อุซเบกิซสถาน…ตำนานความกล้าและศรัทธาที่สูงส่ง

อุซเบกิซสถาน…ตำนานความกล้าและศรัทธาที่สูงส่ง

อุซเบกิซสถาน…ตำนานความกล้าและศรัทธาที่สูงส่ง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โดย Aziza Hana

ตอนที่ 2 รักเร้นที่ซามาร์คานด์…จูบที่ร้อนกว่าไฟ

แหม...แหม...เห็นชื่อตอนแล้วหวิวกันละซิ...ก็ความรักมันไม่เข้าใครออกใคร ไม่ว่ายุคไหนสมัยไหน มันก็ร้อนแรงยิ่งกว่าไฟ...โดยเฉพาะรักต้องห้าม... เหมือนไฟลามเผาใจจนไหม้ สุดจะผ่อนความร้อนคลายไป เหมือนตกอยู่ใน...อเวจี  เอ้า...เพลงมาเลย!!! 

เมื่อมาเยือนอุซเบกิซสถาน ก็ต้องห้ามพลาด ซามาร์คานด์ ยิ่งถ้าได้ฟังสำเนียงของคนอุซเบ เรียกชื่อเมืองนี้แล้วจะยิ่งรู้สึกว่า มันโรแมนติกมาก ด้วยรถไฟความเร็วสูงไฮสปีดเทรนด์ที่สะอาดเอี่ยม ตรงเวลาเป๊ะ ๆจากทาสเค้นท์เมืองหลวง เราก็มาถึง ที่นี่ซามาร์คานด์...

ไฮสปีดเทรน...สะอาด รวดเร็ว ตรงเวลาเป๊ะ ๆ

กำลังจะเล่าถึง 4 มหัศจรรย์ของซามาร์คานด์ ที่ทำให้เมืองนี้ติดชาร์ตเป็นเมืองมรดกโลกของ UNESCO 1 ในนั้นคือ มัสยิด Bibi Khanym ซึ่งตั้งชื่อเป็นเกียรติให้กับภรรยาเอกของท่านอามีร์ ติมูร์ ชื่อของท่านคือ Saray Mulk 

Saray Mulk เป็นบุตรสาวของท่านข่าน จึงมีตำแหน่งเป็น Khanym หรือข่านที่เป็นหญิง เทียบได้กับองค์หญิง หรือ Princess และท่านก็เป็นภริยาของข่านอามีร์ ตีมูร์ ผู้ยิ่งใหญ่ จึงรับตำแหน่ง Khanym อย่างภาคภูมิ

แค่ประตูเข้าก็สูงใหญ่อลังการขนาดนี้ เมือเทียบกับตัวคน

Bibi Khanym ฝรั่งแปลว่า The Old Queen ราชินีชรา บ้างก็ว่า The Elder Wife ภรรยาแก่ (แหม...หยาบคายมาก) จะพอฟังได้หน่อยก็คือ First Lady สุภาพสตรีหมายเลข 1แต่ยังไงก็ยังไม่ตรงความหมาย...ลอสต์อินทรานสเลชั่น…

Bibi ในที่นี้แปลว่า ที่รัก ก็ได้ ดังนั้น Bibi Khanym ก็คือ The Beloved Princess เจ้าหญิงที่รัก นั่นเอง

มัสยิด Bibi Khanym นี้เป็น 1 ใน 4 สิ่งก่อสร้างสุดอลังการของซามาร์คานด์ และเป็นมัสยิดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเซียกลางในสมัยศตวรรษที่ 14-15 แต่กว่าจะสร้างเสร็จ แก้มของเมียท่านข่านตีมูร์ก็มีอันต้องหมองและไหม้ด้วยรอบจูบของสถาปนิกผู้ออกแบบ!!!

มัสยิดแห่งนี้ภรรยาท่านข่านต้องการจะสร้างให้ยิ่งใหญ่ เป็นของขวัญเซอร์ไพรส์ให้สวามี ซึ่งกรีฑาทัพไปรบที่อินเดีย ต้องเข้าใจนิดนึงว่า ในยุคนั้นจะเดินทางไปไหนมาไหน ไม่มีแม้แต่ถนน มีแต่ม้า มีแต่อูฐ ผ่าความร้อน ทนความหนาวในดินแดนทุรกันดาร กระตึ๊บ ๆ ๆไป ค่ำไหนนอนนั่น ตั้งกระโจมเช้าก็รื้อ แล้วเดินทางต่ออย่างนี้

จำเนียรกาลผ่านไป 5 ปี ท่านข่านตีมูร์ตีได้อินเดียตอนเหนือและเมืองเดลีแล้ว กำลังจะกลับ แต่มัสยิดยังไม่เสร็จ ยังไปไม่ถึงไหน... Saray Mulk ร้อนใจให้คนไปตามสถาปนิกมา

ถามสถาปนิกว่า ทำไมสร้างไม่เสร็จซักที สถาปนิกอ้ำอึ้ง แล้วก็เผยความในใจว่า แอบหลงรักนาง...โอ้...เล่นของสูงแฮะ และบอกต่อว่า หากไม่สมหวัง โปรเจคนี้เห็นจะไม่มีวันสมบูรณ์... แม่เจ้า...เพลงมาเลย...อยู่ในปาร์ตี้ร้อนยังกับไฟเอ้อร์ เธอสวยเซ็กซี่ร้อนยังกับไฟเอ้อร์ 

งานนี้ถึงขั้นเสียชีวิตแน่ ๆ Saray Mulk คงคิดเช่นนั้น พูดกันดี ๆคงไม่รู้เรื่องแล้ว ต้องใช้ศิลปอุปมาอุปมัย แล้วบอกนางเล็ก ๆไปเอาไข่มา ย้อมสีมาด้วยนะ เอามาเรียกสติสถาปนิก พอไข่ย้อมสีมา Saray Mulk ก็บอกสถาปนิกคลั่งรักว่า เปลือกไข่สีอาจต่างกัน แต่พอกระเทาะออกมาก็มีไข่ขาวและไข่แดงเหมือนกันทุกใบ...ผู้หญิงก็เช่นกัน!!! 

สถาปนิกไม่ยอมแพ้  ไปเอาแก้วมา 2 ใบ ใบหนึ่งใส่น้ำเปล่า อีกใบใส่ไวน์ขาว  แล้วถามว่า คิดว่าการดื่มน้ำกับดื่มไวน์ มันเหมือนกันไม๊ อะไรมันแซ่บกว่ากัน???

ติ๊กตอก ติ๊กตอก Saray Mulk คิด เอาไงดี ท่าทางมันเอาจริง มันมีลูกตี้อ !!! ถ้าท่านตีมูร์กลับมามีหวัง ตายหมู่...พลันคิดถึงหลัก win-win เลยยื่นเงื่อนไขว่า ให้จุ๊บแก้มซักที พอไม๊อ่ะ...แล้วไปสร้างต่อให้เสร็จ ให้สวยเลยนะ มัสยิดก็จะสร้างเสร็จ ทั้งสองคนก็ไม่มีอะไรให้สานต่อ

สถาปนิกเดินเข้ามาใกล้แล้วประทับรอยจูบที่รุ่มร้อนด้วยไฟรักที่แก้ม จากนั้นตัดใจไปคลุกดินคลุกฝุ่น โกยทราย ฉาบปูน คุมงานก่อสร้าง จนกระทั่งมัสยิดเสร็จสมบูรณ์ 

Bibi Khanym เป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในยุคนั้น ด้วยประตูทรงโค้งยอดแหลม เข้าไปเป็นสนามกว้าง มีแท่นหินคัมภีร์อัลกุระอ่าน ด้านข้างมีโดมกลีบมะเฟือง 64 กลีบที่สวยงามสมมาตร ประดับโมเสกสีฟ้าน้ำทะเลไล่เฉดสีอ่อนแก่ล้อแสงตะวัน

โดมกลีบมะเฟือง 64 กลีบ สีฟ้าใสสะท้อนแสงแดดยามบ่าย

ผ่านประตูใหญ่เข้ามาพบแท่นหินคัมภีร์อัลกุระอ่าน

และแล้วท่านตีมูร์กลับมา เห็นมัสยิดใหญ่โตสวยงามก็แฮปปี้มาก จะกอดจะหอมรับขวัญศรีภริยากันให้ชื่นใจแต่เอ๊ะ...ที่แก้มขาว ๆของน้องทำไมมีรอยไหม้ติดอยู่ล่ะ จะว่าไปร้อยไหม ยิงเลเซอร์ก็ไม่ใช่...มันคือรอยจูบ!!! 

มิวสิกมา...ดิน ยัง รู้ แยก แตกเพราะรอยไถคราดแต่ฝนยังซัดสาด รอยหายคุณจูบฉัน รอยจูบนั้นย่อมติดจนตายจะลบรอยจูบอย่างไรไม่หายอย่าลืม อย่าเลือน…

ท่านข่านวีนแตกเรียกหาตัว สถาปนิก ซึ่งคงไม่อยู่ให้ถูกตื้บ เขาหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ไปลี้ภัยต่างประเทศแล้วแน่ ๆ ทิ้งท่านข่านให้ตีอกชกหัว แค้นสถาปนิกแมวขโมยที่มาหอมแก้มเมียรัก 

และแล้วท่านก็สั่งให้สร้างอาคารที่เป็นโรงเรียนสอนศาสนาอีกหลังหนึ่งไว้ใกล้กับมัสยิดนี้ และตั้งชื่อให้เป็นเกียรติแก่ภรรยาผู้เป็นที่รักว่า Bibi Khanym…ซาบซึ้งมากค่ะท่านขา...

Saray Mulk งามล้ำเพียงใด ไม่มีใครทราบ แต่ที่แน่ ๆท่านออกงาน รับแขกบ้านแขกเมือง ดังที่ทูตสเปน RUY GONZÁLEZ DE CLAVIJO ซึ่งกษัตริย์เฮนรี่ที่ 3 แห่งสเปน( King Henry III of Castile and Leon)  ส่งตัวมาซามาร์คานด์ ในค.ศ. 1403 ได้พบนางตัวเป็น ๆ

ท่านทูตสเปนบันทึกไว้ว่า ครั้งแรกที่นางปรากฏตัว นางนั่งมาในเสลี่ยง 15 คนหาม มีขันทีถือร่ม นางใส่ชุดไหมสีแดง มีผ้าคลุมหน้าสีขาว บนศีรษะประดับประดาอย่างวิจิตร ด้วยผ้าสีแดงตกแต่งด้วยไข่มุก ทับทิม หินเทอร์คอยส์ ขนนก ประสานกันไว้ด้วยทองคำเส้นบาง ๆ แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้เห็นใบหน้าเพราะดูเหมือนจะตั้งใจทาเครื่องประทินผิวจนขาวจัดคล้ายกับใส่หน้ากาก

บันทึกทูตสเปนที่เดินทางมายังอาณาจักรของอามีร์ ตีมูร์และพบกับ Saray Mulk Bibi Khanym ตัวจริงเสียงจริง

อย่างที่เราทราบกันว่า ท่านตีมูร์นั้นอยู่ไม่ติดบ้าน กรีฑาทัพไปลุยร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ ตะลุยโลดไปถึงอินเดียและลูกหลานของท่านคือ Barbur ที่ไปครองดินแดนนี้ก็คือ ผู้ก่อตั้งราชวงศ์โมกุลของอินเดีย และทัช มาฮาลคือสถาปัตยกรรมสายช่างอุซเบ ที่ลงตัวสมบูรณ์แบบที่สุด!!!

ภาพเจ้าชายวิลเลี่ยมและเจ้าหญิงเคทเมื่อคราวไปเยือนอินเดียเมื่อเร็ว ๆนี้ หน้า ทัชมาฮาล สุดยอดสถาปัตยกรรมจากสกุลช่างซามาร์คานด์

การตกแต่งที่ประณีตงดงามด้วยเซรามิกสีฟ้าหลายเฉด

อนิจจังไม่เที่ยง ทุกสิ่งเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป...สัจธรรมที่จริงแท้แน่นอน  มัสยิด Bibi Khanym ที่สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 -15 และใหญ่โตมโหฬาร ก็เสื่อมสลายไปตามกาลเวลาและแผ่นดินไหว ภัยธรรมชาติ  Bibi Khanym ในปัจจุบัน รัฐบาลอุซเบปฏิสังขรณ์ขึ้นมาใหม่ ยึดตามแบบเดิมออริจินัลอย่างแนบเนียน...

มาอุซเบกิซสถาน ต้องไม่พลาดซามาร์คานด์ มาซามาร์คานด์ ต้องไม่พลาด Bibi Khanym!!!

ภาพนี้ถ่ายไว้เมื่อ ค.ศ.1905 และ 1915 หลังแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ใน ค.ศ.1897 โดย Sergey Prokudin-Gorsky - U.S. Library of Congress: http://hdl.loc.gov/loc.pnp/prokc.21835, Public Domain, https://commons.wikimedia.org/w/index.php?curid=1899484

Bibi Khanym….หลังบูรณะกลับสู่สภาพเดิมเมื่อมองจากมุมสูง

อัลบั้มภาพ 13 ภาพ

อัลบั้มภาพ 13 ภาพ ของ อุซเบกิซสถาน…ตำนานความกล้าและศรัทธาที่สูงส่ง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook