เวลาช่วงเย็นหลังเลิกงาน หรือตอนเย็นหลังจากจบภารกิจอันหนักอึ้ง จะเป็นช่วงเวลาที่ขอไว้ให้กับตัวเองและครอบครัวแบบช้าๆ เรื่อยๆ เอื่อยๆ ไม่รีบเร่งอะไรมากมาย อยากจะไปหาร้านอาหารอร่อยๆ บรรยากาศดีๆ สบายๆ นั่งกินข้าว คุยกัน และปล่อยเวลาให้ผ่านไปอย่างไม่ต้องห่วงอะไร คราวนี้ก็เช่นกัน อยากจะนั่งกินลมชมวิวริมแม่น้ำเจ้าพระยาไปพร้อมๆ กับกินข้าวท่ามกลางสายลมเย็นจากผืนน้ำ เสียงเพลงคลอๆ ที่แกล้มเสียงเครื่องยนต์ของเรือเล็ก และภาพของเรือขนส่งลำใหญ่เต็มลำแม่น้ำ ให้อิ่มกับอาหารและอิ่มกับบรรยากาศ

มีคนแนะนำให้ไปนั่งที่ ร้านเดอะ เวฟ (The Wave) ร้านอาหารสไตล์โมเดิร์นติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณท่าน้ำเรือด่วนเจ้าพระยา (ท่าเรือราษฎร์บูรณะ) เพียงแค่บอกว่าติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา เราก็รีบรุดไปกันทันที โดยที่ไม่ลืมหอบเอาครอบครัวแสนฮาของเราไปด้วย เราขับรถขึ้นทางด่วนมาตามป้ายบอกทางที่ไปดาวคะนอง ขึ้นสะพานพระราม 9 ที่ยามหัวค่ำนี้สวยได้ใจ ชิดซ้ายลงทางด่วนยูเทิร์นรถใต้สะพาน ไปตามทางแล้วเลี้ยวซ้ายผ่านธนาคารกสิกรไทยสำนักงานใหญ่มุ่งหน้าไปหาบิ๊กซีราษฎร์บูรณะ ขับชิดขวาไว้ผ่านแยกราษฎร์บูรณะแล้วเลี้ยวขวาเข้าบิ๊กซีราษฎร์บูรณะ ร้านเดอะ เวฟจะอยู่ข้างหลังบิ๊กซีราษฏร์บูรณะ

ร้านเดอะ เวฟ เป็นร้านที่เน้นการออกแบบให้โปร่งโล่งสบาย ผสมผสานไม้เก่าทำใหม่ยกพื้นสูง และปูนเปลือยได้อย่างลงตัว สายลมก็มาจากทุกทิศทุกทาง เข้ามาด้านในจะเจอกับโซนชุดโต๊ะเก้าอี้โซฟาเตี้ยๆ หลากสีติดริมสระน้ำขนาดเล็กเป็นแนวยาว มีห้องคาราโอเกะ มีห้องแอร์กลางร้าน และที่สำคัญ ฉันเลือกบริเวณด้านนอกที่มีสโลปขั้นบันไดทั้งสองข้างขึ้นไปสู่ที่นั่งด้านบน มุมที่สามารถมองผืนน้ำสายหลักได้อย่างเต็มตา ส่วนโซนติดริมน้ำจะเป็นแบบนั่งคู่ นั่งโรแมนติกกันได้สองคนจะอยู่ถัดออกไปอีกหน่อย แต่เรามากันเป็นครอบครัวโซนนี้เหมาะแล้ว และเพียงไม่นานเกินรอ คุณวมินทร เอี่ยมสิทธิผล เจ้าของร้านก็เดินมาทักทายอย่างเป็นกันเอง แถมยังบริการและชวนพวกเราพูดคุยอย่างสนุกสนาน

คุณวมินทร เล่าให้ฟังว่า "เดิมร้านนี้เป็นร้านอาหารเก่าเรามาทำใหม่ทั้งหมด เพราะเราชอบบรรยากาศเวลาดื่มและกินข้าวแบบติดริมน้ำ เราเลือกออกแบบให้โปร่งโล่ง เพราะจะได้ประหยัดพลังงานไปในตัว อีกอย่างบริเวณนี้ไม่มีการจราจรทางน้ำที่ส่งเสียงดัง ทำให้บรรยากาศโดยรอบเงียบสงบ มีแต่เสียงเพลงจากดนตรีสดที่มีตั้งแต่เวลา 19.00 - 24.00 น. อยู่เป็นเพื่อนนักดื่ม หรือผู้ที่มารับประทานอาหารในร้านเท่านั้น" เราเริ่มสั่งเครื่องดื่มมาดับกระหายก่อนเลย เราเลือกค็อกเทลแบบไม่ผสมแอลกอฮอล์ อย่าง "Thirst Quencher" ที่มาในรูปแบบน้ำมะนาวผสมใบสาระแหน่บดละเอียดเติมสไปรท์เพื่อความอร่อย และ "Citrus Punch" น้ำพันซ์สีแดงอมส้ม ส่วนเมนูอาหารมีมากมายจนเลือกแทบไม่ถูก จึงขอคำแนะนำจากคุณวมินทร ได้มาเป็น "ปลาทับทิมยำสมุนไพร" รสชาติจัดจ้านที่สำคัญมีการแล่ปลาออกเป็นชิ้นๆ แล้วนำไปทอดจนเหลืองกรอบราดด้วยเครื่องยำ "หลนปลาเค็ม" ที่มีผักมาให้แกล้มกินกับข้าวสวยร้อนๆ รสชาติกำลังดีไม่เค็มมาก เพราะเขาผสมหมูสับลงไปด้วย

ต่อมาก็คือ "ลาบเนื้อทอด" เนื้อวัวสับปรุงรสลาบด้วยเครื่องลาบปั้นเป็นก้อนแล้วทอดจนกรอบกินแกล้มกับพริกแห้งแซ่บมาก อีกเมนูที่น่าสนใจ "หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ผัดฉ่า" มาแบบหอยแมลงภู่ตัวอ้วนๆ ใหญ่ๆ เต็มๆ เอาเข้าปากแล้วเคี้ยวเต็มคำ กรุบๆ หนึบๆ หอมกลิ่นกระชายอ่อนๆ กำลังดี นอกจากนี้ยังมี ขาหมูเยอรมัน เนื้อตุ๋นฮ่องกง ต้มแซ่บเอ็นหมู หอยนางรมกระทะร้อน ปูกระตอยทอดกรอบ และมีซูชิบาร์ปั้นสดใหม่ ไว้ต้อนรับคนที่ชื่นชอบอีกด้วย ส่วนเครื่องดื่มต่างๆ ทางร้านก็มีเต็มที่ มีกระทั่งไวน์ทั้งในและต่างประเทศ

นั่งกินข้าวอร่อยๆ เพลินๆ ฟังเพลงก็เพลิน ลมเย็นๆ พัดผ่านและแม่น้ำเจ้าพระยาที่วันนี้มีโอกาสได้มานั่งกินข้าวด้วยกัน เป็นอีกหนึ่งความสุขเล็กๆ ที่หาได้เสมอยามที่เราต้องการ

ขอขอบคุณ :ร้านเดอะ เวฟ (The Wave) โทร. 0 2427 3341

Menu

Thirst Quencher 130 บาท/แก้ว

Citrus Punch 130 บาท/แก้ว

ปลาทับทิมยำสมุนไพร 250 บาท/จาน/ตัว

หลนปลาเค็ม 120 บาท/ถ้วย

ลาบเนื้อทอด 150 บาท/จาน

หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ผัดฉ่า 180 บาท/จาน

เรื่อง : ศรัญญา โรจน์พิทักษ์ชีพ / ภาพ : สุดสาย สังหาร

(คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขนาดใหญ่)

กด Like สนุก! ท่ิองเที่ยว แค่คลิกเดียว...ก็เที่ยวได้ทุกวัน

อัลบั้มภาพ Over Looking The River @ The Wave โรแมนติก ริมเจ้าพระยา ภาพที่ 3 / 4

Over Looking The River @ The Wave โรแมนติก ริมเจ้าพระยา