หนีหนาวไปเคล้าไอทะเล ที่ “เกาะช้าง”

หนีหนาวไปเคล้าไอทะเล ที่ “เกาะช้าง”

หนีหนาวไปเคล้าไอทะเล ที่ “เกาะช้าง”
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ทะเล...ไม่ได้เที่ยวได้แค่หน้าร้อน โดยเฉพาะ "เกาะช้าง"ที่โอบล้อมด้วยทะเลงามๆ และยังเขียวชอุ่มด้วยป่าเขตร้อนชื้น ให้ได้สัมผัสทั้งแดดอุ่นริมทะเล และไอเย็นของป่าจะเที่ยวหน้าไหนก็เพลินใจได้เสมอ

หมู่เกาะและป่าเขา : เราคุ้นเคยกับชื่อ "เกาะช้าง" จนอาจลืมไปว่าที่นี่คือ "อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง" ซึ่งนอกจากเกาะช้างที่เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดแล้ว ที่นี่ยังรายล้อมไปด้วยเกาะน้อยใหญ่ถึง 52 เกาะ เพราะฉะนั้นถ้าอยากเที่ยวเกาะเลาะทะเลแล้ว หมู่เกาะช้างก็ไม่เป็นสองรองใคร และในขณะเดียวกันด้วยความที่มีพื้นที่มากถึง 650 ตร.กม.เกาะช้างจึงไม่ได้มีแค่ชายหาด แต่พื้นที่กลางเกาะยังเป็นภูเขาและป่าดิบชื้น ยอดเขาที่สูงที่สุดของเกาะช้างคือยอดเขาสลักเพชร ซึ่งสูงถึง 744 เมตร ภูเขาเหล่านี้เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำลำธารต่างๆ บนเกาะช้าง รวมทั้งทำให้มีน้ำตกหลายแห่งบนเกาะช้าง เป็นที่ท่องเที่ยวที่ทำให้เกาะช้างมีความหลากหลายครบเครื่องสำหรับทุกความชอบพอ

Getting Around: การเดินทางบนเกาะช้าง มีรถสองแถววิ่งทั่วเกาะไปยังหาดต่างๆ ค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 30 ไปจนถึง 120 บาทต่อคน หรือหากใครอยากเช่ารถมอเตอร์ไซค์ขี่เที่ยวบนเกาะ จะมีร้านให้เช่าอยู่ทั่วไป แต่ถนนบนเกาะช้างเป็นทางขึ้นเขาที่ค่อนข้างแคบและชัน ต้องใช้ความระมัดระวังกันสักหน่อยนะ

ชายหาดเลือกได้ : มาเกาะ ใครๆ ก็คงนึกถึงหาดทราย สายลม และแสงแดด และด้วยขนาดใหญ่ที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากเกาะภูเก็ต เกาะช้างจึงมีชายหาดมากมายให้เลือก พร้อมจะเลือกกันหรือยัง?

● หาดทรายขาว อยู่ทางตอนใต้ของเกาะ เป็นหาดทรายยาวและมีทรายขาวสะอาดสมชื่อ เป็นหาดที่คึกคักด้วยที่พัก ร้านค้า ร้านอาหาร รวมไปถึงไนท์ไลฟ์สนุกๆ ถ้าอยากมาเที่ยวทะเลแบบไม่เหงาก็ต้องมาที่นี่แหละ

● หาดคลองพร้าว อยู่ถัดจากหาดทรายขาว มีหน้าหาดกว้างสามารถทำกิจกรรมริมชายหาดได้หลากหลาย ทางตอนเหนือสุดของหาดยังติดกับ "อ่าวไชยเชษฐ์" ซึ่งเป็นแหลมหินที่มีทัศนียภาพสวยงาม และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของเกาะช้าง

● หาดไก่แบ้ เป็นชายหาดที่ทอดยาวต่อมาจากหาดคลองพร้าว มีชายหาดลาดยาวที่สามารถลงเล่นน้ำได้อย่างปลอดภัย มีบรรยากาศเป็นธรรมชาติและสงบเงียบเหมาะแก่การนอนชิลล์รับสายลมและแสงแดด

● อ่าวใบลาน อยู่ถัดจากหาดไก่แบ้ขึ้นไป แต่ต้องเดินเท้าผ่านภูเขาขึ้นไปจากหาดไก่แบ้ เป็นหาดทรายยาวเงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อน

● อ่าวคลองสน เป็นอ่าวขนาดใหญ่ อยู่ทางเหนือของเกาะใกล้กับท่าเรือเฟอร์รี่ที่อ่าวสับปะรด มีชายหาดกว้างยาวและหาดทรายขาวสะอาด เหมาะแก่การเล่นน้ำและเป็นอีกที่หนึ่งซึ่งสงบเงียบ มีความเป็นส่วนตัวเพราะผู้คนไม่พลุกพล่าน แถมใกล้ๆ กับบริเวณนี้ยังมีแนวปะการังใต้น้ำอีกด้วย

อีกหนึ่งสวรรค์ของนักดำน้ำ : เกาะช้างและเกาะใกล้เคียงมีแหล่งดำน้ำที่ยังคงมีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติใต้ท้องทะเล มีแนวปะการังสวยงาม จุดดำน้ำที่นิยมกันมากที่สุดคือ เกาะหวาย และหมู่เกาะรัง สามารถดำได้ทั้งแบบน้ำตื้นและน้ำลึก ช่วงที่เหมาะในการดำน้ำ คือ เดือนตุลาคมถึงพฤษภาคม หลังจากนั้นจะเป็นหน้ามรสุมน้ำทะเลจะไม่ใส

โรงแรม: Where to Stay Amari Emerald Cove โรงแรมสุดหรูบนหาดคลองพร้าว ติดริมชายหาดที่สามารถเล่นน้ำหรือทำกิจกรรมต่างๆ ได้สบายๆ ห้องพักกว้างพร้อมระเบียงให้ผ่อนคลาย หรือจะลงไปนั่งชิลล์ริมสระน้ำ ขนาดใหญ่ริมทะเลก็อาจทำให้ไม่อยากออกไปไหน แนะนำให้ลองใช้บริการ Breeze Spa ที่มีการนวดผ่อนคลายตามลักษณะอารมณ์ (Signature Mood Massage)เสร็จแล้วก็ชิมอาหารอร่อยๆ ที่มีให้เลือกทั้งอาหารไทยและอาหารอิตาเลียน เรียกว่าถ้าเป็นคู่รักที่อยากมาโรแมนติกกันก็สามารถหมกตัวผ่อนคลายอยู่ที่โรงแรมได้ตลอดวัน โดยไม่ต้องออกไปไหนเลยก็ได้ ซึ่งที่นี่มี Honeymoon Package ซึ่งรวมบริการสปา และทริปนั่งเรือชมพระอาทิตย์ตกสุดโรแมนติกที่อ่าวสลักคอกด้วยสอบถามรายละเอียด โทร. 039-552-000 หรือ Reservation.emerladcove@amari.com หรือคลิก www.amari.com

ชิม ชิลล์ และชมชีวิตชาวทะเล: ถ้าเบื่อที่จะหมกตัวอยู่กับทะเล ลุกขึ้นไปหาอาหารอร่อย และชมชีวิตชาวบ้านที่เกาะช้างกันสักหน่อย และที่ต้องไม่พลาดก็คือ

● หมู่บ้านประมงหาดบางเบ้า เป็นหมู่บ้านชาวประมงที่อยู่ปลายเกาะช้าง เป็นแหล่งแวะไปชิมอาหารทะเลสดๆ ราคาถูก อิ่มแล้วก็สามารถออกไปเดินเล่นชมหมู่บ้านที่ปลูกบ้านพักด้วยการปักเสาลงในทะเล และมีสะพานเชื่อมต่อกันไป แล้วก็อย่าลืมเดินไปชมวิวทะเลที่ประภาคาร ซึ่งเป็นสะพานปูนยื่นออกไปในทะเล เป็นแลนด์มาร์กเก๋ๆ ของเกาะช้างที่ต้องมาแชะแล้วแชร์กันสักหน่อยให้รู้ว่าได้มาถึงเกาะช้างแล้ว ถ้าอยากช้อปปิ้งซื้อของฝากจากทะเล โดยเฉพาะกะปิ น้ำปลา กุ้งแห้ง ปลาเค็มที่เป็นของขึ้นชื่อของเกาะช้าง ก็เดินเลือกซื้อกันได้แถวนี้โลด

● บ้านสลักเพชร อยู่ที่อ่าวสลักเพชรทางตอนใต้ของเกาะและเป็นอ่าวที่ใหญ่ที่สุดของเกาะ เป็นที่ตั้งของชุมชนที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของเกาะช้าง ชาวบ้านที่นี่ทำประมงชายฝั่ง จึงมีร้านอาหารทะเลสดๆ ให้เลือกชิมมากมาย และยังมีที่พักแบบโฮมสเตย์ให้ได้สัมผัสชีวิตชาวบ้านในอีกอารมณ์หนึ่ง

● บ้านสลักคอก ตั้งอยู่ด้านตะวันออกของเกาะช้าง เป็นอีกหนึ่งหมู่บ้านชาวประมงชายฝั่งของเกาะช้างและแถบนี้ยังมีป่าชายเลนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดบนเกาะจำนวน 650 ไร่ ที่นี่ก็เป็นอีกที่หนึ่งซึ่งสามารถแวะมาชิมอาหารทะเลอร่อยๆ กันได้ และที่พิเศษกว่าจุดอื่นก็คือ สามารถนั่งเรือชมธรรมชาติของป่าชายเลนออกไปจนถึงปากอ่าวสลักคอก ใช้เวลาประมาณ 40-50 นาที ซึ่งถ้าไปตอนช่วงพระอาทิตย์ตก จะได้เห็นแสงสียามตะวันตกดินสุดโรแมนติก สามารถเหมาเรือได้จาก "สลักคอกซีฟู้ด" เรือลำหนึ่งนั่งได้ 4 คน จะสั่งดินเนอร์ไปกินพร้อมกับชมพระอาทิตย์ตกด้วยก็ได้ หรือถ้าไม่อยากโรแมนติก แต่อยากออกแรงผจญภัยหน่อยๆ ก็ลองเช่าเรือคายัคพายกันเองก็สามารถติดต่อได้ที่นี่เช่นกัน

น้ำตก: เลาะเลียบชมน้ำตก อย่างที่บอกแล้วว่าเกาะช้างนั้นครบเครื่อง ทั้งหาดทรายชายทะเลและป่าเขาที่นี่จึงมีน้ำตกหลากหลายให้แวะเที่ยว ที่ยอดนิยมที่สุดก็คือ "น้ำตกธารมะยม" ซึ่งอยู่หลังที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง เป็นน้ำตกขนาดกลางมี 4 ชั้น โดยรอบเป็นป่าครึ้ม อากาศร่มเย็นสบาย และที่สำคัญที่นี่ยังเป็นที่ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 6 เคยเสด็จประพาส จึงมีพระปรมาภิไธยย่อ จปร. และ วปร. สลักอยู่ที่หน้าผาน้ำตก และ "น้ำตกคลองพลู" ซึ่งอยู่ห่างจากอ่าวคลองพร้าวราว 3 กิโลเมตร และเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่สวยงามที่สุดของเกาะช้าง

Getting There

● การเดินทาง ทางรถยนต์ใช้เวลา 4-5 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ ระยะทางประมาณ 315 กม.

● รถโดยสารประจำทาง มีทั้งรถตู้จากแถวอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิใกล้กับโรงพยาบาลราชวิถี ค่ารถประมาณ 300 บาทเดินทางได้ตั้งแต่ 6 โมงเช้าถึงสองทุ่มส่วนรถทัวร์สามารถขึ้นได้ที่สถานีขนส่งเอกมัยและหมอชิต ค่าตั๋วประมาณ 200 บาท

● เครื่องบิน บางกอกแอร์เวย์สมีเที่ยวบินตรงมา จ.ตราด (สนามบินอยู่ที่ อ. เขาสมิง จ.ตราด) ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่www.bangkokair.com

● จากตราดไปยังเกาะช้าง ถ้าขับรถไปเองสามารถนำรถข้ามเรือเฟอร์รี่ไปได้เลยมีสองท่าคือท่าเรือเซ็นเตอร์พอยต์ให้บริการ 06.00-19.00 น. ค่าโดยสาร120 บาท ใช้เวลาเดินทาง 45 นาที และไปจอดที่ท่าเรือด่านเก่า และท่าเรืออ่าวธรรมชาติ ซึ่งคนนิยมใช้มากที่สุด เพราะใช้เวลาเดินทางแค่ 30 นาที ไปจอดที่ท่าเรืออ่าวสับปะรด ค่าโดยสาร 120 บาท ให้บริการระหว่าง 06.30-19.00 น.

(คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขนาดใหญ่)

ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook.. ได้ที่นี่เลย!!

อัลบั้มภาพ 43 ภาพ

อัลบั้มภาพ 43 ภาพ ของ หนีหนาวไปเคล้าไอทะเล ที่ “เกาะช้าง”

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook