เที่ยวอลังการ ชมกองถ่ายตำนานสมเด็จพระนเรศ ตอน 1

เที่ยวอลังการ ชมกองถ่ายตำนานสมเด็จพระนเรศ ตอน 1

เที่ยวอลังการ ชมกองถ่ายตำนานสมเด็จพระนเรศ ตอน 1
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เจาะเวลาหาอดีตไปเกือบ 200 ปีที่แล้ว บนพื้นที่ที่เราจะกล่าวถึงอดีตมันคือพื้นที่ที่เหล่าวีรบุรุษทหารและคนกล้าร่วมหลั่งเลือดสละชีวิตเพื่อคนไทยอย่างไม่สิ้น ผมคิดภาพตามตำราที่เล่าถึงสงครามตั้งแต่สมัยพระสุริโยทัย พระนเรศ พระยาเสือ เสียงปืนใหญ่เสียงกระทบดาบคงดังดั่งวงมโหรีที่ลั่นกลองชุดใหญ่ จุดตรงนี้เป็นเส้นทางการเดินทัพของกษัตริย์ทั้งไทยและพม่าที่มักใช้เส้นทางเดินนี้เป็นทางหลัก และยังเป็นยุทธภูมิเก่าของสมเด็จพระบวรราชเจ้า มหาสุรสิงหนาทที่ตั้งค่ายต้านพม่าเรือนแสนในสงคราม 9 เก้าทัพ ด้วยป่าเขาพงไพรที่ผสมด้วยช่องเล็กช่องน้อยและความเชี่ยวการศึกของ "พระยาเสือ" เล่นงานทัพพม่าต้องร่นถอนทัพไป มันไม่ใช่แค่กลศึกของพระยาเสือเท่านั้น หากขาดทหารกล้าคู่ที่เข้าประจันศึก คงไม่จบด้วยชัยชนะ


กลับมาที่ปัจจุบันพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำของเมืองไทย รวมถึงบริเวณตำบลลาดหญ้าและด้วยความที่เป็นจังหวัดที่ติดเขตชายแดนจึงมีต้องค่ายทหารระวังภัยอยู่ตรงนี้ ค่ายสุรสิงห์เป็นค่ายทหารที่นอกจากจะรักษาดินแดนแล้วยังมีพื้นที่ฝึกเยาวชนได้เรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวการศึก เขาชนไก่เป็นสถานที่ชายวัยรุ่นหลายคนต้องมาใช้ชีวิตร่วมกัน ความทรงจำในวันเก่าสมัยยังเกรียนเรียน รด. หอบหืดเล่นงานซะแทบไม่รอด อยากรู้เหมือนกันว่าทหารเขากินอะไรทำไมอึด ถึก ท้วมกันจัง ช่วงเวลาที่ฝึก โผ กลิ้ง วิ่งคลานอยู่นั้นได้ยินเสียงปืนใหญ่ ตู้มตามๆ ทำเอาเหล่า รด. หัวเกรียนแต๋วแตกกันเป็นแถบ แอบถามจ่านรก(ป่านนี้แกคงเป็นผู้พันแล้วกระมั้ง) ว่าเสียงมันมาจากไหน

คำตอบของผู้พันอลาโม ทำเอาเราร้องอ๋อเมื่อวานฉาย ใกล้ๆ นี้มันเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราชผลงานเอกของท่านมุ้ยนี่หว่า สถานที่แห่งนี้ให้ความสมจริงตั้งฉากและอาวุธยุทโธปกรณ์จำลองให้คุณได้เพลินเพลิดและอินไปกับหนังมากกว่าเดิม วันนี้เราจะพาไปดูกัน การเดินทางไปเมืองกาญจ์ทำได้ไม่ยาก ขับรถออกจากกรุงเทพสายใต้มุ่งหน้าสู่นครปฐมตัดเข้าบ้านโป่งเลยข้ามราชบุรีและตบเกียร์ 5 ยาวๆ คุณจะไม่หลงแน่หากดูป้ายเขียวๆ ตามทางเลยและวิ่งเข้าเมืองกาญจนบุรีไม่เกิน 120 จากเมืองหลวงคุณสามารถมาได้ทั้งรถทัวร์ รถไฟ หรือจะรถตู้ที่อนุสาวรีย์ก็ดีทั้งนั้น พอเข้าถึงเมืองกาญจ์แล้วก็มุ่งหน้าต่อไปยังตำบลลาดหญ้าบนทางหลวงหมายเลข 3199 ตำบลจะหาจากเมืองอยู่ประมาณ 8 - 10 กิโลเมตร ทางเข้านั้นจะวิ่งออกไปทางขวามือจากแยกลาดหญ้าบนถนนทางหลวงหมายเลข 3086 หรือจะวิ่งจากค่ายฝึก รด. เขาชนไก่ก็ได้แต่แนะนำว่าต้องแบบโฟว์วิลนะจ๊ะไม่งั้นกลับกรุงเทพได้ล้างช่วงล้างกันยาว หรือจะสังเกตจากป้ายฟ้าๆ ที่เขียนว่า "พร้อมมิตรสตูดิโอ"

 

100 บาทสำหรับคนไทยหัวดำส่วนฝรั่งหัวแดงก็พิเศษหน่อย 200 บาท จุดแรกที่เราจะได้พบในหนังทั้งภาคหนึ่งและสองหนีไม่พ้น วัดของมหาเถรคันฉ่อง ที่ประกอบทั้งไม้และโฟมเป็นส่วนหลักทำได้สมจริงนึกว่าเป็นเชลยศึก บริเวณนั้นจะมีเสาของประตูหมู่บ้านโยเดียที่เข้าบนสลักสัญลักษณ์ประจำตัวของลักไวทำมู ด้านหลังของวัดจะเป็นเจดีย์สีทองใหญ่ๆ ในวังของพระเจ้าบาเยงนอง ด้านในจะมีพระประธานแบบมอญที่เห็นสรพงษ์ ชาตรีไหว้พระแบบแปลกๆ ก็องค์นี้ละครับ ส่วนด้านนอกที่เห็นบ่อยมากๆ ในภาคแรกก็คือลานวัดทำด้วยหินอ่อน ข้างๆ มีเกวียนวัว บรรยากาศไม่ร้อนเหมือนข้างนอกที่มองเห็นข้างในศาลามีพัดลมตัวใหญ่เป่ากระหม่อมหลบร้อน หากไม่ติดว่าไปต่อคงนอนที่นี้เสียกระมัง แต่ด้วยกาลเวลาที่ยาวนานฉากอาจจะมีหลุด ขาดหรือหักก็อย่าได้แปลกใจอาจจะมีนักท่องเที่ยวมารยาทไม่งามมือบอลแกะข้าวของกลับบ้าน คุณอย่าไปเป็นหนึ่งในนั้นละ

เข้ามาต่อที่ห้องข้างๆ กุฏิจะเป็นห้องเก็บพระแสงปืนต้นที่เป่าสุรกรรมาสิ้นบนคอช้าง เส็จแล้วเดินถัดออกมาจากบริเวณหมู่บ้านโยเดียจะเห็นแดดเปรี้ยงๆ เหนื่อยใจเล็กน้อยแต่ของสู้ต่อแบบพระองค์ดำ เราจะพาเดินข้ามสะพานหินเข้าเมืองพม่ากัน ข้างหน้าของคุณนั้นจะเห็นฉากที่พบในภาพยนตร์มากที่สุด ...

ต่อตอน 2 เราจะพาเข้าไปชมเมืองหงสาวดีฉากหลักอีกฉากที่ไม่ควรพลาด

 

(คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขนาดใหญ่)

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ ของ เที่ยวอลังการ ชมกองถ่ายตำนานสมเด็จพระนเรศ ตอน 1

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook