"ฟลอเรนซ์" ศิลปะแสนยืนยาว...แต่ชีวิตนี้กลับสั้นนัก!

"ฟลอเรนซ์" ศิลปะแสนยืนยาว...แต่ชีวิตนี้กลับสั้นนัก!

"ฟลอเรนซ์" ศิลปะแสนยืนยาว...แต่ชีวิตนี้กลับสั้นนัก!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปลดปล่อยจิตวิญญาณเพื่อไปสัมผัสกับงานศิลป์ที่เป็นดุจดั่งเพชรประดับยอดมงกุฎของวงการศิลปะโลก

ไม่รู้ว่าเนิ่นนานมากแค่ไหนแล้วล่ะที่ นครฟลอเรนซ์ (Florence) หรือ ฟิเรนเซ่ (Firenze) แห่งประเทศ อิตาลี ได้รับการสถาปนาให้เป็นเมืองหลวงเอกของศิลปะโลก แต่เหตุผลที่ทุกคนศิโรราบพร้อมกันก็คือทุกตารางนิ้วของฟลอเรนซ์คราคร่ำไปด้วยงานศิลปะหลากสไตล์ ที่สำคัญคนไทยโดยเฉพาะที่เป็นสายเลือดศิลป์ ต่างก็รู้จักนครงามแห่งนี้ในฐานะที่เป็นบ้านเกิดเมืองนอนของปรมาจารย์งานศิลปะสมัยใหม่ของไทย "ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี" ดังนั้น หากคุณเป็นหนุ่มสาวที่เป็นคองานศิลป์ตัวยงครั้งหนึ่งในชีวิตควรได้ไปประทับรอยเท้าที่นครงามแห่งนั้น อย่างน้อยก็เพื่อไปพิสูจน์คำกล่าวที่ว่า "ศิลปะแสนยืนยาว...แต่ชีวิตนี้กลับสัั้นนัก" ว่าเป็นจริงมากน้อยเพียงไร

"ฟลอเรนซ์" เมืองหลวงแรกของอิตาลี

ย้อนกลับไปเมื่อประมาณร่วมร้อยปีก่อนคริสตกาล ฟิเรนเซ่หรือฟลอเรนซ์ก่อตัวขึ้นมาโดยพระจักรพรรดิจูเลียส ซีซาร์ (Julias Caesar) กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งจักรวรรดิโรมัน ณ จุดที่ตั้งของนครแห่งนี้คือจุดกึ่งกลางระหว่างโรมและนครรัฐโบราณที่รุ่งเรืองทางตอนเหนืออย่างฮอลแลนด์ ฝรั่งเศส และเยอรมนี ดังนั้น จึงทำให้ชุมชนฟลอเรนเทียหรือฟลอเรนซ์เมื่อแรกสร้างรุ่งเรืองขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ว่ากันว่ามีความคึกคักทั้งทางการค้า วัฒนธรรม ศาสนา และที่ชูหน้าที่สุดก็คืองานศิลปะ เพียงร้อยกว่าปีหลังจากการสถาปนาชุมชนแห่งนี้ก็ได้กลายมาเป็นนครรัฐที่เป็นอิสระนามว่า "ฟิเลนเซ่" หรือ "ฟลอเรนซ์" ที่ถือเป็นศูนย์กลางของแคว้นทัสคานี จนเมื่ออิตาลีรวบรวมนครรัฐอิสระต่างๆ ให้เป็นอาณาจักรกันซึ่งร่วมสมัยกับช่วงรัชกาลที่ 4 ของไทย ฟลอเรนซ์ก็ได้กลายมาเป็นเมืองหลวงแห่งแรกของอิตาลี ก่อนที่จะย้ายไปสู่กรุงโรมตราบกระทั่งปัจจุบัน

ปากทางสู่สวรรค์ที่ "สะพานเวคคิโอ"

ความงามสองฟากของแม่นำ้อาร์โนที่หล่อเลี้ยงจิตวิญญานศิลป์แห่งฟลอเรนซ์มาร่วม 2,000 ปี เป็นสิ่งทีี่สร้างแรงบันดาลใจในการเสกสร้างงานศิลป์มาชั่วนาตาปี โดยเฉพาะ ณ จุดที่สะพานเวคคิโอ (Ponte Vecchio) ร้อยรัดสองฝั่งเข้าไว้ด้วยกัน ถึงขนาดที่มีการยกย่องความงามกันไว้ว่า "งดงามดุจดั่งปากทางสู่สรวงสวรค์" ความงามจนแทบตะลึงของสะพานโบราณแห่งนี้ก็คือ ความเอื่อยเฉื่อยของแม่น้ำอาร์โนที่ค่อยๆ ร้อยเลื้อยผ่านซุ้มโค้งของสะพานที่สวยงามแปลกตา ความงามที่ตราตึงดังกล่าวล้วนเป็นที่มาของการรังสรรค์งานวิจิตรศิลป์ระดับโลกมาแล้วมากมาย

หัวใจของเรอเนสซองส์

ยุคสมัยของศิลปะที่หลายคนคุ้นหูอย่างยุคเรอเนสซองส์ (Renaissance) หรือยุคของการฟื้นฟูศิลปวิทยาการ มีจุดก่อเกิดที่นครฟลอเรนซ์แห่งนี้ สิ่งที่เป็นเครื่องพิสูจน์คำพูดดังกล่าวได้ดีที่สุดก็คือการไปเยี่ยมแกลเลอเรียเดลลักคาเดเมีย (Galleria dell Accademia) ด้วยว่าสถานที่แห่งนี้เป็นที่รวบรวมงานประติมากรรมสไตล์เรอเนสซองส์ไว้มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งประติมากรรมสลักหินอ่อนรูปเดวิด อันเป็นผลงานจริงของอัครศิลปินนามอุโฆษ "ไมเคิล แองเจโล" เสน่ห์ที่ลือเลื่องของประติมากรรมเดวิดก็คือการเป็นผู้ชายในอุดมคติของชาวฟลอเรนซ์เมื่อราว 600 ปีที่ผ่านมา ซึ่งยุคนั้นเป็นช่วงที่ถูกรุกรานอย่างหนักจากชาวโกไลแอต (Goliath) จึงเกิดนิทานปรัมปราเพื่อปลุกใจชาวเมืองเนื้อเรื่องเกี่ยวกับวีรบุรุษหนุ่มเดวิดผู้กล้าหาญที่จะมาต่อกรกับยักษ์โกไลแอต ทั้งยังว่ากันว่าเดวิดคือบุรุษหนุ่มในอุดมคติของไมเคิล แองเจโลหรือศิลปินผู้เสกสร้างงานชิ้นนี้อีกด้วย

นครฟลอเรนซ์ไม่ได้เป็นแหล่งกำเนิดงานประติมากรรมรูปชายที่งามที่สุดในโลกเพียงเท่านั้น แต่ที่นี่ยังถิือเป็นแหล่งกำเนิดภาพจิตรกรรมรูปสตรีผู้มีรอยยิ้มที่ตราตรึงผู้คนมากที่สุดในโลกอย่าง "โมนาลิซ่า" (Mona Lisa) จึงไม่ใช่เรื่องที่ไกลเกินจริงเลยหากจะบอกว่าฟลอเรนซ์คือหัวใจของยุคศิลป์เรอเนสซองส์

ศิลปะยืนยาว "พิพิธภัณฑ์ศิลป์อุฟฟิซี"

พิพิธภัณฑ์ศิลป์อุฟฟิซี (Galleria degli Uffizi) ถือเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีชื่อเสียงที่สุด 1 ใน 8 แห่งของโลก อาคารหลังนี้สร้างขึ้นในช่วงปีค.ศ. 1560-1570 โดยสถาปนิก "จิออจิโอ วาซาริ" แต่ก่อนเคยเป็นวังที่ดยุคโคสิโมที่ 1 ใช้เป็นสถานที่ว่าราชการ ภายหลังได้มีการก่อสร้างเพิ่มเติมและปรับปรุงเพื่อใช้เป็นพิพิธภัณฑ์แสดงงานศิลปะของศิลปินชาวฟลอเรนซ์ ภายในมีการจัดแบ่งห้องจัดแสดงเป็น 45 ห้อง! เริ่มต้นกันด้วยห้องที่หนึ่ง แสดงประติมากรรมสมัยกรีกและโรมันเรืองอำนาจ ตามต่อกันด้วยห้องที่ 2-6 แสดงงานจิตรกรรมสไตล์โกธิค ส่วนห้องลำดับที่ 7-14 แสดงผลงานจิตรกรรมสมัยเรอเนสซองส์ในช่วงแรกเริ่ม ตาต่อด้วยห้องหมายเลขที่ 15-29 จัดแสดงภาพศิลปะเรอเนสซองส์ในช่วงที่รุ่งเรืองสูงสุด เช่น ผลงานของ Botticelli ที่ชื่อว่า "Birth of Venus" และ "Primavera" เป็นต้น และห้องที่อยู่ในลำดับที่ 30-45 แสดงงานศิลป์ยุคหลังเรอเนสซองส์เรื่อยมาถึงงานศิลปะร่วมสมัย

Extra Tips

นครฟลอเรนซ์ หรือ เมืองหลวงของแคว้นทัสคานี ซึ่งตั้งอยู่ ณ กลางใจของประเทศอิตาลี ดังนั้น ภูมิประเทศของแคว้นนี้จึงประกอบด้วยทั้งภูเขาและทะเล ลักษณะภูมิประเทศดังกล่าวเหมาะอย่างยิ่งกับการเจริญเติบโตของต้นมะกอกน้ำมัน สินค้าพื้นเมืองที่โดดเด่นของแคว้นนี้จึงเป็นน้ำมันมะกอก ในแต่ละปีแคว้นทัสคานีผลิตน้ำมันมะกอกคุณภาพดีออกมาจำนวนมาก เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมยา ความงาม รวมทั้งในครัวเรืิอน ด้วยคุณประโยชน์ที่โดดเด่นของนำ้มันมะกอกจากแคว้นทัสคานี จึงถูกเรียกอย่างยกย่องว่าเป็น "ทองนำ้" กันเลยทีเดียว

ตั้งแต่ดั้งเดิมชาวอิตาเลียนเชื่อว่าปัจจัยที่จะทำให้ต้นมะกอกเติบโตงอกงามคือ ดวงอาทิตย์ หิน ความแห้งแล้ง ความเงียบ และโดดเดี่ยว ซึ่งปัจจัยเหล่านี้มีอย่างครบถ้วนที่แคว้นทัสคานี ในแต่ละปีระหว่างเดือน ตุลาคม-ธันวาคมเป็นช่วงเวลาเก็บเกี่ยวผลมะกอกในทัสคานี ชาวไร่จะทะนุถนอมทั้งต้นและผลด้วยการเก็บเกี่ยวด้วยมือเท่านั้น จากนั้น ผลมะกอกจะถูกนำมาคั้น แต่ละรอบของการคั้นก็จะให้น้ำมันมะกอกที่มีคุณลักษณะแตกต่างกันออกไปถึง 8 ระดับ

น้ำมันมะกอกคุณภาพดีคือสัญลักษณ์ของแคว้นทัสคานี ดังนั้น อาหารหลากเมนูจากแคว้นนี้จึงมีน้ำมันมะกอกเป็นส่วนผสมสำคัญทั้งเครื่องคาวและเมนูหวาน สำหรับชาวทัสคันแล้วพวกเขามีเมนูง่ายๆ ที่ทำให้สามารถสัมผัสกับรสชาติแท้จริงของน้ำมันมะกอกนั่นก็การรับประทานกับขนมปังซึ่งเรียกว่า "Fettunta"

(คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขนาดใหญ่)

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ ของ "ฟลอเรนซ์" ศิลปะแสนยืนยาว...แต่ชีวิตนี้กลับสั้นนัก!

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook