เขาเจ็ดยอด ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเทือกเขาบรรทัด (ตอนจบ)

เขาเจ็ดยอด ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเทือกเขาบรรทัด (ตอนจบ)

เขาเจ็ดยอด ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเทือกเขาบรรทัด (ตอนจบ)
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อำนวยพร บุญจำรัส เรื่อง/ ภาพ 

ความเดิม : เขาเจ็ดยอด ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเทือกเขาบรรทัด (ตอนแรก) 

      เส้นทางจังหวัดพัทลุงอาจดูไกลกว่าทางจังหวัดตรัง แต่โดยส่วนตัวผมว่าทางพัทลุงเป็นเส้นทางที่สร้างความเพลิดเพลินได้มากกว่า มีสิ่งน่าสนใจและมีมุมถ่ายภาพหลากหลายกว่า ทั้งน้ำตกเล็กน้ำตกน้อยตามรายทาง ลำธารน้ำใสๆ ตามโขดหินพบมอสเกาะแลดูเขียวสดไปทั่วจนต้องควักกล้องในกระเป๋ามาบันทึกภาพ ช่างเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย

     แต่ที่ทำให้เราเหน็ดเหนื่อยเกือบจะหมดแรง  เป็นเพราะทั้งวันนี้เราต้องเดินกันมากเกินไป  ชดใช้ (กรรม) เวลาเมื่อวาน เราต้องแข่งเร่งรีบกับเวลา จึงทำให้อะไรหลายอย่างดูจะตึงเครียด กำลังขาก็เริ่มล้ากับการเดินระยะไกลเป็นเวลานาน  เดินขึ้นและต้องเดินลง เป็นเช่นนี้หลายต่อหลายช่วง ซึ่งไอ้ตอนเดินขึ้นไม่เท่าไหร่ แต่ต้องเดินลงนี่ซิทำให้เรากังวลไม่น้อย เมื่อไหร่จะถึงยอดกันซะที มีแต่ขึ้นมาได้หน่อยแล้วก็ต้องลงอีก  ชักไม่แน่ใจ ปกติการเดินขึ้นยอดเขาที่ไหนก็จะเป็นการไต่ขึ้นเขายาวๆ แล้วถึงยอด จะมีลงหรือเดินทางราบบ้างก็ไม่มาก เวลาปาเข้าไปชั่วโมงที่แปด ก็ยังเป็นเช่นนี้  ผมเดินรั้งท้ายสุดด้วยอาการอ่อนล้าตึงๆขาทั้งสองข้าง โดยมี “บังคม”คอยเดินเป็นเพื่อน ส่วนคนอื่นๆ นำหน้าไปแต่ก็ไม่ห่างกันมาก 

 

    บังคมถามผมเป็นอย่างไรบ้าง.... “ เหนื่อยละซิ”  ผมตอบและพูดต่อ...  “เพราะมีบัง”   บังทำหน้างงๆ สงสัยว่าผมหมายถึงอะไร... “เลยไม่มีหมู”  ผมเฉลย.... บังคมยิ้มกับคำเฉลยและแกก็รับมุก.... “ใช่ละไม่หมู ไม่กินหมู!” และต่อด้วยเสียงหัวเราะ  เราเดินพูดคุยกันไปแม้บางช่วงเสียงคุยดูจะขาดตอนไปบ้าง เพราะอาการเหนื่อยหอบจนต้องใช้ปากเป็นกำลังเสริมช่วยหายใจ
.
.

     ผมถามบังคม คิดและรู้สึกอย่างไรกับป่าที่นี่ ซึ่งเขาบอกกับผมว่า สมัยเด็กมีความฝันว่าครั้งหนึ่งจะมาเดินเขาเจ็ดยอด เขาสงสัยว่าน้ำที่ไหลลงมาจากป่าให้เขาและคนในหมู่บ้านได้ใช้ดื่มกิน มันมีต้นกำเนิดอยู่ตรงไหน และทำไมถึงได้มีน้ำให้เราใช้ได้ทั้งปีไม่มีเหือดแห้ง คำถามในใจมาเฉลยเมื่อสิบปีก่อน ซึ่งเขาบอกกับผมว่า อดทึ่งไม่ได้กับสิ่งที่เป็นอยู่บนนี้  เขาเห็นน้ำซับสายเล็กๆ ไหลออกมาจากดินจากโคนรากต้นไม้  ไหลเป็นทางน้ำลงมาบรรจบกับสายอื่นๆอีกหลาสิบสาย ด้วยอานุภาพจากสายน้ำเล็กๆ เหล่านี้มารวมกันเกิดเป็นต้นน้ำลำคลองขนาดใหญ่ น้ำตกใหญ่ๆ อย่างน้ำตกไพรวัลย์ก็มีต้นกำเนิดจากที่นี่ รวมทั้งชีวิตของคนพื้นล่างก็เช่นกัน

     ...“มันมหัศจรรย์จริงๆ!” บังคมพูดย้ำคำพูดตัวเอง  นี่แหละหนึ่งในคุณค่าของป่า ถ้าหากเพื่อนมนุษย์เราได้รู้ได้เห็นอย่างที่บังเข้าใจ  หรืออย่างผม และเพื่อนร่วมเดินทางหรือใครๆ ที่มีโอกาสได้สัมผัสธรรมชาติเหล่านี้แล้วล่ะก็ ผมมั่นใจว่า จิตสำนึกในเรื่องของการรักษาธรรมชาติจะอยู่กับคนผู้นั้นอย่างแน่นอน ไม่มากก็น้อย....“หากมนุษย์เรามีจิตสำนึกดีมากๆ  ทรัพยากรธรรมชาติและโลกเราก็อยู่รอดไม่วุ่นวายครับ”

     ก่อนจะก้าวเท้าเดินกันต่อ บังถามผมกลับมาว่า คิดจะกลับมาเขาเจ็ดยอดอีกหรือเปล่า  เหตุที่บังถามผมเช่นนี้เพราะเท่าที่เขาเคยพานักท่องเที่ยวมาหลายกลุ่มส่วนใหญ่ต่างไม่คิดกลับมาที่นี่อีกพร้อมกับเล่าถึงเหตุผล... “ทางมันลำบาก ไกลก็ไกล แถมพอขึ้นไปแล้วมองไม่เห็นอะไรเลย ไม่เพราะฝนก็หมอกที่ทำให้ฟ้าปิด พาให้ผิดหวังกันเป็นแถวๆ ”  ประมาณว่ามาเสียแรงเปล่า ตามความหมายของบัง 

     “แสดงว่าโอกาสที่จะเห็นวิวสวยๆ บนเขาเจ็ดยอดมีน้อยละซิ” ผมถามกลับไปยังบัง...  “ ก็ประมาณนั้น ขนาดผมเองผิดหวังมาสามครั้ง จึงจะได้เห็นอย่างสมใจ... ไม่มรสุมฝั่งอ่าวไทยก็ฝั่งอันดามัน เอาอะไรแน่นอนกับมันไม่ได้”  คำพูดของบังดูเหมือนให้ผมทำใจเผื่อความผิดหวังไว้ล่วงหน้า  แต่สิ่งที่ผมได้ฟังจากเขาไม่ได้ทำให้ผมลดละหมดกำลังใจหรือนำมาเป็นเหตุผลในการตัดสินใจกับการตอบคำถามของบัง  ผมไม่ได้ตอบประเด็นที่บังถาม (สงวนท่าที) เพียงบอกกลับไป...“ให้วันนี้ถึงยอดก่อนแล้วค่อยว่ากัน” 

     เราเดินตัดออกจากลำธารสายใหญ่ ไปตามร่องเขา ไต่เดินผ่านโขดหินน้อยใหญ่ระเกะระกะจำนวนมากซึ่งถูกห่อหุ้มด้วยมอสสีเขียว พักหนึ่งเบี่ยงขึ้นไปทางไหล่เขาที่มีความชันพอสมควร  ป่ายังคงทึบหนาแน่น มองทะลุเห็นท้องฟ้าได้ในบางช่วง ผมเหลือบดูนาฬิกาที่ข้อมือ เวลาล่วงกว่าหกโมงครึ่งไปแล้ว “เมื่อไหร่จะถึงสักที!”  คำถามที่วนเวียนอยู่ในสมอง ณ ขณะนั้น 

     .....“ถึงแล้ว!”  เสียงตะโกนมาจากข้างหน้า  เวลานี้ ไม่มีคำพูดใดที่ทำให้เรารู้สึกดีไปกว่านี้อีกแล้ว

     จากมิติของป่าตลอดทางที่เดินผ่านมา ทะลุออกสู่ยอดเขาโล่งเตียน มันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง  ภูเขาที่เรายืนอยู่และภูเขาหลายลูกที่เห็นอยู่ตรงหน้าเป็นพื้นหญ้าสูงไม่เกินขาและป่าไม้แคระพุ่มเตี้ยไปทั่วทั้งยอด แต่ละต้นมีความสูงไม่เกินเลยสะดือเป็นส่วนใหญ่  ตามกลไกทางธรรมชาติจากกระแสลมมรสุมอันดามันกับอ่าวไทยที่โกรกพัดผ่านป่าบนเขาเจ็ดยอดตลอดทั้งปี คือสาเหตุหลักที่ทำให้ต้นไม้เหล่านี้ต้องแปรสภาพเป็นไม้แคระเตี้ย กิ่งก้านและลำต้นหงิกงอเหมือนต้นไม้พิการไปโดยปริยาย  บนอาณาบริเวณเขาเจ็ดยอดจึงพบสังคมพืชที่ไม่หลากหลายนัก ส่วนใหญ่พบพืชในระดับพื้นล่าง พืชเหล่านั้นก็ต้องทนต่อปัจจัยของสภาพอากาศและดินได้เป็นอย่างดี พันธุ์ไม้เด่นๆบนนี้อาทิ บัวแฉกใหญ่ บัวแฉกเล็ก หม้อข้าวหม้อแกงลิง  สารภีดอย พวงตุ้มหู เอนอ้า กูดเกี๊ยะ เฟิน และกล้วยไม้บางชนิดอย่างรองเท้านารีคางกบถิ่นใต้ เป็นต้น

     บริเวณที่พวกเรายืนอยู่ยังไม่ได้ถึงที่หมายคือจุดพักแรมในคืนนี้ หากเราต้องเดินเลาะไปตามสันเขาตัดขึ้นลงไปตามเขาลูกย่อมๆ อันเป็นบริวารเขาเจ็ดยอดอีกประมาณ 20 นาทีจึงจะถึงจุดสูงสุดของเขาเจ็ดยอดและจุดพักแรมซึ่งเป็นบริเวณเดียวที่มีแหล่งน้ำ  แม้จะต้องเดินต่ออีกเราก็คงไม่สะทกสะท้าน เพราะในความรู้สึกตอนนี้ มันเหมือนว่าเราได้มาถึงจุดหมายไปแล้ว

     ฟ้าเริ่มสลัวมัวรอบทิศทาง สายหมอกจากทางด้านตะวันออกเริ่มเคลื่อนตามกระแสลมพัดเข้ามาปกคลุม ผมเหลือบดูนาฬิกาอีกครั้ง เป็นเวลาใกล้หนึ่งทุ่มเต็มที แต่ก็ยังไม่ถึงกับมืด ฟ้ายังคงสว่างมองเห็นทางได้ดี  อากาศค่อยๆ เย็นลงจนสัมผัสได้ถึงความเย็นเข้ามาปะทะผิวกายตลอดทางที่ก้าวเดินจนถึงจุดพักแรมและพร้อมใจกันหมดแรงพอดิบพอดี ที่พักแรมอยู่ตรงร่องหุบเขา ช่วยหลบลมและมีต้นไม้พอให้ผูกเปลตลอดจนพื้นราบให้กางเต็นท์ได้หลายหลัง  มองออกไปรอบๆ ถูกโอบล้อมด้วยภูเขาที่ดูโล่งเตียนคล้ายเขาหัวโล้น มีทางเดินเล็กๆ ด้านทิศตะวันออกเพื่อขึ้นไปบนยอดสูงสุดที่ระดับความสูงประมาณ 1,300 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลางและเป็นจุดชมวิวมุมสูงของเขาเจ็ดยอด

    มีเพื่อนชาวคณะบางคนชวนขึ้นไปดูแสงไฟยามค่ำคืนซึ่งมองเห็นจากฝั่งจังหวัดตรัง และจังหวัดพัทลุง แต่ไม่มีใครตอบตกลง เก็บเรี่ยวแรงไว้เดินขึ้นไปพรุ่งนี้เช้าจะดีกว่า ประกอบกับดูท่าหากขึ้นไปอาจเสียแรงเปล่าเพราะหมอกลงหนาแน่นปกคลุมจนมองไม่เห็นอะไร

    ....ราวตีห้าบังสุน มาปลุกเราให้ตื่นแล้วชวนกันขึ้นไปบนจุดชมทิวทัศน์ ฝ่าไปท่ามกลางลมหนาว และน้ำค้างที่เกาะอยู่ตามยอดหญ้ายอดใบไม้เวลาเดินผ่านทำให้เปียกชายกางเกง เพิ่มความหนาวเย็นขึ้นไปอีก ประมาณ 10 นาที ก็มายืนอยู่บนยอดท่ามกลางความโชคดีสุดๆ ธรรมชาติเป็นใจ เราจะได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นอย่างแน่นอน และที่สำคัญทะเลหมอกซุกซ่อนตัวอยู่ในเงามืดที่รอแสงแรกฉายกระทบอยู่กลางหุบเขาตามที่บังเล่าให้ผมฟัง คนส่วนใหญ่เมื่อขึ้นมายังเขาเจ็ดยอดมักจะผิดหวังกับการรอดูดวงอาทิตย์ ด้วยเหตุหลักส่วนใหญ่คือ ฟ้าปิดบ้าง เมฆหมอกบดบังเสียบ้าง แต่สำหรับพวกเรากลับโชคดี โอกาสเข้าข้างเมื่อการเฝ้ารอสมอย่างที่มุ่งหวังเอาไว้

    ...แสงสีทองอ่อนค่อยๆ ฉายปรากฏออกมาที่ละนิด ทะเลหมอกอวดโฉมลอยเคลื่อนคลอเคลียอยู่กับทิวเขาและที่ราบลุ่มในฝั่งพัทลุง ยืนอยู่บนนี้มองเห็นทิวทัศน์ได้รอบด้าน ฝั่งตะวันออกด้านจังหวัดพัทลุงที่มองเห็นไปจนถึงทะเลสาบสงขลา ด้านตะวันตกแลเห็นฝั่งทะเลอันดามันบริเวณแถบจังหวัดตรัง ส่วนทางด้านทิศใต้เมื่อมองลงไปก็จะเห็นทะเลภูเขาแถบจังหวัดสตูลเรียงรายซับซ้อนกันอยู่จนสุดสายตาที่ทะเลอันดามันอีกเช่นกัน และทางทิศเหนือ มองเห็นกลุ่มยอดเขาน้อยใหญ่เรียงรายสลับซับซ้อน ซึ่งกลุ่มภูเขาน้อยใหญ่นี่เองเป็นที่มาของชื่อเขาเจ็ดยอดแห่งนี้

    ไกลออกไปยังคงเห็นยอดเขารูตู  เขาร้อน และเขาหลัก อันเป็นยอดสูงสุดของเทือกเขาบรรทัด คือ 1,350 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง เทือกเขานี้ทอดยาวไกลสุดลูกหูลูกตาเชื่อมต่อกับเทือกเขานครศรีธรรมราช ตลอดจนบนยอดเขาที่เรายืนอยู่ยังมีทางเชื่อมไปยังเขาใกล้ๆ กัน ทำให้เห็นมุมมองภาพที่เปลี่ยนไปคนละแบบอย่างน่าสนใจ  จากที่กล่าวมาเหมือนเป็นเรื่องเหลือเชื่อ และเกินจริงสำหรับคนที่ได้ฟังเพียงคำบอกเล่า แต่สำหรับผมซึ่งได้สัมผัสโดยตรงด้วยตัวเอง ไม่กังขาเลยแม้แต่น้อยถึงสิ่งที่กำลังเห็นอยู่ ... เขาเจ็ดยอด ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเทือกเขาบรรทัด

     แสงแดดเริ่มฉายแสงแรงขึ้นทุกขณะ ถึงคราวที่เราต้องกลับที่พัก เพราะยังมีภารกิจที่คั่งค้างอยู่เบื้องหลังอีกหนึ่งอย่างก็คือ อาหารมื้อเช้าซึ่งต้องรองท้องก่อนออกเดินทางกลับในวันนี้

    

     ... มนุษย์ทุกคนนั้น โอกาสในการได้พบได้เห็นสิ่งที่ใจอยากนั้นมิใช่เรื่องง่ายๆ ถึงแม้โอกาสจะมีตลอดเวลาและทั่วไปก็ตาม ทว่าหากไม่รู้จักไขว่คว้าหรือแสวงหา โอกาสดีๆ ที่อยู่ห่างแค่ปลายมือสัมผัสก็ใช่จะได้มา เพราะโอกาสแต่ละโอกาสเป็นเพียงชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น...
.
.

    ครั้งหน้าถ้าไม่หมูอีก เพราะมากับบังคม ผมจะกลับมาอีกครั้ง”  ผมตอบคำถามที่ติดค้างไว้กับบังคม ก่อนบอกกับตัวเองว่า ชีวิตนี้ยังต้องเดินทางอีกยาวไกลและยาวนาน หลังก้าวลงจากเขาเจ็ดยอด.          

อัลบั้มภาพ 11 ภาพ

อัลบั้มภาพ 11 ภาพ ของ เขาเจ็ดยอด ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเทือกเขาบรรทัด (ตอนจบ)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook