เมืองแห่งความสุข ที่สามารถสัมผัสได้ตลอดทั้งปี...จันทบุรี

เมืองแห่งความสุข ที่สามารถสัมผัสได้ตลอดทั้งปี...จันทบุรี

เมืองแห่งความสุข ที่สามารถสัมผัสได้ตลอดทั้งปี...จันทบุรี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดจันทบุรี หรือ เมืองจันท์ ทุกคนคงรู้จักกันดีเพราะนอกจากที่นี่จะเป็นเมืองผลไม้และแหล่งค้าพลอยคุณภาพดีแห่งภาคตะวันออกของประเทศไทยแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่มากมายไม่ว่าจะเป็น ภูเขา ป่าไม้ น้ำตก ชายทะเล โบราณสถาน และโบราณวัตถุต่างๆ ความอุดมสมบูรณ์ในด้านทรัพยากรก็ไม่ยิ่งหย่อนเป็นรองใคร ด้วยสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมที่ดี ทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่เหมาะแก่การเพาะปลูก โดยเฉพาะผลไม้ซึ่งมีอยู่มากมายหลายชนิด อาทิ ทุเรียน เงาะ มังคุด ลองกอง ลำไย รวมถึงพืชผลทางการเกษตรอื่นๆ เช่น พริกไทยและยางพารา

จันทบุรีมีพื้นที่ประมาณ 6,338 ตารางกิโลเมตร แบ่งการปกครองออกเป็น 10 อำเภอ คือ อำเภอเมือง อำเภอท่าใหม่ อำเภอขลุง อำเภอแหลมสิงห์ อำเภอโป่งน้ำร้อน อำเภอมะขาม อำเภอสอยดาว อำเภอนายายอาม อำเภอแก่งหางแมว และอำเภอเขาคิชฌกูฏ สถานที่ท่องเที่ยวของแต่ละอำเภอก็มีความน่าสนใจที่แตกต่างกันออกไป วันนี้ "คู่หูเดินทาง" ขอหยิบยกมานำเสนอเรียกน้ำย่อยก่อนเพียงไม่กี่แห่ง พร้อมเปิดตัวสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ ณ อำเภอโป่งน้ำร้อน "วัดถ้ำเขาแก้ว" สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มาพร้อมกับวิวความสวยงามของธรรมชาติ ถึงแม้พื้นที่ในการนำเสนอเรื่องราวของจังหวัดจันทบุรีจะมีจำกัดแต่รับรองว่าความเข้มข้นของคุณภาพและเนื้อหายังคงเหมือนเดิมแน่นอนครับ เรียกได้ว่ามาจังหวัดเดียวได้เที่ยวครบรส...แล้วคุณจะหลงรัก "จันทบุรี"

อนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

ตั้งอยู่ใจกลางเมือง บริเวณสวนสาธารณะสมเด็จพระเจ้าตากสิน สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงเลือกเมืองจันทบุรีเป็นฐานที่มั่นในการรวบรวมไพร่พลไปกอบกู้อิสรภาพ องค์พระบรมราชานุสาวรีย์ เป็นรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงม้า ตั้งตระหง่านอยู่กลางทหารคู่พระราชหฤทัยทั้งสี่ คือ พระเชียงเงิน หลวงพิชัยอาสา หลวงพรมเสนา และหลวงราชเสน่หา ประดิษฐานอยู่บนเกาะกลางบึง บริเวณโดยรอบมีการตกแต่งสภาพภูมิทัศน์เพื่อให้มีความร่มรื่นและสวยงาม ทุกช่วงเช้า-เย็นจะมีประชาชนจำนวนมากนิยมมาออกกำลังกายและพักผ่อน หย่อนใจ

ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

อยู่บริเวณริมถนนท่าหลวง หน้าค่ายตากสิน เป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมืองจันท์ บ่งบอกถึงความผูกพันของคนเมืองจันท์ที่มีต่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เป็นศาลทรงเก้าเหลี่ยมสร้างด้วยหินอ่อน พื้นเป็นหินแกรนิต หลังคาเป็นรูปพระมาลายอดแหลมหรือหมวกยอด สูงจากพื้นถึงยอด 16.9 เมตร ประดับลวดลายทอง ยอดบนเป็นฉัตรทองคำเก้าชั้น บันไดทางขึ้นมีสามด้าน ราวบันไดด้านหน้าเป็นรูปพญานาค ด้านหน้าศาลมีสิงห์หนึ่งคู่ ภายในมีพระบรมรูปของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช หล่อด้วยทองเหลืองรมดำ ประทับนั่งทรงเมือง ผนังภายในเขียนลายพุ่มข้าวบิณฑ์ไว้อย่างสวยงาม ในแต่ละวันจะมีประชาชนมาสักการะบูชาเป็นจำนวนมาก และในวันที่ 28 ธันวาคมของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเสด็จขึ้นครองราชย์ของพระองค์จะจัดให้มีการทำบุญตักบาตรถวายเป็นเครื่องราชสักการะ เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงกอบกู้เอกราชให้แก่แผ่นดินไทย

นมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง ณ ยอดเขาคิชฌกูฏ

ที่ตั้งตำบลพลวง อำเภอคิชฌกูฏ รอยพระพุทธบาทพลวง ประดิษฐานอยู่บนยอดเขาพระบาท มีจุดเริ่มต้นเดินทางจากวัดพลวงไปตามถนนลูกรังที่ลาดชัดมากระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร จากนั้นต้องเดินขึ้นเขาไปอีกประมาณ 1.2 กิโลเมตร ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ถึงช่วงวันมาฆบูชาของทุกปี จะมีประชาชนจำนวนมากขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาททั้งกลางวันและกลางคืน โดยปีนี้จะเปิดให้ผู้มีจิตศรัทธาขึ้นไปนมัสการตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ ถึง 4 เมษายน เป็นระยะเวลา 2 เดือน ทิวทัศน์บนยอดเขาคิชฌกูฏหรือเขาพระบาทนี้เป็นปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยาที่นำมาผูกกับตำนานทางพระพุทธศาสนาโดยมีความเชื่อที่ว่าถ้าใครได้ขึ้นไปกราบสักการะรอยพระพุทธบาทพลวงบนยอดเขาพระบาท แล้วจะสามารถขอพรได้หนึ่งข้อซึ่งโดยส่วนใหญ่ผู้ที่ไปขอพรทุกคนก็จะประสบความสำเร็จดังพรที่ขอไว้จึงทำให้มีผู้เลื่อมใสและศรัทธาเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก มีบริการรถสองแถวจากวัดพลวงถึงจุดสิ้นสุดทางรถ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อบต.พลวง กิ่งอำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี โทร. 0-3930-9281-2

อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล

ตั้งอยู่ในบริเวณโรงเรียนสตรีพิทักษ์ ตำบลจันทนิมิตร อำเภอเมือง เป็นวัดคาทอลิกที่สวยงามและมีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชีย มีประวัติยาวนานถึง 300 ปี สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2254 บนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำจันทบุรี ถือว่าเป็นจุดศูนย์รวมของชาวญวนผู้นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก มีการซ่อมแซมบูรณะมาโดยตลอดรวม 5 ครั้ง ในส่วนของอาสนวิหารหลังปัจจุบันมีอายุกว่า 100 ปี โบสถ์หลังนี้มีลักษณะสถาปัตยกรรมตะวันตกแบบโกธิค ภายในตกแต่งด้วยไม้ฉลุลวดลาย และประดับกระจกสีสแตนกลาสดั้งเดิมเป็นภาพนักบุญองค์ต่างๆ ในศาสนาคริสต์ ซึ่งมีความงดงามและคุณค่าทางประวัติศาสตร์เป็นอย่างยิ่ง ด้านในข้างประตูทางเข้า-ออกก็จะพบกับภาพประดับพลอยรูปพระนางมารีอาและพระเยซูตั้งให้ชมกันคนละฝั่งเป็นการนำเม็ดพลอยสีต่างๆ มาเรียงกันประหนึ่งภาพวาดซึ่งมีความวิจิตรบรรจงเป็นอย่างยิ่ง พร้อมชมความสวยงามอลังการขององค์ "แม่พระประดับพลอย" ซึ่งประดิษฐานอยู่ ณ กลางห้องโถง ประกอบไปด้วยทองคำบริสุทธิ์ เงินบริสุทธิ์ และพลอยบริสุทธิ์ทั้งองค์ถึง 20,000 กะรัตโดยใช้เฉพาะสีขาว, น้ำเงินและเหลืองเท่านั้น เปิดให้เข้าชมได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30-17.00 น. โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หรือถ้าต้องการเข้าชมเป็นหมู่คณะกรุณาติดต่อล่วงหน้าที่โทร. 0-3931-1578

อู่ต่อเรือบ้านเสม็ดงาม

อยู่ที่บ้านเสม็ดงาม บริเวณริมปากแม่น้ำจันทบุรีเข้าไปประมาณ 6 กิโลเมตร ซึ่งพบหลักฐานซากเรืออู่ตะเภาและร่องรอยอู่ต่อเรือ ซึ่งเชื่อกันว่าบริเวณดังกล่าวเคยเป็นอู่ต่อเรือของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเมื่อครั้งเตรียมการยกทัพไปกอบกู้เอกราชหลังจากเสียกรุงอยุธยาครั้งที่สอง จากการสำรวจของกรมศิลปากรพบหลักฐานทางวิชาการจำนวนมาก เช่น ซากเรือสำเภาจีนโบราณ เครื่องมือช่างไม้ เช่น ขวาน เลื่อย เศษภาชนะดินเผาทั้งของไทยและเครื่องลายครามจีนจำนวนมากในราวพุทธศตวรรษที่ 22-23 ปัจจุบันเก็บรักษา ณ พิพิธภัณฑ์อู่ต่อเรือสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช นอกจากนั้นบริเวณดังกล่าวกำลังก่อสร้าง "พระบรมราชานุสรณ์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช" เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน โดยการจัดกิจกรรมทอดผ้าป่าสามมิติ (ทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ) ขึ้นทุกปี เพื่อหารายได้สมทบทุนก่อสร้างเป็นอาคารไม้สักแกะสลักสวยงามขนาดใหญ่ มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2547

หาดแหลมสิงห์

ตั้งอยู่ที่ตำบลปากน้ำแหลมสิงห์ห่างจากตัวเมืองจันทบุรีประมาณ 30 กิโลเมตร เป็นชายหาดปากอ่าวที่แม่น้ำจันทบุรีไหลมาออกอ่าวไทย ร่มรื่นไปด้วยทิวสนยาวไปตามแนวชายหาดมีที่นั่งพักผ่อนพร้อมทั้งร้านจำหน่ายอาหารตั้งเรียงรายอยู่ริมหาดและมีบริการด้านที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว จากบริเวณหาดมองออกไปจะเห็นเกาะจุฬาและเขาแหลมสิงห์อยู่เบื้องหน้า

โอเอซีส ซีเวิล์ด

ตั้งอยู่ที่ตำบลปากน้ำแหลมสิงห์บนพื้นที่กว่า 68 ไร่ ห่างจากตัวเมืองจันทบุรี 25 กิโลเมตร เป็นสถานที่เพาะพันธุ์ปลาโลมาในน่านน้ำจันทบุรี ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 2 พันธุ์คือ พันธุ์หัวบาตรและพันธุ์หัวขวด มีการจัดแสดงปลาโลมาให้ชมกันทุกวันเป็นการแสดงโชว์ที่สนุกสนานตื่นเต้นเร้าใจของโลมาและผีมือครูฝึกชาวไทย พร้อมกิจกรรมพิเศษให้นักท่องเที่ยวสามารถเล่นน้ำและสัมผัสกับโลมาได้อย่างใกล้ชิดพร้อมบริการอาหารพื้นเมืองและอาหารทะเล อีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว

รอบการแสดงโลมาโชว์ (รอบละ 40 นาที) เวลา 9.00 น. , 11.00 น. , 13.00 น. , 15.00 น. , และ 17.00 น. เสาร์-อาทิตย์เพิ่มรอบ 7.00 น. อัตราค่าเข้าชม เด็ก 50 บาท ผู้ใหญ่ 90 บาท ชาวต่างชาติ 180 บาท ที่อยู่ : 48/2 หมู่ 5 ตำบลปากน้ำ อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี 22130 ห่างจากตัวเมืองจันทบุรี 25 กิโลเมตร โทรศัพท์ : 0-3949-9222

ถ้ำเขาแก้ว - จุดชมวิวสองแผ่นดิน

อยู่ที่ตำบลหนองตาคง อำเภอโป่งน้ำร้อน มีลักษณะเป็นถ้ำหินปูนความลึกประมาณ 50 เมตร ประกอบด้วยหินงอก หินย้อย ลวดลายธรรมชาติสวยงามยิ่งนัก อาจเป็นที่อยู่อาศัยหรือประกอบกิจกรรมของคนสมัยก่อนประวัติศาสตร์ เมื่อประมาณ 1,000-6,000 ปีมาแล้ว และอาจจะมีพัฒนาการต่อเนื่อง หรือทิ้งร้างไปแล้วกลับมาใช้ใหม่อีกในช่วงเวลาที่ทำเครื่องมือหินขัดขึ้นใช้ เมื่อประมาณ 4,000-2,000 ปีมาแล้ว มีอยู่ทั้งหมด 9 ถ้ำ ได้แก่ ถ้ำเทวาภิทักษ์ เป็นถ้ำที่ค้นพบขวานโบราณ สันนิฐานโดยกรมศิลปากรว่าน่าจะมีอายุประมาณ 4,000-10,000 ปี, ถ้ำคชสาร เป็นถ้ำที่มีลักษณะน้ำย้อยเหมือนรูปหัวช้าง, ถ้ำวิมุติ เป็นถ้ำที่โอ่โถง สามารถลอดช่องเล็กๆ ไปยังอีกถ้ำหนึ่งได้, ถ้ำแก้ว เป็นถ้ำที่สวยงามมีหินประกายแก้วเยอะมากอีกทั้งเป็นอีกถ้ำหนึ่งที่ขุดพบขวานโบราณเป็นจำนวนมาก, ถ้ำนาคราช คือมีหินงอกหินย้อยเป็นรูปทรงคล้ายๆ กับพญานาคราช และถ้ำอุตระ ซึ่งเป็นถ้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและพบหินงอกหินย้อยที่มีความสวยงามมากกว่าทุกถ้ำ เป็นต้น แต่การเดินชมสามารถทำได้เพียงบางถ้ำเท่านั้น เนื่องจากทางค่อนข้างลาดชันและบางช่วงก็ยังไม่เปิดให้มีทางเดินไปถึง เมื่อเดินขึ้นไปข้างบนยอดเขาวัดถ้ำแก้วเราจะได้พบวิวสร้างสรรค์จากธรรมชาติจุดชมวิวสองแผ่นดินไทย-กัมพูชาด้วยมุมมองแบบพาโนรามา 360 องศาพร้อมกราบนมัสการ "พระหยกขาว" บนยอดเขาถ้ำเขาแก้วด้วย

ถ้ำเขาแก้ว


ตลาดชายแดนไทย - กัมพูชา

อยู่ที่บ้านแหลม ตำบลเทพนิมิต อำเภอโป่งน้ำร้อน ห่างจากสนามกอลฟ์สอยดาวเพียง 25 กิโลเมตร เป็นตลาดที่จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ระหว่างชาวไทย-ชาวกัมพูชา อีกทั้งเป็นจุดผ่านแดนถาวรที่อนุญาตให้เดินทางเข้าไปท่องเที่ยวได้ระหว่าง 07.00-16.00 น.

สวนลำไยเพื่อการท่องเที่ยวและสวนเกษตรอินทรีย์

อำเภอโป่งน้ำร้อนยังเป็นที่ตั้งของสวนเกษตรอินทรีย์จำนวนมาก อาทิ ลองกอง มังคุด เงาะ ลำใย และกล้วยหลากสายพันธุ์ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปเที่ยวชมและชิมได้โดยติดต่อไปที่ ดร.บำรุง รวมทรัพย์ โทร. 08-1982-8381

น้ำตกหินดาด

อำเภอโป่งน้ำร้อนตั้งอยู่เทือกเขาสอยดาวใต้ หมู่ที่ 2 ตำบลทับไทร ห่างจากที่ว่าการอำเภอโป่งน้ำร้อน 10 กิโลเมตร และเดินเท้าต่ออีก 3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้าขึ้นไปประมาณ 2 ชั่วโมง น้ำตกมีจำนวน 12 ชั้น ล้อมรอบด้วยป่าดงดิบที่ยังคงความสมบูรณ์ ชั้นที่ 9-12 เป็นน้ำตกที่มีทัศนียภาพที่สวยงามมาก การเดินทางไปท่องเที่ยวที่น้ำตกแห่งนี้ต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง เป็นบริเวณที่มีต้นกระวานขึ้นเองโดยธรรมชาติอยู่มาก ถ้าใครไม่ถนัดที่จะขึ้นเขาชมน้ำตกก็สามารถกางเต็นท์ชมวิวที่จุดข้างล่างได้ก็บรรยากาศดีไปอีกแบบ มีต้นไม้ใหญ่สูงโปร่ง ลำธารน้ำตกไหลผ่านด้านหน้าบริเวณลานกางเต็นท์ อยู่แบบใกล้ชิดธรรมชาติจริงๆ สนใจติดต่อได้ที่ กำนันธงชัย แพรงาม โทร. 0-3944-7247

TIPS รู้ก่อนเที่ยว

ทางรถยนต์

จากกรุงเทพฯ สามารถไปได้ 5 เส้นทาง ได้แก่

1. เส้นทางที่ 1 ทางหลวงหมายเลข 3 เป็นเส้นทางสายเก่า เริ่มต้นที่บางนา-กรุงเทพฯ ผ่านจังหวัดชลบุรี-บางแสน-ศรีราชา-พัทยา-สัต_บ-บ้านฉาง-ระยอง-จันทบุรี ระยะทาง 330 กิโลเมตร

2. เส้นทางที่ 2 ทางหลวงหมายเลข 36 เป็นเส้นทางสายหลักในปัจจุบัน เริ่มต้นกิโลเมตรที่ 140 ถนนสุขุมวิท อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เลี้ยวซ้ายตรงสามแยกกระทิงลาย ผ่านสนามแข่งรถพีระเซอร์กิต และสิ้นสุดที่ตำบลเชิงเนิน อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ระยะทาง 60 กิโลเมตร จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 3 ระยะทาง 108 กิโลเมตร จะถึงจังหวัดจันทบุรี รวมระยะทาง 308 กิโลเมตร

3. เส้นทางที่ 3 ทางหลวงหมายเลข 344 (บ้านบึง-แกลง) เป็นเส้นทางสายหลักอีกหนึ่งสายซึ่งช่วยลดระยะทางได้ถึง 70 กิโลเมตร เริ่มต้นกิโลเมตรที่ 98 ถนนสุขุมวิท อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ผ่านอำเภอบ้านบึง อำเภอวังจันทร์ และอำเภอแกลง จังหวัดระยอง ระยะทาง 110 กิโลเมตร จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 3 ระยะทาง 58 กิโลเมตร จะถึงจังหวัดจันทบุรี รวมระยะทาง 266 กิโลเมตร

4. เส้นทางที่ 4 เชื่อมระหว่างภาคตะวันออกเฉียงเหนือกับภาคตะวันออก เริ่มต้นกิโลเมตรที่ 200 ทางหลวงหมายเลข 33 อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี เลี้ยวขวากิโลเมตรที่ 230 จังหวัดสระแก้ว เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 317 ระยะทาง 189 กิโลเมตร ผ่านอำเภอวังน้ำเย็น อำเภอสอยดาว อำเภอโป่งน้ำร้อน อำเภอมะขาม จนถึงจังหวัดจันทบุรี รวมระยะทางจากอำเภอกบินทร์บุรี-จังหวัดจันทบุรี 219 กิโลเมตร

5. เส้นทางที่ 5 สายมอเตอร์เวย์ เริ่มต้นที่ถนนศรีนครินทร์ กรุงเทพฯ สิ้นสุดที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ระยะทาง 90 กิโลเมตร จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 36 ระยะทาง 50 กิโลเมตร และทางหลวงหมายเลข 3 อีก 108 กิโลเมตร รวมระยะทางกรุงเทพฯ-จันทบุรี 248 กิโลเมตร

รถโดยสารประจำทาง

• บริษัท ขนส่ง จำกัด มีบริการออกจากสถานีขนส่งสายตะวันออก (เอกมัย) ทุกวัน ตั้งแต่ 04.00-24.00 น. ออกทุกชั่วโมง สอบถามรายละเอียด Call Center โทร. 1490 เรียก บขส. หรือ www.transport.co.th

• บริษัทเดินรถเอกชนวิ่งบริการ ได้แก่ เชิดชัยทัวร์ โทร. 0-2391-4146, 0-3935-0357 พรนิภาทัวร์ โทร. 0-2391-5179, 0-3931-1278 ศุภรัตน์ทัวร์ โทร. 0-2391-2331, 0-3931-2011

นอกจากนี้ยังมีรถโดยสารจากจันทบุรีไปยังจังหวัดอื่นๆ ได้แก่ นครราชสีมา ตราด ระยอง สระแก้ว สระบุรี บุรีรัมย์ ปราจีนบุรี ตาก รายละเอียดติดต่อสถานีขนส่งจังหวัดจันทบุรี โทร. 0-3931-1299

ขอขอบคุณภาพจากประชาสัมพันธ์จังหวัดจันทบุรี

(คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขนาดใหญ่)

อัลบั้มภาพ 31 ภาพ

อัลบั้มภาพ 31 ภาพ ของ เมืองแห่งความสุข ที่สามารถสัมผัสได้ตลอดทั้งปี...จันทบุรี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook