ตะลุย 'แก่งเที่ยม' สายน้ำสุดมันส์ที่รังสรรค์จากธรรมชาติ

ตะลุย 'แก่งเที่ยม' สายน้ำสุดมันส์ที่รังสรรค์จากธรรมชาติ

ตะลุย 'แก่งเที่ยม' สายน้ำสุดมันส์ที่รังสรรค์จากธรรมชาติ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

บรรยากาศที่มีแต่ฝนตกและแดดออกเช่นนี้ บรรดานักท่องเที่ยวผู้มีชีพจรลงเท้าอาจต้องว่างเว้นจากการเยี่ยมเยือนทะเล เพราะลมมรสุมและเหล่าแมงกะพรุนจะออกมาวาดลวดลายให้เราต้องสยอง ซึ่งถ้าไม่ได้โดดใส่เกลียวคลื่นแล้ว ผู้ชื่นชอบหาความสำราญจากการออกไปกอดเมืองไทยจะไปที่ไหนกันดี วันนี้เราก็อีกหนึ่งคำตอบเจ๋งๆ ที่อยากให้คุณลองไปสัมผัสด้วยกันสักครั้ง


สำหรับทริปนี้ ยังคงวนเวียนอยู่ไม่ห่างจากเมืองหลวงไปมากนัก โดยจุดมุ่งปลายที่จะทำให้คุณได้เล่นน้ำเย็นๆ แบบมีธรรมชาติโอบล้อมอยู่ที่จังหวัด "นครนายก" ดินแดนที่มากด้วยหุบเขาและสายน้ำ

ช่วงสายๆ ของวันหยุดกับการขับรถออกจากเมืองฟ้าแดนศิวิลัยด้วยทางหลวงหมายเลข 305 เลียบคลองรังสิต ผ่านอำเภอองครักษ์ ที่ค่อยๆ กินลมชมวิวกันไปเรื่อยเหมือนมุ่งหน้าสู่เขื่อนขุนด่านปราการชล ด้วยระยะทางที่ไม่ไกลมากนักเพียงประมาณหนึ่งชั่วโมงเศษๆ คุณก็จะได้สัมผัสกับทิวเขาสีเขียวชอุ่มตลอดสองข้างทาง ซึ่งในวันนี้เราขอพาคุณมานอนอืดในห่วงยางแล้วให้สายน้ำไหลเชี่ยวพัดพาตัวไปกับสวนน้ำจากธรรมชาติอย่าง "แก่งเทียม"

ก่อนจะถึงจุดหมายปลายทาง ระหว่างทางถ้าเกิดอาการหิวโหย เราขอแนะนำให้ลองเลี้ยวรถเข้าไปพักเติมพลังกันที่ "ช่อชะมวง" ร้านอาหารไทยโบราณที่สรรสร้างอาหารพื้นเมืองรสเลิศ บรรยากาศภายในร้านอาจดูแปลกตาไปจากเมื่อหลายปีก่อนมาก เพราะตอนนี้มีทั้งส่วนที่เป็นตัวบ้าน มีห้องแอร์เย็นฉ่ำแล้วยังมีการดัดแปลงร้านให้ดูร่วมสมัยมากยิ่งขึ้น

สำหรับเมนูเด็ดที่ห้ามพลาดเลยก็คือ หมูชะมวง เส้นจันทร์ผัดปู และปลาช่อนโบราณ ที่แต่ละอย่างบอกเลยว่า เด็ด! และช่วยเติมพลังก่อนไปตะลุยกับสายน้ำได้อย่างแน่นอน

เมื่อท้องพร้อม กองทัพก็เริ่มเดินหน้า ระยะทางจากร้านช่อชะมวงสู่แก่งเทียมนับว่าไม่ไกลมากนัก โดยใช้เส้นทางน้ำตกนางรอง ถนนหมายเลข 3049 ผ่านอุทยานวังตะไคร้แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนสู่ตัวเขื่อน แต่ช้าก่อน...เพราะเราเคยไปเที่ยวเขื่อนกันมาแล้ว ดังนั้น ช่วงก่อนถึงเขื่อนขุนด่านให้สังเกตป้าย "จุดเล่นน้ำ" กันให้ดี เพราะเราจะเข้าไปมันหยดติ๋งกัน ณ จุดนั้น

สำหรับเส้นทางลัดเลาะของจุดเล่นน้ำ เมื่อขับตรงเข้าไป คุณจะได้พบกันรีสอร์ทมากหน้าหลายตาที่มีราคาถูกแสนถูก ตั้งแต่บ้านหลังละ 1,500 บาท ที่จะนอนกี่คนก็ได้ไม่จำกัด ไปจนถึงห้องพักระดับไฮท์คลาสที่ราคาไม่ต่ำกว่า 5,000 บาท ซึ่งงานนี้ก็เชิญเลือกกันตามใจชอบได้เลยเต็มที่

หลังจากมองหาที่พักพิงกันเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาของพาหนะที่แม่ให้มาอย่าง 2 ขาคู่ใจ ที่คุณควรเดินตามทางไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอจุดเล่นน้ำ ซึ่งก็ไม่ไกลมากนัก และระหว่างทางก็ค่อนข้างร่มรื่น ดังนั้นจึงเป็นเรื่องดีที่นักเดินทางจะเดินสูญกลิ่นอายธรรมชาติไปสู่แก่งเทียม

เมื่อเข้าใกล้จุดเล่นน้ำ คุณจะเห็นบรรดาร้านเช่าห่วงยาง เรือแพล่องแก่ง เรือคยัค และเรือแคนนู ไว้คอยบริการ ซึ่งถ้าติดต่อลงเรือล่องแก่งกับทางที่พักก็จะมีบริการรถรับส่งที่สะดวกสบายในราคาราวๆ 2,000 บาท โดยระยะทางในการล่องแก่งแม่น้ำนครนายกจะมีตั้งแต่ 9-12 กิโลเมตร ซึ่งแต่ละจุดจะมีความเชี่ยวกลาดที่แตกต่างกันไป

สำหรับการล่องแก่งที่จะได้นั่งบนเรือยางโดยลูกทีมทั้ง 9 ช่วยกันออกแรงจ้วงน้ำ อาจไม่ใช่กิจหลักที่เราของขอเสนอแนะ เพราะงวดนี้เราขอชวนคุณมาตัวเปล่าเล่าเปลือยกับห่วงยางเพียงเส้นเดียวที่จะพาเราไปสนุกกับสายชลเสมือนได้อยู่ในสวนน้ำระดับโลก

แก่งเทียม เป็นแก่งน้ำที่ทางลงทั้งสองฝั่งเป็นฝีมือของมนุษย์ ซึ่งช่วยสร้างความสะดวกสบายให้กับการพักผ่อน แต่สำหรับโขดหิน หรือหินแม่น้ำน้อยใหญ่ที่มีอยู่ตลอดทางจะเป็นการรังสรรค์ของธรรมชาติที่สามารถเข้ากันได้อย่างลงตัว

เช่าห่วงหางในราคา 50 บาท แต่จะได้คืนอีก 30 บาท เมื่อคุณนำเจ้ายางสีดำๆ อันบะละฮึ่มส่งมอบให้กับร้านค้า หากเดินทางไปแก่งเทียมด้วยเส้นทางลัดตามที่เราบอก คุณอาจต้องเดินลุยน้ำเชี่ยวๆ ของล่องน้ำคู่ขนาดไปสู่แก่งเทียม จากนั้นก็หาจุดเหมาะๆ ที่จะหย่อนตัวไปพบกับน้ำใสๆ แสนเย็น


กด Like เพื่อติดตามเรื่องเด็ดๆ โดนๆ จากทีมงาน สนุก! ท่ิองเที่ยว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook