เที่ยวพุเตย เชยชมสนสองใบหนึ่งเดียวในภาคกลาง

เมื่อไม่นานที่ผ่านมา ผมมีโอกาสเดินทางไปสัมผัสกับอากาศหนาวเย็นเป็นครั้งแรกในรอปปี 2555 ที่อุทยานแห่งชาติหนึ่งเดียวในจังหวัดสุพรรณบุรี คือ อช.พุเตย อ.ด่านช้าง แถมมาแล้วก็ต้องประหลาดใจกับสิ่งที่ได้เห็นครั้งแรกเป็นอย่างมากในผืนป่าแห่งนี้ คือ ต้นสนสองใบ ที่พบได้ที่นี่เพียงแห่งเดียวในภาคกลางอีกเช่นกัน โดยใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ เพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น ก็ได้สูดอากาศแสนบริสุทธิ์และสัมผัสกอดลมหนาวได้แบบเต็มที่

อช. พุเตย มีเนื้อกว้างใหญ่เกือบ 200,000ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ในอำเภอด่านช้าง สภาพป่ายังมีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติ เป็นต้นน้ำลำธารของแม่น้ำหลายสาย ป่าที่พบที่นี่มีทั้ง ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง รวมถึงป่าสนสองใบแห่งเดียวของภาคกลาง

การเดินทางไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติพุเตยจากตัวอำเภอด่านช้าง มี 2 เส้นทางให้เลือก คือ ทางลาดยาง ที่ต้องใช้เวลาในการเดินทางไกลกว่า กับเส้นทางลัด ซึ่งถนนเป็นทางทางลูกรัง แต่ใช้เวลาในการเดินทางสั้นกว่า ครั้งนี้พวกเราเลือกเดินทางขึ้นไปเที่ยว อช.พุเตย ด้วยเส้นทางทางลัด เพราะนอกจากใช้เวลาน้อยกว่าแล้ว สองข้างทางยังเต็มไปด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ให้ชื่นชมตลอดทาง แต่ก็มีข้อเสียคือ ถนนเส้นนี้ขรุขระมาก นั่งแล้วตับ ไต ไส้ พุง แทบจะมากองอยู่รวมกัน

พอถึงที่ทำการอุทยานฯ พวกเราก็เตรียมความพร้อมขึ้นไปบนอุทยานแห่งชาติพุเตย โดยนั่งรถบรรทุก 6 ล้อของอุทยานฯ เพื่อไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวแห่งแรก นั่นคือ ศาลเลาดาร์ บริเวณนี้เราจะได้เห็นเศษซากของเครื่องบินเลาดาร์แอร์ที่ตกเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งยังทิ้งล่องลอยแห่งความเศร้าโศกไว้เป็นอนุสรณ์

นั่งรถมาอีกนิดนึง ก็ถึงปากทางเข้าป่าสนสองใบ ซึ่งต้องเดินเข้าไปอีกประมาณ 800 เมตร ระหว่างทางเราได้พบกับป่าเต็งรังและป่าเบญจพรรณก่อน พอเดินไปอีกซักพักเราต้องตะลึงงั้นเมื่อได้พบกับต้นสนสองใบที่มีขนาดใหญ่มว๊ากกอายุหลายสิบปี เราได้แต่เดินชมใกล้ๆ ไม่กล้าที่จะขยับเท้าไปไหน เพราะกลัวจะไปเหยียบต้นกล้าของต้นสนสองใบ ที่กำลังโผล่จากพื้นดินมาไม่ถึงคืบ ผมเลยค่อยๆ เดินถ่ายภาพไปอย่างช้าๆ เพื่อเป็นการช่วยอนุรักษ์สนสองใบต้นน้อยๆ ไว้ให้นักท่องเที่ยวที่มาท่องเที่ยวทีหลังได้ชมกัน

สนุกกับการชมสนสองใบแล้ว เราก็ก็กลับมานั่งพักผ่อนกันที่ทำการอุทยานฯ โดยทางอุทยานฯ ได้เตรียมการต้อนรับพวกเราด้วยการแสดงรำตงของพี่น้องชาวกะเหรี่ยง การแสดงรำตงเป็นการแสดงพื้นถิ่นที่ใช้ต้อนรับแขกผู้มาเยือน เป็นการร่ายรำด้วยท่วงท่าที่น่ารัก ซึ่งผมรู้สึกประทับใจการแสดงของเด็กๆ มากจบการแสดงของเด็กๆ พวกเราก็กลับเข้าเต็นท์นอน ค่ำคืนนี้อากาศเย็นมากๆ นานๆ ผมจะได้มาสัมผัสอากาศหนาวแบบนี้ซักที ช่างสดชื่นสบายใจเป็นที่สุด

ใครสนใจมาเที่ยวแบบผมก็ติดต่อได้ที่ทำการอุทยานเลยครับ โทรศัพท์ 0 3544 6237, 08 1934 2240, 081-287-7248

อีเมล: phutoei_np@hotmail.com

เรื่องและภาพ: ทศพร สุภาพ

(คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขนาดใหญ่)

ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook.. ได้ที่นี่เลย!!