เชียงแสน : 1 วัน ก็เที่ยวได้ กับเมืองท่า ชายแดน 3 ประเทศริมฝั่งโขง

เชียงแสน : 1 วัน ก็เที่ยวได้ กับเมืองท่า ชายแดน 3 ประเทศริมฝั่งโขง

เชียงแสน : 1 วัน ก็เที่ยวได้ กับเมืองท่า ชายแดน 3 ประเทศริมฝั่งโขง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วันนี้ Sanook! Travel ขอตามคุณ ย่ำไปในไพรพนา  ไปยังเชียงแสน..เมืองในฝันของหลายๆคนกันค่ะ ซึ่งทริปนี้คุณ ย่ำไปในไพรพนา ใช้เวลาเพียงแค่ 1 วัน ก็สามารถเที่ยวได้ทั่วแถมยังมีรูปสวยๆมาฝากให้ทุกคนได้ดูกันด้วยค่ะ

"Happiness only real when shared."

สวัสดีครับ เพื่อน พี่ น้อง ใน pantip กระทู้ที่ 3  รอบนี้ผมมีโอกาส ได้ไป เที่ยวที่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย มา ครั้งแรกเลย ที่ผ่านมา เวลาไปเชียงราย เอะอะก็ อ.แม่สายๆ ฮ่าๆ  แต่ ต่างอำเภอออกไป ในเชียงราย ผมก็ทราบมาว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมากเช่นกัน  หนึ่งในนั้น ก็คือ อ.เชียงแสน  เมืองที่หลายคนรู้จักว่ามีสามเหลี่ยมทองคำ จุดสำคัญของการค้าขายริมฝั่งโขง ชายแดน ไทย ลาว พม่า อยู่นั่นเอง  แต่เชียงแสนที่ผมไป ไม่ได้มีเพียงเท่านี้  ที่นี่ มีความหลากหลาย ทั้งทางด้านประวัติศาสตร์ ทั้งทางโบราณสถาน โบราณคดี เชื้อชาติ-เผ่าพันธุ์  ความเป็นเมืองอนุรักษ์ มีธรรมชาติที่น่าสนใจอยู่   ช่วงนี้ เป็นช่วง low season ที่นั่น ทำให้มีนักท่องเที่ยวน้อยครับ (ซึ่งผมชอบ ฮาา)

ผมออกเดินทาง ตอนเช้าประมาณ 7.45 น. จาก อ.เมืองเชียงราย (ผมพักที่ในอ.เมือง)  ขับรถส่วนตัว ขึ้นไปทาง อ.แม่จัน (ถ.ทางหลวงหมายเลข 1 เส้นเดียวกับไปแม่สาย) จากนั้น ผ่านแม่จันไปหน่อย จะมีทางแยก ไป อ.เชียงแสน คือ ทางหลวงหมายเลข 1016 ไปเรื่อยๆ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น ก็ถึงครับ ระยะทางประมาณ 60-70 กิโลเมตร จากที่พัก  ...ซึ่งถ้าเช่ามอเตอร์ไซค์จากใน อ.เมือง ก็ขี่มาได้ หรือจะนั่งรถตู้ มาก็มีบริการ ครับ และในตัวอำเภอเชียงแสนก็มีที่เช่ามอเตอร์ไซค์ด้วยเช่นกัน ..... เส้นทางไปจนถึงเชียงแสน ถนนดีหมดครับ 

สถานที่ที่ผมปักหมุดลงไปว่า จะไป ก็มีดังนี้ 

-ทะเลสาบเชียงแสน

-พระธาติดอยปู่เข้า

-จุดชมวิวสามเหลี่ยมทองคำ

-พระธาตุสามมุมเมือง

-พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงแสน

-วัดพระธาตุเจดีย์หลวง

-วัดพระธาตุจอมกิตติ

-วัดพระธาตุผาเงา

-ขับรถตามแนวกำแพงเมือง

ค่าใช้จ่าย ที่นั่น  (ไม่ได้รวมค่าเดินทาง)

 - ค่าหนังสือประวัติศาสตร์ 200 บ.

 -ค่าเข้าพิพิธภัณฯ 20 บ., 

 -ค่าอาหารเครื่องดื่มทั้งวัน 490 บ.

อันที่จริงแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ส่วนใหญ่ของเชียงแสน จะเป็นวัดครับ จะมีทั้งภายในกำแพงเมือง กับ นอกกำแพงเมือง และส่วนใหญ่จะอยู่ห่างกันไม่มากนัก ทำให้ผมคิดว่า เพียง 1 วัน เช้าถึงเย็น น่าจะเพียงพอ เที่ยวแบบสบายๆ กับรถส่วนตัวได้ แต่ท่านใดอยากมาเที่ยวแบบไม่เร่งรีบ 2 วัน 1 คืน สามารถเที่ยวทั่วๆ ได้เลยครับ ที่เชียงแสนมีที่พักอยู่พอสมควร

จุดแรกเลย ที่ผม ตั้งใจมากเป็นพิเศษ คือ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหนองบงคาย หรือ ทะเลสาบเชียงแสน พื้นที่ชุ่มน้ำของประเทศไทย ตามอนุสัญญาแรมซาร์ ลำดับที่ 1101   ซึ่งไม่ผิดหวังครับ ไม่มีคนเลย สงบ และทำให้ผมไม่คิดว่าตอนนี้เป็นหน้าร้อนอยู่สมกับที่เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำสำคัญครับ ขับรถเข้าไปได้เลย ไม่มีค่าบริการใดๆ  

ผมมัวเมากับบรรยากาศที่นี่ ชั่วโมงนึงเลยครับ จนเกือบลืมว่ายังไม่ได้เข้าไปถึง อ.เชียงแสนเลย ผมมาถึงตรงนี้ประมาณ 9 โมงกว่า คิดว่า ช่วงเช้ากว่านี้ บรรยากาศจะยิ่งดีกว่านี้อีก  กับ ช่วงเย็น ซึ่งขากลับผมได้แวะมาอีกรอบ เดียวช่วงท้ายจะมีรูปให้ชมต่อครับ

ถึงทางแยกนี้ ผมเลือกไปทางซ้ายก่อน คือ วัดพระธาตุจอมกิตติ แล้วไป จุดชมวิว สามเหลี่ยมทองคำ 

วัดพระธาตุจอมกิตติ ตามข้อมูล กรมศิลฯ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1483 โดยพระเจ้าพังคราชและพระเจ้าพรหมมหาราช(โอรส) ปัจจุบัน พ.ศ.2558 พันกว่าปีมาแล้วนั่นเอง เก่าแก่มาก มีทางรถขึ้นไปถึงบนวัดเลย หรือใครฟิตพอ เดินได้เลย 300 กว่าขั้น ร่มเย็น ร่มรื่น มาก ตั้งแต่ทางบันไดขึ้น ไปจนถึง วัดด้านบน และที่สำคัญไม่มีคนเลย สงบสุดๆ

จุดที่ 3 ที่ผมไปต่อ  คือ จุดชมวิวสามเหลี่ยมทองคำ บริเวณนี้ จะมีรูปปั้นพญาแสนภู ผู้สถาปนาเมืองเชียงแสนขึ้นมา แถวๆ นี้จะมีบริการข้ามแดน + เรือรับส่งสำหรับใครที่อยากนั่งเรือไปชมสามเหลี่ยมทองคำแบบใกล้ๆ หรือขึ้นไปเที่ยวตลาดลาว ไปถ่ายรูปกับคาสิโน  ราคาเหมา 500 บาท มาหลายคนก็แชร์กันไป มีขนาดเรือให้เลือกด้วย ถ้าลำใหญ่หลายคน ราคาก็เพิ่มไปอีก พอดีผมไม่ได้ข้าม ....... สำหรับใครที่อยากขึ้นไปดูวิวสามเหลี่ยมทองคำมุมสูง ต้องขึ้นไปบนวัดพระธาตุปู่เข้า หรือ จะเดินขึ้นไปอีกที่วัดพระธาตุสามมุมเมือง (มีทางรถขึ้นไปถึง) ใครฟิตเดินนะ ไม่กี่ร้อยก้าว ฮ่าๆๆ

บนวัดพระธาตุปูเข้า บางชื่อ พระธาตุภูเข้า  คือวัดนี้ตั้งอยู่บนเขาครับ มีโบราณสถาน อายุมากเกือบๆ พันปีเลย  จากวัดนี้เราจะเห็นจุดชมวิวมุมสูงของสามเหลี่ยมทองคำชัดเจนมาก เหนือวัดพระธาตุปูเข้าขึ้นไป ก็จะเป็นวัดพระธาตุสามมุมเมือง สามารถเอารถขับขี่ขึ้นไปได้เหมือนกัน 

วัดพระธาตุปู่เข้า

ด้านบน พระธาตุสามมุมเมือง 

จุดชมวิว สามเหลี่ยมทองคำ จากวัดพระธาตุปูเข้า

กลับลงมาด้านล่าง ก็มีมุมต่างๆ ที่เป็นจุดสนใจให้นักท่องเที่ยว ถ่ายรูปกันเป็นที่ระลึก ค่อนข้างเงียบจริงๆ ครับ ถึงแม้จะเป็นวันหยุดยาว ก็ตาม  ส่วนใหญ่หนีลงทะเลกันหมดแน่นอน ฮาาา

จากนั้นเที่ยง ก็หาอะไรใส่ท้องครับ เลยแวะไปที่ร้านมองดูน้ำ อยู่บนถนน ริมโขงเลย ร้านนี้ขายกาแฟ กับ พวกเค้ก ครับ เวลาใครมาเที่ยวเชียงแสน ผมเห็นก็แวะมากัน ร้านไม่ใหญ่ครับ แต่เค้กอร่อยเลย

ตอนเราทะเลสาบเชียงแสนเจอนกยูงด้วยค่ะ หลังจากหาอะไรใส่ท้องแล้วเรียบร้อย  ผมก็มุ่งหน้าไปที่ วัดพระธาตุผาเงาต่อเลย เพราะ เป็นวัดที่อยู่นอกกำแพงเมืองเชียงแสน  ไปไม่ยากครับ มีป้ายบอก  โดยวัดพระธาตุผาเงา  มีจุดเด่นที่มีพระพุทธรูปปูนปั้น ปางมารวิชัยซึ่งถูกฝังอยู่ใต้ฐานพระประธานองค์ใหญ่อีกทีหนึ่ง ขึ้นไปบนเขาด้านหลังอีกจะมีพระบรมพุทธนิมิตรเจดีย์ อยู่ มองเห็นวิวจากจุดสูงสุดได้เลย วัดแห่งนี้ สมเด็จพระเทพฯเคยเสด็จมาด้วย

มีบริเวณให้เก็บภาพเยอะพอสมควรครับ  วัดพระธาตุผาเงา มีพื้นที่ภายในวัดกว้างมาก ตามจุดต่างๆ มีถนนขึ้นไปถึงหมดครับ 

ใช้เวลาที่วัดพระธาตุผาเงาประมาณ 1 ชม. ก็ได้เวลาเข้ามาในตัวอำเภอเชียงแสน ซึ่งจุดสังเกต สำคัญคือ เชียงแสน จะมีคูเมือง-กำแพงเมือง ที่ ค่อนข้างชัดเจน เป็นแนวยาวโดยมีถนนเลียบกำแพงไปตลอดแนวครับ เป็นเส้นทางปั่นจักรยานด้วย ผมว่า สวยและบรรยากาศดีมากๆ เพราะ ตลอดแนวกำแพงเมือง จะมีต้นไม้ใหญ่-เล็ก ขึ้นตลอดแนวเลย ร่มรื่นมากๆ 

ทางกรมศิลปากร ได้เข้ามาดูแล เมืองเชียงแสนแห่งนี้ ได้ดีมากๆเลยครับ เพราะหลังจากที่ผมได้ลองขับรถดูไปเรื่อยๆ ดูแล้วตามแนวกำแพงเมืองไม่ได้ถูกรบกวนหรือทำลายใดๆ เลย

ก่อนจะกลับมีเวลาเหลืออีกประมาณ 2 ชม. ผมเลยแวะ ไปที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงแสน ที่นี่จะรวบรวม โบราณวัตถุสำคัญมากๆ ในประวัติศาสตร์เอาไว้ ทั้งศิลาจารึก พระพุทธรูปปูนปั้น ข้าวของเครื่องใช้ยุคเก่า ถ้าใครชอบประวัติศาสตร์ ผมว่ามาที่นี่ ท่านจะได้เห็นแบบใกล้ชิดเลย ถ่ายรูปได้ แค่ไม่ให้ใช้แฟลช เท่านั้น

ก่อนจะกลับออกมา ผมได้หนังสือประวัติศาสตร์เชียงแสน ที่จัดทำโดย สำนักศิลปากรที่ 8 เชียงใหม่ ติดมือมา 1 เล่มครับ  200 บาท

บรรยากาศภายในพิพิธภัณฑสถาน

อันนี้ภาพบรรยากาศก่อนจะไปหาอะไรกินเพื่อจะกลับเข้า อ.เมืองเชียงรายครับ ผมว่าตอนเย็นๆ บรรยากาศริมโขงน่าจะดีเลยทีเดียว  จะมีร้านค้า ร้านอาหารมาตั้งขายให้นั่งทานกันริมโขงได้ เสียดายที่ผมไม่ได้ค้าง 

การค้าขายตามแนวชายแดน แม่น้ำโขง ยังคงเป็นวิถีชีวิตปกติของที่นี่ ผู้คนที่นี่ มีหลากหลายเผ่าพันธุ์ครับ สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้ามาประกอบอาชีพ มาค้าขาย ซึ่งในอนาคต การเปิด AEC อาจจะทำให้เชียงแสนเปลี่ยนแปลงไปอีก แต่สิ่งสำคัญคือประวัติศาสตร์ที่ยังคงรักษาไว้อยู่ ขอให้รักษาต่อไปให้ลูกหลานได้มาศึกษาเรื่องราวของตัวเองว่ามีความเป็นมากันอย่างไร

ที่นี่มีแกะด้วย อยู่ที่ ร้านสถานีโขงวิว เป็นร้านอาหาร-เครื่องดื่ม

ปิดท้ายด้วยภาพอาทิตย์ตกที่ ทะเลสาบเชียงแสน (อดใจไม่ไหวอยากไปเห็นบรรยากาศตอนพระอาทิตย์ตก) แล้วไม่ผิดหวังครับ ไม่ได้เข้าไปด้านใน ผมจอดรถอยู่ริมถนนเลียบทะเลสาบ  

จบการเดินทางที่เชียงแสน ใน 1 วัน ถือว่าคุ้มค่ามากสำหรับผมนะ ฮาา ถ้ามีโอกาสไปแบบสองวัน ก็จะมีเวลานั่งเรือ ไปดูสามเหลี่ยมทองคำใกล้ๆ หรือ ข้ามไปฝั่งลาว ซึ่งมีวัด กับ คาสิโนอยู่  ลองแวะไปกันดูนะครับ ถ้าได้ไปเที่ยวเชียงราย นอกจาก ดอยตุง ดอยแม่สลอง ดอยช้าง แม่สาย ภูชี้ฟ้า ฯลฯ เชียงแสนก็ไม่ควรพลาดเช่นกัน

ตราบใดที่การเดินทางของทุกคนต่างมีจุดหมาย  ในแต่ละครั้งคงไม่ใช่ปลายทางสุดท้าย การเดินทางจะยังไม่สิ้นสุดตราบเท่าที่ชีวิตยังมีอยู่ ขอเพียงเรามีความสุขในที่ที่เราได้ไปสัมผัส เท่านี้ก็น่าจะเพียงพอแล้วครับสำหรับการเดินทางท่องเที่ยว

ขอบคุณข้อมูล จาก ย่ำไปในไพรพนา 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook