สัมผัสลมหนาว 1

ใกล้หน้าหนาว อากาศดีๆ หลายคนคงกำลังวางแผนไปเที่ยวกันแล้วซินะ สนุก! ท่องเที่ยว ก็ไม่พลาดเหมือนกัน เมื่อหน่วยงานใจดีอย่าง กรมการท่องเที่ยว ชวนพวกเราไปสัมผัสความงดงามของธรรมชาติและอากาศหนาวๆ ของเมืองท่องเที่ยวชื่อดัง จ. เพชรบูรณ์ ที่มีแหล่งท่องเที่ยว แหล่งเรียนรู้ และกิจกรรมสนุกๆ มากมาย ไว้รอต้อนรับนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี

นั่งรถผ่านไปหลายชั่วโมง เราก็มาถึงอำเภอที่เคยได้ยินอาหารพื้นถิ่นมีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานว่า "ไก่ย่างวิเชียรบุรี" โดยเราเลือกเติมพลังมื้อเที่ยงกันที่ "ร้านไก่ย่างตาแป๊ะ 2" ร้านไก่ย่างและอาหารอีสานแสนอร่อยที่ได้รับความนิยมในย่านสามแยกวิเชียรบุรี ที่ดูแลความอร่อยและสืบทอดกิจการโดย คุณกนกพรรณ โพธิ์รัศมี ลูกสาวคนโตของตาแป๊ะ บรรยากาศภายในร้านร่มเย็นสวนไม้ดอกไม้ประดับ ร่มรื่นด้วยสวนน้ำพุ การบริการเป็นกันเอง อาหารรสชาตินั้นถูกปาก สิ่งพิเศษกว่าที่อื่นและเป็นเจ้าตำหรับดังเดิมไก่ย่างวิเชียรบุรีสูตรน้ำกระเทียมดอง " ไก่ย่างแห้งหนังกรอบ...หอมกลิ่นเครื่องเทศจางๆ...ซ้อนอยู่ในเนื้อไก่นุ่มๆ" รับประทานพร้อมน้ำจิ่ม สามรสให้เลือกตามความชอบใจ

มาถึงถิ่นเมืองมะขามหวานทั้งที่ครั้งนี้เรามีโอกาสได้ไปเยี่ยมชม กลุ่มมะขามหวานแปรรูปไร่บุญคง  ของคุณสังเวียน จันทมาลา ที่มีความชำนาญและชื่อเสียงเป็นที่รู้จักเกี่ยวกับการจำหน่ายมะขามฝักและมะขามหวาน แปรรูปทุกชนิด เช่น มะขามคลุกบ๊วยแกะเมล็ด , มะขามปรุงรส เปรี้ยว..แซ่บ อร่อยโดนใจได้วิตามินซี

พาไปชมของกินอร่อยๆ กันแล้ว ตอนเย็นเรามีนัดไปชมทัศนียภาพบนยอดสูงสุดของเขาค้อผ่านฐานอิทธิไปอีก 1 กิโลเมตรไม่นานก็มาถึง "อนุสรณ์สถานผู้เสียสละ" สร้างขึ้นเพื่อเทิดทูนวีรกรรมของพลเรือน ทหาร ตำรวจ ผู้พลีชีพในการสู้รบเพื่อปกป้องพื้นที่ในเขตรอยต่อจังหวัดพิษณุโลก เพชรบูรณ์ และเลย สิ่งก่อสร้างมีลักษณะรูปสามเหลี่ยมเป็นหินอ่อนทั้งหมด หมายถึง การปฏิบัติการร่วมกันระหว่างพลเรือน ตำรวจ ทหาร ฐานอนุสรณ์กว้าง 11 เมตร หมายถึง ปี พ.ศ.2511 ที่เริ่มปฏิบัติการรุนแรงของผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ (ผกค.) ส่วนความสูงจากแท่นบูชาถึงยอดอนุสรณ์สถานสูง 24 เมตร หมายถึง ปี พ.ศ.2524 เริ่มยุทธการครั้งใหญ่ ส่วนความสูงจากฐานถึงยอดอนุสรณ์สถาน 25 เมตร หมายถึง ปี พ.ศ.2525 สิ้นสุดการรบ และความกว้างฐานสามเหลี่ยมด้านละ 2.6 เมตร หมายถึง ปี พ.ศ.2526 ที่สร้างอนุสรณ์สถานแห่งนี้ขึ้น ผนังภายในบันทึกประวัติอนุสรณ์ผู้เสียสละ และรายชื่อวีรชนผู้เสียสละชีวิตเพื่อประเทศชาติ

ตะวันกำลังลาลับขอบฟ้าฉายแสงทองสุดท้ายก่อนจะหายเข้าไปในกลีบเมฆเหลือภาพความสวยงามนี้ทิ้งไว้ในความทรงจำของใครหลายๆ คน ค่ำคืนนี้เราแวะนอนหลับพักผ่อนที่ "สายลม...แห่งขุนเขา โรงแรมบรีซฮิลล์ เขาค้อ" โรงแรมสุดน่ารัก ที่ล้อมรอบด้วยขุนเขาและธรรมชาติ ยามเช้าตื่นมาก็สัมผัสได้ถึงอากาศแสนบริสุทธิ์จริงๆ เหมือนที่ใครหลายคนเคยบอกว่า มาเขาค้อหนึ่งวัน อายุยืนหนึ่งปี อากาศสบายยามหน้าหนาว พวกเราเดินทางไปชม "กลุ่มบ้านพักโฮมสเตย์บ้านหนองแม่นา" ที่รวมตัวกันจัดตั้งขึ้นมา เมื่อปี พ.ศ. 2553 เพื่อการรับรองนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการ จากกลุ่มชุมชนคนรักษ์ป่าหนองแม่นา ที่เดิมทำการท่องเที่ยวเชิงนิเวศอยู่แล้ว ซึ่งมีกิจกรรมบริการนักท่องเที่ยวศึกษาธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ วิถีชีวิตชุมชน, นวดเพื่อสุขภาพ, จำหน่ายผลิตภัณฑ์ ของที่ระลึก มีกิจกรรมปั่นจักรยานเสือภูเขาที่ทุ่งหญ้าสะวันนา และเดินป่า นั่งเรือ ศึกษาธรรมชาติ

โดดเด่นเป็นสง่าแลเห็นแต่ไกลบ้านหลังสีฟ้า "คุ้มร่มเย็น" ลุงเชาว์ใส่เสื้อหวานสีชมพู ยืนยิ้มแย้มแจ่มใสคอยต้อนรับผู้มาเยือน บรรยากาศร่มรื่นไม้ดอก ร่มเย็นไม้ประดับ ภายในบ้านตกแต่งเรียบง่ายแต่ดูดี

บริเวณตรงข้ามกันก็เป็นบ้าน "คุ้มรวมใจ" หลังนี้ห้องนอนสีหวานถูกใจ วันนี้โชคดีได้เรียนรู้ภูมิปัญญาชาวบ้าน วิสาหกิจชุมชนต้นกล้าอาชีพเขาค้อนำเสนอ "น้ำส้มควันไม้" มีประโยชน์ใช้ในการบำรุงดิน พร้อมป้องกันเชื้อราในดิน เป็นสารขับไล่แมลง , สารช่วยเร่งให้การเจริญเติบโตของพืช และเพิ่มผลผลิต ได้ยินเสียงเป็ดร้องดัง...ก๊าบ...ก๊าบ จึงเดินไปดูพบพี่สาวคนสวยยืนฉีดน้ำล้างพื้นในคอกเป็ดให้สะอาด สายน้ำไหลลงโอ่งใบใหญ่อยู่ในโคลนตมมีท่อต่อเข้าไปในบ้าน จึงถามได้ความว่า เป็นวิธีทำแก็สชีวะภาพ จากมูลเป็ด เพื่อใช้ในครัวเรือน ถ้าจะให้ดีต้องมูลหมู ไม่ใช่แค่กลิ่นแรง ยังให้พลังงานเชื้อเพลิงร้อนแรงอีกด้วยนะ ถนนทางเดินนำพามาพบที่พักโฮมสเตย์บ้านครอบครัวตัวอย่างหลังงามของคุณสุด บรรยากาศท่ามกลางสวนดอกไม้ มีต้นไม้น้อยใหญ่ให้ร่มเงา ภายในบ้านสะอาดตา อากาศถ่ายเทเย็นสบาย ตกแต่งเรียบง่ายแต่ดูดีมีระดับ มาถึงห้องนอน หมอนผ้าห่มตั้งใจให้มีสีชมพูลวดลายการ์ตูนดูน่ารักจัดเรียงไว้เป็นอย่างดี

ก่อนกลับ บนถนนสายสระบุรี-หล่มสัก อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ เดินทางไปสักการบูชาพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของชาวเพชรบูรณ์ "พระพุทธมหาธรรมราชาเฉลิมพระเกียรติ" เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ศิลปะสมัยลพบุรี ที่ยอดพระเกตุบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ หล่อด้วยเนื้อทองสำริดใหญ่ที่สุดในจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อเป็นองค์ประธาน ประดิษฐาน ณ พุทธอุทยานเพชบุระ ในวันสุดท้ายของทริปเที่ยวเขาค้อ พวกเรานั่งมองดูทิวเขา แลเห็นต้นไม้ ดอกไม้ เมฆหมอก สายลมเย็นพัดผ่านรู้สึกหนาวกาย ไม่นานตะวันเริ่มทอแสงอ่อนสาดส่อง ช่วยให้หนาวนี้จางหายไปใจมีอุ่นไอรักธรรมชาติเขาค้อ มีโอกาสตามไปเที่ยวชมกันได้นะครับ รับรองสนุกและประทับใจ จนคุณหลงรักเขาค้อขึ้นมาเลยล่ะ

สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกิจกรรมท่องเที่ยวได้ที่ กรมการท่องเที่ยว สนามกีฬาแห่งชาติ ถนนพระราม 1 ปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ฯ 10330 โทร.0 2219 4027

(คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขนาดใหญ่)

ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook.. ได้ที่นี่เลย!!