“ขอบคุณมะเร็ง ที่ทำให้ฉัน มีวันนี้…”

“ขอบคุณมะเร็ง ที่ทำให้ฉัน มีวันนี้…”

“ขอบคุณมะเร็ง ที่ทำให้ฉัน มีวันนี้…”
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

… วันที่ฉันได้เที่ยวรอบโลกและมีองค์กรการกุศลของตัวเองเพื่อช่วยเหลือเด็กมากมายที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง…– 

เอโลน่าได้รับการวินิจฉัยว่า เธอเป็นมะเร็งกระดูก และในตอนแรก คาดการณ์กันว่า เธอไม่น่าจะมีชีวิตรอดเกินอายุ 12 ปี ทว่า หลังจากการบำบัด 2 ปี อย่างอดทน ปัจจุบัน เอโลน่ามีอายุ 23 ปี เธอมีสุขภาพแข็งแรง

“ฉันมองไปที่ผู้คนมากมาย ทั้งคนในวัยเดียวกับฉัน คนที่แก่กว่าฉัน ฉันได้พบว่า ทุกๆคน จะมีเรื่องบางอย่างในชีวิต ที่ทำให้พวกเขากลัว และไม่กล้าที่จะเริ่มทำอะไรในสิ่งที่พวกเขาอยากทำจริงๆ”

“แต่ฉันไม่อยากเสียโอกาสที่จะได้ทำในสิ่งที่ฉันอยากทำในตอนที่ฉันยังมีแรงทำ ฉันไม่อยากเห็นคนอื่นๆ ทิ้งความฝันในวัยหนุ่มสาวของพวกเค้าไป เพียงเพราะใครบางคนบอกพวกเขาว่า คุณไม่มีเวลาพอ หรือ คุณไม่มีเงินพอที่จะทำมันหรอก…”

“มันอยู่ที่การจัดการของตัวคุณเอง”
“มันไม่ได้ง่ายเสมอไป แต่มันไม่ได้ยาก ทุกคนมีเวลาเท่ากัน คุณมีเวลาของคุณเอง แม้แต่คนที่ยุ่งที่สุดในโลก เขาก็มีเวลาของเขาเช่นกัน” เอโลน่ากล่าว

“… เพราะฉะนั้น ฉันเลยเน้นไปที่ทริปสั้นๆ สุดสัปดาห์ เที่ยวที่ไหนก็ได้ บางครั้งก็ไม่ได้วางแผนล่วงหน้ามากนัก”

นั่นเอง ที่เป็นเหตุผลที่ทำให้เธอสร้างบล็อกของเธอขึ้นมา ชื่อว่า “Elona the Explorer” หรือ “เอโลน่า พาท่องโลก” (http://www.elonatheexplorer.com/) 

“มีคนจำนวนมาก ทิ้งงานและเงินดีๆมากมาย เพียงเพื่อจะได้ “มีเวลามากขึ้น” ในการท่องเที่ยวไปตามที่ต่างๆทั่วโลก สำหรับฉัน ฉันตัดสินใจที่จะเดินทงไปทั่วโลก โดยที่ยังสามารถทำงาน full-time ที่นิวยอร์คที่ฉันอาศัยอยู่ได้ จุดประสงค์ที่ฉันท่องเที่ยวไปตามที่ต่างๆ ก็เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้อื่น ให้พวกเขาเลิกขังตัวเองอยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมของความ “เป็นไปไม่ได้” ให้พวกเขาได้เชื่อจริงๆว่า มันเป็นไปได้ที่คุณจะท่องเที่ยวไปได้ไกลตามที่คุณต้องการ ในระยะเวลาที่จำกัดแค่ช่วงเย็นวันศุกร์ถึงค่ำวันอาทิตย์” เอโลน่าเล่าให้ฟัง

เอโลน่านอกจากจะท่องเที่ยวแล้ว เธอยังมีกองทุนการกุศลส่วนตัวอีกด้วย
“ในเวลาว่าง ฉันดูแลกองทุนการกุศลของฉัน ที่มุ่งช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสที่ป่วยด้วยโรคมะเร็ง”
“ฉันชอบช่วยเหลือผู้คน การช่วยเหลือคนอื่นเป็นบุคลิกของฉัน และเป็นจุดมุ่งหมายที่ทำให้ฉันเขียนบล็อกขึ้นมาด้วย เพื่อ “ช่วย” ให้คุณเริ่มคิดออกนอกกรอบ เมื่อพูดถึงเรื่องการเดินทางและท่องเที่ยว”เอโลน่ามักจะออกตัวว่า เธอไม่ได้เป็นบล็อกเกอร์ท่องเที่ยว ที่มักจะทำรีวิวแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว หรือเสนอวิธีการประหยัด เธอเองยังบอกด้วยว่า เธอก็ยังคงเรียนรู้ที่จะทำยังไง ให้ทริปของเธอประหยัดมากที่สุด เหมือนที่ทุกๆคนทำ
“เป้าหมายของฉัน เพียงแค่ทำให้ทุกคนตระหนักว่า เวลาที่เรามีเท่ากัน หากจัดสรรได้ดีๆ เราจะสามารถเอาเวลาอันน้อยนิดช่วงสุดสัปดาห์ เพื่อพาตัวเองไปยังสถานที่ที่คุณจะอยากกลับไปอีกครั้งแล้วครั้งเล่า”

“การเดินทางของฉัน คือ สิ่งที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้คนมากมาย หลุดออกจากอุปสรรคใดๆก็ตามที่ขัดวางไม่ให้คุณทำสิ่งที่คุณชอบหรืออยากทำ”
“แล้วคุณจะไม่มีข้ออ้างอีกต่อไปว่า ผมไม่มีเวลา หรือ ฉันไม่มีเงินพอที่จะทำอย่างนั้นหรอก… เพราะฉันก็ไม่ได้มีเงินมากมาย แต่ฉันทำได้”

“ฉันว่าคำว่า “ประหยัด” มันกว้างเกินไปที่จะจำกัดความได้ มันไม่มีการเดินทางแบบ budget travel หรอก เพราะคำว่า “ถูก” ของคนหนึ่ง อาจ “ไม่ถูก” สำหรับใครอีกหลายคนก็ได้ เพราะฉะนั้นฉันจึงพยายามที่จะแสดงให้คนเห็นว่า ถึงคุณมีเวลาน้อย คุณทำงานตามปกติ คุณก็เดินทางท่องเที่ยวได้เสมอ”

“เพราะสำหรับฉัน มันไม่มีอะไรที่มีล้ำค่า มากไปกว่าประสบการณ์ที่คุณได้สัมผัสเวลาออกเดินทาง…”

“ใครๆก็ทำอย่างที่ฉันทำได้ ถ้าไม่มัวแต่อ้างว่าไม่มีเวลา หรือไม่มีเงิน”

“เอโลน่า” เราถามเธอต่อ “… คุณเคยเสียใจไหม ที่ป่วยเป็นมะเร็งมาก่อน? ถ้าคุณเลือกได้ คุณจะอยากเป็นเอโลน่าแบบนี้ไหม?”
“แน่นอน” เธอตอบอย่างไม่ลังเล “ฉันขอเป็นฉันแบบนี้ ฉันเข้มแข็งและเติบโตขึ้นมากจากประสบการณ์แย่ๆตรงนั้น และการผ่านเรื่องที่ไม่ดี ลองผิดลองถูก ในอดีต มันเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คุณโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์แบบ”
ใครก็ตามที่อยากทำแบบเอโลน่า นี่คือทิปส์ 10 อย่าง จากเธอ ที่คุณสามารถนำไปใช้ได้จริง

1. ปิดและล้าง “cookie” ใน browser ของคุณ ทุกครั้ง เวลาที่ไปยังเว็บจองตั๋ว จองโรงแรมต่างๆ เพราะเจ้า cookie จะคอยจำว่าคุณเคยเสิร์ชหาอะไรก่อนหน้านั้น และจะทำให้ระบบแสดงผลการค้นหาที่ราคาแพงกว่าปกติให้คุณ
“มันถูกตั้งให้คิดว่า ลูกค้ายินดีที่จะจ่าย แม้ราคาแพงขึ้น เพราะเขากลับมาที่เว็บเดิมอีกครั้งเพื่อจะจองสิ่งที่เสิร์ชเจอครั้งแรกนั้น”
2. ไม่ตึงเกินไปกับแผนท่องเที่ยว
“ฉันชอบเว็บที่นำเสนอแผนท่องเที่ยวได้หลากหลาย ไปที่ไหนก็ได้ โดยตั้งค่าให้ New York เป็นจุดเริ่มต้น”
“ฉันไปได้ทุกที่”
3. เว็บเปรียบเทียบราคาและจองตั๋วเครื่องบินอย่าง Jetradar.co.th
“ที่นี่ ได้ราคาที่ดีที่สุดเสมอ”
4. เว็บจองโรงแรม Hotel Tonight
เจ้าแอพนี้ เป็นแอพที่ฉันชอบมากที่สุดแอพหนึ่ง เพราะฉันได้ดีลโรงแรมดีๆมากมาย เป็นระยะๆ
5. ซื้อตั๋ววันอังคารหรือพุธ เพราะราคาตั๋วต่ำที่สุดเสมอ
6. รีเสิร์ช รีเสิร์ชและรีเสิร์ช
“ฉันทำเรื่องวางแผนการเงินในบริษัท ฉันอยู่กับการรีเสิร์ช”
“แน่นอน เมื่อพูดถึงการท่องเที่ยวส่วนตัว การรีเสิร์ชก็ช่่วยให้ฉันประหยัดเงินได้เยอะ เพราะฉันจะคอยเทียบเสมอ ว่าที่ไหนจองอะไรได้ถูกจริง”
“ทุกวันนี้ ฉันก็ยังคงตามบล็อกเกอร์ท่องเที่ยวมากมาย อ่านทุกทิปส์ที่เขาแนะนำ บางครั้งยังส่งอีเมล์ไปขอคำแนะนำเรื่องสถานที่เที่ยวที่เขาไปล่าสุด ก็มี”
7. ตั้งงบก่อนไป
“ฉันจะตั้งงบไว้ก่อนทั้งหมด ตั้งแต่ราคาอาหาร ไปจนถึงทัวร์”
“ดีที่สุด ทำตารางใส่ในไฟล์ Excel พร้อมกับทำงบการเงินแบบง่ายๆ”
8. มีแผนสองเสมอ
“อย่างตอนที่ฉันไปดูไบ ฉันมีเวลาค่อนข้างจำกัด ฉันเลยเตรียมโปรแกรมเที่ยวไว้ถึง 4 แผน กันพลาด”
9. ไม่ต้องจองทุกอย่างล่วงหน้า
“ฉันไม่เคยจองอะไรล่วงหน้า จนกว่าฉันจะรีเสริ์ชดีแล้วว่า นั่นเป็นราคาที่ถูกที่สุด”
“บ่อยครั้ง ฉันมักจะเลือกถามเอาจากคนในพื้นที่มากกว่า อย่างฉันนั่งทานอาหาร ก็จะถามน้องเด็กเสิร์ฟว่า มีที่ไหนน่าเที่ยวแถวนั้นบ้าง และราคาประมาณเท่าไหร่”
10. สร้างนิสัยการออม
“ทุกครั้งที่ได้เช็คเงินเดือน หรือเช็ครายได้จากงานอื่นๆ ฉันจะหักเก็บเข้าบัญชีหนึ่ง ที่ฉันเลือกแล้วว่า ได้ดอกเบี้ยสูงแน่นอน หักเข้าบัญชีนั้นทุกครั้งจนเป็นนิสัย”
“เอโลน่า… เราถามคุณตรงๆนะ คุณไม่อยากย้ายไปอยู่ที่อื่นหรือ? คุณสามารถทำงานผ่านอินเตอร์เน็ต ในขณะที่กำลังจิบไวน์ที่ฝรั่งเศส หรือประหยัดเวลาในการเดินทางได้มากกว่า ถ้าย้ายมาแถบเอเชีย…”

เอโลน่าตอบกับเราอย่างไม่ลังเล:
“ฉันเป็นชาวนิวยอร์คโดยกำเนิด และในความคิดของคนนิวยอร์คแล้ว เราแทบนึกภาพของตัวเองย้ายไปอยู่ที่อื่นแทบไม่ออกเลย… ไม่แม้แต่จะย้ายไปสัก 4-5 ปี สำหรับฉัน ฉันไม่เห็นว่าจะมีที่ไหนอีก ที่จะเรียกได้ว่าเป็น “บ้าน” ของฉัน นอกจากที่นิวยอร์ค ไม่ว่าจะไปที่ไหน สวยแค่ไหน ฉันก็อยากจะหหลับมานอนที่บ้านอยู่ดี ฉันรักนิวยอร์ค ฉันอยากอยู่ที่นิวยอร์ค เที่ยวรอบโลก ก่อนกลับบ้านของฉันที่นิวยอร์ค”

มีหลายครั้ง ที่เธอได้รับข้อเสนอดีๆ ให้ย้ายไปทำงานแนวอิสระที่ต่างประเทศ
“ฉันไม่เคยนึกถึงข้อเสนอเหล่านั้นแม้แต่น้อย…”
“ฉันชอบทำงานกับผู้คนกลุ่มใหญ่ สนุกสนานกับงานในองค์กร ที่ซึ่งฉันจะได้ประโยชน์จากสภาพแวดล้อมในการทำงานกับคนหมู่มากขององค์กร ฉันได้เรียนรู้ความสำเร็จใหม่ๆ ประสบการณ์ใหม่ๆจากเพื่อนร่วมงาน การแบ่งเวลาและจัดสรรหน้าที่งาน ที่ฉันต้องทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จภายใน 40+ ชม.ต่อสัปดาห์ ก่อนจะออกไปเที่ยว นอกจากนี้ คุณยังได้ประกันสุขภาพและประกันชีวิต และสวัสดิการอื่นๆฟรี ซึ่งคุณจะไม่มีหากทำงาน freelance”
“อีกอย่างที่สำคัญ คือ ครอบครัวของฉันอยู่ที่นี่ แะฉันอยากอยู่กับพวกเขาให้ใกล้ที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้”

ปัจจุบัน เอโลน่าได้รับข้อเสนอมากมายจากเว็บจองตั๋ว จองโรงแรม และบริษัทท่องเที่ยวยักษ์ใหญ่มากมาย ให้เธอเลิกทำงาน full-time และออกมาท่องเที่ยวอย่างเดียว

“หลายคนมักคิดว่า การทำงาน fullt-time ในบริษัท จะทำให้ไม่ได้เที่ยว ฉันจึงไม่อยากลาออกจากงานประจำ เพื่อจะได้พิสูจน์ให้คนจำนวนมากได้เห็นว่า มันเป็นแค่ข้ออ้างและแนวคิดที่ผิด”
“คุณยังสามารถทำงานประจำของคุณได้เต็มที่ สำหรับฉันเอง ตรงกันข้าม ฉันชอบทำงานหนัก และยังขอดูแลโปรเจ็กต์เพิ่มเติมของบริษัท เพื่อให้ทุกคนเห็นว่า คุณจริงจังกับการทำงานแค่ไหน และฉันก็เป็นคนทำงานหนักและจริงจังเสียด้วย”

“แสดงว่า คุณมีความคิดต่อต้านงาน freelance?” พวกเราถามเอโลน่า
“เปล่าค่ะ โดยส่วนตัว ฉันต้องการความมั่งคงในชีวิต สำหรับฉัน ฉันคิดว่างาน freelance ต้องใช้เวลานานมาก กว่าจะสร้างตัวตนที่ชัดเจนจนทำให้คนอื่น buy-in ความเป็นตัวคุณ และเริ่มสร้างรายได้ที่มั่นคงจริงๆและยังยากยิ่งกว่าที่จะแข่งกับคู่แข่งใหม่ๆที่เกิดขึ้นทุกวันๆ ฉันทำงานประจำในบริษัทแบบนี้ ฉันมีสวัสดิการหลายๆอย่างที่ทำให้ฉันไม่ต้องจ่ายด้วยตัวเอง และทำให้ฉันสามารถนำเงินไปทำอย่างอื่น หรือไปลงทุนส่วนตัวได้ ฉันคิดว่า การทำงานประจำ เป็นห่วงชูชีพที่มั่นคงกว่าสำหรับฉัน”

“พวกเรามาจากเมืองไทย ในประเทศไทย เรามี “เน็ตไอดอล” มากมาย ที่ลงรูปไปเที่ยวที่นั่นที่นี่ พร้อมคำพูดสวยๆ ที่พูดถึงอิสระทางการเงินหรืออิสระของการไม่ต้องทำงานประจำ หลายๆคนคงจะนับคุณเป็นหนึ่งในเน็ตไอดอลของพวกเขาเช่นกัน” เราถามเอโลน่า

“แค่กล้าที่จะออกไปเที่ยว ช่วยเหลือคนอื่นที่ด้อยโอกาสกว่า และใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ นั่นแหล่ะ…”เอโลน่ากล่าว
เอโลน่ายังไม่เคยเดินทางมาประเทศไทย เราเชื้อเชิญให้เธอลองมาสัมผัสความสวยงามของประเทศไทยบ้าง
“ยินดีมากเลยค่ะ” เธอกล่าว
“แต่ฉันชอบวางแผนล่วงหน้ามากสุดแค่ 2 อาทิตย์ก่อนเดินทาง ทุกอย่างขึ้นอยู่กับว่า ฉันจะเสิร์ชเจออะไรที่ชอบใจ และลงตัวตามที่ฉันต้องการ”

“ขอบคุณที่เชิญนะคะ ถ้ามีโอกาส ฉันจะเดินทางไปแน่นอนค่ะ” เอโลน่าตอบ

เรามีเวลาจำกัดมาก เพราะเธอกำลังต้องไปสนามบินเพื่อขึ้นเครื่องแล้ว
“คุณอยากฝากอะไรทิ้งท้ายให้คนไทยบ้างครับ?”

“รู้จักคุณค่าของเวลาที่คุณมีค่ะ…” เอโลน่ากล่าว

“ถ้าคุณอยากเที่ยว ก็แค่เที่ยว ไม่ต้องคิดนาน ชอบที่ไหน อยากไปที่ไหน ก็ไปเลย”
“ถ้าคุณห่วงเรื่องวันลา ฉันจะบอกว่า ฉันใช้วันลาแค่ครั้งละ 2-3 วันเท่านั้น เพื่อรวมเข้ากับวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ยาวๆ แค่นี้ คุณก็จะได้วันลายาวๆ หลายๆครั้งต่อปี โดยที่ไม่ต้องเสียวันพักร้อนทั้งหมด” เอโลน่า ทิ้งท้ายให้เราฟังสั้นๆ

ขอบคุณรูปภาพประกอบ:
 http://www.elonatheexplorer.com/ 
 https://www.instagram.com/elonachka/ 



[Advertorial]

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook