ลัดเลาะขุนเขาเมืองเหนือ ชมมหัศจรรย์พรรณไม้งาม

ลัดเลาะขุนเขาเมืองเหนือ ชมมหัศจรรย์พรรณไม้งาม

ลัดเลาะขุนเขาเมืองเหนือ ชมมหัศจรรย์พรรณไม้งาม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ได้เวลาตื่นนอนจากฝัน นำพาตนเองออกเดินทางไปสถานที่นัดพบ ณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานใหญ่ กรุงเทพฯ ภาพบรรยากาศ ความสวยงามยังคงเหมือนเดิม อรุณสวัสดิ์ยามเช้าจ๊ะ...คำทักทายที่คุ้นเคย เพื่อนพ้องน้องพี่หน้าตาดี มีน้ำจิตแบ่งปันน้ำใจมอบรอยยิ้มพิมพ์ใจ สร้างมิตรภาพที่ดีให้ซึ่งกันและกัน นัยน์ตาเป็นประกาย น้ำเสียงร่าเริงแจ่มใสกันทุกคน ผมนั่งเหม่อมองฟ้าปล่อยให้ใจบางเบาสบายล่องลอยไปตามอารมณ์ สายลมเย็นพัดผ่านสมองเริ่มคิดทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตในตอนนี้ ครั้งแรกที่ทราบข่าวงานประกวดภาพถ่าย ใจก็ปรารถนาตั้งจิตอธิฏฐานถ้ามีบุญวาสนาเพียงพอคงได้เดินทางไปถึงสถานที่แห่งนั้น จากฝันกลายเป็นความจริง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภูมิภาคภาคเหนือ ร่วมกับนิตยสาร PHOTOTECH และ แทรเวล ไลน์ พร้อมพันธมิตรโดย บัตรเครดิตท่องเที่ยว ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) จัดกิจกรรม


เดินทางท่องเที่ยวชมความงามของธรรมชาติ " มหัศจรรย์พรรณไม้งาม เทิดพระเกียรติ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ" เส้นทาง กรุงเทพฯ - ลำปาง - ลำพูน - เชียงใหม่ บริเวณจุดลงทะเบียนรู้สึกว่าจะได้รับความสนใจเป็นพิเศษ จึงเดินเข้าไปหาแล้วลงชื่อก็เข้าใจ รับป้ายชื่อหอยคอพร้อมข้อมูลที่ควรทราบ และของสำคัญที่ช่วยเติมเต็มให้ร่างกายมีพลัง " มีข้าวกล่อง + น้ำดื่ม แจกด้วยนะ" อิ่มอร่อยกับอาหารเช้า เมื่อทุกคนพร้อมก็ได้เวลาล้อหมุนขบวนรถออกเดินทาง ภายใต้การนำของรถตำรวจกองปราบปราม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เส้นทางชีวิตช่างภาพนักเขียนแนวท่องเที่ยวของผมได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง นอนพักสายตาสมองเกิดจินตนาการวาดภาพพรรณไม้งาม อวดโฉมชูช่อดอกไม้แห่งความฝันจะเป็นอย่างไรกันนะ ตื่นนอนได้แล้วจ๊ะ...ตอนนี้คณะของเราได้เดินทางมาถึง เมือง "เขลางค์นคร" เป็นที่รู้จักกันดีอีกชื่อหนึ่งว่า "เมืองรถม้า" จังหวัดลำปาง อยู่ในภาคเหนือตอนบน เมืองสำคัญเมืองหนึ่งในอาณาจักรล้านนา นครลำปางได้ตกเป็นเมืองขึ้นของพม่ามานานนับสองร้อยปี ดังนั้นสถาปัตยกรรม วัดวาอาราม โบราณสถานต่าง ๆ ในเมืองลำปางจึงได้รับอิทธิพลของศิลปะพม่าเห็นได้อย่างชัดเจน

เยี่ยมชมวัดสำคัญคู่บ้านคู่เมืองลำปางมาแต่โบราณกาล "วัดพระธาตุลำปางหลวง" โบราณสถานสำคัญ ที่ตั้งอยู่ในบริเวณซาก "เมืองโบราณลัมพกัปปะนคร" ตามประวัติพระนางจามเทวีเคยเสด็จมานมัสการ และทำการบูรณะซ่อมแซมสถาปัตยกรรม ประติมากรรม และจิตรกรรมอยู่เสมอ พระธาตุลำปางหลวง เป็น "พระธาตุประจำปีเกิดของ คนปีฉลู" ด้วยเริ่มสร้างในปีฉลู และเสร็จในปีฉลู ภายในองค์พระเจดีย์บรรจุ พระเกศาและ พระอัฐิธาตุ จากพระนลาฎข้างขวา พระศอด้านหน้าและด้านหลัง บริเวณพุทธาวาสประกอบด้วย องค์พระธาตุลำปางหลวง เป็นประธาน มีบันไดนาคนำขึ้นไปสู่ซุ้มประตูโขง ถัดซุ้มประตูโขงขึ้นไปเป็นวิหารหลวง บริเวณโดยรอบมี วิหารน้ำแต้ม , วิหารต้นแก้ว วิหารละโว้ , หอพระพุทธบาท , วิหารพระพุทธ และ อุโบสถ ทั้งหมดนี้จะแวดล้อมด้วยแนวกำแพงแก้วทั้งสี่ด้าน นอกกำแพงแก้วด้านใต้มีประตูที่จะนำไปสู่เขตสังฆาวาสซึ่งประกอบด้วยอาคาร หอพระไตรปิฎก , กุฏิประดิษฐาน , อาคารพิพิธภัณฑ์ , กุฏิสงฆ์และเป็นที่ประดิษฐาน พระแก้วดอนเต้า ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของชาวลำปาง และชาวพุทธทั่วไป

เก็บภาพความประจำใจวัดพระธาตุลำปางหลวงกันแล้ว คณะของเราออกเดินทางไป มณฑลพายัพ จังหวัดเชียงใหม่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานเคยเป็น เมืองหลวงของอาณาจักรนครรัฐอิสระ ชื่อว่า "อาณาจักรล้านนา" แต่โบราณ มีภาษาล้านนาคำเมืองเป็นภาษาท้องถิ่น ตะวันลาลับขอบฟ้าไปแล้ว เช็คอินเข้าโรงแรมที่พัก ค่ำคืนนี้ รับประทานอาหารเย็น พร้อมฟังการบรรยายเทคนิคการถ่ายภาพให้สวยสมใจกับ Presentation ที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะจากวิทยากรระดับบรมครู อาจารย์ธวัช มะลิลา ที่ปรึกษาสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อเปิดมุมมองวิธีคิด สร้างสรรค์งานถ่ายภาพให้ก่อเกิดเป็นพื้นฐานอย่างมั่นคงลงสู่จิตใจของผู้ฟัง เนื้อหาเรื่องราวคำแนะนำในครั้งนี้ของอาจารย์ ช่วยเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปทำให้ "ดอกไม้แห่งความฝัน" ของผมเป็นจริง

ตื่นเช้ารับอรุณของวันใหม่ สูดลมหายใจรับเอาอากาศบริสุทธิ์จากธรรมชาติให้เต็มปอด ร่างกายสุขสดชื่นร่างเริงแจ่มใส เพื่อนพ้องน้องพี่เตรียมอุปกรณ์ถ่ายภาพแบบว่าจัดเต็มดูเหมือนกำลังพร้อมรบ สมองอัดแน่นด้วยวิชาการถ่ายภาพดอกไม้ให้สวยงามได้สมดังใจ เดินทางมาถึง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ "สวนพฤกษศาสตร์แม่สา" นับว่าเป็น สวนพฤกษศาสตร์แห่งแรกของประเทศไทย ที่มีการบริหารจัดการตามมาตรฐานสากล มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาวิจัย และให้ความรู้ ทางด้านพฤกษศาสตร์ ครั้นเมื่อ พ.ศ. 2537 องค์การสวนพฤกษศาสตร์ได้รับพระราชทานพระราชานุญาต จากสมเด็จพระนางเจ้า สิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถให้ใช้ชื่อสวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้ว่า "สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์" ภูมิทัศน์สวยงามบนยอดเขาเป็นสถานที่อนุรักษ์และรวบรวมพรรณไม้ประจำถิ่นและไม้ที่กำลังจะสูญพันธุ์ เพื่อจัดปลูกขยายพันธุ์ และศึกษาวิจัย ลักษณะการจัดสวนจะแบ่งพันธุ์ไม้ตามวงศ์และความเหมาะสมของสภาพพื้นที่ รวบรวมพันธุ์ไม้ทั้งในและต่างประเทศ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาเกี่ยวกับพันธุ์ไม้สามารถขับรถเที่ยวชมรอบๆได้

จากประตูทางเข้ารถนำเที่ยวสีหวานลวดลายดอกไม้ก็นำพาคณะของเราไปจุดแวะชมเริ่มจาก ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว , ศูนย์เพาะกล้วยไม้ไทย , อาคารพืชสมุนไพร , พิพิธภัณฑ์พืชสมุนไพร , ศูนย์วิจัย และสี่เส้นทางเดินเท้าชมธรรมชาติ คือ 1. เส้นทางสวนรุกชาติ 2. เส้นทางพันธุ์ไม้ไทยและพืชสมุนไพร 3. เส้นทางวลัยชาติ 4. เส้นทางน้ำตกแม่สาน้อย-สวนหิน-เรือนรวมพันธุ์กล้วยไม้ไทย มาถึงกลุ่มอาคารเรือนกระจกเฉลิมพระเกียรติ ประกอบด้วยเรือนกระจก ประกอบด้วยเรือนกระจก 3 แบบ ซึ่งมีทั้งหมด 12 โรงเรือน ภายในจัดปลูกตกแต่งพรรณไม้ไว้อย่างสวยงาม โดยเฉพาะพรรณไม้หายากและมีความโดดเด่นเป็นพิเศษ ได้แก่

เรือนกระจกใหญ่แสดงไม้ป่าดิบชื้น จัดแสดงสภาพป่าและพันธุ์ไม้ป่าดงดิบ สร้างบรรยากาศภายในด้วย เครื่องพ่นหมอกให้มีความชุ่มชื้นสูง นอกจากนี้ยังมีการตกแต่งพื้นที่เป็นเนินเขาและน้ำตก มีทางเดินยกระดับเพื่อให้ผู้เยี่ยมชมได้ชื่นชมความสวยงามของเรือนยอดพืชจากมุมสูงอย่างทั่วถึง  ส่วนเรือนกระจกขนาดกลางมี เรือนไม้น้ำ จัดแสดงไม้น้ำและพืชชุ่มน้ำชนิดต่าง ๆ โดยเน้นพันธุ์บัวของไทย เป็นหลักและเสริมด้วยพรรณไม้น้ำ ไม้ชุ่มน้ำต่างๆ และพืชกินแมลง , เรือนจัดแสดงกล้วยไม้และเฟิน มาถึงเรือนพืชทนแล้ง จัดแสดงพืชอวบน้ำ พืชสกุลกระบองเพชรชนิดต่างๆ พืชสกุลศรนารายณ์ กุหลาบหิน เสมา และยังรวบรวมพันธุ์ปรง ซึ่งจัดได้ว่าเป็นพืชโบราณที่มีเมล็ดกลุ่มแรกที่เกิดขึ้นบนโลกไว้ด้วย ภายในเรือนพืชทนแล้งแห่งนี้เองที่ทำให้ผมได้พบเธอ "ปรางค์ทอง" ชื่อนี้นามมีเสน่ห์ ชวนให้หลงใหล อวดโฉมงามกลีบดอกไม้สีเหลืองนวล ถูกตาต้องใจเมื่อแรกพบ ขอเก็บภาพความประทับใจนี้ไว้ในความทรงจำของผม

ส่วนเรือนแสดงพรรณไม้ทั่วไปมี เรือนรวมพรรณบัว จัดแสดงพรรณบัวต่างๆ โดยรวมพรรณบัวโดยเฉพาะของไทยและของเอเชีย , เรือนแสดงพันธุ์สัปปะรดสี จัดแสดงพันธุ์สัปปะรดสีที่มีการนิยมปลูกกันในประเทศไทย , เรือนแสดงบอนสีและหน้าวัว จัดแสดงบอนสี บอนป่า หน้าวัว ไม้ด่าง ไม้แคระ และพืชขนาดเล็กที่สวยงาม , เรือนแสดงส้มกุ้ง จัดแสดงพืชสกุลส้มกุ้งที่รวบรวมจากทั่วประเทศและชนิดที่สวยงามจากต่างประเทศ , เรือนแสดงไม้ดอกไม้ประดับ ไม้ด่าง จัดแสดงไม้ดอกไม้ประดับ ไม้ลูกผสมและไม้ต่างประเทศที่พบทั่วไปในท้องตลาด , เรือนแสดงไม้ไทยหายาก จัดแสดงไม้ไทยและไม้ไทยหายากชนิดต่างๆ มีป้ายชื่อบอกรายละเอียดโดยย่ออย่างชัดเจน และ เรือนแสดงพืชสมุนไพร จัดแสดงพืชสมุนไพรของภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือพร้อมป้ายบอกชื่อสรรพคุณต่างๆโดยย่อ สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ สามารถเข้าเที่ยวชม เรียนรู้สัมผัสคุณค่า และความงดงามของพรรณไม้ได้ตลอดทั้งปีทุกฤดูกาล

ในค่ำคืนนี้มีกิจกรรมการประกวดถ่ายภาพ " มหัศจรรย์พรรณไม้งาม เทิดพระเกียรติ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ" นั่งมองดูผลงานถ่ายภาพดอกไม้ของเพื่อนพ้องน้องพี่สวยงามกันทั้งนั้น ในสมองก็คิดถึงความประทับใจที่พบเธอดอกไม้สีเหลืองนวล ผมตัดสินใจส่งภาพลงสนามแข่งขันในครั้งนี้ จากความฝันที่ได้เดินทางมา สู่ความจริงก้าวแรกของชีวิตดาวดวงใหม่เกิดขึ้นแล้ว "โฉมงาม ปรางค์ทอง" ชนะใจกรรมการและผู้ชมได้รับรางวัลชนะเลิศ ความสุขพิเศษนี้ไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นถ้อยคำได้ สิ่งที่ชัดเจนและตรงที่สุดใบหน้าผมยิ้มแย้มแจ่มใส เสียงตบมือยังคงดังก้องอยู่ในหัวใจของผมตลอดไป

วันสุดท้ายของกิจกรรมในครั้งนี้คณะของเราเดินทางไป จังหวัดที่เก่าแก่ที่สุดในภาคเหนือ เดิมมีชื่อว่า "นครหริภุญชัย" จังหวัดลำพูน นอกจากจะมีชื่อเสียงในฐานะเป็นเมืองประวัติศาสตร์เก่าแก่ยาวนาน แล้วยังเป็นแหล่งเพาะปลูกลำไย ผ้าทอฝีมือดี พระเครื่อง และโบราณสถานที่สำคัญ "วัดพระธาตุหริภุญไชยวรมหาวิหาร" พระอารามหลวงชั้นเอกชนิดวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลำพูน สร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ ๑๗ ในรัชสมัยของพญาอาทิตยราช กษัตริย์แห่งราชวงศ์จามเทวีวงศ์ ภายในบริเวณวัดพระธาตุหริภุญไชย ก่อนที่จะเข้าไปในบริเวณวัด ต้องผ่านซุ้มประตูก่ออิฐถือปูนประดับลวดลายวิจิตรพิสดาร เป็นฝีมือโบราณสมัยศรีวิชัย ประกอบด้วยซุ้มยอดเป็นชั้น ๆ เบื้องหน้าซุ้มประตูมีสิงห์ใหญ่คู่หนึ่งยืนเป็นสง่า บนแท่น สิงห์คู่นี้ปั้นขึ้นใน สมัยพระเจ้าอาทิตยราช เมื่อทรงถวายวังให้เป็นสังฆาราม

เมื่อผ่านซุ้มประตูเข้าไปแล้วจะเห็นวิหารหลังใหญ่เรียกว่า " วิหารหลวง" เป็นวิหารหลัง ใหญ่มีพระระเบียงรอบด้าน และมีมุขออกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เป็นวิหารที่สร้างขึ้นใหม่แทนวิหารหลังเก่า ซึ่งถูกพายุพัดพังทลายไปเมื่อ พ.ศ. 2466 วิหารหลวงใช้เป็นที่บำเพ็ญกุศล และประกอบศาสนากิจทุกวันพระ ภายในวิหารประดิษฐานพระปฏิมาใหญ่ ก่ออิฐถือปูน ลงรักปิดทอง บนแท่นแก้วรวม 3 องค์ และพระพุทธ ปฏิมาหล่อโลหะขนาดกลางสมัยเชียงแสนชั้นต้น และชั้นกลางอีกหลายองค์ ด้านหลังวิหารหลวง

โดดเด่นเป็นสง่าเหลืองทองสะดุดตา "พระบรมธาตุหริภุญไชย" เป็นพระเกศบรมธาตุบรรจุในโกศทองคำ ประดิษฐานในพระเจดีย์ เป็นเจดีย์แบบล้านนาไทยแท้ๆ และมีแท่นบูชาประจำไว้เพื่อเป็นที่สักการบูชาของพุทธศาสนิกชนทั่วไป เมื่อถึง "วันวิสาขบูชา" ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 งานประเพณีสรงน้ำพระบรมธาตุหริภุญชัยที่ยึดถือและปฏิบัติสืบต่อกันมาเป็นประจำทุกๆปี เพื่อเป็นการสักการะพระบรมพระอัฐิธาตุของพระสัมมาสัมมาพุทธเจ้าที่บรรจุในพระบรมธาตุ และเพื่อเป็นการบูชาเสาหลักเมือง ทั้งนี้เพราะชาวลำพูนถือว่าพระบรมธาตุหริภุญชัยเป็นเสาหลักเมืองของนครหริภุญชัย หรือเมืองลำพูนในปัจจุบัน ความสวยงามของวัดพระธาตุหริภุญไชยวรมหาวิหารยังคงอยู่ในความทรงจำของใครหลายคน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-721-4417 , 086-339-6769 , 086-339-6787 แฟ็กซ์. 02-721-5516 อีเมล์ : phototech_mag@yahoo.com เว็บไซต์ www.phototech-mag.com facebook.com/phototech magazine , facebook.com/

สอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ททท.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยโทร. 02 -250 -5500 หรือสายด่วน 1672 และขอขอบคุณนิตยสารโฟโต้เทค

เรื่อง & ภาพ : วุฒิภัทร วิมุกตานนท์

 

(คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขนาดใหญ่)


 อัพเดตสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น เกาะล้าน เชียงใหม่ สวนผึ้ง หัวหิน เกาะเสม็ด

ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook.. ได้ที่นี่เลย!!

อัลบั้มภาพ 30 ภาพ

อัลบั้มภาพ 30 ภาพ ของ ลัดเลาะขุนเขาเมืองเหนือ ชมมหัศจรรย์พรรณไม้งาม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook