'Little Hideout' คาเฟ่สุดน่ารักบนถนนราชพฤกษ์

iPick แอปพลิเคชั่นแนะนำร้านอาหาร ที่ครั้งนี้มาพร้อมคาเฟ่น่ารัก ๆ สำหรับคนที่กำลังมองหามุมอ่านหนังสือ พร้อมขนมอร่อย ๆ ไปกับคุณเช้า หนึ่งในนักชิมของเรา แล้วอย่าลืมกดไลค์เพจเพื่อติดตามข่าวอร่อย ๆ กันที่ FB : ipickth  และ IG : ipickth 

 

สำหรับร้านเค้กอร่อย ๆ แล้ว แถบฝั่งธน หรือราชพฤกษ์ เป็นจุดที่หาขนมเค้กดี ๆ กินยากมากกกกก ขนาดเช้าเองอยู่ถนนพระอาทิตย์ ซึ่งเป็นละแวกแหล่งของกิน ก็ยังหาร้านขนม+กาแฟที่ถูกปากแทบไม่ได้เลยค่ะ จนกระทั่งเช้ามาเจอร้าน Little Hideout ซึ่งตั้งอยู่ตรงเส้นราชพฤกษ์ ทางมาก็สมชื่อ คือยากนิดหน่อย เพราะถ้าข้ามสะพานจากเส้นบรมราชชนนีเข้าราชพฤกษ์ ก็จะเลยร้าน ต้องไปยูเทิร์นกลับมาแล้วเลี้ยวเข้าเอา ถึงจะเจอซอยเข้าร้าน ตอนมาครั้งแรกก็วนหาอยู่เหมือนกัน

 

สำหรับเช้าแล้ว เรียกได้ว่า ร้าน Little Hideout เป็นเหมือน Oasis ของร้านขนมย่านนี้เลยทีเดียว เวลาที่ไม่อยากเข้าเมืองฝ่ารถติดไปกินร้านในเมืองแล้ว ร้านนี้แหละเป็นคำตอบที่ดีมาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ร้านนี้จะมีขนมเค้กมุ้งมิ้งในตู้เฉพาะวันเสาร์อาทิตย์เท่านั้นนะจ๊ะ ไปช้าก็หมดอีกตาหาก ถ้ามาวันธรรมดาจะเป็นพวกขนมจาน ๆ เช่น วัฟเฟิล เป็นต้น

 

แค่ก้าวเข้าร้าน ความประทับใจก็เริ่มเลย เพราะว่าแต่งร้านน่ารักมากกกก จริง ๆ แล้วดูสภาพเหมือนเป็นบ้านมาดัดแปลงให้เป็นร้านมากกว่า เช้าไม่ได้ถ่ายรูปร้านมาเยอะ เพราะว่าเกรงใจคนที่นั่งทานอยู่ คนนั่งทานอยู่เยอะเหมือนกัน ทั้งในห้องแอร์ และ นอกห้องแอร์ แต่วันนี้เช้านั่งนอกห้องแอร์ค่ะ ร้อนใช้ได้เลย 5555

 

พอมาถึงปั๊บ ต้องเปิดประตูบ้าน เข้าไปสั่งขนมและเครื่องดื่มกันก่อน โดยขนมเค้กมุ้งมิ้งน่ารักนั้นจะอยู่ในตู้ เวลาจะสั่งอะไรก็จิ้ม ๆ แล้วจะมีคนให้แทคชื่อขนมกับราคามาค่ะ เราต้องเอาเจ้าแทคนี่ ไปที่เคาน์เตอร์เพื่อสั่งเครื่องดื่มหรือขนมจาน ๆ เพิ่ม แล้วก็จ่ายเงิน เครื่องดื่มมีทั้งชาฝรั่ง ที่มีเทสติ้งให้ดม กาแฟมาตรฐาน เครื่องดื่มช็อคโกแลตและ เครื่องดื่มชาเขียว ทั้งร้อน เย็น และปั่น

วันนี้เช้าเลือกขนมมา 2 ตัว และเครื่องดื่ม 2 แก้วค่ะ คือ

1. Buche 175 บาท

2. La Patite Oasis 170 บาท

3. Hot Americano 65 บาท

4. Matcha Frappe 125 บาท

 

มาเริ่มดูกันเลยดีกว่า

 

Buche (ราคา 175 บาท) ส่วนผสมหลัก Gianduja

สำหรับขนมหน้าตาดูหนักช็อกโกแลตตัวนี้ รองด้วย Sable Breton วางด้านบนด้วย Pate Sucre ตกแต่งด้วยของมุ้งมิ้งรูปเห็ดและต้นมอส มีประดับด้านข้างด้วย Cacao Nips ให้สวยงามตอกย้ำความเป็นช็อกโกแลต

 

การกินขนมแบบนี้ที่ดี คือต้องกินทุกเลเยอร์พร้อม ๆ กัน แต่ขนมตัวนี้จะกินทุกเลเยอร์พร้อมกัน แล้วตัดออกมาให้สวยงาม นับเป็นเรื่องยากมาก เพราะตัว Pate Sucre ด้านบน มีลักษณะกรอบแข็ง พอตัดลงเนื้อมูสนิ่ม ๆ พาลจะทำให้กดทับลงมาทั้งหมด การตัดให้สวยงามจึงต้องเป็นเรื่องที่ใจเย็นมากเลยจ้า แต่เพื่อความอร่อยแล้วก็ย่อมทำได้

 

คำแรกที่ทานเข้าไปรส Gainduja ชัดเจน คือมีทั้งช็อกโกแลต ฮาเซลนัท มีความหอมมันแบบพราลีน (Gainduja คือช็อคโกแลตที่ผสมฮาเซลนัทเพสท์) และมีชั้นที่ให้เลเยอร์ความกรุบกรอบแบบครันชี่ ซึ่งเข้ากันดีกับชั้นของครีมและมูส เรียกได้ว่าครบรส กลิ่น สัมผัส แต่ด้วยความที่ไม่สามารถตัดออกมาให้งดงามได้ เลยแยกได้ยากว่าชั้นไหนเป็นชั้นอะไร  อันที่จริงรสชาติดีอยู่นะคะ เข้มข้น กลมกล่อม กรุบกรอบ และ นุ่มละลายในเวลาเดียวกัน แต่ด้วยความที่นั่งด้านนอกอากาสมันร้อน พอขนมเค้กมันเริ่มหายเย็น เริ่มย้วย ก็รู้สึกว่าแอบหวานเลี่ยนเล็ก ๆ (ตอนเย็นอยู่ไม่เป็นไร) เช้าก็เลยแก้ปัญหาโดยง่ายคือ รีบทานให้หมดก่อนละลายจ้า 5555

 

โดยรวมแล้วถือว่าชอบนะ ถ้าได้ทานในอากาศที่เย็น ๆ น่าจะดีกว่านี้ สิ่งที่ชอบสำหรับร้านนี้อยู่อย่างคือ ไม่มีขนมค้างคืน ทำวันไหนขายวันนั้นทำให้ตัว Sabre ทั้งบนและล่างยังมีความกรอบ ไม่ชื้นเปียกเหนียว ถูกใจคนทานสุดๆ

 

La Patite Oasis (ราคา 170 บาท) ส่วนผสมหลัก ชาเขียว ราสเบอรี่

ขนมตัวนี้ตัดง่ายกว่าตัวแรกค่ะ รสชาติจริง ๆ ก็กินง่ายกว่าด้วย ไม่ได้เข้มข้นมาก แต่กลับเบา ๆ สดชื่นสมชื่อ Oasis  จิ๋วหลิว มองจากภายนอกเลย คิดว่า โอ้โห ต้องหวาน ๆ กับกลิ่นชาเขียวหนัก ๆ แน่เลย มันจะเข้ากันกับรสเปรี้ยว ๆ ของราสเบอรี่เหรอ ด้วยความสงสัย ก็เลยลองสั่งดู

 

ปรากฎว่า คำแรกที่ทานเข้าไป ผิดคาดค่ะ เป็นรสหวานเบา ๆ ละมุน ๆ เนื้อเค้กฉ่ำมีบอดี้ ไม่แน่นไป ไม่เบาไป ชาเขียวไม่ได้กลิ่นจัดแบบวิ่งมาต่อยจมูก แต่มีความหอมนุ่มเบา ๆ ที่จะมีรสเปรี้ยวของ Raspberry Gelee และ ความหอมนุ่มวานิลาครีม นำมาก่อน พอรสทั้งสองหายไปจากปากแล้ว กลิ่นของชาเขียวถึงค่อยอบอวลขึ้นมา โดยที่ไม่ทิ้งความขมเอาไว้เลย แปลว่าต้องใช้ชาเขียวที่ดีมาก ๆ แอบถามเจ้าของร้าน ค้นพบว่า ใช้ชาเขียวเกรดชงของ Uji ซึ่งราคาต่อกิโลถือว่าสูงพอควรเลย (มิน่าละ)

 

อันนี้สามารถพูดได้เต็มปากเต็มคำค่ะ ว่าชอบมากกว่าอันแรก เพราะสามารถทานได้ไม่รู้สึกแน่นเลย แป๊บ ๆ หายแว๊บบบบบบ

 

Hot Americano (ราคา 65 บาท)

“อยากจะชิมกาแฟที่ไหน ให้เริ่มจากชิมอเมริกาโน่” เพื่อนนักชงกาแฟชาวมาเลเซียท่านหนึ่งได้เคยกล่าวไว้ เพราะว่าถ้าสั่ง Espresso แล้วถ้าชงไม่ดี นี่คือกินไม่ได้เลย แต่อเมริกาโน่ ยังพอกินได้ แล้วก็ไม่มีรสของนมมากลบกาแฟด้วย

อเมริกาโน่ร้อนของที่นี่ ชิมแล้ว ขอคาดเดาว่าสายกาแฟโบราณไม่น่าจะชอบ เพราะมีรสออกเปรี้ยว ซึ่งจริง ๆ มีรสเปรี้ยวก็กินแล้วชุ่มคอดีนะคะ อันนี้เป็นความเพลินแบบส่วนตัว แต่ความเปรี้ยวของร้านนี้เป็นความเปรี้ยวแบบไม่ซับซ้อน ไม่ได้เปรี้ยวโดด แต่ยังไม่ค่อยมีมิติ ดื่มได้ แต่ยังไม่สุนทรีย์มาก แต่ก็ถือว่าโอเคจ้า

 

 

Matcha Frappe 125 บาท

ตัวนี้เช้าถือว่ากลาง ๆ คือไม่เข้มข้นมาก แต่ก็สดชื่นดี ชาเขียวทานเพลิน ๆ เบา ๆ ข้อดีคือไม่หวานมากค่ะ แต่ถ้าจะให้ชอบจริงคงจะชอบข้น ๆ กว่านี้  แต่ถ้าดูจากสภาพอากาศแล้ว ทานเบา ๆ แบบนี้ก็ดีนะ

 

บทสรุปของร้านนี้ เป็นร้านที่ขนมดี (ขนมจานแบบร้อนๆ เช้ายังไม่ได้ลองทานนะคะ) ดูจากการจัดร้าน การปลูกต้นไม้ การทำขนมเค้กที่มีเลเยอร์เยอะๆ การเลือกใช้วัตถุดิบแล้ว ถือว่าเป็นร้านขนมที่ตั้งใจมากเลยทีเดียว ยิ่งบรรยากาศของการที่มีคุณพ่อ คุณแม่ มาช่วยคุณลูกทำร้านกาแฟแล้วด้วย ยิ่งรู้สึกอบอุ่น ขนมเองรสชาติอาจจะไม่ได้ถึงกะกินแล้วเห็นดาวระยิบระยับ อัศจรรย์ใจว่า “เอ้ยยยย อันนี้คิดได้ยังไงเนี่ยยยย” แต่พอทานเข้าไปกลับรู้สึกถึงความตั้งใจ ความใส่ใจของคนทำ แล้วก็ยังเป็นขนมที่รสชาติเข้าใจง่าย เข้าถึงง่ายด้วยค่ะ

 

คนแถวฝั่งธนอย่าพลาดนะ ต้องลองแวะมากันนะคะ

 

รายละเอียดร้าน : http://www.ipick.com/bangkok/restaurant/30007028

 

ติดตามรีวิวร้านอื่น ๆ ของนักชิมรายนี้ได้ที่นี่