หนาวได้ใจ ภูทับเบิก ใครไปก็ติดใจ

หนาวได้ใจ ภูทับเบิก ใครไปก็ติดใจ

หนาวได้ใจ  ภูทับเบิก ใครไปก็ติดใจ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หนาวนี้หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบท่องเที่ยวแบบใกล้ชิดธรรมชาติ สัมผัสทะเลหมอกบนยอดภูเขา ชื่นชมความเขียวขจีของพรรณไม้ สูดอากาศบริสุทธิ์ และเฝ้ามองความสวยงามของพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าและอัสดงยามเย็น ต้องไม่พลาดที่นี่เลยครับ "ภูทับเบิก" จ.เพชรบูรณ์ รับรองครับว่าโดนใจจริงๆ...

ภูทับเบิก ตั้งอยู่ที่ตำบลวังบาล จ. เพชรบูรณ์ ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,768 เมตร ซึ่งเป็นจุดสูงสุด ของจังหวัดเพชรบูรณ์ ภูมิประเทศมีความงดงามเป็นที่กล่าวถึง เป็นความงามของทะเลภูเขาตามธรรมชาติ ป่าไม้อุดมสมบูรณ์ อากาศบริสุทธิ์ เย็นสบายตลอดปี ในตอนเช้ามีหมอกและกลุ่มเมฆ มองเห็นเป็นทะเลหมอกตัดกับยอดภูสีเขียว เป็นแหล่งปลูกกะหล่ำปลีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

เป็นสถานที่ที่มีเครื่องวัดอุณหภูมิที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและยังเป็นเส้นทางเชื่อมโยงสู่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าอีกด้วย คนท้องถิ่นที่ภูทับเบิกเป็นชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง หรือแม้ว ที่ย้ายถิ่นฐานมาจากทางภาคเหนือ ประกอบอาชีพเกษตรกรรม มีการทำแปลงเกษตรแบบขั้นบันได วิถีชีวิตของชาวม้งที่นี่ยังคงมีการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี

ในทุกๆ ปี จะจัดงานปีใหม่แบบดั้งเดิม และมีการแสดงวัฒนธรรมด้วย จากสภาพดังกล่าว จึงทำให้ภูทับเบิกเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ และดึงดูดใจนักท่องเที่ยวที่นิยมสัมผัสแก่นแท้วิถีชีวิต วัฒนธรรมชุมชน และแหล่งธรรมชาติที่บริสุทธิ์  ซึ่งเป็นรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่กำลังมีกระแสความนิยมอยู่ทั่วไป ภายใต้คำกล่าวที่ว่า "นอนทับเบิก สัมผัสความหนาว ดูดาวบนดิน"

ที่ยอดภูทับเบิกจะมี "ไร่กะหล่ำปลี" เต็มไปหมดทุกภูเขา เราสามารถเดินไปดูเก็บกะหล่ำปลี ซึ่งก็เป็นชาวเขาเผ่าม้งจะขอซื้อมาทานก็ได้ราคาแสนถูกและสดเหนือคำบรรยายครับ 

และอย่าลืมขับรถไปเที่ยวในเส้นทางไปหมูบ้าน ที่อยู่ห่างจากยอดทับเบิก 5 กิโลเมตร เส้นทางสายนี้นับว่าวิวสวยมาก มองไปทางซ้ายก็กะหล่ำปลีขวาก็กะหล่ำปลี เหนือยอดกะหล่ำปลีเป็นปุยหมอกจางๆ สวยมาก หากใครต้องการไปดูกะหล่ำยักษ์ที่ภูทับเบิก ชาวบ้านจะปลูกกันช่วงเดือน ก.ค.-ต.ค. ซึ่งเป็นช่วงหน้าฝนก็จะได้บรรยากาศแบบอลังการด้วยทะเลหมอกจากไอฝน ช่วงเดือน พ.ย.ในหน้าหนาวซึ่งจะเป็นช่วงที่สวยงามที่สุด

นอกจากนี้ภูทับเบิกยังเป็น "จุดชมทะเลหมอก" ที่สวยงามและอลังการอีกแห่งหนึ่ง โดยเฉพาะหากมาในช่วงหน้าฝนประมาณ เดือนก.ค.- ต.ค.มักจะพบเห็นทะเลหมอกได้ง่ายกว่าหน้าหนาว


สำหรับการเดินทาง

สามารถช้เส้นทาง จากกรุงเทพฯ ใช้ถนนพหลโยธิน (ทางหลวงหมายเลข 1) มุ่งหน้าสู่จังหวัดสระบุรี ประมาณ 75 กิโลเมตร จะถึงตัวเมืองสระบุรี จากนั้นขับตรงไปมุ่งหน้าสู่จังหวัดลพบุรี ประมาณ 16 กิโลเมตร สู่ภูทับเบิก

จากเพชรบูรณ์ ใช้ทางหลวงหมายเลข 21 ประมาณ 40 กิโลเมตร ถึงสี่แยกหล่มสัก ตรงไปตามทางหลวงหมายเลข 203 อีก 13 กิโลเมตร พบป้ายบอกทางไปอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ตามทางหลวง 2011 และทางหลวงหมายเลข 2331 อีก 40 กิโลเมตร ถึงด่านเก็บค่าธรรมเนียมของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าจาก ตรงนี้มีทางแยกขวาเข้าหมู่บ้านทับเบิกไปอีก 6 กิโลเมตร

เส้นทางจากหล่มเก่ามาภูทับเบิกจะสูงชันและคดเคี้ยวมาก รถบัสไม่สามารถขึ้นได้ ผู้ที่ใช้รถยนต์หรือรถตู้ ควรขับรถด้วยความระมัดระวัง อีกเส้นทางหนึ่งใช้เส้นทางด้านอำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ผ่านอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าเลยที่ทำการ อุทยานฯมาประมาณ 24 กิโลเมตร จะถึงภูทับเบิก

หากขับรถต่อไปจะมาบรรจบกับเส้นทางที่จะลงไปยังอำเภอหล่มเก่าการเดินทางมายังภูทับเบิกหากไม่มีรถยนต์มาเอง ต้องนั่งรถโดยสารมาลงที่หล่มสัก หลังจากนั้น เหมาสองแถวที่อยู่บริเวณหล่มสักเพื่อขึ้นสู่ภูทับเบิก อัตราค่าจ้างประมาณ 1,200 บาท หรือแล้วแต่ตกลงครับ

(คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขนาดใหญ่)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook