เลิกหลอน ไปนอนอุทัย

ช่วงนี้รู้สึกว่าหลายท่านกำลังเพลียจิตกับข่าวโรคโควิด 19 ระบาด โดยก่อนหน้านี้ก็มีข่าวอาชญากรรม ข่าวการเมือง ข่าวเศรษฐกิจ ข่าวภัยธรรมชาติ ซึ่งล้วนแต่เป็นข่าวไม่ดีทั้งสิ้น จนทำให้ชีวิตรู้สึกสลดหดหู่ บางท่านถึงกับเครียดออกอาการซึมเศร้า เก็บตัวไม่กล้าไปไหน ชีวิตจึงขาดความสุขเพราะมีเรื่องร้ายมาหลอนอยู่ทุกวี่วัน

แล้วทำไมเราต้องกลายเป็นคนที่ไร้ความสุข ในเมื่อปัญหาต่างๆ มันก็เกิดขึ้นอยู่ทุกวัน สำหรับผมแล้วการปล่อยวางทางสมอง ลดการรับรู้ข่าวสารลงบ้าง ทำจิตให้สงบจดจ่อกับงานที่ทำ ระวังตนเองให้มากขึ้นเมื่อต้องออกจากบ้าน และหาเวลาออกเดินทางท่องเที่ยวไปทำสาธารณประโยชน์ให้กับสังคม หรือธรรมชาติบ้าง คือหนทางแห่งการปลดตัวเองให้กลับมามีความสุข อย่างเช่นการเดินทางทริปนี้ “รวมใจไทย ดับไฟป่าห้วยขาแข้ง” จ.อุทัยธานี

ปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสเดินทางร่วมทริปบริจาคอุปกรณ์การดับไฟป่า ให้กับเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี  ซึ่งกิจกรรมนี้จัดขึ้นโดยกลุ่มคาราวานรถยนต์ไทยท่องเที่ยว และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุทัยธานี โดยมีผู้ร่วมเดินทาง 50 กว่าท่าน

การเดินทางเป็นไปด้วยความสนุกสนานเป็นกันเอง หลายท่านอาจจะไม่รู้จักกันมาก่อนแต่มิตรภาพดีๆ ก็เกิดขึ้นได้ในเวลาอันรวดเร็ว เพราะทุกคนมีจุดหมายเดียวกัน นั่นคือต้องการให้ไฟป่าที่กำลังคุกรุ่นอยู่หลายจุดในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งดับลงให้เร็วที่สุด หากช้าไปกว่านี้ทุกวินาทีคือการสูญเสียสมดุลธรรมชาติไปอย่างน่าเสียดาย และเป็นการส่งผลเสียหายมาสู่ชีวิตผู้คนในประเทศไทยของเราต่อไป

สิ่งของที่เจ้าหน้าที่ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จ.อุทัยธานี ได้รับจากกลุ่มคาราวานไทยท่องเที่ยว ซึ่งเป็นผู้รวบรวมจัดหามาให้นั้นได้แก่ เครื่องกรองน้ำแบบพกพา เครื่องฉีดพ่นน้ำดับไฟ ไม้ตบไฟ อาหารแห้ง และเงินสดจำนวนหนึ่งเพื่อสมทบทุนในการปฏิบัติงานแก่เจ้าหน้าที่

เหนือสิ่งอื่นใดที่เจ้าหน้าที่ได้รับคือกำลังใจจากกลุ่มผู้บริจาค ทำให้เจ้าหน้าที่รู้สึกปราบปลื้มปิติที่พวกเขาแม้จะต้องปฏิบัติงานเหนื่อยยากอยู่ในป่า มีความลำบากในการติดต่อสื่อสารกับบุคคลภายนอกแม้กระทั่งครอบครัวของพวกเขาเอง แต่ยังมีบุคคลอีกกลุ่มหนึ่งยังไม่หลงลืมพวกเขา และยังมีน้ำใจสนับสนุนการทำงานที่มีความยากลำบากและขาดแคลน พวกเขาจึงขอฝากคำขอบคุณเป็นอย่างสูง ออกมาจากผืนป่าถึงผู้มีน้ำใจในโอกาสนี้ด้วย

น้ำพุร้อนสมอทอง

เสร็จสิ้นภารกิจส่งมอบอุปกรณ์ดับไฟป่าให้กับเจ้าหน้าที่แล้ว คณะเดินทางคาราวานไทยท่องเที่ยว ได้เดินทางต่อไปยังน้ำพุร้อนสมอทอง ซึ่งตั้งอยู่ในเขต อ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี  เพื่อท่องเที่ยวและพักแรมในลักษณะแค้มป์ปิ้งค์ น้ำพุร้อนแห่งนี้เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ

โดยไหลผุดขึ้นมายังผิวดินแล้วไหลผ่านช่องเขาสองลูกในโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยขุนแก้ว น้ำพุที่ผุดนี้มีความใส มีกลิ่นกำมะถันเจือปนอยู่บ้าง และมีความร้อนขนาดต้มไข่สุกภายใน 5 นาที จากนั้นจะไหลลาดตามภูเขาลงไปรวมกับน้ำในลำห้วยคอกควาย ปัจจุบันได้รับการปรับปรุงให้เป็นบ่อน้ำพุร้อน เป็นจุดชมทิวทัศน์ และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกได้สวยงาม

นักท่องเที่ยวทั่วไปสามารถเดินทางมาพักผ่อน แช่น้ำพุร้อนกันได้ทุกวัน เมื่อหิวก็มีร้านอาหารบริการในช่วงเวลากลางวันอยู่หลายร้าน เลือกหารับประทานเมนูปลาสดได้หลากหลายสนนราคาไม่แพงครับ

ตลาดซาวไฮ่ ผักผลไม้สด อาหารอร่อยปลอดสารพิษ

หลังจากเมื่อคืนผมและคณะเดินทางได้อาบน้ำแร่แช่น้ำอุ่นจากน้ำพุร้อนสมอทองแล้ว การเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่ จ.อุทัยธานี วันนี้ยังมีโปรแกรมที่น่าสนใจอยู่ที่ตลาดซาวไฮ่ อ.บ้านไร่ นั่นคือการไปเที่ยวชมและเลือกซื้อสินค้าปลอดสารพิษ โดยใช้กรรมวิธีแบบเกษตรอินทรีย์

ตลาดซาวไฮ่อยู่ห่างจากน้ำพุร้อนสมอทองประมาณ 41 กม. ตั้งอยู่บริเวณตัวอำเภอบ้านไร่ มีลักษณะเป็นตลาดพื้นบ้านบ่งบอกถึงอัตลักษณ์ท้องถิ่น ในรูปแบบวิถีเกษตรพอเพียง มีสินค้าให้เลือกซื้อมากมายโดยเฉพาะผักผลไม้สด ที่ชาว อ.บ้านไร่ เก็บจากสวนนำออกมาวางจำหน่ายในราคาถูก ภายในตลาดมีการจำหน่ายอาหารพร้อมจุดที่นั่งรับประทาน มีการแสดงดนตรีขับกล่อมเบาๆ ให้ได้เพลิดเพลินระหว่างการมีความสุขอยู่กับอาหารอร่อย

ตลาดซาวไฮ่ เปิดให้บริการมาแล้วเป็นเวลาประมาณ 3 ปี เริ่มเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป ตลาดเปิดให้บริการทุกวันเสาร์ – อาทิตย์ โดยเปิดตั้งแต่เวลา 8.00 – 17.00 น.

ถัดไปอีกนิดใกล้กัน อ.บ้านไร่ ยังมีตลาดอีกแห่งหนึ่งแต่มีขนาดเล็กกว่า ชื่อว่า บริเวณต้นไม้ยักษ์ จะมีป้ายบอกทางไว้อย่างชัดเจนครับ ผมอยากให้ลองเดินทางไปเที่ยวชมกันดู เพราะท่านจะได้พบกับต้นไม้สูงขนาดใหญ่ 30 คนโอบจึงจะรอบ ที่เล่าสืบต่อกันมาว่ามีอายุกว่า 300 ปี บริเวณด้านหน้าใกล้ที่จอดรถยนต์ถูกจัดให้เป็นตลาดพื้นบ้านคล้ายกับตลาดซาวไฮ่แต่มีขนาดเล็กกว่า สินค้าเกษตรราคาถูกมีให้เลือกซื้อหากลับไปเช่นกันครับ

ขากลับเข้ากรุงเทพฯ ผมใช้เส้นทาง อ.บ้านไร่ มุ่งหน้าสู่ อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี แวะตลาดสามชุกร้อยปีอีกตลาดได้ของฝากเต็มรถจึงเดินทางกลับได้อย่างสบายใจ เส้นทางสายนี้ค่อนข้างดีทำเวลาได้รวดเร็วแม้บางช่วงจะเป็นเส้นทางแบบสวนทางกัน แต่ก็ไม่อันตรายครับ

ผมไม่ทราบว่าโรคโควิด 19 จะหายไปจากโลกและประเทศไทยของเราเมื่อไหร่ หรือ เมื่อหายไปแล้วจะมีโรคใหม่ขึ้นมาให้โลกผวากันอีกหรือไม่ การใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาทด้วยความระวังเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าหากความระวังของเรากลายเป็นความระแวง มันคงเป็นเรื่องสุดหลอนจนนอนไม่หลับ ผมอยากให้ทุกท่านตั้งสติ หยุดวิตก เลิกคิดเรื่องหลอน แล้วไปนอนอุทัยธานี ทำเรื่องดีๆ มีประโยชน์สักวัน แล้วท่านจะรู้ว่า ชีวิตในเมืองที่ต้องตั้งใจมา เมืองที่อยู่ชายป่าห้วยขาแข้งแห่งนี้ นั้นมีความสุขสงบมากขนาดไหน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุทัยธานี

โทร. 056 514 651

แนะนำที่พัก

น้ำพุร้อนสมอทอง (กางเต้นท์พักแรมแบบแค้มป์ปิ้ง ควรนำเต้นท์ไปเอง)
โทร. 056 518 155 (อ.บ.ต.ทองหลาง)

ห้วยขาแข้ง คันทรีโฮม รีสอร์ท  อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี
โทร. 080 193 5697 , 093 464 6355