ท่องเที่ยวสืบสานตำนานชาวแพสะแกกรัง อุทัยธานี

อุทัยธานี เมืองแห่งลุ่มแม่น้ำสะแกกรังที่ตั้งอยู่ในภาคเหนือตอนล่างติดต่อกับภาคกลางตอนบน เมืองแห่งความสงบงามของวิถีชีวิตไทยๆ ที่ยังคงได้รับการสืบสานมาถึงทุกวันนี้ ใครไปสัมผัสก็ต้องหลงรัก

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานจังหวัดอุทัยธานี-นครสวรรค์ ภายใต้การนำของ ท่านผู้อำนวยการ สุรชัย ศรีพลอย จึงจับมือกับชาวลุ่มน้ำสะแกกรังและภาคเอกชน บริษัท ฟูจิทัวร์ นำคณะนักท่องเที่ยวเดินทางจากกรุงเทพฯ สู่อุทัยธานี ในโครงการ "ท่องเที่ยวเชิงวิถีชีวิต สืบสานตำนานชาวแพสะแกกรัง" เมื่อวันที่ 2-3 กุมภาพันธ์ 2556

คณะออกเดินทางจากหน้าตึกการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานใหญ่ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ กันแต่เช้าตรู่ ถึงจังหวัดอุทัยธานีประมาณ 10.30 น. แล้วร่วมกันสักการะศาลหลักเมืองอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าศาลากลางจังหวัด บริเวณริมแม่น้ำสะแกกรัง เสร็จแล้วจึงทยอยลงแพยนต์ขนาดใหญ่ เร่ิมล่องไปอย่างช้าๆ รับลมแม่น้ำเย็นชื่นใจ ชื่นชมทิวทัศน์ธรรมชาติสวยสดงดงามริมสองฟากฝั่ง โดยเฉพาะ "เกาะเทโพ" เกาะน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ที่ยังมีชายน้ำกอไผ่ร่มรื่น เห็นแล้วสบายตาสบายใจ

เรือล่องผ่านสถานที่สำคัญหลายแห่ง ทั้ง "วัดอุโปสถาราม" หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า วัดโบสถ์ วัดเก่าแก่ที่มีศิลปะสมัยสุโขทัย อยุธยา รัตนโกสินทร์ และยุโรป ผสมผสานกันอย่างกลมกลืน ล่องผ่านเรือนแพที่ชาวบ้านอยู่อาศัยนับร้อยๆ หลัง นับเป็นชุมชนเรือนแพขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองไทยทุกวันนี้ โดยชาวบ้านยังคงใช้ชีวิตผูกพันอยูกับสายน้ำ เลี้ยงกระชังปลา ปลูกเตยน้ำ ปลูกดอกพุทธรักษา อีกทั้งยังมีแพปลาย่างป้าแต๋ว แพยกยอ และเรือกับข้าว เรือขนม เรือผลไม้ เรือกาแฟโบราณ พายเข้ามาขาย มาทักทายคณะท่องเที่ยว ให้ได้ลองชิมและอุดหนุนกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง

แม่น้ำสะแกกรังเป็นลำน้ำสายสำคัญ มีกำเนิดมาจากเทือกเขาโมโกจูในจังหวัดกำแพงเพชร ไหลผ่านตัวเมืองอุทัยธานี ไปบรรจบกับแม่น้ำเจ้าพระยาที่อำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท รวมความยาว 108 กิโลเมตร สมัยอยุธยาริมน้ำนี้เป็นท่าค้าข้าวของชาวจีน อีกทั้งยังเป็นลำน้ำที่พระราชบิดาของรัชากลที่ 1 คือ นายทองดี ได้ถือกำเนิดขึ้น อุทัยธานีจึงได้ชื่อว่า "เมืองพระชนกจักรี" มาถึงทุกวันนี้

ต่อจากนั้น ภาคบ่ายคณะได้เดินทางไปยัง "วัดท่าซุง" เพื่อสักการะสังขารของพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง หลวงพ่อฤาษีลิงดำ แล้วนั่งรถขึ้นไปกราบรอยพระพุทธบาทบนยอดเขาสะแกกรัง ณ วัดสังกัสรัตนคีรี พร้อมกับชมวิวจากมุมสูง มองเห็นเมืองอุทัยธานีได้แบบพาโนรามา ปิดท้ายวันอันน่าประทับใจด้วยการเดินเที่ยว "ถนนคนเดิน ตรอกโรงยา" กลางเมืองอุทัยธานี มีจัดกันในวันเสาร์-อาทิตย์ สืบสานเรื่องราวของ "ซิเกี๋ยกั้ง" ชุมชนค้าขายของชาวจีนมาแต่โบราณ นับเป็นสีสันอันน่ารักที่ปลุกเมืองอุทัยธานีให้มีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง

เช้าตรู่วันถัดมา คณะรีบตื่นไปรับอรุณโดยการล่องเรือออกไปชมธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ ณ "บึงบอระเพ็ด" จังหวัดนครสวรรค์ ตื่นตากับแสงอาทิตย์ยามเช้าที่ค่อยๆ ปลุกทะเลบัวแดงให้เบ่งบานรับเช้าวันใหม่ ในขณะที่นกนานาชนิดบินออกมาอวดโฉม ทั้งฝูงเป็ดแดงนับหมื่นตัว ที่อพยพมาจากซีกโลกเหนือในฤดูหนาว มีนกยางโทนใหญ่ นกกระสาแดง นกกระสานวล เป็ดผีเล็ก เป็ดคับแค นกกาน้ำเล็ก นกแซงแซวหางปลา และอีกนานาชนิด ช่วยกันต่อเติมระบบนิเวศบึงน้ำบึงบอระเพ็ดให้คงอยู่ ขึ้นจากเรือแล้ว ก็เข้าไปดูพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ หรือ บึงบอระเพ็ด Aquarium ที่รวมพันธุ์ปลาน้ำจืดเอาไว้นับร้อยชนิด ปิดท้ายด้วยชมการแสดงจระเข้แสนรู้อันน่าตื่นเต้น

ช่วงบ่ายของวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ก่อนกลับกรุงเทพฯ คณะเดินทางสู่ "วัดหนองหญ้านาง" กราบหลวงพ่อสมัย พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งลุ่มน้ำสะแกกรัง ผู้โด่งดังในการรักษาโรคด้วยยาสมุนไพรไทย คณะจึงร่วมกันถวายผ้าป่าสามัคคีเป็นพุทธบูชา เสร็จแล้วมุ่งหน้าสู่ "ศูนย์ OTOP อุทัยธานี" ช่วยกันกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น อุดหนุนอาหารเมนูปลา น้ำพริก ผ้าทอบ้านไร่ ฯลฯ นับเป็นทริปง่ายๆ ใกล้ๆ กรุง ที่เต็มเปี่ยมด้วยความหลากหลาย และจิตวิญญาณแห่งวิถีไทยโดยแท้

สนใจสอบถามเพิ่มเติมที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุทัยธานี-นครสวรรค์ โทร. 0-5651-4651-2

(คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขนาดใหญ่)

ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook.. ได้ที่นี่เลย!!