5 มรดกโลกทางธรรมชาติ ชีวิตนี้ต้องไปเยือนสักครั้ง!

5 มรดกโลกทางธรรมชาติ ชีวิตนี้ต้องไปเยือนสักครั้ง!

5 มรดกโลกทางธรรมชาติ ชีวิตนี้ต้องไปเยือนสักครั้ง!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หากพูดถึง มรดกโลกทางธรรมชาติ หลายคนอาจจะยังสงสัยว่าเป็นยังไงนะ? ต้องมีต้นไม้เยอะๆ หรือเปล่า? วันนี้เรามีคำตอบให้คุณแล้วค่ะ พร้อมแนะนำ 5 ที่เที่ยวมรดกโลกทางธรรมชาติทั่วโลก ที่ชีวิตนี้ต้องหาโอกาสไปเยือนสักครั้ง

0-pixabay-768x467

แหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ คือสถานที่ที่มีลักษณะทางกายภาพ และชีวภาพมีคุณค่าโดดเด่นในทางวิทยาศาสตร์ หรือเป็นสถานที่ซึ่งมีสภาพทางธรณีวิทยา และภูมิประเทศที่ได้รับการวิเคราะห์แล้ว ว่าเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของพันธุ์พืชและสัตว์หายาก ควรค่าแก่การอนุรักษ์ ซึ่งหน่วยงานที่ทำการคัดเลือกและขึ้นทะเบียน มรดกโลกทางธรรมชาติ ก็คือ องค์การ UNESCO และปัจจุบันมีมรดกโลกทางธรรมชาติ ประมาณ 200 กว่าแห่งทั่วโลก แต่ละที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติสุดล้ำค่า ดังเช่น 5 ที่เที่ยวมรดกโลกทางธรรมชาติ ที่เราอยากแนะนำให้คุณหาโอกาสไปชมความงามด้วยตาของตัวเองสักครั้งในชีวิตคนชอบ เที่ยวธรรมชาติ พลาดไม่ได้เลยค่ะ!

1.Iguazu Falls น้ำตกอีกวาซู, ประเทศอาร์เจนติน่า-บราซิล

1-pixabay-1-768x316

เริ่มที่น้ำตกสุดยิ่งใหญ่อลังการแห่งอเมริกาใต้ มีความหลากหลายทางชีวภาพ จึงได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็น มรดกโลกทางธรรมชาติ กับ น้ำตกอีกวาซู ซึ่งมีความยาวกว่า 2,700 เมตร ประกอบด้วยสายน้ำตกน้อยใหญ่ถึง 275 สาย ตั้งอยู่บนพรมแดนระหว่างประเทศอาร์เจนตินา บราซิล และปารากวัย โดยเราสามารถเข้าชมได้จากทั้งฝั่งอาร์เจนตินาและบราซิล อีกทั้งยังเป็นน้ำตกที่มีพลังเสียงอันยิ่งใหญ่และละอองน้ำฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ เกิดเป็นสายรุ้งพาดผ่านน้ำตกอย่างงดงามตลอดทั้งปี ไฮไลท์อยู่ที่จุดชมวิว Devil’s Throat สุดอลังการที่สามารถเดินเข้าไปสัมผัสน้ำตกได้อย่างใกล้ชิด และอีกหนึ่งไฮไลท์ก็คือการล่องเรือเข้าใกล้น้ำตกเพื่อสัมผัสน้ำตกอย่างใกล้ชิด ใครอยากสัมผัสความสดชื่นจากน้ำตกแบบเต็มๆ แนะนำเลยค่ะ

นอกจากนี้บริเวณอุทยานแห่งชาติยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าและนกกว่า 400 สายพันธุ์ รวมถึงสัตว์หายากอย่าง ตัวกินมดยักษ์ เสือจาร์กัว นกอินทรีฮาร์ปี และสัตว์เขตร้อนนานาชนิด ใครชอบ เที่ยวธรรมชาติ ไปชมความงดงามอลังการของน้ำตกที่กว้างใหญ่เกินกว่าจินตนาการ แนะนำว่าให้เข้าชมจากฝั่งบราซิล ส่วนใครที่อยากใกล้ชิดน้ำตก แนะนำว่าให้เข้าชมจากฝั่งอาร์เจนตินาเลยจ้า

2.Wulingyuan Scenic Area อู่หลิงหยวน หุบเขาอวตาร, ประเทศจีน

2-pexel-1-768x512

ใครที่เป็นแฟนภาพยนตร์เรื่องอวตาร (Avatar) เราเชื่อว่าคุณต้องอยากไปสัมผัสกับเทือกเขาสูงเสียดฟ้า ประหนึ่งว่าลอยได้แบบดินแดนแพนดอร่าในหนังเป็นแน่ ใช่ค่ะมันมีอยู่จริง! แม้จะไม่ได้ลอยฟ้าแบบในหนังก็ตามที แต่ก็ถือว่าใกล้เคียงมาก เพราะผู้กำกับเขาได้ไอเดียมาจากที่นี่แหละ! กับ หุบเขาอวตาร หรือ Wulingyuan Scenic Area ที่อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย มณฑลหูหนาน ประเทศจีน โดยที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลกทางธรรมชาติ แห่งแรกของจีนมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1992 บนเนื้อที่กว่า 9,500 ตารางกิโลเมตรของอุทยาน เต็มไปด้วยแท่งภูเขาหินทราย สูงขึ้นฟ้ามากกว่า 3,000 ยอด สะพานหินตามธรรมชาติ น้ำตก และถ้ำน้อยใหญ่กว่า 40 แห่ง

ไฮไลท์ของการเข้าชมอยู่ที่การนั่งกระเช้าลอยฟ้าชมทัศนียภาพของภูเขาหินละลานตา งานนี้ใครกลัวความสูงต้องใจสู้หน่อยนะคะ แต่ไม่ต้องกลัวค่ะเพราะมีความปลอดภัยสูง ซึ่งอุทยานแห่งนี้ยังคงรักษาความสมบูรณ์ของระบบนิเวศไว้เป็นอย่างดี และยังเป็นแหล่งอนุรักษ์พันธุ์พืช รวมถึงพันธุ์สัตว์หายากและใกล้สูญพันธุ์อีกด้วย

3.Plitvice Lakes National Park อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ เลค, ประเทศโครเอเชีย

3-pixabay-768x431

ภาพแห่งความเขียวขจีของขุนเขาตัดกับสีเขียวมรกตใสของทะเลสาบ ที่เหมือนผ่านการแต่งภาพมาแล้ว แต่มันคือภาพธรรมชาติที่เกิดขึ้นจริง! กับที่นี่… อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ เลค มรดกโลกทางธรรมชาติแห่งประเทศโครเอเชีย โดยเป็นทะเลสาบสีเขียวมรกตขนาดใหญ่ท่ามกลางเทือกเขาสูง แวดล้อมด้วยธรรมชาติอันอุดสมบูรณ์ ทัศนียภาพสวยๆ เหล่านี้เกิดจากธารน้ำที่ไหลผ่านหินปูนและหินชอล์กนานนับพันปีจนเกิดเป็นน้ำตกและถ้ำหลายแห่ง

ที่นี่มีไฮไลท์อยู่ที่การเดินเส้นศึกษาธรรมชาติ โดยคุณจะเห็นน้ำสีเขียวใสสะอาด ฝูงปลาน้อยใหญ่แหวกว่ายไปมา ก่อนจะไปถึงจุดที่สวยที่สุด กับจุดชมวิวบริเวณน้ำตก Veliki Slap อันตระการตาซึ่งสูงกว่า 70 เมตร ใครที่รักการ เที่ยวธรรมชาติ รักสีเขียวของธรรมชาติที่ไม่ผ่านการปรุงแต่ง จะต้องหลงรักที่นี่อย่างแน่นอนค่ะ

4.Swiss Alps Jungfrau-Aletsch จุงเฟรา-อาเล็ทซ์ เทือกเขาแอลป์, ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

4-pixabay-1-768x291

ยอดเขาจุงเฟรา อันโด่งดังแห่งประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในทวีปยุโรปบนเทือกเขาแอลป์ ใครที่หลงใหลความสวยงามของภูเขาน้ำแข็งแนะนำให้มาที่มรดกโลกทางธรรมชาติแห่งนี้เลยค่ะ ซึ่งด้านบนยอดเขามีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี โดยมีจุดชมวิวให้เราได้ชมความงามของทัศนียภาพโดยรอบแบบ 360 องศา ซึ่งการเดินทางขึ้นไปยังจุงเฟรายังคงความคลาสสิกด้วยการนั่งรถไฟ บอกเลยว่าโรแมนติกสุดๆ นอกจากที่เราจะขึ้นไป เที่ยวธรรมชาติ ชมความงดงามของภูเขาน้ำแข็ง และธารน้ำแข็งต่างๆ ด้านบนแล้ว ก็ยังมีจุดแวะเที่ยวในหมู่บ้านที่ยังคงความดั้งเดิมของบ้านเก่าไว้ให้เห็นอยู่ สร้างความประทับใจให้คุณมิรู้ลืม

5.Grand Canyon National Park อุทยานแห่งชาติแกรนด์แคนยอน, ประเทศสหรัฐอเมริกา

5-pixabay-768x512

อุทยานแห่งชาติแกรนด์แคนยอน รัฐแอริโซนา คือความงดงามทางธรรมชาติของหินผาแกรนิตที่มองเห็นเป็นแถบลายที่เกิดขึ้นจากการกัดเซาะของแม่น้ำโคโลราโด เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา มีภูมิประเทศเป็นทุ่งภูเขาที่แห้งแล้งและกว้างใหญ่ไพศาล ยิ่งใหญ่และงดงามอย่างประหลาด ด้วยความสวยงามแปลกตานี้เองทำให้แกรนด์แคนยอนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลก

ไฮไลท์ของการเข้าชมแกรนด์แคนยอนก็คือ สะพานกระจกลอยฟ้า ที่สร้างมาเพื่อนักท่องเที่ยวให้ได้ขึ้นไปชมวิวและทัศนียภาพที่งดงาม ซึ่งเป็นสะพานกระจกรูปตัวยู ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมความมหัศจรรย์ของที่นี่ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมต่างๆ อีกมากมาย โดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการ เช่น การปั่นจักรยาน การเดินชมความงดความของหน้าผา เป็นต้น

อัลบั้มภาพ 6 ภาพ

อัลบั้มภาพ 6 ภาพ ของ 5 มรดกโลกทางธรรมชาติ ชีวิตนี้ต้องไปเยือนสักครั้ง!

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook