Bangkok Screening Room โรงหนังแนวอินดี้ ย่านสีลม

Bangkok Screening Room โรงหนังแนวอินดี้ ย่านสีลม

Bangkok Screening Room โรงหนังแนวอินดี้ ย่านสีลม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ครั้งนี้ iPick แอปพลิเคชั่นแนะนำร้านอาหารไม่ได้มาพร้อมกับร้านอาหารธรรมดา ๆ ให้ชาวสนุก! ตามไปชิมกันเช่นเคย แต่ครั้งนี้ มาพร้อมกับโรงหนังอิสระ เอาใจคนรักหนังนอกกระแส ด้วยรีวิวโรงหนังไซส์มินิที่เปิดใหม่บนถนนพระราม 4 ให้ตามไปดูกัน ได้ลายแทงไปแล้ว อย่าลืมติดตามความอร่อยจากเรากันได้ทางเพจ iPickth

การเปิดตัวของโรงหนังหน้าใหม่ในซอยศาลาแดง 1 เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา น่าจะเป็นข่าวดีที่หลายคนในวงการทำหนังอิสระต่างรอคอย เพราะ Bangkok Screening Room หรือ BKKSR โรงภาพยนตร์ไซส์กะทัดรัดของทีมเจ้าของทั้ง 3 คน คุณมิ้ว ศริญญา มานะมุติ คุณเม่น วงศรน สุทธิกุลพาณิช และคุณ Nicholas Hudson-Ellis ที่ต่างได้นำเอาความชื่นชอบการดูหนังกันเป็นชีวิตจิตใจ มาเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจที่อยากจะลดช่องว่างและสนับสนุนคนทำหนังอย่างจริงจัง ด้วยการฉายภาพยนตร์คลาสสิกและภาพยนตร์อิสระทั้งไทยและเทศ ให้คนรักหนังได้มีโอกาสเข้าถึงกันง่ายขึ้น

“ด้วยความที่เราสามคนชอบหนังและงานศิลปะเหมือนกัน แถมยังเคยทำ Film Festival สนุก ๆ กันบนรูฟท็อปของ Hof Art Residency และในงาน Wonderfruit มาก่อน เราเลยได้ข้อมูลจากคนดูหนังทั่ว ๆ ไปและนักท่องเที่ยวในไทยว่าการหาดู Independent Content ดี ๆ ในไทยนั้นเป็นไปได้ยาก จะดูหนังไทยคลาสสิกสักเรื่องอาจจะต้องไปไกลกันถึงหอภาพยนตร์ ซึ่งมันไม่สะดวกกับคนบางกลุ่ม ทั้งการเดินทางและการสื่อสาร” คุณมิ้วเล่าให้เราฟัง

อย่างที่กล่าวไป ภาพยนตร์ไทยอิสระและภาพยนตร์ต่างชาติมีทั้งแบบคลาสสิกและสารคดีที่หาดูยาก อาทิ Breakfast at Tiffany, Mad Tiger, Comrade Kim Goes Flying, The Third Man, ลุงบุญมีระลึกชาติ, Vertigo ของผู้กำกับชื่อดัง Alfred Hitchcock โดยจะสลับผลัดเปลี่ยนกันไม่ซ้ำทุก 3 สัปดาห์ จำกัดที่วันละ 3 รอบสำหรับวันธรรมดา และวันละ 5 รอบสำหรับวันเสาร์-อาทิตย์ ใครที่สนใจมาชมก็เช็ครอบหนังและจองตั๋วแบบออนไลน์กันได้บนหน้าเว็บ www.bkksr.com  โดยสนนราคาอยู่ที่ใบละ 300 บาท ซึ่งทุก ๆ 50% ของรายได้จากการขายบัตรจะแบ่งให้กับผู้ผลิตหนังโดยตรง

“เราเชื่อว่าโรงหนังอิสระยิ่งมีเยอะก็ยิ่งดี เพราะในไทยตอนนี้ไม่มีที่ไหนทำการฉายหนังแบบนี้จริง ๆ จัง ๆ ต่างกับในเมืองนอกที่เค้ามี Art Space มีโรงหนัง Standalone ที่คอยสนับสนุนคนทำหนังนอกกระแสอีกแรง ซึ่งอย่างที่เรารู้กันว่าโรงหนังใหญ่ ๆ ในประเทศเรามันจะมีระบบผูกขาด (Monopoly) ซึ่งอาจจะไม่ค่อยแฟร์กับคนทำหนังสักเท่าไหร่ ดังนั้นทุนทุกอย่างในการเริ่มต้นของเรา เราเก็บเงินทำงานกันมาเองหมดเลย เพราะเราอยากให้ BKKSR เป็นอะไรที่อิสระจริง ๆ”

นอกจากนี้ BKKSR ยังเปิดรับภาพยนตร์สั้นจากคนทำหนังรายเล็กและเหล่านักศึกษาที่มองหาพื้นที่ฉายผลงานตัวเองด้วยเช่นกัน โดยจะนำมาฉายแทนโฆษณาก่อนหนังเริ่มให้คนได้ดูกัน

“การทำหนังมันมีมากกว่าดาราและผู้กำกับ มันมีทั้งทีมช่างไฟ แต่งหน้าทำผมและอีกหลายชีวิตที่ต้องช่วยกันกว่าจะมาเป็นหนังเรื่องหนึ่ง ซึ่งวัฒนธรรมไทยหลาย ๆ อย่างที่เรามักจะทำเหมือนอะไรก็ได้ ยังไงก็ได้ แต่จริง ๆ มันไม่แฟร์ โดยเฉพาะคนที่เค้าทำงานครีเอทีฟและงานดีไซน์ต่าง ๆ เพราะมันคือค่าทรัพย์สินทางปัญญา มันอาจจะเป็นอาชีพที่ไม่ชัดเจนเหมือนครู หรือพนักงานแบงค์”

ก่อนจะเข้าไปชมภาพยนตร์กันในโรงหนังขนาดย่อมกับจำนวนเก้าอี้ 52 ที่นั่งและระบบการฉายภาพยนตร์แบบ 4K (4K Cinema Projector) ทางด้านซ้ายมือ ก็แวะมารองท้องกันที่โซนบาร์ในห้องสีขาว ที่มาพร้อมกับบรรยากาศสบาย ๆ และบิลบอร์ดไฟสีโทนอบอุ่นด้านบน ซึ่งแน่นอนว่าอินทีเรียทั้งหมดเป็นผลงานการออกแบบของหนึ่งในทีม คุณเม่น กับตำแหน่ง Design Director จาก Armania Group 


“เราอยากให้ที่นี่เป็นเหมือน Hub ให้เด็กรุ่นใหม่รู้ว่าจริง ๆ วงการหนังก็ควรจะมี Standard ของมัน แล้วเราควรจะ Educate ให้คนเค้ารู้ว่า คนทำหนังก็เป็นอาชีพที่เค้าต้องการผลตอบแทนเหมือนกัน ไม่งั้นเค้าจะเอาเงินที่ไหนมาทำหนังให้คุณดู เราหวังว่าที่นี่จะเป็นการเชื่อมให้คนทำหนังและคนดูหนังได้เจอกัน โดยที่เราทำมันบนพื้นฐานความถูกต้องได้”

ใครที่ชอบหาที่นั่งพักคุยสังสรรค์กับเพื่อนหลังชมภาพยนตร์เสร็จ ก็แวะมานั่งจิบค็อกเทลพร้อมพูดคุยกับทีมเจ้าของทั้งสามกันได้ที่เคาน์เตอร์บาร์แบบเป็นกันเองที่นี่เช่นกัน เมนูอาหารมีความหนาเพียง 2-3 แผ่น บรรจุลิสต์อาหารสไตล์ฟิวชั่นไว้ตั้งแต่จานเบา ๆ ทานง่ายสำหรับรอก่อนเข้าโรง อย่างจานโปรดของเรา Larb Wonton (180 บาท) เป็นแป้งเกี๊ยวกรอบ ๆ ห่อไส้หมูสับเนื้อเด้งรสลาบ มากับหอมแดงสับและน้ำจิ้มพริกรสหวานทานเพลินดีทีเดียว หรือจะสั่งจานกับแกล้มอื่นที่น่าลอง ยังมี Cheese Platter (290 บาท) ที่ทางร้านเลือกใช้ชีสคุณภาพจากร้าน El Mercado หรือ Chicken Karaage (180 บาท) ที่มาพร้อมกับมายองเนสโชยุ

ส่วนใครที่มองหาตัวเลือกที่เต็มปากเต็มคำหน่อย แนะนำเป็น สปาเก็ตตี้ไส้อั่ว (220 บาท) ที่ผัดมากับน้ำมันมะกอก กระเทียมและพริกแห้ง หรือ Pulled Pork Slider (240 บาท) ที่มาในเบอร์เกอร์บัน พร้อมกับ Tabouleh ที่เน้นรสชาติแบบไทย ๆ ด้วยผักชีและมะนาวผ่าซีกให้บีบเพิ่มตัดเลี่ยนกัน กับชิพส์และซอสมัสตาร์ดแบบโฮลเกรน

นอกจากเบียร์คราฟต์แบบขวด อาทิ Dead Guy Rogue (240 บาท) Punk IPA Post Modern Classic IPA (280 บาท) Kagua (390 บาท) ไซเดอร์ Happy Monster (260 บาท) และวิสกี้เริ่มต้นที่แก้วละ 260 บาท แนะนำให้ลองค็อกเทลของที่นี่ โดยเฉพาะ Pink Spritzer (320 บาท) ที่ใช้จินสีม่วงสัญชาติออสเตรเลียอย่าง Ink Dry Gin ผสมกับน้ำมะนาวและไซรัปเอลเดอร์ฟลาวเวอร์ หรือชาแอลกอฮอล์เย็น ๆ Harry Brompton’s Original (190 บาท) 

ใครดื่มไม่เก่ง แนะนำสั่งดริ๊งก์เด็ก ๆ อย่างอิตาเลียนโซดา Green Apple Soda (135 บาท) Raspberry Rose Soda (135 บาท) หรือ Peach Soda (135 บาท) และแน่นอนว่ามาโรงหนัง ก็ต้องไม่พลาดสั่งป๊อบคอร์นซึ่งที่นี่มีให้เลือกทานกัน 3 รสชาติ คือรสออริจินอล (100 บาท) ป๊อบคอร์นต้มยำ (120 บาท) และป๊อบคอร์นทรัฟเฟิล (150 บาท) ให้ไปทานกันเพลิน ๆ ระหว่างดูหนังกัน 

รายละเอียดร้าน : www.ipick.com/bangkok/th/restaurant/30013437

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook