เที่ยวข้ามทวีปยังไง ไม่ให้มีอาการ “jet lag”

เที่ยวข้ามทวีปยังไง ไม่ให้มีอาการ “jet lag”

เที่ยวข้ามทวีปยังไง ไม่ให้มีอาการ “jet lag”
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เวลาเดินทางไปเที่ยวประเทศที่อยู่คนละทวีป หรือคนละไทม์โซนกัน บางคนอาจมีปัญหาเรื่องสภาพร่างกายยังปรับตัวไม่ได้ หรือที่เรียกว่า  “jet lag” (เจ๊ตแล็ก) จึงทำให้มีอาการเพลีย เพราะร่างกายยังคุ้นชินกับเวลาเดิมในบ้านเราอยู่

แต่ปัญหานี้จะหมดไปถ้าลองทำตามคำแนะนำดีๆ จากเว็บไซต์ elitedaily.com ที่ Sanook! Travel นำมาฝากกันในวันนี้

1.ใส่ใจตั้งแต่การเลือกจุดหมายปลายทาง

หากคิดจะท่องเที่ยวโดยไร้อาการเจ๊ตแล็ก ก็ควรใส่ใจตั้งแต่การเลือกประเทศที่จะเดินทางไป แต่ข้อนี้ เราอาจได้เปรียบอยู่เล็กน้อย เพราะการเดินทางข้ามทวีปจากเอเชียไปยุโรป ร่างกายจะปรับตัวได้ง่ายกว่า

เนื่องจากมีช่วงเวลาในแต่ละวันที่ยาวนานกว่า ขณะที่การเดินทางจากยุโรปมาเอเชีย ช่วงเวลากลางวันจะสั้นกว่า จึงปรับตัวได้ยากกว่า

2.เดินทางไปถึงในช่วงกลางวัน

การเดินทางไปถึงประเทศนั้นๆ ในช่วงกลางวัน จะช่วยให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า และพร้อมสำหรับการท่องเที่ยวมากกว่า เพราะการเดินทางไปถึงในช่วงที่ท้องฟ้ามืดแล้วจะทำให้เรารู้สึกอยากนอนมากกว่า

เนื่องจากสารเมลาโทนินที่ช่วยในการนอนหลับ มักจะหลั่งออกมาเมื่อมีความมืดเป็นตัวกระตุ้น

3.ไม่ดื่มแอลกอฮอล์บนเครื่องบิน

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้ช่วยให้หลับสบายอย่างที่หลายคนคิด แต่กลับทำให้ร่างกายรู้สึกอ่อนเพลียหรือเมาค้างเสียมากกว่า จึงควรหลีกเลี่ยงการดื่มขณะนั่งอยู่บนเครื่องบิน หากไม่อยากให้ทริปหมดสนุกตั้งแต่ยังเดินทางไปไม่ถึงจุดหมายปลายทาง

4.ไม่พึ่งยานอนหลับ

แม้หลายคนมักพึ่งยานอนหลับ เพื่อให้ช่วงที่อยู่บนเครื่องบินได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ แต่หากไฟลท์ที่บินไม่ได้ยาวนานเกินกว่า 6 ชั่วโมง ก็ควรหลีกเลี่ยงเสียดีกว่า เพราะแม้จะตื่นขึ้นมาแล้ว

ผลข้างเคียงจากยาก็ยังส่งผลต่อร่างกายไปอีกหลายชั่วโมง ซึ่งอาจส่งผลให้เรากลายสภาพเป็นซอมบี้เดินเที่ยวอย่างไร้วิญญาณได้

5.อย่าดื่มกาแฟมากเกินไป

การดื่มกาแฟที่มากเกินไปอาจไม่ส่งผลดีนัก เพราะคาเฟอีนที่อยู่ในกาแฟจะไปกระตุ้นการทำงานของสมอง ทำให้ร่างกายมีความตื่นตัว ไม่รู้สึกง่วงนอน และเมื่อถึงเวลาเข้านอนก็อาจข่มตาให้หลับได้ยากยิ่งขึ้น ซึ่งมีผลให้นอนหลับได้ไม่เต็มอิ่มอย่างที่ควรเป็น

6.ใช้พลังงานให้เต็มที่

เมื่อเดินทางไปถึงจุดหมายปลายทางแล้ว อย่ามัวแต่ขลุกอยู่ในโรงแรม แต่ควรออกไปท่องเที่ยวจนกระทั่งหมดวัน เพื่อให้ร่างกายได้ใช้พลังงานอย่างเต็มที่ ซึ่งนอกจากจะคุ้มกับที่เดินทางมาไกลแล้ว ก็ยังช่วยให้เรานอนหลับได้ง่ายขึ้นด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook