถ้าหลับตามีสมาธิ เปิดสัมผัสด้วยหู ลองฟังเสียงใกล้ที่สุดแล้วค่อยๆ ฟังเสียงที่ไกลไปเรื่อยๆ ฟังจนรับรู้ว่านั่นเป็นเสียงของอะไร มาจากทิศทางไหน  แล้วค่อยๆ ใช้สายตากวาดมองภาพให้กว้างที่สุดจนเท่าที่จะสามารถเก็บภาพเบื้องหน้าได้ จะรู้ว่าภายในเส้นทางที่เราจะเดินไปผาเดียวดายนั้นมีสิ่งชีวิตที่พร้อมร้องเรียกชื่อเราให้สนใจอยู่รอบตัว ทั้งเสียงนกโบยบิน เสียงกระรอกสำราญอยู่บนต้นไม้ เสียงไก่ป่าที่เดินย่ำอยู่บนพื้น

ยังมีต้นไม้นานาชนิด โดยเฉพาะพืชตระกูลเฟิน ฟิล์มมี่เฟิน เฟินที่ใบบางที่สุดในโลก เป็นตัวบ่งชี้สภาพความอุดมสมบูรณ์ของป่าได้เป็นอย่างดี ขึ้นได้เฉพาะในป่าที่มีความชื้นสูงเท่านั้น เฟินตีนตุ๊กแก เป็นเฟินอีกชนิดที่ดึงดูดความสนใจด้วยรูปร่างเฉพาะตัว รอยหยักที่เป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้ยังเห็น ไผ่เลื้อย ตามรายทาง ในด้านไม้ดอกสวยๆ อย่างดอกเข้าพรรษา บีโกเนีย รวมถึง กุหลาบพันปี สีขาวเด่นบนยอดไม้ก็ชวนให้ชมความงาม เบ่งบานเพื่อรอการตอบรับทางสายตาของเรา

สีเขียวอาจไม่ใช่สีโปรดของทุกคนแต่เชื่อเถอะว่าสีเขียวของต้นไม้จะเป็นที่พักสายตาที่ให้ความสุขกับจิตใจมากมายเหลือเกิน ไม่เชื่อก็ลองหาต้นไม้ใกล้ๆ ตัวคุณ ลองพักตาให้ธรรมชาติโอบกอดปลอบโยนคุณสักพัก พลังจากธรรมชาติจะเติมเต็มตัวคุณเอง

เส้นทางการเดินผาเดียวดายทางเดินเป็นบอร์ดวอล์กหรือทางเดินยกระดับ ตัดผ่านป่าดิบเขาและป่าพรุระยะทางราวๆ 500 ม . ใช้เวลาเดินไม่ถึงชั่วโมงไปกลับผาเดียวดาย

เดินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเจอหน้าผาที่เห็นต้นไม้ไปสุดลูกหูลูกตา สีเขียวเต็มผืนภูเขาไม่รู้ไปสิ้นสุดที่ตรงไหน  เห็นท้องฟ้าตัดกับสีเขียวของต้นไม้ ความรู้สึกมันโล่งสบายน่าเหลือเชื่อ

ลมหายใจที่ติดขัดอยู่เมืองกรุงมาเวลาเนิ่นนาน ตอนยืนบนผาเดียวดายกลับสูดลมหายใจรับอากาศบริสุทธิ์ลงไปได้เต็มปอด ค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออกช้าๆ เท่านี้ก็เหมือนได้ปลดปล่อยความทุกข์ สิ่งที่หนักอึ้งมาทั้งปีทั้งชาติแล้ว

ลมเบาๆ พัดผ่านมาสัมผัสกายเหมือนเป็นการทักทายผู้มาเยือนให้ได้รู้สึกเบาสบาย จากนั้นค่อยๆ ชันเข่าก้มหมอบลงต่ำเพื่อดูธรรมชาติเบื้องหน้า ได้เห็นนกกางปีกบินผ่านต้นไม้คณานับด้านล่าง ให้ความรู้สึกอิสระไม่แพ้กับนกที่บินผ่านหน้าตัวนั้นเลย  ป่าเป็นขุมทรัพย์ที่ให้พลังงานไม่มีวันหมด หากวันใดเหนื่อยล้า อย่ามองข้ามผาเดียวดายที่ไม่รู้สึกเดียวดายเลย ตลอดเส้นทางมีสิ่งชีวิตที่งดงามรอบตัวไปหมด

“แค่ไปลองสัมผัสดูสักครั้งแล้วจะรู้ว่าผาเดียวดายไม่ได้เดียวดายเหมือนชื่อสักนิด…”

Info

จุดชมวิวเขาเขียว (ผาเดียวดาย

ที่ตั้ง อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ต. นาหินลาด อ.ปากพลี จ. นครนายก