แบกเป้ไปดูบอลโลกที่รัสเซียแบบไม่ง้อทัวร์ (ตอนที่ 2)

แบกเป้ไปดูบอลโลกที่รัสเซียแบบไม่ง้อทัวร์ (ตอนที่ 2)

แบกเป้ไปดูบอลโลกที่รัสเซียแบบไม่ง้อทัวร์ (ตอนที่ 2)
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รัสเซีย จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเป็นครั้งแรกในกลางปี 2018 นี้

หากย้อนอดีตพลิกดูสถิติ แม้รัสเซียจะถือเป็นทีมชั้นนำของทวีปยุโรปทีมหนึ่งในอดีต ทว่า รัสเซีย หรือสหภาพโซเวียตเดิม ยังไม่เคยเข้าชิงฟุตบอลโลกเลยแม้แต่ครั้งเดียว สูงที่สุดคือเข้ารอบรองชนะเลิศที่อังกฤษเป็นเจ้าภาพในปี 1966 แต่ก็พ่ายให้กับเยอรมนีตะวันตกในรอบรอง และคว้าได้เพียงอันดับสี่จากการจัดอันดับของฟีฟ่าในยุคนั้น โดยอังกฤษเป็นแชมป์โลก และโปรตุเกสได้อันดับ 3

และรัสเซีย ก็ยังไม่เคยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือฟุตบอลยูโร ทว่า รัสเซียเป็นชาติประเดิมแชมป์ฟุตบอลยูโรครั้งแรกในปี 1960 หลังจากนั้นก็ได้รองแชมป์ในปี 1964 1972 และ 1988

อย่างไรก็ดี แม้จะดูเหมือนว่า วงการฟุตบอลรัสเซีย จะห่างหายจากความสำเร็จทั้งในระดับทีมชาติและระดับสโมสร แต่การเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายในปี 2018 นี้ก็คงจะมีส่วนช่วยกระตุ้นให้วงการฟุตบอลรัสเซียมีสีสันและพัฒนาการมากขึ้นได้บ้าง

ในตอนที่แล้ว เราได้พาไปย้อนดูข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับรัสเซียกับการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกกลางปีนี้ และทิ้งท้ายด้วยการแนะนำช่องทางการซื้อตั๋วเข้าชมฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่รัสเซีย

ในตอนนี้ ติ๊ต่างว่า คุณมีตั๋วบอลโลก 2018 อยู่ในมือเรียบร้อยแล้วแล้ว เราจะมาว่ากันถึงการตระเตรียมตัวเพื่อออกเดินทางไปรัสเซีย ว่าจะมีขั้นตอนยากง่ายอย่างไร โดยจะเริ่มกันที่ VISA ว่าจะต้องขอหรือไม่ ถ้าขอ ขออย่างไร หรือมีเงื่อนไขอื่นใดประกอบ

ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย เลขที่ 114 บทที่ 5 ได้ระบุรายละเอียดว่าด้วยการที่หน่วยงานรัฐสามารถปฏิเสธการออก VISA แก่ชาวต่างชาติได้โดยไม่จำเป็นต้องอธิบายเหตุผล โดยเฉพาะบทที่ 26 ได้กล่าวถึงลักษณะของการปฏิเสธ VISA ให้กับชาวต่างชาติ ตัวอย่างเช่น

1) ไม่มีหลักฐานทางการเงินเพียงพอที่จะพิสูจน์ว่าจะสามารถอยู่ในรัสเซียได้ภายในช่วงเวลาของการเดินทางดังกล่าว

2) ทำผิดกฎหมายการข้ามแดนของรัสเซีย เช่น การขนสิ่งเสพติด หรือการพกพาอาวุธ เป็นต้น

3) ให้ข้อมูลผิดหรือบิดเบือนจุดประสงค์ที่แท้จริงที่จะเดินทางมา เช่น การขอ VISA เพื่อจุดประสงค์ของการท่องเที่ยวแต่กลับใช้ VISA นี้เพื่อการเข้ามาทำงาน

4) เคยทำผิดกฎหมายอาญารัสเซียในอดีตมากกว่า 2 ครั้ง เช่น ไม่มีการลงทะเบียนเข้าประเทศ (VISA Registration) หรือการถูกปรับในกรณีที่ขึ้นรถไฟโดยไม่มีตั๋ว หรือเป็นผู้เสพสารเสพติด หรือเป็นโรคติดต่อ

อย่างไรก็ดี แม้ว่า วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า ทางการรัสเซียกำลังจะพิจารณาเพื่ออนุญาตให้แฟนบอลที่มีตั๋วเข้าชมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 เดินทางเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องขอ VISA ในช่วงของการแข่งขัน เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก

ทว่า แบ็คแพ็คเกอร์ ผู้ต้องแบกเป้ไปดูบอลโลกที่รัสเซียแบบไม่ง้อทัวร์ จำเป็นต้องมีข้อมูลเกี่ยวกับ VISA เข้าประเทศรัสเซียอยู่ในมือพร้อมกับตั๋วดูบอลโลกรอบสุดท้ายด้วย เพื่ออรรถรสและความราบรื่นตลอดการเดินทาง

แม้ว่าในปัจจุบัน ประเทศไทยและประเทศรัสเซีย จะมีข้อตกลงร่วมกันในการยกเว้นการตรวจลงตรา VISA ซึ่งเป็นไปเพื่อจุดประสงค์ของการท่องเที่ยวที่ไม่เกิน 30 วัน ผลของสัญญาทำให้ทั้งคนไทยและคนรัสเซียสามารถเข้าเดินทางไปเที่ยวในประเทศคู่สัญญาได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าก่อนเดินทางได้ก็ตาม

ทว่า ข้อควรรู้เกี่ยวกับ VISA เข้ารัสเซียก็คือ แม้จะได้รับการยกเว้น VISA กรณีไปดูบอลโลกไม่เกิน 30 วัน แต่หากใครที่จะอยู่ดูตั้งแต่นัดเปิดสนามจนถึงนัดชิง คือตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน ถึง 15 กรกฎาคม ก็นับรวมได้ 32 วัน ยังไม่นับวันเดินทางมาถึงหรือวันเดินทางกลับอีกวันสองวัน ซึ่งถือว่าเกินจากข้อตกลงในคู่สัญญาเรื่อง VISA ระหว่างรัสเซียกับไทย

ทางที่ดีควรทำเรื่องไปที่สถานทูตสหพันธรัฐรัสเซียประจำราชอาณาจักรไทย โทร. 02-234-9824 และ 02-268-1169 ล่วงหน้าก่อนเดินทาง เมื่อได้รับการพิจารณาผ่าน ก็จะได้ VISA เข้ารัสเซียได้นานถึง 90 วัน

ในกรณีทั่วไปที่ไม่มีกำลังทรัพย์พอจะอยู่ที่รัสเซียยาวนานกว่า 30 วันตั้งแต่นัดเปิดสนามจนถึงนัดชิง ซึ่งแม้ว่าคนไทยจะได้รับการยกเว้น VISA เข้ารัสเซียได้ถึง 30 วัน ทว่า ใครก็ตามที่ปรารถนาจะอยู่ในรัสเซียมากกว่า 7 วัน จะต้องดำเนินการ VISA Registration หรือการลงทะเบียน VISA และต้องทำภายใน 7 วันหลังจากเหยียบย่างลงบนผืนแผ่นดินรัสเซียครับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook