April Austria
ดวงเดือน
อีแกน ... เรื่อง
WWF ประเทศไทย ... ภาพ
|
ย่างก้าวแรกที่ลงจากเครื่องออสเตรียน
แอร์ไลน์ ที่สนามบิน ณ
กรุงเวียนนา
ในตอนเช้าตรู่ช่างเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
และประทับใจ
เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่ได้มีโอกาสมาเยือนประเทศที่ได้ชื่อว่า
มีภูมิประเทศที่สวยงามในอันดับต้นๆ
ของโลก
ออสเตรียเป็นประเทศที่มีขนาดปานกลางตั้งอยู่ในใจกลางของทวีปยุโรป
ทวีปที่ได้ชื่อว่า น่าเที่ยวที่สุดในโลก
สำหรับนักท่องเที่ยวหลายๆ
คน |
|
กระบวนการตรวจเช็คเอกสารจาก
ตม.
ผ่านไปด้วยความเรียบร้อย
จนมาถึงช่วงรอรับกระเป๋าที่โหลดมากับเที่ยวบิน
เหตุการณ์ หน้าแตก
ก็เกิดขึ้น (จนได้สิน่า)
เมื่อส่งสายตามองหารถเข็นกระเป๋าสัมภาระ...นั่นไง
เจอแล้ว...จอดเรียงเป็นระเบียบเชียว
ไม่รอช้าค่ะ
ตรงรี่ไปยังรถเข็นเป้าหมาย...
อืม...คล้องโซ่ไว้ที่แฮนด์จับด้วย
ดีจัง
เป็นการจัดระเบียบแถวตรงของรถเข็น
... อ้าว ทำไมโซ่ไม่ยอมปลดล็อค
... |
|
และแล้วอาการกระชากรถด้วยเข้าใจว่าโซ่จะปลดล็อคเองอัตโนมัติจึงบังเกิดขึ้น
สามสี่ครั้งที่ยืนทะเลาะกับโซ่มิได้บังเกิดผลใดๆ
ทั้งสิ้น โซ่ยังคงเฉยเมยไม่ยอมปลดล็อคตัวเอง
และแล้วก็มีเสียงหล่อๆ
แว่วมาจากด้านหลัง you need a
coin
พอเราหันไปก็พบกับรอยยิ้มฉันท์มิตรของชายหนุ่มรูปร่างสูง
สมาท หล่อเชียวค่ะ |
|
I give you one
ว่าแล้วเขาก็สอดเหรียญหนึ่งยูโรเข้าไปที่บริเวณที่โซ่คล้องแฮนด์จับ
แล้วชายหนุ่มผู้มีน้ำใจก็ดึงรถเข็นออกมาให้เราหนึ่งคัน
พร้อมกับบอกว่า you will get the coin
back
สักพักเทพบุตรก็หันมาพูดกับเราว่า
have a nice time in Vienna
พร้อมรอยยิ้มก่อนจะแยกเดินจากไปพร้อมกับรถเข็นอีกหนึ่งคัน....กรี๊ดดด...ประทับใจมากมาย
.... |
|
.... นั่นไง
กระเป๋าเดินทางใบเขื่องของเรา
นอนนิ่งบนสายพานและกำลังเคลื่อนมาหาเจ้าของของมัน
.... อึ๊บบ...ประมาณว่าพกหินก้อนเบ้งมาสักสิบก้อน
หนักเหลือเกิน คนอื่นๆ
ต่างยกกระเป๋าของตนออกจากสายพานกันอย่างรวดเร็ว
ส่วนเรานั้นต้องทั้งดึงทั้งลากค่ะ
กระเป๋าใบเขื่องก็ตุ๊บๆ
หล่นจากสายพานได้อย่างทุลักทุเล.... |
|
|
ยังค่ะ
เจ้าตัวทุลักทุเลยังคงอยู่กับเรา
เพราะยกกระเป๋าขึ้นรถเข็นไม่ได้ค่ะ
มันหนักมากกกก
สามารถสุดแค่ยกลอยขึ้นจากพื้นนิดเดียว
ไม่สูงพอที่จะเอาขึ้นรถเข็น
นาทีนั้นใจมุ่งมั่นอย่างเดียวว่าต้องยกกระเป๋าขึ้นรถเข็นให้ได้
แต่ความพยายามกับผลลัพธ์ใยช่างเดินสวนทางกันเยี่ยงนี้ |
|
ความสูงของกระเป๋าที่ยกได้ลดลงตามจำนวนครั้งที่พยายามค่ะ
ก่อนที่จะแย่ไปกว่านี้ก็มีชายหนุ่ม
(อีกแล้ว)
ยื่นมือมาเข้ามาช่วยยกกระเป๋าลอยขึ้นรถ
เราหันไปขอบคุณยกใหญ่เพราะมั่นใจว่าเป็นคนไทยด้วยกัน
.... ยินดีครับ....ช่างเป็นรุ่งเช้าในต่างแดนที่ดีอะไรเช่นนี้
ทุกสิ่งสรรพล้วนสวยงาม
ท้องฟ้าย่ำรุ่งที่เจือด้วยแสงอาทิตย์รำไร
สนามบินที่สะอาดและเป็นระเบียบ
ชายหนุ่มผู้ใจดี... |
|
|
เราเดินออกมาพร้อมกับรถเข็น
และเจ้ากระเป๋าใบเขื่อง
ทันทีที่ผ่านประตูออกมา
ณ จุดรอรับ
ก็ได้เห็นรอยยิ้มอันสดใสของ
คาริน
เพื่อนร่วมงานสาวแสนสวยที่เคยมาทำงานกับเราในประเทศไทย
.... Welcome to Austria ...
คำต้อนรับจากคารินช่วยตอกย้ำว่าเรามาถึงออสเตรียแล้วจริงๆ
มิได้ฝันไป.... |
|
เวลาเดือนกว่าๆ
ที่พำนักอยู่ ณ
กรุงเวียนนา
เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย
นับเป็นเวลาที่มีค่ายิ่ง
เมษายน-พฤษภาคม
เป็นเดือนที่อากาศเริ่มเปลี่ยนจากฤดูหนาวเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ
เป็นเดือนปราบเซียนสำหรับนักพยากรณ์อากาศเชียวแหละ
เนื่องจากสภาพอากาศเป็นไปได้ทั้งสิ้น
หิมะ ฝน ลม หนาว แดดจ้า
เย็นจัด
หาความแน่นอนไม่ได้
กระทั่ง April
เป็นคำแสลงสำหรับคนที่นี่ในความหมายว่าประหลาด
เอาแน่อะไรไม่ได้
ไม่คงเส้นคงวา
หากมีอะไรแปลกๆ เพื้ยนๆ
เกิดขึ้น
เขาก็จะพูดปนหัวเราะกันว่า
April พร้อมกับทำมือหมุนไปหมุนมา
อันหมายถึง
เป็นไปได้ในทุกกรณี
คาดเดายาก
เราได้สัมผัสกับสภาพอากาศที่ไม่ปกติแบบนี้หลายวันเช่นกัน
หนาวมากๆ ในยามเช้า
เสื้อสี่ห้าชั้นพร้อมโค๊ทก็ยังช่วยได้ไม่มาก
พอสายหน่อยแดดแรงมากๆ (เหมือนที่เมืองไทย)
ตกบ่ายฝนตกซะงั้น
ย่ำค่ำหน่อย อ้าว...หนาวอีกแล้ว... |
|
เราได้แวะเวียนไปตามสถานที่ต่างๆ
ทั้งในและนอกกรุงเวียนนาเท่าที่เวลาและเงินในกระเป๋าจะอำนวย
ไม่ว่าจะเป็นพระราชวังเชิงบรุนที่มีชื่อเสียง
ห้องต่างๆ
ภายในพระราชวังได้รับการตกแต่งอย่างสวยงามมากๆ
นับเป็นงานศิลปะอันมีคุณค่ายิ่ง
ภายในพระราชวังห้ามถ่ายรูปนะคะ
แต่ก็ยังมีนักท่องเที่ยวบางคนอดใจไม่ไหว
พอเสียงชัตเตอร์ดัง
เจ้าหน้าที่ของพระราชวังก็จะมองกราดเพื่อหาต้นตอของเสียง
หากถูกจับได้อาจถึงจุดสิ้นสุดแห่งการเดินชมของนักท่องเที่ยวท่านนั้นๆ
ได้, Belvedere
พิพิธภัณฑ์ภาพวาด
ซึ่งมีภาพจุมพิตเป็นสัญลักษณ์,
รัฐสภาที่ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางเมือง
และมีรูปปั้นต่างๆ
ทางประวัติศาสตร์ (อลังการมากๆ) |
|
|
, Naturhistorisches
พิพิธภัณฑ์ที่มีสิ่งสำคัญทางประวัติศาสตร์มากมายให้เรียนรู้
อาทิ
ซากโครงกระดูกของไดโนเสาร์,
Karl Skirche
โบถส์คาทอลิคที่มีภาพวาดบนผนังสวยงามตระการตา
และยังมีจุดชมวิวที่ดื่มด่ำกับทัศนยีภาพโดยรอบของกรุงเวียนนาอีกด้วย,
สวนสาธารณะริมฝั่งแม่น้ำดานูบ
แม่น้ำสายสำคัญของยุโรปที่พาดผ่านหลายประเทศ,
Salzberg เมืองบ้านเกิดของโมสาร์ท
กวีและศิลปินนักแต่งเพลงผู้มีชื่อเสียงของโลก |
|
|
การได้มา Salzberg
สถานที่ซึ่งเคยใช้ถ่ายทำภาพยนตร์ดังในอดีตเรื่อง
The Sound of Music
ทำให้เราได้รับรู้ถึงความยิ่งใหญ่ของโมสาร์ท
เมืองนี้เป็นเมืองสำหรับนักท่องเที่ยวโดยแท้
และหลายสิ่งหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับโมสาร์ทยังคงเป็นที่ต้องการของนักท่องเที่ยว
โดยเฉพาะ ชอคโกแลทที่มีรูปโมสาร์ท
ถือเป็นสินค้าขายดีในอันดับต้นๆ
ของ Salzberg เลยทีเดียว |
|
ออสเตรียนับเป็นประเทศที่มีระบบการขนส่งที่ดีมากประเทศหนึ่งในโลก
มีระบบจัดการรถสาธารณะให้ประชาชนได้ใช้บริการอย่างเพียงพอ
การเดินทางหรือนัดหมายใดๆ
สามารถทำได้โดยไม่ติดปัญหาเรื่องการจราจร
ตามป้ายรถเมล์หลักหรือสถานีรถใต้ติดจะมีเวลาบอกให้ทราบว่ารถกำลังจะมาถึงในกี่นาที
|
นับเป็นการรอที่มีจุดหมาย
ออสเตรียเป็นประเทศที่มีโชคในเรื่องความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรทางธรรมชาติ
ด้วยนอกจากจะมีภูมิประเทศ
ที่สวยงามแล้ว
ออสเตรียยังมีน้ำจากภูเขาที่มีคุณภาพดีมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
(อีกแล้ว)
น้ำก๊อกจากที่ต่างๆ
แม้แต่ในห้องน้ำก็สามารถใช้ดื่มกินได้
เนื่องจากรับการกรองมาเป็นอย่างดีก่อนที่ส่งตามท่อให้กับทุกครัวเรือน |
|
สิ่งหนึ่งที่เราประทับประเทศออสเตรียมากๆ
ก็คือ เรื่องความสะอาด
ถือเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับเรื่องความสะอาดเป็นอย่างมาก
คารินเล่าว่า
ตั้งแต่เกิดมาเธอก็เห็นประเทศของเธอสะอาดแบบนี้แล้ว
การช่วยกันรักษาความสะอาดดูเหมือนจะอยู่ในหัวใจของทุกคน
ไม่รู้สึกว่าทำไมจะต้องไม่ทิ้งขยะบนถนน
กลับกันจะรู้สึกระอายใจด้วยซ้ำกับการทิ้งสิ่งต่างๆ
ในที่สาธารณะ
ในที่ที่ไม่เหมาะสม |
|
สิ่งเหล่านี้จะมีการสอนตั้งแต่ในชั้นเรียน
จากพ่อแม่ที่บ้าน
จากผู้คนรอบข้าง
เหมือนเป็นวัฒนธรรมที่ตกทอดมาสู่คนรุ่นแล้วรุ่นเล่า
แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีคนทิ้งขยะนะ
คารินกล่าว เธอบอกว่า
เด็กวัยรุ่นบางคนก็ไม่สนใจอะไร
ไม่แคร์
จะทิ้งอะไรทิ้งตรงไหนก็ทำ
เพียงแต่โชคดีที่คนพวกนี้มีไม่เยอะ
และพอเป็นผู้ใหญ่ก็เริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมไปในทางที่ดีขึ้น
|
|
ปัจจัยหลักที่ช่วยส่งเสริมเรื่องความสะอาดของบ้านเมืองก็คือ
สำนึกของผู้คน
รวมถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ภาครัฐ
ซึ่งจะทำความสะอาดถนนหนทางทุกวัน
เขาจะทำกันตอนกลางคืนเมื่อผู้คนบนถนนเริ่มเบาบาง
นอกจากจะความสะดวกต่อการทำงานแล้ว
ยังช่วยให้เช้าวันใหม่ของผู้คนเป็นเช้าวันใหม่ที่สดใสสะอาดตาอีกด้วย
|
|
อีกทั้งรัฐยังได้จัดเตรียมถังขยะไว้ตามที่ต่างๆ
อย่างมากพอ
ถังขยะที่นี่จะมีฝาหลากสี
สีเหลืองสำหรับขวดพาสติก
สีน้ำเงินสำหรับขยะที่เป็นโลหะ
สีขาวสำหรับขวดแก้วใส
สีเขียวสำหรับขวดแก้วที่มีสี
สีแดงสำหรับกระดาษต่างๆ
ฝาสีดำสำหรับ
สีน้ำตาลสำหรับวัชพืชต่างๆ
รวมถึงเศษอาหาร
การแยกภาชนะสำหรับขยะนับว่าช่วยอำนวยความสะดวกให้กับพนักงานเก็บและแยกขยะเป็นอย่างยิ่ง
เพราะขยะบางอย่างสามารถนำไปรีไซเคิลได้
อาทิ ขวดพลาสติก ขวดแก้ว
โลหะต่างๆ กระดาษหลากชนิด
หรือแม้แต่กล่องบรรจุน้ำประเภทต่างๆ
อาทิ นม น้ำผลไม้ ชา กาแฟ
ซึ่งวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตกล่องบรรจุน้ำเหล่านี้ก็คือ
กระดาษที่ทำจากต้นไม้ในสวนป่าที่มีการปลูกทดแทน
กล่องปลอดเชื้อหรือกล่องยูเอชทีเหล่านี้สามารถเก็บรักษาเครื่องดื่มที่อยู่ภายในได้เป็นระยะเวลานานโดยไม่ต้องอาศัยตู้เย็นหรือตู้แช่
สะดวกแก่การพกพาไปยังสถานที่ต่างๆ
ส่งผลให้ปริมาณการใช้กล่องเครื่องดื่มเหล่านี้มีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี
สำหรับประเทศไทยเรา
ในปี พ.ศ. 2548
คนไทยใช้กล่องเครื่องดื่มถึง
3 - 4 หมื่นตันต่อปี ที่ออสเตรียมีโรงผลิตไฟฟ้าที่ใช้พลังงานลม
น้ำ แสงอาทิตย์
หรือแม้แต่ขยะ
ขยะที่ไม่สามารถนำไปรีไซเคิลได้อีกก็สามารถนำมาเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าด้วยนะคะ
ขยะก็มีประโยชน์นะคะ
ฉะนั้นจึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลของของการทิ้งขยะตามภาชนะที่ทางการจัดแยกไว้ให้อย่างเหมาะสมนั่นเอง
ตรงนี้ทำให้นึกย้อนมาถึงประเทศไทยเรา
ที่ผ่านมาจะจัดการกับขยะที่เกิดจากกล่องเครื่องดื่มที่ใช้แล้วโดยนำไปฝังกลบเท่านั้น
ทั้งที่กล่องเหล่านี้
มีมูลค่านำมารีไซเคิลเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ได้
ผลการศึกษาในประเทศเยอรมนีพบว่า
ตลอดวงจรชีวิตของกล่องเครื่องดื่มเหล่านี้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระดับเท่าๆ
กันกับขวดแก้วแบบนำกลับมาใช้ใหม่
ในต่างประเทศมีการนำกล่องเครื่องดื่มที่ใช้แล้วไปรีไซเคิลกันอย่างแพร่หลายมานานแล้ว
และประเทศไทยในตอนนี้
ได้มีการนำกล่องเครื่องดื่มที่ใช้แล้วไปรีไซเคิลแล้วเช่นกัน
เราทุกคนช่วยได้ค่ะ
ด้วยการแยกกล่องเครื่องดื่มที่ใช้แล้ว
ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน
โรงเรียน
ที่ทำงานหรือสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติ
การแยกกล่องเครื่องดื่ม
สามารถทำได้ง่ายๆ คือ
ดื่มเครื่องดื่มในกล่องให้หมด
ไม่ให้มีของเหลวติดค้างอยู่
จากนั้นก็ใช้สองมือและความตั้งใจที่จะช่วยกันสร้างโลกสีเขียวใบนี้
ดึงมุมทั้งสี่ด้านออก
และรีดกล่องให้แบนเพื่อประหยัดเนื้อที่
แล้วก็นำไปใส่ในภาชนะที่จัดไว้หรือรวบรวมส่งให้แก่ผู้รับซื้อวัสดุรีไซเคิล
สำหรับคนที่เดินทางไปท่องเที่ยวก็สามารถทิ้งได้ตามจุดที่จัดไว้
หากไม่มีจุดทิ้งเราก็ช่วยกันพับเก็บใส่กระเป๋ากลับมาทิ้งที่บ้าน
เพื่อนำไปแปรรูปเป็นกระดาษรีไซเคิล
เม็ดพลาสติก
หรือเป็นวัสดุทดแทนไม้
ไม่ว่าจะเป็นฝ้าเพดาน
ตู้คาราโอเกะ
วัสดุตกแต่งภายใน
และอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ
อีกมากมาย
ช่วยกันสักนิดนะคะ
ทิ้งขยะให้เป็นที่
แยกขยะชนิดที่สามารถนำมารีไซเคิลได้ไว้ต่างหาก
ถือว่าได้ช่วยพนักงานเก็บขยะของเรานะคะ
แล้ววันหนึ่งประเทศไทยของเราก็จะสะอาดสวยงามมากๆ
ได้เช่นกัน
ยังจำได้ดีกับคำชื่นชมที่คารินให้ไว้เมื่อคราวที่เธอได้มาพำนักในประเทศไทย
I like
your country very much, the food is so good and the people are so
wonderful. What is missing a little bit is the cleanliness. Then, Thailand
will be a paradise !
ขอจบด้วยการแปลสั้นๆ
แบบเข้าข้างประเทศตัวเองว่า
ประเทศไทยดีมากๆ เลย
แต่หากเพิ่มเรื่องความสะอาดของบ้านเมืองเข้าไปอีกหน่อย
ก็จะคือ สวรรค์ ดีๆ นี่เอง ....
|
ขอขอบคุณ
ข้อมูลจาก
บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ไทย)
จำกัด |
|
ข้อมูลเพิ่มเติม
www.wwfthai.org
|
|