La Toscana (ลา ทอสคาน่า) สวนผึ้ง ราชบุรี

La Toscana (ลา ทอสคาน่า) สวนผึ้ง ราชบุรี

La Toscana (ลา ทอสคาน่า) สวนผึ้ง ราชบุรี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังจากเคร่งเครียดกับการทำงานมาอย่างหนักตลอด 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ได้เวลาที่หัวพุดเดิ้ลจะพากาย ใจ และจิตวิญญาณออกไปพักผ่อนบ้างแล้ว...แต่!จะไปที่ไหนดีนะ ว่าแล้วก็เปิดคอมพิวเตอร์ เข้าอินเตอร์เน็ตดูซิ มีที่ไหนน่าเที่ยวบ้าง...

และในขณะที่กำลังเพลิดเพลินอยู่กับการเลือกสรรค์สถานที่ท่องเที่ยวพร้อมที่พักกายอยู่นั้น ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังกริ๊งกร๊างเข้ามา เมื่อหยิบขึ้นมาเซย์ ฮัลโหล...ปัญหาเรื่องท่องเที่ยวของหัวพุดเดิ้ลก็คลี่คลายลงทันที เพราะตัวแทนจากโตโยต้ามหานคร โทรมาชวนหัวพุดเดิ้ลไปปลูกป่าที่ราชบุรี แถมไปเที่ยวสวนผึ้งอีกด้วย โดยมีที่พักให้เสร็จสรรพ พอแย็พถามไปว่า แล้วเราจะไปพักที่ไหนกันคะ? ก็ได้รับคำตอบว่า ที่พักกายของเราก็คือ La Toscana (ลา ทอสคานา)...

โอ้ว!!!แม่เจ้า...นี่มันรีสอร์ท ที่เห็นในอินเตอร์เน็ตเมื่อกี้นี่นา มันจะสวยอย่างในรูปหรือเปล่านะ...อย่างนี้ต้องไปพิสูจน์กันหน่อยแล้ว...คิดได้ดังนั้น หัวพุดเดิ้ลก็ตกปากรับคำทันที จากนั้นก็เร่งเก็บสัมภาระ พร้อมโบยบินในวันรุ่งขึ้น

พอแสงตะวันเริ่มจับขอบฟ้า เราก็ออกเดินทางทันทีโดยมีโตโยต้า แคมรี่ ไฮบริด เป็นยานพาหนะคู่ใจ...ใช้เวลาเพียงไม่นานก็ถึง ลา ทอสคานา รีสอร์ท...เมื่อนำรถเข้าไปจอดที่ลานจอดรถแล้ว เราก็หยิบสัมภาระมุ่งหน้าเข้าสู่บริเวณลอบบี้ของรีสอร์ท ซึ่ง 2 ข้างทางที่เราเดินไปก็จะมีไห วางเรียงรายเอาไว้อย่างสวยงาม หากมองตรงไปข้างหน้าจะพบซุ้มประตูโค้งอันเป็นทางเข้าของล็อบบี้ ที่สามารถมองทะลุไปเห็นน้ำพุและสวนหย่อมบริเวณหน้ารีสอร์ทได้

เมื่อเดินถึงซุ้มประตูนี้แล้ว เลี้ยวขวาเข้าไป เราก็จะเจอกับบริเวณของล็อบบี้ ซึ่งมีพนักงานชายหญิงคอยให้บริการกับลูกค้าอยู่ที่เคาเตอร์ ส่วนด้านขวามือที่ติดกับเคาเตอร์ คือร้านของที่ระลึกที่ภายในมีของน่ารักๆ อาทิ เทียนหอม ปูนปั้น มาวางเรียงรายให้เราได้เลือกซื้อเพียบ!

ส่วนด้านซ้ายมือของเคาเตอร์ เป็นโซฟา สีดำขนาดใหญ่ ให้แขกได้นั่งพักชิลล์ๆ ขณะนั่งรอพนักงาน...ด้านหลังเคาเตอร์ของพนักงานต้อนรับ จะเป็นเคาเตอร์เครื่องดื่ม ส่วนพื้นที่กว้างที่เหลือ มีโต๊ะ เก้าอี้ สำหรับนั่งรับประทานอาหารและเครื่องดื่ม มีทั้งเก้าอี้หวาย และโซฟาให้เลือกนั่งได้ตามใจชอบ

บริเวณของล็อบบี้ยังมีบันได สำหรับเดินขึ้นชั้น 2 ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับรับประทานอาหารเช้า มีระเบียงยื่นออกไป เหมาะสำหรับนั่งรับประทานอาหารชิลล์ๆ ที่สำคัญมุมนี้ยังมองเห็นทัศนียภาพของรีสอร์ทได้ทั้งหมดอีกด้วย

เมื่อทำการสำรวจบริเวณนี้เสร็จแล้ว ก็ได้เวลาเข้าที่พักกันแล้วล่ะค่ะ...ซึ่งการมาเยือนลา ทอสคาน่า ในครั้งนี้ หัวพุดเดิ้ลได้พักอยู่บ้าน โพเอตต้า (poeta) ที่แปลว่า กวี...(บ้านพักของที่นี่มีทั้งหมด 13 หลังค่ะ แต่ละหลังจะตั้งตามอาชีพของคนในชุมชน ไม่ว่าจะเป็นคนปลูกดอกไม้ (ฟิออเร่) ทำไวน์ (วีโน่) จิตรกรวาดภาพ (อาร์ทติสต้า) ปลูกผัก (เวจจี้) เป็นต้นค่ะ)...แค่ชื่อก็ดูหรูหราไฮโซจะแย่แล้ว ในห้องจะเป็นยังไงบ้างนะ???...ว่าแล้วก็ไม่รอช้าค่ะ ก้าวขาอย่างเร็วรี่ เพื่อเข้าห้องพักของตัวเอง

ระหว่างทางเดินก็พบว่าบ้านทุกหลังของที่นี่สร้างโดยใช้อิฐหรือหินก่อตัวขึ้นไปเป็นบ้านไม่มีเสา หรือไม้คาน มีจั่วสั้นๆ และเพิ่มฟังก์ชั่นดาดฟ้าเข้าไป เพื่อให้ซึมซับความงามจากท้องฟ้าในยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดวงดาว มีเนินดินขึ้นมาโอบล้อมตัวบ้านไว้แล้วจัดเป็นสวนสวยๆ มองเผินๆ เหมือนกับบ้านที่ซ่อนอยู่ตามเทือกเขา และให้ความเป็นส่วนตัว...

โดยบ้านแต่ละหลังจะถูกแบ่งเป็นสัดส่วนทีเดียว โดยใช้แนวต้นไม้เป็นรั้วกั้น ขณะที่หน้าบ้านก็มีรั้วเหล็กเล็กๆ กั้นอีกทีหนึ่ง เมื่อหัวพุดเิ้ดิ้ลก้าวผ่านรั้วเข้ามาก็จะพบทางเดินไปสู่หน้าประตูห้อง ด้านซ้ายมือมีชิงช้าไม้ขนาดใหญ่ ที่มีพันธุ์ไม้เลื้อยปกคลุมอยู่ ด้านขวาเป็นพื้นที่โล่ง ส่วนบริเวณหน้าประตูบ้าน ก็จะมีโต๊ะ เก้าอี้ ไว้นั่งกินลมชมวิว และมีกล่องจดหมายที่เขียนชื่อบ้านพักติดไว้ตรงผนังบ้านด้วย

จากนั้น หัวพุดเดิ้ล ก็เอื้อมมือน้อยๆ ไปเปิดประตูบ้านออก พร้อมก้าวเท้าเข้าห้องพัก แล้วร่างกายก็ปะทะเข้ากับแอร์เย็นฉ่ำที่พนักงานเปิดคอยท่าไว้...สายตาก็ไล่สำรวจห้องพัก ก็พบว่า ห้องนี้เป็นห้องสำหรับ 3 คน (ถ้าไปกันสามคนพ่อแม่ลูกก็แจ่มเลยค่ะ) โดยมีเตียง 3 เตียง ประกอบด้วย เตียงคู่ 1 และเตียงเดี่ยวติิดผนัง 1 (หลังจากลงไปนอนกลิ้ง ก็พบว่ามันนุ่มสุดๆ ไปเลย) ข้างเตียงจะมีโคมไฟ กรอบรูป โทรศัพท์ และเมนูอาหาร สำหรับสั่งมารับประทานในห้องพัก

นอกจากนี้ยังมีตู้เสื้อผ้า ซึ่งตั้งอยู่ถัดไปจากเตียง ภายในตู้เสื้อผ้า ก็จะมี ไม้แขวนเสื้อ 5 อัน ราวตากผ้า ไฟฉาย และถังดับเพลิง ส่วนปลายเตียง ก็ไม่ใช่อะไรอื่นค่ะ มันคือ ชั้นวางของที่มีโทรทัศน์ เครื่องเล่นดีวีดี รีโมท 2 ตู้เย็น เครื่องต้มน้ำ ที่เปิดขวด แก้วน้ำ 3 แก้วกาแฟ 2 ชาและกาแฟสำหรับชงดื่ม ทิชชู่ แจกันดอกไม้ กรอบรูป หนังสือ และรองเท้าเดินในห้อง 3 คู่ ส่วนใต้ชั้นวางมีถังขยะ 1 อัน พร้อมเก้าอี้นั่ง 1 ตัว

นอกจากนี้ ภายในห้องยังมีกระจกบานใหญ่สำหรับส่องเวลาแต่งตัวอีกด้วย และหากเดินเลยเตียงนอนไป ก็จะพบประตู สำหรับออกไปนั่งรับลมหลังบ้าน ซึ่งมีโต๊ะ เก้าอี้ ให้เราสรรพ มองเลยโต๊ะ เก้าอี้ไป ก็จะพบสนามหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่กว้าง สำหรับทำกิจกรรมกันในครอบครัว

ส่วนสิ่งที่หัวพุดเดิ้ลรอคอยที่สุด นั่นก็คือ ห้องน้ำค่ะ มันอยู่ติดกับชั้นวางของ เป็นประตูกระจก แบบบานเลื่อน เมื่อเปิดเข้าไปก็ต้องร้อง "ว้าว!" ห้องน้ำอะไรเนี่ย กว้างเกือบเท่าห้องนอนแน่ะ แต่ที่แจ่มที่สุด เห็นจะเป็นอ่างอาบน้ำทรงกลมขนาดใหญ่ ที่ตั้งอยู่ริมหน้าต่าง แถมไฟในห้องน้ำยังเป็นไฟสีส้มสลัวๆ นี่ถ้าได้ลงอ่างพร้อมคนรักคงโรแมนติกน่าดูเลยค่ะ ถัดจากอ่างอาบน้ำก็เป็นพื้นที่อาบน้ำแบบฝักบัว ที่สามารถรูดม่านปิดได้

ถัดออกไปอีกเป็นอ่างล้างหน้า พร้อมกระจกส่องหน้า และอุปกรณ์เครื่องใช้ภายในห้องน้ำ ประกอบไปด้วย แชมพู 1 ขวด สบู่ 1 ขวด ที่ครอบผม 2 อัน คัตเตอร์บัต 2 อัน แก้วน้ำ 2 ใบ และไดร์เป่าผม พร้อมที่เก็บ (กระเป๋าผ้าสีชมพูที่แขวนอยู่บนผนัง) ฝั่งตรงข้ามกับอ่างล้างหน้า คือ เตียงนวดไม้ขนาดใหญ่ หลายคนสงสัย เอ๊ะ!ทำไมห้องน้ำถึงมีแตียงนวด สาเหตุก็เป็นเพราะว่า ที่นี่เขามีบริการนวดถึงห้องนั่นเองค่ะ...

เลยจากบริเวณอาบน้ำ ก็เป็นพื้นที่ของการขับถ่าย โดยมีกำแพงเล็กๆ กั้นเอาไว้ให้เป็นสัดส่วน...จบจากการสำรวจห้องแล้ว ท้องก็ร้องดังจ๊อกๆ หัวพุดเดิ้ลเลยเดินย้อนกลับมายืน ณ จุดเดิม นั่นคือ ล็อบบี้ ที่บัดนี้พนักงานได้ตระเตรียมอาหารเอาไว้พร้อมแล้ว

ในส่วนของบรรยากาศของรีสอร์ทนั้น เหมาะมากสำหรับผู้ที่ชอบบรรยากาศผ่อนคลาย โรแมนติก และต้องการพักผ่อน ที่สำคัญ ยังให้ความรู้สึกเหมือนเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ที่เราสามารถนอนอ่านหนังสือ ดูทีวี ดีวีดี ได้อย่างสงบร่มเย็น หรือหากอยากทำกิจกรรม ที่นี่ก็มีให้เลือกอย่างหลากหลาย ทั้งว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน ถ่ายรูป และให้อาหารแพะ แล้วจะสั่งอาหารมาทานที่ห้อง บนดาดฟ้า หรือจะไปทานอาหารที่ชั้นบนล็อบบี้ก็ได้

พอตกกลางคืนก็นอนแช่น้ำอุ่น หรือจะไปนั่งเล่นสังสรรค์กันที่สวนหลังบ้านก็ชิลล์ไปอีกแบบ แต่ถ้าใครชอบตื่นมาสูดอากาศตอนเช้า ก็จะได้สัมผัสกับสายหมอกและไอน้ำค้างบริสุทธิ์ แล้วเลือกออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานรอบรีสอร์ทก็ได้ค่ะ

ซึ่งหัวพุดเดิ้ล บอกได้เลยว่า บรรยากาศ ที่พัก และการบริการของที่นี่ ประทับใจจริงๆ ค่ะ...สำหรับเพื่อนๆ ชาวสนุก!ท่องเที่ยวที่สนใจจะไปเยือนสามารถโทรสอบถามได้ที่เบอร์ 084-456-2008, 081-937-5001 หรือเข้าไปที่ http://www.latoscana-resort.com

เรื่องโดย : หัวพุดเดิ้ล

ภาพประกอบ : หัวพุดเดิ้ล/ทิชชี่ ณ สนุก

(คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขนาดใหญ่)

อัลบั้มภาพ 90 ภาพ

อัลบั้มภาพ 90 ภาพ ของ La Toscana (ลา ทอสคาน่า) สวนผึ้ง ราชบุรี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook