Hanoi, Vietnam นครแห่งเสียง (แตร)

ในช่วงเช้าๆ ของย่านเมืองเก่าของกรุงฮานอย ความคึกครื้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ผู้คนที่ตื่นเช้าพากันออกมานั่งเริ่มต้นมื้อเช้ากันบนริมทางฟุตบาทอย่างคึกคัก ร้านอาหารแผงลอยเล็กๆ ร้านขายขนมปังบาแก็ต ร้านขายเครื่องดื่ม โดยเฉพาะชา และร้านกาแฟเวียดนาม เริ่มปฏิบัติงานกันตั้งแต่รุ่งสาง หากมาที่นี่คงไม่ต้องห่วงเรื่องท้องหิว แต่คงจะเป็นห่วงในเรื่องของหูมากกว่า เพราะท้องถนนของที่นี่ เสียงแตร คือ สัญญาณขอทาง ทั้งซ้ายขวาหน้าหลัง และคงต้องระวังเรื่องมอเตอร์ไซค์มากกว่ารถยนต์

ย่านเมืองเก่าในกรุงฮานอย

เราจะพบกับบ้านเก่าโบราณ ที่ยังคงสัมผัสถึงกลิ่นอายวันวานที่ผ่านมาของเวียดนามได้เป็นอย่างดี ปรับให้เป็นร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ผสมกลมกลืนกับความเป็นปัจจุบันได้อย่างไม่เคอะเขิน มองไปยังถนนเส้นไหนในฮานอย เราก็จะเห็นบ้านเก่า เราแนะนำให้แวะไปที่ Heritage House เลขที่ 87 บ้านไม้เก่าแก่สองชั้น ที่ภายในเปิดให้เข้าชมไม่เสียค่าเข้าชม และได้เห็นผู้เฒ่านั่งวาดภาพโดยใช้พู่กันจีน

นอกจากนี้ยังมีวัดจีนขนาดเล็กกะทัดรัด ปลูกติดชิดกันไปตลอดทาง บริเวณด้านหน้าของตัวบ้าน หากไม่ได้เปิดเป็นร้านค้า ก็จะมีแผงลอยเล็กๆ มาขายอาหารและเครื่องดื่ม จำพวก เฝอ บะหมี่เวียดนาม ขนมจีนทรงเครื่อง ขนมหวาน ชาร้อนที่ลอยมะนาวฝาน น้ำผลไม้ปั่น ที่มาในรูปแบบโต๊ะและเก้าอี้พลาสติกหลากสีตัวเตี้ยๆ ให้เราได้นั่งยองๆ ชิมรสอาหารเวียดนามแท้ๆ กันอย่างจุใจ หรือจะเดินกินขนมปังบาแก็ตแข็งๆ ที่ชาวเวียดนามบอกว่า กรอบ เคี้ยวเพลิน เกินห้ามใจ แต่เรากัดคำแรกช่างแตกต่าง จนต้องรีบหากาแฟสดเวียดนามมาดื่มให้คล่องคอ แต่กว่าจะได้ดื่มก็ยองๆ รอ มองสาวเวียดนามเพลินตานานใช้ได้ทีเดียว เมื่อได้ชิมรสกาแฟเวียดนามแล้ว รับรองติดอกติดใจกับกาแฟดำสดๆ ใส่นมนิดหน่อยพอมันๆ เติมน้ำแข็งอีกสักหน่อย รสเยี่ยม!

เมื่อได้กาแฟสดๆ ให้เลือดได้สูบฉีดกันแล้ว ก็ต้องแวะไปที่ตลาดขายส่ง "ด่งชวน" ย่านถนน 36 สาย บรรยากาศช่างเหมือนสำเพ็ง โบ๊เบ๊ พาหุรัด ประตูน้ำ และเสือป่าของเมืองไทยรวมกันอยู่ในย่านนี้ ผู้คนมากหน้าหลายตา พากันมาจับจ่ายซื้อของไปขายกันอย่างคึกคัก ผสมผสานกับปริมาณนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศมาสัมผัสความคึกคักของที่แห่งนี้ และในย่านนี้ ตอนนี้กลางคืนก็จะกลายเป็นถนนคนเดิน กลิ่นอายไนซ์พลาซ่า ให้เราได้เดินช้อปปิ้งและหาของกินได้ตลอดเส้นทาง และเมื่อมีโอกาสได้มาที่ฮานอย อย่าลืมแวะไปนั่งยองๆ ดื่มเบียร์สด กดใส่แก้ว ในราคาประมาณแก้วละ 7,000 ด่องหรือประมาณ 11 บาท แต่เสียดายที่รอบนี้เราไปแล้ว ฝนตกไม่พอ กว่าจะเจอร้านก็ปาเข้าไป 4 ทุ่ม ซึ่งเขาปิดกันแล้ว จึงทำได้เพียงสั่ง Hanoi Beer เป็นกระป๋องกินแก้เหนื่อยกันไปในราคาประมาณ 20,000 ด่องหรือประมาณ 30 กว่าบาท และหากต้องซื้อน้ำเปล่า สนนราคาขวดละ 20 บาท ไม่มีถูกไปกว่านี้แล้ว

เมืองแห่งสถานที่ที่ติดตรา "มรดกโลก"

หากเรามาสัมผัสวิถีชีวิตของผู้คนในฮานอยแล้ว ยังมีอีกสถานที่เก่าแก่สำคัญๆ ที่ต้องแวะไป อาทิ สุสานโฮจิมินห์ ตึกทำเนียบรัฐบาล อาคารเก่าแก่สีเหลืองสด ที่ภายในยังประกอบไปด้วยบ้านพักลุงโฮฯ ที่มีทั้งบ้านไม้ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากบ้านชนบทในเมืองไทย และเขาก็เสียชีวิตที่บ้านหลังนี้ นอกจากนี้ยังมีอาคารปูนเก่าแก่สีเหลืองสดสวย ซึ่งเป็นที่พักชั่วคราวของโฮจิมินห์ ได้เห็นรถยนต์โบราณที่โฮจิมินห์เคยใช้ เป็นต้น วัดเจดีย์เสาเดียว วัดเฉินก๊วก (Chen Quoc Temple) ซึ่งเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในฮานอย อายุประมาณ 1,417 ปี เป็นอีกวัดที่สวยงามมาก กับวิวเย็นๆ สบายๆ ของทะเลสาบตะวันตก วัดวันเหมียว หรือวิหารวรรณกรรม ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของเวียดนาม ในอดีตเป็นสถานที่ที่ไว้สอบบัณฑิต และเป็นสถานที่ที่จัดพิธีจบปริญญา ณ ลานเฉลิมฉลอง เพื่อความเป็นสิริมงคล รวมทั้ง สะพานแดง ณ ทะเลสาบคืนดาบ ที่ยามค่ำคืนเปิดไฟแล้วสวยงามมาก และเมื่อข้ามสะพานไม้นี้ไป ก็จะพบกับ วัดหง็อกเซิน อีกหนึ่งวัดโบราณของกรุงฮานอยอีกด้วย

ยามเย็นของฮานอย เสียงแตรรถยังคงจังหวะเร้าใจให้เราได้ยิน ควันอุ่นๆ จากหม้อต้มน้ำซุปริมทาง และกลิ่นจางๆ ของขนมปังก็ยังคงเดิม อยากให้มาชิมรสสัมผัสเหล่านี้ที่ฮานอย เมืองหลวงของประเทศเวียดนาม ที่ยังคงกลิ่นอายวันวานไว้ได้อย่างครบสมบูรณ์

การเดินทาง

เครื่องบิน : สายการบิน Air Asia หรือ เวียดนามแอร์ไลน์ บินตรงลงสนามบินนอยไบ ประเทศเวียดนาม

เดินทางในประเทศ : โบกแท็กซี่จากสนามบินให้ไปส่งลงฮานอย ราคากดมิเตอร์เริ่มต้นที่ประมาณ 9,000 ด่อง ระยะทางประมาณ 40 กิโลเมตร หากคิดเป็นเงินดอลล่าร์กว่าจะไปถึงฮานอยก็ประมาณ 20 ดอลล่าร์หรือประมาณ 620 บาท หรือจะชิวเนิบช้า นั่งรถเมล์เข้าเมืองก็มีหลายสาย ราคาคนละ 8 บาทเท่านั้น นอกนั้นสามารถเดินเที่ยว โบกแท็กซี่ หรือนั่งสามล้อถีบ เพื่อไปยังจุดต่างๆ ได้ 

อัตราค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ : ประมาณ 20,000 - 25,000 ด่อง/คน หรือประมาณ 30-40 บาท

ร้านอาหาร : ร้าน SEN บุฟเฟ่ต์ 65 อย่าง ที่จะทำให้เราได้ชิมรสอาหารเวียดนามและอาหารสัญชาติอื่นๆ ได้อย่างจุใจในที่เดียวกัน หรือ ร้าน Anh Hoa ชั้น 3 อาหารรสชาติที่ถูกปากคนไทยอย่างเรา ด้านล่างมีร้านเบเกอรี่ให้เลือกซื้อ

เรื่อง : ศรัญญา โรจน์พิทักษ์ชีพ / ภาพ : จิตรพงษ์ จีระฉัตร

(คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขนาดใหญ่)

ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook.. ได้ที่นี่เลย!!