อิ่มอร่อย อบอุ่นใจที่ Is t Garden
เย็นวันเสาร์ ฉันขับรถยกขบวนทั้งบ้านไปรับเจ้าหลานจอมซนกลับจากที่เรียนว่ายน้ำอย่างสบายใจ ขากลับขับอยู่ดีดีฝนเจ้ากรรมก็ปรอยลงมาซะอย่างนั้น ความตั้งใจที่จะพาทุกคนไปนั่งทานข้าวร้านกลางแจ้งในเมือง คงต้องยอมสยบให้เม็ดฝนและรถติด หลานตัวดีเตรียมหน้างอคอหักทันทีที่รู้ว่าแผนล่ม ถนนเส้นนี้ไม่มีร้านอาหารพอเทียบชั้นร้านเดิมเสียด้วยสิ แต่เอ๊ะ... นั่นป้ายร้านอาหาร Is t Garden เก๋ทีเดียว ฉันเปิดไฟเลี้ยว ควงพวงมาลัยเข้าร้านทันใด คิดในใจว่ามื้อเย็นวันนี้... รอดแล้วเรา
บนถนนเส้นบางบอน-เอกชัย ที่ฉันนึกหาร้านอาหารครอบครัวยังไงก็นึกไม่ออก กลับมีร้านบรรยากาศอบอุ่นตั้งอยู่ Is t Garden ช่างเป็นชื่อที่ไม่ชินหูครอบครัวนักชิมอย่างบ้านฉันเอาซะเลย เมื่อมองจากด้านนอกเข้าไป ฉันเห็นอาคารไม้ผสมปูนเปลือย สีตัดสนามหญ้าเขียวชอุ่มกว้างขวางด้านหน้าชวนวิ่งเล่น ต้นไม้ร่มรื่น มีมุมศาลาและม้านั่งพักผ่อน ให้อารมณ์บ้านสวยของคนมีสไตล์ มากกว่าจะเป็นร้านอาหารเสียอีก หลานตัวน้อยกระโดดโลดเต้นผ่านแผ่นหินปูสนามหญ้าเข้าไปในตัวร้านอย่างร่าเริง ร้านนี้ถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนด้านในอาคารและส่วนระเบียงไม้มีหลังคาคลุม ทั้งสองส่วนถูกคั่นกลางด้วยบ่อน้ำล้อมรอบ ทางด้านหลังมีสระน้ำ ได้บรรยากาศเชื่องช้า เย็นใจ โต๊ะถูกจัดเว้นระยะห่างเพิ่มความรู้สึกเป็นส่วนตัว ช่องว่างยังช่วยลดความอึดอัด เมื่อแหงนหน้ามองเพดาน สูงโปร่งดีจัง ประตูกระจกรอบด้านเปิดรับลมพัดเย็นสบาย ทำให้ไม่ต้องง้อเครื่องปรับอากาศ แค่พัดลมเพดานก็เพียงพอ สำรวจร้านกันเสร็จ เราจึงเลือกนั่งกันที่ศาลาส่วนตัวด้านซ้ายมือ ที่อาจเรียกได้ว่าเป็นทำเลทอง ถูกใจคุณตาผู้รักความสงบเพราะมีโต๊ะเดียวเท่านั้น
คุณรวิน ทองมา หนึ่งในหุ้นส่วน เล่าถึงที่มาของร้านให้ฟังว่า "ที่ตรงนี้แต่เดิมเป็นร้านอาหารที่เปิดมาได้ประมาณ 2 ปี เจ้าของเขาจะเลิกทำ เราก็เลยมาขอซื้อเพื่อทำร้านต่อ แล้วเปลี่ยนชื่อเป็น Is t Garden ซึ่งตัว t มาจากชื่อของหุ้นส่วนทั้ง 3 คน ตอนนี้ร้านเปิดมาได้เกือบ 4 เดือนแล้ว พื้นที่และตัวร้านนั้นยังคงสภาพเดิมไว้กว่า 80 เปอร์เซ็นต์ จะมีตกแต่งเพิ่มแค่เพียงบางส่วน โดยมีจุดเด่นอยู่ที่รสชาติอาหารไทยที่จัดจ้านถึงเครื่องและครบรส"
เมนูแนะนำที่นี่น่าสนใจหลายจาน เราจึงสั่งอาหารอย่างไม่รอช้า โดยเริ่มกันที่ออเดิร์ฟเคี้ยวกรุบกริบ "กุ้งแก้วคั่วเนย" กุ้งแก้วใสๆ ตัวโตๆ จากมหาชัย นำมาคั่วกับเนย เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ถั่วลิสง มะกรูด พริกแห้ง และพริกไทยอ่อน จานนี้คุณพ่อติดใจหยิบกินไม่หยุดเลยทีเดียว ตามมาด้วย "ข้าวผัดปู" จานโตให้เจ้าตัวเล็ก เด่นที่กลิ่นและรสชาติจากเนื้อปูแน่นๆ ต่อด้วย "ปลาหมึกแดดเดียว" ที่ได้ปลาหมึกสดๆ เนื้อเด้งรสเข้มข้นมาอาบแดดพองามก่อนนำมาทอด เนื้อไม่เหนียว เคี้ยวง่าย เสิร์ฟพร้อมสลัดผักต้มหั่นเต๋าพอดีคำ รสเข้ากันดี ฉันสั่ง "ปลาช่อนสมุนไพร" สำหรับคุณปู่ คุณย่า เพราะมีส่วนประกอบของผักและสมุนไพรที่ดีต่อสุขภาพอย่าง ขิงซอย สะระแหน่ กระเทียม มะม่วง ผักชีฝรั่ง แถมปลายังมีไขมันต่ำ โคเลสเตอรอลน้อย ส่วนคุณแม่ผู้โปรดปรานอาหารรสจัดจ้านยืนยันจะกิน "แกงส้มหัวปลา" ให้ได้ ฉันจึงเดินหน้าจัดให้หนึ่งถ้วยใหญ่ ปลาตัวบิ๊กบึ้มส่งตรงจากปราณบุรี ทั้งสดทั้งเนื้อแน่น เพิ่มความเผ็ดร้อนอีกระดับด้วยใบกะเพรา เด็ดสุดๆ ตอนซดพร้อมน้ำแกงเข้มข้นจี๊ดจ๊าดถึงใจ ไม่หมดแค่นั้น ยังมี "สลัดกุ้งทอด" จานใหญ่ที่ฉันสั่งตบท้าย แอบขอให้ทางร้านแยกน้ำสลัดมาต่างหากเพื่อเอาใจคุณยาย พนักงานก็ยิ้มใจดี ไม่อิดออดสักกะนิด
เมื่ออาหารมาครบ เราลงมือกินกันไปอย่างไม่รีบไม่ร้อน ลมพัดผ่านเม็ดฝนนำความเย็นมากระทบไม่ขาดตอน บทสนทนาบนโต๊ะอาหารได้เริ่มขึ้น รสชาติที่ถูกคลุกเคล้าด้วยเสียงหัวเราะและรอยยิ้ม ความอบอุ่นที่ก่อตัวสู้กับความเย็นในอากาศ ทำให้การกินข้าวเคล้าสายฝนกับครอบครัวของฉันในวันนี้ มันช่างสุขใจเสียจริงจริง
ขอขอบคุณ:
ร้าน Is t Garden
เปิดตั้งแต่เวลา 17.00 - 24.00 น.
โทร. 08 1341 6855
เมนูสำหรับคุณตา คุณยาย : ปลาช่อนสมุนไพร 300 บาท / สลัดผลไม้กุ้งทอด 180 บาท
เมนูสำหรับเด็ก : ข้าวผัดปู 100-200 บาท / ปลาหมึกแดดเดียว 160 บาท
เมนูสำหรับคุณพ่อ : กุ้งแก้วคั่วเนย 120 บาท
เมนูสำหรับคุณแม่ : แกงส้มหัวปลา 140-180 บาท
เรื่อง : ภัทราวรรณ สุขมงคล / ภาพ : สุตสาย สังหาร
(คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขนาดใหญ่)
