แบกเป้ไปดูบอลโลกที่รัสเซียแบบไม่ง้อทัวร์ (ตอนที่ 3)

แบกเป้ไปดูบอลโลกที่รัสเซียแบบไม่ง้อทัวร์ (ตอนที่ 3)

แบกเป้ไปดูบอลโลกที่รัสเซียแบบไม่ง้อทัวร์ (ตอนที่ 3)
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่ประเทศรัสเซียกลางปี 2018 นี้ จะกระจายจัดแข่งขันกันในเมืองหลักๆ ของรัสเซียจำนวน 11 เมือง ได้แก่ มอสโก เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก คาลีนินกราด คาซาน นิจนีนอฟโกรอด ซามารา วอลโกกราด ซารันสค์ รอสตอฟ-นา-โดนู โซชี และเยคาเตรินบุร์ก

คนทั่วไปที่ไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้รัสเซีย หรือแบ็คแพ็คเกอร์ผู้เชี่ยวชาญงานตะลุยรัสเซีย โดยเฉพาะคอบอลยุโรปคงรู้จักกันแค่เมืองป๊อปปูล่าคือมอสโก เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ซึ่งเป็นที่ตั้งของสโมสรฟุตบอลชั้นนำคือสปาร์ตัก มอสโก และเซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก และบางคนก็อาจเคยได้ยินชื่อเมืองโซชี ที่เคยเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูหนาว และพาราลิมปิกฤดูหนาว 2014 บ้างเล็กน้อย

ดูจากแผนที่ แม้รัสเซียจะเป็นประเทศที่ตั้งคร่อมอยู่ระหว่างทวีปยุโรปและทวีปเอเชีย แต่รัสเซียเลือกเมืองที่อยู่ในฟากยุโรปคือยุโรปตะวันออกในการจัดการแข่งขันเป็นหลัก เพราะกีฬาฟุตบอลได้รับความนิยมสูงที่สุดในฝั่งยุโรป โดยเฉพาะบรรดาสโมสรดังๆ ของรัสเซียก็ตั้งอยู่ในโซนยุโรป เหตุผลนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่าประเด็นความพร้อมของสนามจัดการแข่งขัน ที่แทบไม่ต้องลงทุนอะไรมากนัก โดยเฉพาะการรื้อสนามเก่าหรือสร้างสนามใหม่ เพียงแค่ปรับปรุงและต่อขยายในบางสนามก็เป็นอันใช้งานได้แล้ว

อย่างก็ดี หากดูจากแผนที่อีกครั้ง เราจะเห็นเมืองโซชี ที่เคยเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูหนาว ตั้งอยู่ด้านล่างสุดในบรรดาเมืองที่จัดฟุตบอลโลก 2018 ชี้ให้เห็นว่า แฟนบอลที่จะไปดูบอลโลกคราวนี้ต้องเตรียมเสื้อกันหนาวอย่างดีติดตัวตลอดการเดินทาง เพราะขนาดเมืองที่อยู่ทางใต้สุดของทัวร์นาเมนต์ยังเคยได้รับการคัดเลือกให้จัดโอลิมปิกฤดูหนาว ซึ่งมีกีฬาอย่างสกี หรือสเก็ตน้ำแข็ง นับประสาอะไรกับเมืองทางตอนเหนือที่เหลือ แม้ว่าจะเป็น Summer ของรัสเซียก็ตาม แต่เชื่อว่าอากาศคงจะหนาวเหน็บไม่น้อย

ขยับขึ้นไปดูเมืองทางตอนเหนือกันบ้าง ซึ่งหากดูจากแผนที่เราจะเห็นว่า รัสเซียพยายามไม่เลือกเมืองทางตอนเหนือขึ้นไปกว่า เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก มากนัก เหตุผลหลักอาจมี 2 ประการคือเมืองทางตอนเหนืออากาศหนาวเกินไปที่จะใช้ต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองจากทั่วทุกมุมโลก และอีกเหตุผลหนึ่งก็คือเมืองที่เหนือไปกว่านั้นคงไม่มีสนามของสโมสรฟุตบอลชั้นดีที่ใช้การได้สักเท่าไหร่ อีกทั้งประชากรก็น่าจะน้อยไม่เพียงพอในการสร้างความคึกคัก

ส่วนเมืองที่เหลือก็กระจายตัวในแนวราบ คืออาศัยชัยภูมิในแถบภาคกลางของรัสเซีย ยกเว้นคาลีนินกราด ซึ่งเป็นแคว้นที่อยู่ในเขตการปกครองของสหพันธรัฐรัสเซีย ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลบอลติก มีชายแดนทางใต้ติดกับประเทศโปแลนด์ และพรมแดนตะวันออกติดกับประเทศลิทัวเนีย ซึ่งก็ถือว่าคาลีนินกราดตั้งอยู่บริเวณแนวกลางของรัสเซียและตอนกลางทวีปยุโรป ดังนั้น สนามที่เจ้าภาพฟุตบอลโลกงวดนี้เลือกสรรไว้จึงมาลงตัวที่ 11 เมืองหลักดังกล่าวนั่นเอง

แบกเป้ไปดูบอลโลกที่รัสเซียแบบไม่ง้อทัวร์ เที่ยวนี้ นอกจากจะต้องเตรียมชุดกันหนาวเอาไว้ให้เพียบพร้อมอย่างที่บอกไปแล้ว ยังควรตระเตรียมเสื้อผ้าหน้าผมสำหรับเซลฟี่ให้เสร็จสรรพ ไม่ต้องแบรนด์เนมก็ได้แต่ขอให้ดูดี เพราะสุภาษิตโบราณของรัสเซียซึ่งเป็นคำคมที่คลาสสิกมาก ได้กล่าวเอาไว้ว่า ผู้คนจะต้อนรับเราตามเครื่องแต่งกายที่เราสวมใส่

มีตั๋วแล้ว ได้ VISA แล้ว และได้รู้จักเมืองหลักต่างๆ ของรัสเซียที่จะจัดบอลโลกกันแล้ว ในตอนหน้า เราจะมาวางแผนการเดินทางกัน โดยจะเริ่มกันที่ตั๋วเครื่องบิน ว่ามีสายการบินของดีราคาถูกสายไหนบ้างที่จะพาเราไปตะลุยแบกเป้ไปดูบอลโลกที่รัสเซียแบบไม่ง้อทัวร์ พบกันใหม่ในตอนหน้าครับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook