กระบี่ สวรรค์ของคนรักทะเล เที่ยวกระบี่ง่าย ๆ ด้วยตัวคุณเอง

กระบี่ สวรรค์ของคนรักทะเล เที่ยวกระบี่ง่าย ๆ ด้วยตัวคุณเอง

กระบี่ สวรรค์ของคนรักทะเล เที่ยวกระบี่ง่าย ๆ ด้วยตัวคุณเอง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จังหวัดกระบี่ เป็นจังหวัดทางภาคใต้ที่อยู่ในเขตชายฝั่งทะเลอันดามัน ห่างจากกรุงเทพฯ 814 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขาหินปูน มีที่ราบแคบๆ ตามเชิงเขา และบริเวณชายฝั่งทะเล มีหมู่เกาะน้อยใหญ่กว่า 130 เกาะ ส่วนใหญ่เป็นเกาะที่ไม่มีผู้คนอาศัย จะมีก็เพียงแค่ 13 เกาะที่มีการไปสร้างบ้านเรือนและตั้งถิ่นฐานอยู่ เช่น เกาะพีพี เกาะลันตา เกาะปอดะ เกาะไม้ไผ่ และเกาะห้อง เป็นต้น ด้วยความงดงามของท้องทะเลที่อุดมสมบูรณ์แห่งนี้ รวมไปถึงความสะดวกสบายของสถานที่เที่ยว ที่กิน และที่พัก ที่มีอยู่อย่างมากมายหลากหลายแห่ง จึงเป็นเรื่องไม่แปลกที่ "จังหวัดกระบี่" นี้ จะเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้แวะเวียนมาเยือนกันอย่างไม่ขาดสายตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศร้อนแสนร้อนอย่างนี้


สถานที่แรกที่เราจะแวะกันก็คือ อ่าวนาง ตั้งอยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 20 กิโลเมตร เป็นจุดสำคัญสำหรับลงเรือไปท่องเที่ยวยังเกาะต่างๆ ประกอบด้วยชายหาดสวยงามหลายแห่ง เช่น หาดไร่เล หาดพระนาง มีทิวเขาขึ้นคั่นสลับซับซ้อนระหว่างหาดต่างๆ ดูสวยงามแปลกตา ตลอดระยะทางชายหาด 2 กิโลเมตร จะมีบริการโรงแรมที่พัก ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านจำหน่ายของที่ระลึก และบริการทัวร์ต่างๆ ที่เปิดกันตั้งแต่ช่วงสายๆ จนเกือบตี 2 ของทุกคืน แสงไฟจากร้านค้าและร้านอาหารต่างๆ ในยามค่ำคืน มันบ่งบอกได้ถึงความเป็นที่นิยมของอ่าวนางได้เป็นอย่างดีทีเดียว จากที่นี่เราสามารถเลือกดูซื้อหาโปรแกรมทัวร์อันดามันได้หลายแบบ หลายระดับราคา ไม่ว่าจะทัวร์แบบส่วนตัว หรือหมู่คณะ ตลอดจนทัวร์รวมร่วมกับสาธารณชนแบบต่างคนต่างมา แต่ว่ามาลงเรือลำเดียวกัน ที่นี่ก็มีหมด โปรแกรมเด่นๆ ในการเที่ยวทะเลกระบี่นั้นก็มี เช่น ทัวร์เกาะพีพี, ทัวร์เกาะห้อง, ทัวร์ 4 เกาะ ฯลฯ แบบ 1 Day Trip ครั้งนี้เรามีเวลาเที่ยวกันเพียง 3 วัน 3 คืน เราเลยเลือกที่จะไปทริปทัวร์เกาะพีพี และเกาะห้อง เพราะ 2 เกาะนี้ได้รับคำชมจากนักท่องเที่ยวนานาชาติว่าเป็นเกาะที่สวยงามอันดับต้นๆ ของโลกเลยทีเดียว ไหนๆ ก็มาไกลกันขนาดนี้แล้วก็ขอเลือกเที่ยวที่ยอดนิยมกันก่อนเลย

โดยวันแรกเราเลือกไป หมู่เกาะพีพี ซึ่งเป็นหมู่เกาะกลางทะเล อยู่ห่างจากอำเภอเมือง 42 กิโลเมตร เป็นแหล่งดำน้ำดูปะการัง ดอกไม้ทะเล และปลาหลากสีที่มีสีสันสวยงาม โปรแกรมทัวร์นี้ส่วนใหญ่จะรวมรถรับ-ส่ง จากโรงแรมที่พักในเขตอ่าวนางหรือบริเวณใกล้ๆ อ่าวนางมายังท่าเรืออ่าวนาง เพื่อลงเรือออกเที่ยวชมเกาะแก่งต่างๆ โดยเค้าจะดูจากสภาพอากาศว่าจะพาเราไปยังเกาะไหนก่อนตามความเหมาะสมของระดับคลื่นลมฟ้าฝนในวันนั้นๆ ซึ่งถ้าเป็นไปตามโปรแกรมปรกติแล้วก็จะเริ่มที่ เกาะพีพีเล ก่อน โดยเริ่มต้นที่การแวะชม ถ้ำไวกิ้ง ซึ่งเป็นเพิงผาถ้ำอยู่ทางทิศใต้ของเกาะพีพีเล ในซอกมืดหนึ่งของเพิงถ้ำมีภาพเขียนปรากฏอยู่บนผนังถ้ำในตำแหน่งเหนือศรีษะ เป็นภาพเรือใบสามเสา หัวงอน จึงเป็นที่มาของชื่อ "ไวกิ้ง" นอกจากนี้ ยังพบอักษรอาหรับโบราณปรากฎเป็นตัวเลข 1318 อย่างชัดเจน หรือจะเป็นการลงชื่อมาเยือนของชาวอาหรับพร้อมลงเวลาในปฏิทินอิสลาม ซึ่งตรงกับสมัยของกรุงศรีอยุธยา ความสำคัญของถ้ำแห่งนี้ก็คือ มีการให้ทำสัมปทานรังนกนางแอ่นมาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาแล้วจวบจนถึงปัจจุบันนี้ เมื่อปี พ.ศ. 2515 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จประพาสถ้ำแห่งนี้ ได้พระราชทานนามใหม่ให้กับถ้ำไวกิ้ง ว่า "ถ้ำพญานาค" ตามรูปร่างของหินงอกที่คล้ายรูปพญานาค

จากนั้นเรือนำเที่ยวก็จะพาเราเข้าชม พีพีเลลากูน หรือห้องแห่งน้ำทะเลปิดภายในเกาะ มีช่องทางเข้าเล็กๆ พอเรือแล่นผ่านได้ ภายในเป็นเวิ้งน้ำที่ล้อมรอบด้วยผาสูงชันทุกด้าน น้ำเป็นสีฟ้าสวยใสมากๆ สามารถมองเห็นพื้นทรายขาวสะอาดใต้ท้องน้ำได้ โชคดีวันที่เราไปคลื่นลมสงบ ทางไกด์จึงอนุญาตให้ลงเล่นน้ำได้ประมาณ 15 นาที ซึ่งสร้างความสุขและความประทับใจให้เราเป็นอย่างมาก จากนั้นไปต่อที่ หาดโละซามะ อยู่ทางด้านใต้ของเกาะ อ่าวแห่งนี้มีขนาดไม่ใหญ่ แต่มีความสงบเงียบ ริมอ่าวมีปะการังหลายประเภท เช่น ปะการังก้อน ปะการังแผ่น ปะการังถ้วย สามารถดำน้ำได้ทั้งแบบน้ำตื้นและน้ำลึก จากนั้นไปชมความงดงามระดับฮอลลีวู้ดที่ อ่าวมาหยา ซึ่งเป็นสถานที่ที่ใช้ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง The Beach "อ่าวมาหยา" เป็นอ่าวหนึ่งของเกาะพีพีเล ลักษณะเป็นเวิ้งอ่าวขนาดเล็กรูปพระจันทร์เสี้ยวที่โอบล้อมด้วยขุนเขา มีทิวทัศน์สวยงาม น้ำทะเลเขียวสดใส หาดทรายขาวสะอาด เม็ดทรายเล็กละเอียดเนียนนุ่ม เหมาะแก่การมานอนอาบแดดและเล่นน้ำทะเลมาก ถือว่าเป็นจุดไฮไลท์ของการทัวร์หมู่เกาะพีพี

จากนั้นออกเดินทางมาที่ เกาะพีพีดอน โดยแวะจอดเรือริมหน้าผาชายน้ำของ เกาะลิง เพื่อให้อาหารแก่ฝูงลิงป่า ดูความน่ารักแสนรู้และถ่ายรูปเล่น แล้วมาทานมื้อกลางวันกันที่ อ่าวต้นไทร บนเกาะพีพีดอน เกาะนี้มีจุดเด่น คือ เวิ้งอ่าวคู่ที่มีความสวยงามติดอันดับโลกของอ่าวต้นไทรและอ่าวโละดาลัม อ่าวต้นไทรเป็นที่ตั้งของท่าเรือเกาะพีพี มีสถานที่พักและร้านค้ามากมาย จากอ่าวต้นไทรสามารถเดินขึ้นเขาไปยังจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นเวิ้งอ่าวคู่ได้ จากนั้นก็แวะดำน้ำกันที่ จุดดำน้ำหินกลาง ซึ่งอยู่ระหว่างเกาะพีพีดอนกับเกาะไม้ไผ่ ตรงจุดนี้อาจกล่าวได้ว่าเป็นจุดดำน้ำตื้นที่สวยงามที่สุดในหมู่เกาะพีพี มีทั้งปะการังหลากสีสันและมากด้วยฝูงปลาสวยงามนานาพันธุ์ จบทริปเกาะพีพีวันนี้ที่ เกาะไม้ไผ่ ซึ่งเป็นเกาะที่มีชายหาดทรายสีขาวทอดยาวจากทิศเหนือไปยังทิศใต้ของเกาะ และยังเป็นแหล่งที่มีปะการังน้ำตื้นที่อุดมสมบูรณ์ นักท่องเที่ยวสามารถค้างแรมได้ โดยมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยวและลานกางเต้นท์ไว้บริการ

 

สำหรับโปรแกรมวันที่ 2 เราเลือกโปรแกรมทัวร์ หมู่เกาะห้อง เป็นเกาะที่สวยอีกเกาะหนึ่งของทะเลกระบี่ มี่ด้วยกัน 7 เกาะ คือ เกาะห้อง หรือ เกาะเหลาบิเละ ซึ่งเป็นภาษามาลายู แปลว่า เกาะห้อง เหมือนกัน เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุด และเป็นจุดไฮท์ไลของทริปนี้ อีก 6 เกาะที่เหลือได้แก่ เกาะลาดิง เกาะไร เกาะหินแดง เกาะผักเบี้ย เกาะลิง และเกาะถ้ำ เกาะห้อง ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดกระบี่ แต่ค่อนไปทางจังหวัดพังงา จึงถูกจัดเข้าไปอยู่ในพื้นที่การดูแลของอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา โปรแกรมทัวร์หมู่เกาะห้องนี้มีจุดเริ่มต้นโดยออกเดินทางจากที่ท่าเรืออ่าวนางเช่นกัน โดยออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ เกาะแดง เป็นอันดับแรก เป็นเกาะขนาดย่อมซึ่งโดดเด่นด้วยกองหินน้อยใหญ่สีน้ำตาลแดง เกาะนี้มีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบ มีต้นมะพร้าว และป่าไม้เบญจพรรณประเภทไม้ชายหาดพุ่มเตี้ย มีเนินเขาและหน้าผา มีหาดทรายสวยงาม นักท่องเที่ยวจะนั่งอยู่เฉยๆ บนเรือก็ยังสามารถมองเห็นแนวปะการังใต้ท้องน้ำ เป็นแหล่งดำน้ำดูปะการังทั้งน้ำตื้นและน้ำลึก เราดำน้ำดูปะการังกันได้สักพักแล้วก็ไปชม เกาะห้องลากูน หรือ อ่าวห้อง เกาะนี้มีลักษณะเป็นสระธรรมชาติ ล้อมรอบด้วยผาหินสูงชันเกือบทุกด้าน ในช่วงที่น้ำขึ้นสามารถนำเรือไหลเข้าไปช้าๆ ภายในนอกจากจะมีน้ำที่ใสสะอาดสงบนิ่งแล้ว ยังมีผืนป่าโกงกางที่อุดมสมบูรณ์รวมอยู่ด้วย

เราก็มุ่งหน้าไป เกาะผักเบี้ย ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ อยู่ทางด้านหลังของเกาะห้อง น้ำทะเลที่นี่ใสสะอาด เหมาะแก่การลงเล่นน้ำ บรรยากาศเงียบสงบร่มรื่นไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ที่อยู่ริมหาด แม้ว่าเกาะนี้จะมีแนวชายหาดที่ไม่กว้างมากนัก แต่ก็มีหาดทรายที่ขาวสะอาดไม่แพ้หาดอื่นๆ ความสวยงามอีกจุดหนึ่งของเกาะนี้คือ เมื่อยามน้ำลงจะปรากฏสันทรายขึ้นเชื่อมระหว่างเกาะเบี้ย 2 เกาะ เราเรียกว่า "ทะเลแหวกมินิ" ระยะทางไม่กว้างมาก แต่ก็ทำให้เราได้เห็นภาพ น้ำทะเลใส หาดทรายขาว ภูเขาเขียว และท้องฟ้าสด ที่สร้างความประทับใจให้เราเป็นอย่างมาก จุดนี้เราได้แชะภาพที่ระลึกกันอย่างเมามันเลยทีเดียว

เกาะสุดท้ายของโปรแกรมในวันนี้ที่เราจะแวะก่อนกลับขึ้นฝั่งคือ เกาะลาดิง หรือ เกาะเหลาลาดิง เกาะแห่งนี้มีทัศนียภาพโดยรอบที่สวยงาม ทั้งเวิ้งอ่าวเล็กๆ ซึ่งรายล้อมด้วยซอกหลืบโพรงผาหินปูนสูงชันอันเป็นแหล่งพำนักอาศัยของบรรดานกนางแอ่น หาดทรายสีขาวที่มีเนื้อเนียนละเอียด น้ำทะเลสีเขียวมรกตสดใส ด้วยความสวยงามดังกล่าวข้างต้นนี้เองที่ทำให้ชาวต่างชาตินิยมเรียกเกาะแห่งนี้ว่า "Paradise Island" หรือ "เกาะสวรรค์" นักท่องเที่ยวนิยมมานอนอาบแดด เล่นน้ำ ให้อาหารปลา ถ่ายภาพกับทิวทัศน์ต่างๆ ในเกาะนี้ เมื่อใช้เวลากับเกาะนี้กันพอสมควรแก่เวลาแล้ว เราก็กลับสู่ท่าเรืออ่าวนาง เป็นอันจบโปรแกรมโดยสมบูรณ์ การออกทริปแต่ละครั้งเรือจะออกเวลาประมาณ 9.00 น. และถึงเวลา 16.30 น. หากใครที่ชื่นชอบการดำน้ำและความสนุกตื่นเต้น ทริปเกาะพีพีน่าจะเหมาะสำหรับไลฟ์สไตล์ของคุณ เพราะมีการแวะพักให้เที่ยวหลายจุด แต่สำหรับใครที่ชอบการมาทะเลแบบชิลล์ๆ ว่ายน้ำ อาบแดด นอนเล่นชายหาด ทริปเกาะห้องถือว่าเป็นทริปที่ได้สัมผัสกับธรรมชาติแบบเต็มอิ่ม นอกจากโปรแกรมท่องเที่ยวตามเกาะแก่งต่างๆ กลางทะเลแล้ว เมืองกระบี่ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ที่ควรแวะชมอีกมากมายในระหว่างเส้นทาง เช่น

สระมรกต โดยอยู่อำเภอคลองท่อม สระนี้มีกำเนิดจากน้ำพุร้อนผุดออกมาจากตาน้ำ ไหลออกมาเป็นธารน้ำอุ่น อยู่ท่ามกลางผืนป่าอันร่มรื่น มีด้วยกันทั้งหมด 3 สระ คือ สระแก้ว สระมรกต และสระผุด แต่อนุญาตให้ลงเล่นน้ำได้แค่บริเวณสระมรกตเท่านั้น และหากเดินตรงขึ้นไปจากสระมรกตประมาณ 500 เมตร เราก็จะได้พบกับตาน้ำที่เป็นต้นกำเนิดของสระมรกตแห่งนี้ ซึ่งมีสีเขียวอมฟ้า สดใสสวยงามดั่งมรกต มีอุณหภูมิประมาณ 30-50 องศาเซลเซียส รอบๆ บริเวณมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ค่าเข้าชม เด็ก 10 บาท ผู้ใหญ่ 20 บาท เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.30 - 17.00 น.

ท่าปอมคลองสองน้ำ อยู่ในเขตอำเภอเมือง มีต้นกำเนิดมาจากแอ่งน้ำผุดบนเขา ไหลผ่านสระน้ำกลางป่าก่อนที่ไหลลงสู่ทะเลอันดามัน โดยคลองท่าปอมอยู่บริเวณรอยต่อของน้ำจืดกับน้ำเค็มพอดี ยามน้ำทะเลหนุนสูง น้ำในคลองที่จืดสนิทจะกลายเป็นน้ำกร่อย ครั้นพอน้ำลงน้ำจืดจากป่าต้นน้ำก็จะดันน้ำทะเลออกหมด ทำให้พื้นที่ธารน้ำท่าปอมเป็นป่าพรุ ที่มีลักษณะพิเศษคือ มีน้ำเค็มและน้ำจืดไหลมาบรรจบกัน ทำให้เห็นแบ่งออกเป็น 2 ชั้น คือ ชั้นล่างจะสีออกฟ้าอ่อนๆ คล้ายสีน้ำทะเล ส่วนชั้นบนจะออกสีใสๆ เพราะเป็นน้ำจืด เวลาที่เหมาะแก่การมาเที่ยวชม คือ ช่วงก่อนเที่ยงเราะช่วงนั้นน้ำทะเลจะขึ้นจึงทำให้เราได้เห็นสีของความแตกต่างของน้ำเหมือนขนมชั้น แถมบางครั้งเรายังเห็นสัตว์น้ำทะเลบางชนิดว่ายติดขึ้นมาด้วย ที่นี่จึงกลายเป็นระบบนิเวศเล็กๆ ที่มีถึง 3 ป่าในสถานที่เดียวกัน คือ ป่าโกงกาง พังกาหัวสุม ไม้พืชป่าชายเลน อยู่ร่วมกับต้นชมพู่น้ำ เป็นที่อยู่อาศัยของทั้งปลาน้ำจืดและน้ำกร่อย โดยมีสะพานไม้โดยรอบระยะทางประมาณ 700 เมตร สามารถล่องเรือแคนูหรือลงเล่นน้ำในจุดที่กำหนดไว้ได้ ค่าธรรมเนียมเข้าชม ผู้ใหญ่ 10 บาท เด็ก 5 บาท ค่าเช่าเรือแคนู ชั่วโมงละ 100 บาท หรือ วันละ 700 บาท

สุสานหอย อยู่ห่างจากอ่าวนางตรงไปตามทางหลวง 4203 ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร สุสานหอยแห่งนี้เกิดจากปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ถือเป็นความมหัศจรรย์ระดับโลก เพราะทั่วโลกมีเพียง 3 แห่งเท่านั้น คือ ที่สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และไทย สุสานหอย เกิดจากการตายทับถมของซากฟอสซิลหอยโบราณจำนวนมากมากว่า 30 - 40 ปี ชั้นจึงหนามองดูคล้ายแผ่นคอนกรีต แต่ถ้าดูในแนวตัดจะเห็นเป็นเปลือกหอยตัวเล็กๆ อัดแน่นรวมกันอยู่อย่างชัดเจน ส่วนใหญ่เป็นพวกหอยขมน้ำจืด ค่าเข้าชม เด็ก 10 บาท ผู้ใหญ่ 20 บาท เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.30 - 17.00 น.

ความสวยงามของท้องทะเลไทยชายฝั่งอันดามันยังไม่หมดเพียงเท่านี้ หากแต่ด้วยพื้นที่และเวลาที่มีจำกัด เราจึงคัดสรรมาฝากผู้อ่านได้แบบพอหอมปากหอมคอกันไปก่อน โอกาสหน้าฟ้าใหม่ถ้าเรามีทริปล่องใต้อีก สัญญาแน่นอนว่าจะไม่ลืมแน่นอนที่จะแวะมาเที่ยวที่ "กระบี่" อีก เพราะยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมายที่รอให้เราเข้าไปสัมผัส เช่น เขาขนาบน้ำ หมู่เกาะปอดะ ถ้ำเสด็จ อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา ห้วยโต้ น้ำตกห้วยสะเด ถ้ำลอด ถ้ำผีหัวโต ถ้ำชาวเล น้ำตกหินเพิง เกาะลันตา ฯลฯ เป็นต้น แล้วอย่าลืมติดตามอ่านกันในโอกาสต่อไปนะคะ...

TIPS การเดินทาง
รถยนต์ส่วนตัว
1. จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านจังหวัดเพชรบุรี-ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร-ระนอง-พังงา-กระบี่ ระยะทาง 946 กิโลเมตร
2. จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 ถึงจังหวัดชุมพร จากชุมพรใช้ทางหลวงหมายเลข 41 ผ่านอำเภอหลังสวน อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี เข้าอำเภอเวียงสระ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4035 ถึงอำเภออ่าวลึก แล้ววกเข้าทางหลวงหมายเลข 4 อีกครั้งหนึ่ง ถึงจังหวัดกระบี่ ระยะทาง 814 กิโลเมตร
3. จากภูเก็ต ใช้ทางหลวงหมายเลข 402 และหมายเลข 4 ระยะทาง 176 กิโลเมตร
..............................................................................................................................

รถโดยสารประจำทาง
มีรถออกจากสถานีขนส่งสายใต้ ถนนบรมราชชนนี ไปจังหวัดกระบี่ทุกวัน สอบถามข้อมูลและตารางเดินรถได้ที่ Call Center โทร.1490 เรียก บขส.

..............................................................................................................................

แนะนำที่พัก
• อ่าวนางท็อปวิว
ที่ตั้ง : 247/17 ม.2 ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ 81000 โทร. 0-7563-7471
• PK Mansion
ที่ตั้ง : 247/12-15 ม.2 ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ 81000 โทร. 0-7563-7431-2
• อ่าวนางกู๊ดวิว
ที่ตั้ง: 420/20-24 ม.2 ต.อ่าวนาง องเมือง จ.กระบี่ 81000 โทร. 0-7563-8082 - 4

tags : กระบี่ มรกตแห่งอันดามัน แดนสวรรค์ท้องทะเลไทย, กระบี่,เกาะพีพี,ท่าปอมคลองสองน้ำ,สระมรกต,สุสานหอย,เกาะลันตาสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย,เที่ยวทั่วไทย,แหล่งท่องเที่ยว,การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

(คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขนาดใหญ่)

 

อัพเดตเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวสนุกๆ มากมายได้ที่ http://travel.sanook.com/

ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!

อัลบั้มภาพ 73 ภาพ

อัลบั้มภาพ 73 ภาพ ของ กระบี่ สวรรค์ของคนรักทะเล เที่ยวกระบี่ง่าย ๆ ด้วยตัวคุณเอง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook