ภูทับเบิก ดินแดนแห่งทะเลหมอกที่ทำให้หลงรักตั้งแต่แรกเห็น

ลองจินตนาการภาพที่คุณได้ตื่นมาท่ามกลางวิวของภูเขาและสายหมอกที่มาปลุกถึงหน้าห้องนอน อากาศเย็นสบายที่แสนจะบริสุทธิ์ ความทรงจำท่ามกลางธรรมชาติที่จะอยู่กับคุณไปอีกนาน ทุกสิ่งทุกอย่างนี้เกิดขึ้นได้ที่ "ภูทับเบิก"ดินแดนลอยฟ้าบนที่สูงของจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ต้องใช้ทั้งความพยายามและความเชื่อมั่นในการขับรถขึ้นสู่ยอดภูเพื่อสะกดคำว่าผู้พิชิตให้ได้ วันนี้ Sanook! Travel จะพาคุณไปสัมผัสกับประสบการณ์การพิชิตภูทับเบิกกันครับ

การเดินทางขึ้นสู่ยอดภูทับเบิกนั้น จะต้องขับรถขึ้นไปตามทางคดเคี้ยวที่สูงชันไปตลอดทาง บางช่วงเส้นทางชำรุดมีขรุขระอยู่บ้าง แต่โดยรวมแล้วถือว่าเส้นทางราดยางได้เป็นอย่างดีไม่ค่อยเป็นปัญหาต่อการขับขี่เท่าใดนัก แต่ปัญหาหลักๆ ในการขับขึ้นยอดภูเลยนั่นก็คือ เมื่อเราขับขึ้นไปได้สักพักหนึ่งแล้ว ด้วยความสูงชันของภูเขาทำให้มีสายหมอกหนามาปกคลุมเส้นทาง จนระยะการมองเห็นนั้นสั้นมาก ประกอบกับเส้นทางที่ชันและคดเคี้ยวมาก ถนนที่ค่อนข้างแคบทำให้ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมากในการขับขี่ แต่หากคุณสามารถคอนโทรลความเร็วรถให้คงที่ได้และค่อยๆ ขับขึ้นไปอย่างใจเย็น หนทางสู่การพิชิตภูทับเบิกก็ไม่ยากอย่างที่คิด

จากพื้นราบใช้เวลาขับรถขึ้นมาประมาณ 30-40 นาที เราก็จะได้ขึ้นสู่ดินแดนลอยฟ้าแห่งนี้แล้ว โดยในวันนี้เราเลือกพักกันที่บ้านภูวิวหมอก เป็นบ้านพักแบบเต็นท์กระโจมที่มีห้องน้ำในตัว จากจุดที่พักของเราสามารถชมวิวไร่กะหล่ำและภูเขาที่สลับซับซ้อนได้แบบพาโนรามาเลย แถมในตอนเย็นยังมีทะเลหมอกหนาๆ เคาะประตูห้องนอนเลยด้วย เป็นบรรยากาศที่ฟินสุดๆ 

ด้านบนภูทับเบิกจะมีอากาศเย็นแทบจะตลอดทั้งวัน สำหรับใครที่อยากจะเดินทางไปในช่วงนี้ควรพกเสื้อกันหนาวไปกันด้วย รับรองว่าหนาวเย็นสะใจแน่นอน

รุ่งเช้าของอีกวันเราเดินทางไปกันต่อที่จุดชมวิวทะเลหมอกไร่ริมผา ซึ่งวันนี้ถือว่าเรามีทั้งดวงที่ดีและไม่ดีผสมกัน ดวงดีคือเรามองเห็นหมอกแบบฟุ้งๆ กระจายไปทั่วบริเวณเลยแต่ดวงไม่ดีก็คือเมื่อหมอกฟุ้งและกระจายไปทั่วบริเวณนั้นก็ทำให้การถ่ายภาพออกมาให้สวยๆ นั้นเป็นเรื่องที่ยาก เนื่องจากบรรยากาศโดยรอบขาวโพลนไปจนหมด มองไม่เห็นวิวใดๆ แต่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ของการได้อยู่ท่ามกลางสายหมอก ได้บรรยากาศไปอีกแบบหนึ่ง 

ก่อนกลับลงมาจากภูทับเบิกเราได้แวะชมวิวถนนลอยฟ้าบริเวณข้างทาง ซึ่งจากจุดนี้สามารถชมภาพของถนนที่สลับคดเคี้ยว โดนหมอกปกคลุมอยู่ได้อย่างสวยงามมากๆ มองเห็นภูเขาที่โอบล้อมทะเลหมอกเอาไว้อีกที่หนึ่ง เป็นภาพจำที่แสนจะประทับใจ และเป็นภาพสุดท้ายก่อนที่จะจากภูทับเบิกไปในวันนี้

เรียกได้ว่าการมาเยือนดินแดนแห่งสายหมอกของเราในครั้งนี้นั้นไม่ทำให้เราผิดหวังเลยแม้แต่น้อย ถึงแม้เราจะไม่สามารถมองเห็นทะเลหมอกหนาๆ ที่เป็นแผ่นๆ สวยงามเหมือนกับคนอื่นๆ แต่ความงดงามของธรรมชาตินั้นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เรานั้นหลงรักที่นี่ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้มาเลย ไม่แปลกใจว่าทำไมผู้คนจากทั่วประเทศถึงดั้นด้นต้องการจะมาที่นี่กัน เป็นหนึ่งในดรีมเดสทิเนชั่นที่สักครั้งในชีวิตต้องมา!