หนาวสะใจ ต้องไปภูแผงม้า

หนาวสะใจ ต้องไปภูแผงม้า

หนาวสะใจ ต้องไปภูแผงม้า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ก่อนอื่นผมต้องขอย้ำไว้ก่อนนะครับว่า สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ชื่อภูแผงม้า ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ซึ่งครอบคลุมพื้นที่รอยต่อสองจังหวัด คือ อ.นครไทย จ.พิษณุโลก และ อ.ด่านซ้าย จ.เลย ทั้งยังมีอาณาเขตติดกับ อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ไม่ใช่เขาแผงม้าที่ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ที่ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมไปแอบดูฝูงกระทิงออกหากินกัน ชื่อของสองสถานที่นี้ค่อนข้างคล้ายกันแต่ทว่าตั้งอยู่กันคนละทิศทาง เกรงว่าประเดี๋ยวคุณผู้อ่านจะเดินทางไปผิดที่แล้วจะไม่เห็นทิวทัศน์ความงดงามทางธรรมชาติอย่างมหัศจรรย์เหมือนอย่างที่ผมได้ไปพบเห็นมา

dsc00866

อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ถือเป็นแหล่งกำเนิดของประวัติศาสตร์การสู้รบอันยาวนานเป็นพื้นที่สร้างวีรกรรมของนักรบไทย ด้วยสาเหตุความขัดแย้งทางแนวความคิดทางการเมืองจนนำไปสู่ความสูญเสียชีวิตเลือดเนื้อและน้ำตา ภาพประวัติศาสตร์อันน่าเศร้าสลดที่เกิดขึ้น ณ ที่นี้ ตลอดจนสภาพสิ่งก่อสร้างในอดีตได้ถูกบันทึกเก็บรักษาไว้ เพื่อให้อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษาถึงผลของการใช้กำลังเข้าประหัตประหาร ความสูญเสียที่ไม่สามารถประเมินค่าได้ยังคงติดตาเหล่านักรบและยังคงก้องกังวาลอยู่ในห้วงระลึกถึงของคนชาติไทยตราบมาจนทุกวันนี้

img_1085

กลางปี พ.ศ.2525 เสียงกระสุนปืนนัดสุดท้ายได้แผดก้องจากป่าบนภูหินร่องกล้าซึ่งในสมัยนั้นเรียกกันว่าภูขวาง ไม่มีใครรู้ว่าเป็นเสียงปืนของฝ่ายไหน แต่มันได้เงียบจนจางหายไปพร้อมกับแกนนำกลุ่มคอมมิวนิสต์ ฝ่ายนักศึกษาผู้ยึดมั่นในอุดมการณ์ และกลุ่มชาวม้งในพื้นที่คลายมือที่จับปืนบ่ายหน้าเดินออกมาจากราวป่าซบหน้าเข้ากับบ่าไหล่ของผู้ที่เฝ้ารอคอยการกลับมา น้ำตาแห่งความปิติหลั่งล้นรวมลงอาบนองพื้นปฐพี ลูกที่พลัดพรากหลานที่เคยจากวันนี้เขาได้กลับไปสู่บ้านที่เคยอุ่น แม้ว่าบางครอบครัวจะผิดหวังกับการรอคอยอย่างเปล่าประโยชน์ แต่การได้ไปยืนชะเง้อมองหาลูกหลานในวันนั้นก็ยังเป็นการดีกว่าการเฝ้ารออยู่ที่บ้านตน  จวบจนคนสุดท้ายได้ก้าวเดินออกมา ต้นหญ้าไหวเอนฝุ่นดินคลุ้งแผ่วบางยอดไม้สูงต่ำพริ้วไหวไปตามลมราวกับเป็นการโบกมืออำลาครั้งสุดท้ายหลังจากอยู่ร่วมชีวิตท่ามกลางเสียงปืนกันมานานนับสิบปี และภาพนั้นคือฉากสุดท้ายของสมรภูมิภูขวางก่อนการเริ่มต้นตำนานภูหินร่องกล้าในปัจจุบัน

img_1249

 ผมขับรถยนต์ไปตามทางลาดยางจาก จ.พิษณุโลก มุ่งหน้าสู่ อ.นครไทย แล้วไต่ระดับความสูงในเส้นทางคดโค้งสูงชันไปจนถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า หลังอิ่มอร่อยกับเมนูอาหารสุดแซบของร้านรังทองซึ่งเป็นร้านอาหารที่ตั้งอยู่ในที่ทำการอุทยานฯ เรียบร้อยแล้ว จึงได้ออกเดินทางต่อไปยังลานหินปุ่มที่อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 4 กิโลเมตร   ลานหินปุ่มมีลักษณะเป็นหน้าผาและลานหินผุดขึ้นเป็นปุ่มไล่เลี่ยกัน นักธรณีวิทยาคาดว่าเกิดจากการสึกกร่อนตามธรรมชาติของหินทางเคมีและฟิสิกส์ ในอดีตบริเวณนี้ใช้เป็นที่พักฟื้นของคนไข้เนื่องจากอยู่บนหน้าผา จึงมีลมพัดเย็นสบายเหมาะแก่การนั่งพักผ่อนหรือพักฟื้นของผู้ป่วยที่บาดเจ็บจากการสู้รบ  ไม่ไกลกันมากเป็นที่ตั้งของผาชูธง เป็นจุดที่สามารถเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกล โดยเฉพาะภาพวิวพระอาทิตย์ตกจะสวยงามไม่แพ้จุดชมวิวอื่นๆ บริเวณนี้เคยเป็นสถานที่ที่กลุ่ม ผกค.จะขึ้นไปชูธงผืนแดงรูปฆ้อนเคียวทุกครั้งที่รบชนะทหารของฝ่ายรัฐบาล ปัจจุบันมีธงชาติไทยปลิวไสวให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวชมได้ปีนป่ายขึ้นไปถ่ายภาพกันอย่างภาคภูมิใจ

img_1209

แต่ที่จะมาแนะนำกันในวันนี้นั้นคือจุดท่องเที่ยวจุดใหม่ ที่ทางอุทยานฯ ได้ทำการปรับพื้นที่ไว้ได้อย่างสวยงาม ถือได้ว่าเป็นจุดชมทะเลหมอกได้อย่างสวยงามที่สุดอีกจุดหนึ่งนั่นคือ ภูแผงม้า การเดินทางนั้นสามารถไปได้สองเส้นทาง เส้นทางแรกคือเริ่มจากอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ให้ขับรถไปทางโรงเรียนการเมืองแล้วเลยไปอีกไม่ไกลช่วงก่อนถึงทางแยกเข้าภูทับเบิก จะมีป้ายอยู่ทางขวามือเขียนว่าภูแผงม้า           จากจุดนี้เส้นทางค่อนข้างลำบากสักหน่อยรถตู้ไม่สามารถขึ้นไปได้ แม้ว่าจะเป็นเพียงระยะทางสั้นๆ แต่ถ้าเป็นรถกระบะจะสะดวกกว่า และหากเดินทางมาจาก อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ก็สามารถเดินทางขึ้นมาได้เช่นเดียวกันให้เดินทางมาตามป้ายอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ไต่ภูเขาในเส้นทางคดโค้งสูงชัน เส้นทางนี้คนขับรถต้องใช้ประสบการณ์กันมากสักหน่อยนะครับ เมื่อผ่านด่านของอุทยานฯ และป้ายทางเข้าภูทับเบิก ให้ขับตรงผ่านด่านของอุทยานฯไป ไม่ไกลมากนักก็จะถึงทางเข้าภูแผงม้า เช่นเดียวกันครับใช้รถกระบะจะสะดวกกว่า

 

จุดชมทิวทัศน์ภูแผงม้านั้นสามารถเดินทางไปชมความสวยงามกันได้ตลอดทั้งวัน หากเป็นในช่วงเช้าและช่วงเย็นจะได้เห็นเมฆหมอกลอยมาอย่างใกล้ชิดทีเดียว จนบางครั้งผมรู้สึกว่ามีเมฆลอยผ่านตัวผมไป เมื่อมองไปเบืองล่างจะเห็นทิวภูเขาน้อยใหญ่ลดหลั่นกันไปจนสุดสายตา ทางขวามองเห็นได้ไกลถึงเขาค้อเห็นวัดพระธาตุผาซ่อนแก้วตั้งอยู่บนสันเขาที่ตัวเรานั้นอยู่ในจุดชมวิวที่สูงกว่า ทางซ้ายมองเห็น อ.หล่มเก่า ทิวถนนคดโค้งไต่ไปตามภูเขาวกวนไปมาน่าอัศจรรย์ใจ ทางอุทยานฯ ได้จัดทำระเบียงขนาดใหญ่แข็งแรงไว้สำหรับให้นักท่องเที่ยวได้ยืนชมความสวยงามทางธรรมชาติ และในอนาคตได้มีการวางแผนดำเนินการสร้างบ้านพักและจุดกางเต้นท์ไว้บริการอย่างสะดวกอีกด้วย

ผมยืนเก็บภาพบรรยากาศสวยๆ ไว้ในโสตแห่งความทรงจำ ท่ามกลางสายลมหนาวและมวลเมฆหมอกขาวลอยคละคลุ้งอยู่รอบตัว อีกไม่นานหมอกขาวก็จะผ่านพ้นเคลื่อนตัวไปปกคลุมยอดเขาด้านข้าง คงเหลือไว้เพียงความเหน็บหนาวห่อหุ้มร่างเล็กๆ ให้รู้สึกสั่นสะท้านในทรวง นี่คือความสะใจที่ธรรมชาติได้มอบให้ไว้เป็นรางวัลแห่งการตรากตรำงานหนักมาเกือบปี ณ ที่แห่งนี้ ภูแผงม้า อุทยานภูหินร่องกล้า ดินแดนแห่งผู้เสียสละเพื่อประเทศชาติอย่างแท้จริง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook