ใช้ชีวิตแบบช้าๆ ชมความงามในทุกด้านของ "เชียงราย"

ใช้ชีวิตแบบช้าๆ ชมความงามในทุกด้านของ "เชียงราย"

ใช้ชีวิตแบบช้าๆ ชมความงามในทุกด้านของ "เชียงราย"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ฉันและเพื่อนจองตั๋วโปรของแอร์เอเชียได้ ราคาไปกลับ 1,000 เศษ ๆ  ไปกัน 4 วัน ทริปนี้ตั้งใจว่า จะไม่รีบ ไปแบบช้าๆ Slow life นั่นเอง เพราะต้องการไปชาร์จแบตเตอรี่ชีวิต และเราสองคนชอบถ่ายภาพเหมือนกัน จึงวางแผนท่องเที่ยวอย่างสบาย ๆ    

วันแรก ฉันไปถึงสนามบินเชียงรายตอนบ่าย วันแรกเราเหมารถแทกซี่ เพื่อไปไร่ชาฉุยฟง  วัดร่องขุ่น และไร่บุญรอด  

ฉันเคยไปฉุยฟง เมื่อหลายปีก่อน หลายอย่างเปลี่ยนแปลงเพื่อการท่องเที่ยว ไร่ชาที่นี่ตอนนี้ เป็นที่รู้จักของคนมากมายต่างแวะเวียนกันมาเพื่อ check in  กินอาหาร ชิมชา และถ่ายรูป   ใช้เวลาที่ไร่ชาฉุยฟงอยู่ 2 ชั่วโมงทั้งกินอาหาร และถ่ายรูปด้วยก็ได้

ใช้เวลาอยู่ที่ไร่ชาฉุยฟงประมาณ 2 ชั่วโมง ทั้งกินอาหาร และถ่ายรูปด้วย ก็ได้เวลาเดินทางต่อ  ไปยังวัดร่องขุ่น กว่าจะไปถึงวัดก็ปิดแล้ว วัดปิด 5 โมง ถ่ายรูปได้แต่ด้านนอกเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้น คนก็ยังแน่นอยู่เลย ทั้งคนไทย และคนต่างชาติ  ต่างอยากมาชมความงาม ช่วงนี้ ที่วัดก็ยังบูรณะซ่อมแซมกันไม่เสร็จเลย  

เนื่องจากว่า ยังเหลืออีก 1 ที่ ๆเรายังไม่ไป นั่นคือ ไร่บุญรอด  ไปถึงก็พระอาทิตย์ตกพอดี  สรุปว่า วันนี้ไม่ได้รูปอะไร เลยตั้งใจว่า จะมาเก็บภาพวันหลังต่อ เพราะที่นี่มีดอกไม้ ไร่ชา มีกิจกรรมรอเราอยู่ที่ไม่ควรพลาดอีกหลายรายการ 

เช้าวันที่ 2 ของการเดินทาง วันนี้ตื่นสาย ๆ ตอนบ่ายๆ เราจะเดินทางไปภูชี้ฟ้า  ตอนเช้าเราจะเดินชมเมืองกันก่อน  เราพักใจกลางเมือง ซึ่งใกล้กับวัดมิ่งเมือง เป็นวัดที่สวยมาก ๆ  เราใช้เวลาถ่ายภาพที่นี่กับนานพอสมควร 

วัดมิ่งเมือง  มีอายุเท่ากับเมืองเชียงราย คือประมาณ 800 ปี  วัดนี้มีความสำคัญเกี่ยวกับช้างคู่บารมีของพ่อขุนเม็งรายมหาราช แห่งราชอาณาจักรล้านนา และ ในวันสำคัญทางประเพณี เช่น วันสงกรานต์ หรือ ปีใหม่เมือง จะมีการจัดเตรียมสถานที่ให้พญาช้างคู่บารมีของพ่อขุนเม็งรายมหาราชมาหมอบรอเทียบที่วัด เทินบุษบกเพื่อรับพระแก้วมรกต ที่แห่มาด้วยขบวนเสลี่ยง จากวัดพระแก้ว ซึ่งอยู่ห่างจากวัดไปทางทิศเหนือ 200 เมตร

ปัจจุบันได้มีการบูรณปฏิสังขรณ์พระเจดีย์โบราณศิลปะไทยใหญ่ พระอุโบสถและพระวิหารไม้ลายคำศิลปะล้าน ของวัดมิ่งเมืองอย่างถูกต้องตามหลักพุทธศิลป์ล้านนาและทัศนศิลป์เชิงโบราณคดี ระหว่างการบูรณะได้ขุดค้นพบลายอักษรโบราณจารึกบนแผ่นเงินเป็นภาษาพม่า กล่าวถึงประวัติผู้สร้างเจดีย์ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ เมื่อสืบค้นจากพงศาวดาร จึงทำให้ทราบว่า ผู้สร้างวัดมิ่งเมือง คือ เจ้านางตะละแม่ศรี เป็นมเหสีของพ่อขุนเม็งรายมหาราชซึ่งพระนางมีเชื้อสายกษัตริย์จากเมืองหงสาวดี

ในวัดมิ่งเมืองยังคงมีโบราณสถานและโบราณวัตถุปรากฏอยู่หลายอย่าง ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นศิลปะผสมระหว่างพม่าและล้านนา และมีปูชนียวัตถุสำคัญคือ พระบรมสารีริกธาตุ ประดิษฐาน ณ พระเจดีย์โบราณ ที่ได้รับการประธานจาก สมเด็จพระญาณสังวรณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

วัดมิ่งเมืองอยู่ติดสถานที่สำคัญทางโบราณคดีของจังหวัดเชียงราย เป็นประตูเมืองเก่าของเมืองเชียงราย คือ ประตูไก่ดำ หรือประตูขัวดำ หรือประตูเจ้าพ่อสันป่าแดง ซึ่งคนเชียงรายเรียกยังคงเรียกบริเวณสี่แยกที่ถนนบรรพปราการตัดกับถนนไตรรัตน์ว่า สี่แยกขัวดำ 

ที่บริเวณประตูวัดด้านทิศตะวันออก มีบ่อน้ำโบราณ ชื่อ น้ำบ่อจ๊างมูบ ศิลปะแบบไทยใหญ่ มีซุ้มครอบไว้เป็นประติมากรรมปูนปั้นรูปช้างหมอบ เชื่อกันว่าบ่อน้ำนี้เป็นบ่อน้ำโบราณที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นแหล่งน้ำที่ใช้อุปโภคบริโภคของผู้คนโบราณที่สัญจรเข้าออกเมือง ได้มาพักกายบริเวณประตูเมืองเพื่อดื่มน้ำและล้างหน้าให้เกิดสิริมงคลก่อนจะเริ่มเดินทางออกหรือเข้าสู่เมืองเชียงราย

เดินชมวัดกันจนพอใจแล้ว ต้องรีบกลับโรงแรมเพื่อเอากระเป๋า ไปขนส่งเก่า รถจะไปภูชี้ฟ้า เป็นรถตู้ รอบบ่ายโมง ค่ารถไปกลับ  300 บาท  (เวลากลับนั้นออกจากภูชี้ฟ้า 9 โมง  ) รถวิ่งแบบหวานเย็น มีรับคนข้างทาง มีรับของฝากไปส่งระหว่างทาง มีส่งตามขนส่งต่างอำเภอในเชียงราย กว่ารถจะมาถึงภูชี้ฟ้าก็ 5โมงเย็น   

วันนี้เราจองที่พักไว้เรียบร้อยแล้ว พอรถจอดปุ๊บก็มีคนมาถามจองที่พักรึยัง  จนเจอลุงท่านหนึ่ง บอกว่ามาจากรีสอร์ท และพาเราไปส่งรีสอร์ท  วันนี้เรากินข้าวที่รีสอร์ท ง่าย ๆ รองเท้า พรุ่งนี้เราต้องตื่นเช้า  ตี4.30  รถจะมารับเพื่อไปชมวิวภูชี้ฟ้า  ค่ารถขึ้นลงภูชี้ฟ้าคนละ 60 บาท แต่โชคร้าย ตอนตี 3 ฝนตก  ไม่ต้องเดาเลยว่า อากาศจะเป็นไง

แต่ไหน ๆ ตั้งใจมาแล้ว ก็เลยแวะไปดู แล้วก็ตามที่คิดค่ะ หมอกหนามาก มองไม่เห็นอะไรเลย แม้แต่ภูชี้ฟ้า เห็นแบบลางเลือน และเสื้อผ้าก็ชื้น หัวก็เปียกเพราะหมอก  ทุลักทุเลมาก 

ยืนจนถึง 7 โมง หมอกก็ไม่ลดลง จึงตัดสินใจลงจากภู ไปเก็บของที่บ้านพักดีกว่า วันนี้ ต้องลงจากภูเพื่อเข้าเมืองเชียงรายตอน 9 โมง รถมีรอบเดียว ถ้าตกรถนี่จะต้องนอนค้างอีกคืนหนึ่งเลย  วันนี้รถก็ยังหวานเย็นเช่นเคย รับคนตลอดทางเข้าเมืองเชียงราย กว่าจะมาถึงที่ขนส่งเก่าเชียงรายก็ปาไปเที่ยงพอดี  กินข้าวแถวขนส่งให้เรียบร้อย วันนี้เราจะกลับไปไร่บุญรอดอีกครั้ง 

วันนี้ เช่ารถมอเตอร์ไซค์ วันละ 200 บาท  เช่าตอนบ่าย สามารถส่งรถได้ตอนเที่ยง ของวันพรุ่งนี้      จากโรงแรมไปไร่บุญรอดแค่ 10 กิโลเมตร  เนื่องจากฉันและเพื่อน ชอบถ่ายรูป จึงใช้เวลาอยู่กับที่นี่กันจนเย็น  บางเส้นทาง อนุญาตให้เฉพาะรถของไร่บุญรอดเข้าเท่านั้น เราจึงตัดสินใจว่า พรุ่งนี้เช้าเราจะมาอีกครั้ง เพื่อมาปั่นจักรยาน วันนี้เก็บรูปไร่ชา  รูปทุ่งดอกไม้ รูปเงาสะท้อนต้นไม้กันไปก่อน 

เช้าวันสุดท้ายของการท่องเที่ยวของเราสองคนกำลังจะจบลง  วันนี้เราจะไปปั่นจักรยานกันที่ไร่บุญรอด  ออกจากโรงแรมมา 8 โมงกว่า ๆ หากินข้าวระหว่างทาง ไร่บุญรอดเปิด 9 โมง   ค่าเช่าจักรยานชั่วโมงละ 100 บาท 

ที่นี่มีฟาร์มสัตว์ด้วย แวะลงไปดูซะหน่อย   มียีราฟ นกแก้ว ม้าลาย วัววาตูซี 

จากนั้น ก็ปั่นจักรยานชมดอก Cosmos หรือดอกดาวกระจาย 

ดอกไม้บานเต็มทุ่ง จากที่เช่าจักรยานมา 1 ชั่วโมง ทำเอาต้องจ่ายเงินเพิ่ม เป็น 2 ชั่วโมง  แล้วเราก็รีบกลับโรงแรมโดยด่วน ต้องเช็คเอ้าตอนเที่ยงตรง และต้องคืนมอเตอร์ไซค์อีกด้วย เรียกรถแท๊กซี่มารับให้ไปส่งสนามบินเชียงราย เสียค่าแท๊กซี่เหมาไป 200 บาท    ทริปนี้ก็จบลง ได้รูปสวยกลับบ้าน ถือว่า เป็นการชาร์จแบตเตอรี่ชีวิตที่สนุกมาก และฉันคิดว่า จะต้องกลับไปซ่อมที่ภูชี้ฟ้าในเดือนกุมภาปีหน้าอีกแน่นอน

เอื้อเฟื้อเรื่องราวและภาพถ่าย  นางสาวสุจิตรา เชาว์ดี  

เว็บ https://www.facebook.com/sujitrach

เพจตะลอนเที่ยวไปกับตาล https://www.facebook.com/438192926268514

อัลบั้มภาพ 26 ภาพ

อัลบั้มภาพ 26 ภาพ ของ ใช้ชีวิตแบบช้าๆ ชมความงามในทุกด้านของ "เชียงราย"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook