ท่องโลกใต้ทะเลที่สิปาดัน

ท่องโลกใต้ทะเลที่สิปาดัน

ท่องโลกใต้ทะเลที่สิปาดัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

   การท่องเที่ยวค้นหาสถานที่ดำน้ำ หรือการได้ไปดูสัตว์ทะเลตามจุดดำน้ำต่างๆ เป็นความใฝ่ฝันของนักดำน้ำแทบทุกคนค่ะ เพราะจะได้ไปเห็นสิ่งแปลกๆ ใหม่ๆ ในโลกใต้น้ำ ซึ่งเป็นอีกโลกหนึ่งที่หาดูได้ไม่ง่ายนัก อีกทั้งยังได้ศึกษาชีวิตของสัตว์ทะเลอีกด้วย..

   สถานที่หรือจุดดำน้ำมีอยู่มากมายทั่วโลก ซึ่งแต่ละที่จะมีความโดดเด่นที่แตกต่างกันออกไป และ 'สิปาดัน' ก็เป็นอีกแห่งหนึ่งที่รู้จัก กันดีในหมู่นักดำน้ำ ประมาณ 35 กิโลเมตร ทางตอนใต้ของเซมโปน่า ประเทศมาเลเซีย เกาะสิปาดัน (Sipadan lsland) เกาะมาบูล (Mobul lsland) และเกาะคาปาไล (Kapalai lsland) ทั้ง 3 เกาะนี้มีสิ่งสวย ๆ งาม ๆ ให้ ความเพลิดเพลินแก่นักดำน้ำไม่มีวันจบสิ้นค่ะ

    ทริปนี้เรามากันทั้งหมด 8 ชีวิต ใช้เวลาในการเดินทางค่อนข้างยาวนาน เริ่มออกเดินทางกันตั้งแต่เช้า เดินทางทางอากาศทั้งวันไม่พอยังต้องมาต่อทางเรืออีก กว่าจะถึงก็ค่ำมืด เหนื่อยพอสมควรเลยล่ะ ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้เริ่มดำน้ำกันเลย แต่ถามว่าคุ้มไหม ก็ขอบอกว่าคุ้มจริง ๆ ไม่งั้นเขมคงไม่มาเล่าสู่กันฟังหรอก พอมาถึงที่มาบูล ซึ่งมีรีสอร์ตอันสวยงามที่มีชื่อเสียงมานมนาน คือ 'สิปาดันวอเทอร์วิลเลจ' (Sipadan Water Village) ต่างคนต่างก็ยิ้มอันแก้มจะปริ ถึงแล้วจ้า ที่นี่จะเป็นที่พักของพวกเราทั้งทมด 4 คืน 5 วันของการดำน้ำ

    Sipadan Water Village หรือ SWV เป็นรีสอร์ตแรกบนเกาะมาบูลและในประเทศมาเลเซีย ซึ่งเปิดให้บริการมานานแล้วลึง 14 ปี ตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1993 ถึงแม้รีสอร์ตนี้ได้เปิดมานาน แต่ก็มีการบำรุงรักษาเป็นอย่างดี ไม่มีคำว่า run down ในใจเขมเลยค่ะ SWV มีห้องหักทั้งหมด 45 ห้อง ทุกห้องเป็นแบบบังกะโล ตั้งอยู่กลางน้ำ ไม่ว่าจะเป็นห้องพักเดี่ยวแบบธรรมดา แบบฮันนีมูน หรือแบบครอบครัว ล้วนแต่มีทัศนียภาพสวยงามไม่แพ้กัน

    บังกะโลที่นี้กว้างขวางสร้างมาจากวัตถุดิบธรรมชาติที่เป็นไม้ทั้งหมด มีระเบียงกว้าง พร้อมเก้าอี้นั่งที่สามารถอาบแดดหรือดูวิวที่ทอดยาวของทะเล ดูพระอาทิตย์ตก และยังมีลมทะเลโกรกเข้ามาในห้องอยู่เรื่อย ๆ สิปาดันวอเทอร์วิลเลจเหมาะสำพรับการฮันนีมูนอีกแห่งก็ว่าได้ ถ้าเคยฮันนีมูนแล้วก็ทำเป็นรอบที่สองรอบที่สามหรือกี่รอบก็ได้แล้วแต่คุณ ๆ เลยเจ้าค่ะ

    ห้องพักที่นี้มีการดูแลทำความสะอาดอย่างดี มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น ข้าวของเครื่องใช้ในห้องและในห้องน้ำ การใช้อินเตอร์เนตระบบไร้สาย และการบริการอื่น ๆ สำหรับนักดำน้ำที่ชอบถ่ายภาพหรือถ่ายวิดีโอใต้น้ำ พนักงานที่รีสอร์ตนี้ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น มีการบริการที่ดีเลิศสร้างความประทับใจให้แก่แขกผู้มาเยือน

     สำหรับผู้ที่ Enjoy Eating ต้องบอกเลยล่ะว่า "เอนัก"! (แปลว่าอร่อยในภาษามาเลเซีย อาหารที่นี่เป็นแบบ Buffet ทุกมื้อ ต้องขอยกนิ้วให้แม่ครัวที่จัดเตรียมเมนูอาหารทุกมื้อทุกวันแบบที่ว่าไม่น่าเบื่อเลย ทุกคนทานอิ่มพุงโตทุกเมื่อเลยล่ะค่ะ ไม่อยากจะบอกเลยว่าดิฉัน "เอนัก"! ทุกมื้อเลย แต่ขอเม้าท์หน่อยเถอะค่ะ บางคนถึงขั้นต้องใส่ตะกั่วเพิ่มเวลาลงน้ำเลย อิ อิ อิ...ที่ SWV จะมีสโลแกนว่า 'กินดี อยู่ดี ดำน้ำดี' จริง ๆ แล้วก็ดีไปหมดเลย นี่ไม่ได้เชียร์ใครทั้งนั้น แต่ถ้าไม่ลองก็จะไม่รู้ว่าเขมหมายความว่าอย่างไรหรอกค่ะ ของแบบนี้ต้องมาสัมผัสด้วยตัวเองค่ะ

     โดยส่วนใหญ่แล้วไม่ว่าจะเป็นรีสอร์ตที่ใดก็ดาม รวมทั้งท SWV จะเป็นแบบ package 4 คืน 5 วัน รวมรถรับส่งไปกลับจากสนามบินตาวาว (Tawau) และ speed boat รับส่งไปกลับรีสอร์ต ค่าธรรมเนียมในการเข้าเกาะสิปาดัน ห้องพัก อาหาร 3 มื้อทุกวัน ซึ่งเป็นเมนูอาหารพื้นเมืองและอาหารนานาชาติ เครื่องดื่มต่าง ๆ ยกเว้นเหล้า ดำน้ำวันละ 3 ครั้ง ที่เกาะสิปาดัน เกาะมาบูล แสะเกาะคาปาไล ถังออกซิเจน ตะกั่ว ส่วนอุปกรณ์ดำน้ำอื่น ๆ ก็มีให้เช่าในราคาต่อวัน

    เมื่อมีการทำการจองเกิดขึ้น เราจะต้องเตรียมเอกสารเพื่อทำการขออนุญาตเข้าเกาะสิปาดันล่วงหน้า เนื่องจากเกาะสิปาดันยังเป็นเกาะเดียวที่อยู่ภายใต้ความดูแลของรัฐบาลมาเลเซีย และยังมีกฎเกณฑ์ที่จำกัดจำนวนนักดำน้ำ 120 คนต่อวัน ซึ่งเป็นจำนวนน้อยมาก ถ้าจะให้เทียบกับจำนวนผู้ดำเนินกิจการทางธุรกิจดำน้ำซึ่งมีทั้งหมด 12 ที่ด้วยกัน ทางรีสอร์ตจึงต้องแจ้งชื่อและจำนวนนักดำน้ำ วัน เวลาล่วงหน้าให้กับทางเจ้าหน้าที่ที่เกาะสิปาดัน เพื่อให้นักดำน้ำผู้มาเยือนไม่เสียโอกาส เวลาและความยุ่งยากที่ต้องรอคอยการได้รับอนุญาตจากทางเกาะ

    ไม่ว่าจะเป็นห้องพัก อาหาร หรือบรรยากาศที่สร้างความน่าตื่นเต้นแล้ว ยังมีบุคคลสำคัญที่มีบทบาทในการท่องเที่ยวดำน้ำคือ dive leader ซึ่งบุคคลเหล่านี้เองที่จะนำพาพวกเราไปพบกับสัตว์ทะเลทั้งหลายในแต่ละ จุดดำน้ำ ที่ SWV มีความแตกต่างจากรีสอร์ตอื่นๆ ที่ว่า dive leader ทุกคนนอกจากต้องมีคุณสมบัติเป็นนักดำน้ำที่มีคุณภาพสูงแล้ว ยังต้องผ่านการเรียนรู้ศึกษาตระกูลและพฤติกรรมของสัตว์ทะเลทั้งหมด

    ซึ่งพวกเขาต้องสามารถแยกความแตกต่าง ระบุชื่อ ตระกูล เผ่าพันธุ์ของพวกเจ้าสัตว์ทะเลตัวน้อยใหญ่ได้อย่างแม่นยำ ทั้ง ๆ ที่พวกเขามีเวลาเรียนรู้รวมทั้งสอบข้อเขียนเพียงแค่ 3 เดือนเท่านั้นเอง เป็นระยะเวลาที่สั้นมาก ๆ ถ้าจะให้เทียบกับจำนวนสัตว์ทะเลนับพันชนิด ไม่ได้ง่ายเลยนะเนี่ย เขมขอแค่เอ็นจอยดำน้ำก็พอแล้ว รู้สึกว่าการเป็น dive leader จะยากกับชีวิตของข้าพเจ้าจริง ๆ เลย ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเขาไปละกัน

    มาดำน้ำครั้งนี้พวกเราทั้งหมด 8 คนได้อยู่ในเรือลำเดียวกัน พร้อม dive leader อีก 2 คน ดำน้ำวันละ 3 ครั้งที่เกาะสิปาดัน เกาะมาบูลและเกาะคาปาไล ก่อนออกจากกรุงเทพฯ เขมก็เริ่มมีอาการเจ็บคอนิดหนึ่งพอถึงเวลาที่จะต้องลงน้ำ ปรากฏว่าข้าพเจ้าไม่สามารถเคลียร์หูได้ เซ็งครั้งที่ 1 ตั้งแต่ dive แรกเลย พอมา dive 2 dive 3 ก็ยังลงไม่ได้อีกเซ็งมาก ๆ ๆ ๆ เพื่อนๆ แต่ละคนขึ้นมาจากน้ำต่างก็เล่ากันว่าเห็นนู้นเห็นนี้ เขมยอมไม่ได้ค่ะ

    ข้าพเจ้าจึงได้จัดการตัวเองด้วยการอัดยาเต็มที่ พอ dive ที่ 4 ถึงลงไปได้ เก่งมากค่ะลงไปลึกสุด 5 เมตร ดำอยู่ตรงนั้นตั้ง 56 นาที ฟังดูแล้วน่าภูมิใจม้ากมาก ในขณะที่คนอื่นเขาดำอยู่ในที่ลึกกว่า อยู่ตื้น ๆ ก็ไม่ค่อยมีอะไรให้ดู แต่อย่างน้อยก็ได้เห็นเจ้า nudi มัน mating ตั้งหลายคู่ความพยายามของข้าพเจ้าไม่ลดละ

    มีความเพียรพยายามเข้าไว้ จะได้สัมฤทธิผล พอ dive ต่อ ๆ ไปเขมพยายามเอาตัวเองลงไปให้ได้ โอ้โห.... กว่าจะ landing ไปถึงเพื่อน ๆ ก็ใช้เวลากว่า 18 นาที นานจนสามารถบนทึกใน log book ได้เลยว่าไม่เคยใช้เวลานานถึงขนาดนี้ ขอบอกว่าขำค่ะ แต่ก็โชคดีที่คราวนี้มีเพื่อนรุ่นพี่ที่เป็นหวัดแล้วเคลียร์หูไม่ได้เหมือนกัน ฮิ ฮิ ฮิ รู้สึกดีที่มีเพื่อนตกระกำลำบากด้วย

     เขมมาดำน้ำที่สิปาดัน 3 ครั้งแล้วค่ะ แต่ละครั้งก็จะเห็นสัตว์น้ำเดิม ๆ หรือไม่ก็มีตัวใหม่ ๆ มาให้ดูแต่คราวนี้ไม่รู้ว่าเจ้าตัวเดิม ๆ มันหายไปไหน อย่างว่านะคะ... บางทีก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ช่วงวันและเวลา มาครั้งนี้ก็ไม่ต่างจากครั้งที่แล้วเท่าไหร่ ที่ได้เห็นก็มีปลาหมึกแฟลมบอยเอินท์ (Flamboyant cuttlefish) ปลาหมึกบ็อบเทล (bobtail squid) กุ้งตัวตลก (harlequin shrimp) เจ้าบ็อกเซอร์แครบ (boxer crab) เจ้าโกบี้ (goby)

     ส่วนเจ้าปลาตัวโปรดปรานของเขมคือ น้องปลากบไงคะ (frogfish) ครั้งนี้ dive สุดท้ายเขมได้ลงไปตามล่าหา frogfish อย่างเดียว.... ดิฉันก็สมหวังดังที่คาดไว้ มีทั้งใหญ่และเล็ก ได้กดชัตเตอร์อันระวิงจนเบื่อเลยล่ะค่ะ มีปลากบสีเหลือง สีดำ สีส้ม สีขาว และปลากบตัวตลก (clown frogfish) หลากสีหลายลาย เวลามันหาวยิ่งน่ารักสุด ๆ ไปเลย กรี๊ดสลบ! แค่นี้เขมก็หน้าบานเป็นกระด้งแล้วล่ะค่ะ

     ส่วนพวก common แบบน่าเกลียดหน่อยที่พบเห็นได้ง่ายในท้องทะเล คือเจ้าปลาไหลมอเรย์ (moray eel) แต่เจ้าปลาไหลริบบิ้นสีฟ้า (blue ribbon eel) ก็ไม่น่าเกลียดเท่าไหร่นะ เพราะสีของมัน ก็ยังให้ความเพลิดเพลินได้อีกแบบหนึ่ง แล้วก็ยังมีเจ้าปลาลีฟสคอร์เปียน (leaf scorpion fish) กุ้งแอมโมเนีย (ammonium shrimp)

     กุ้งตั๊กแตนตำข้าว (mantis shrimp) ปลาจิ้มฟันตัวตลก (harlequin ghost pipefish) ทายเปลือย (nudibranch) ที่พบเห็นกันได้ง่าย ไม่ต้องไปคอยมองหาพวกมัน ที่มีมากกว่านี้ก็น่าจะเป็นปลาจระเข้ (crocodile fish) ปลาสิงโต (lionfish) และปลาสคอร์เปียน (scorpion fish) เอ่ยมาแค่นี้ก็สามารถบิลด์อารมณ์ได้สักนิด ยังมีไฮไลต์อีกเยอะอย่าเพิ่งเบื่ออันก่อนนะคะ

     อ้า... มาเล่ากันถึง my favorite dive sight ดีกว่า ตื่นเต้นกว่าเยอะ ยังไม่ทันเริ่ม คนเล่ายังตื่นเต้นเองเลย จะไม่ให้ตื่นเต้นได้ยังไงล่ะ โดดลงจากเรือ กดลมออกจากบีซี ดิ่งตัวเองลงสู่ใต้ทะเลเพียงไม่กี่นาที ก็เห็นน้องเต่าผู้ไม่ทำร้ายใคร น่ารักที่สุดในโลก hawksbill และ green turtles เจ้าค่ะว่ายไปว่ายมา ตรงนี้ก็เต่า ตรงนู้นก็เต่า นับไม่ถ้วนเลย... เฟี้ยวไปเฟี้ยวมา โอ้โห ดูมันสุด ๆ

     ยังมีมันกว่านี้ตอนที่ดำไปดูคอนโดเต่า ก็คือที่อยู่อาศัยพักพิงของน้องเต่านั่นล่ะค่ะ ไปแอบดูเต่านอน เต่ากิน เต่าจู๋จี๋กัน เขมดำมุดเข้าไปในถ้ำดูเต่านอน ไปทักทายตามภาษาแขกที่มาเยือนบ้านค่ะ น้องเต่าให้การต้อนรับเป็นอย่างดี แค่ลืมตามามองปริบ ๆ แล้วก็หลับต่อ น่ารักจัง โอ๊ย ดิฉันรักเต่าค่ะ ก็เหมือนนางงามรักเด็กอ่ะค่ะ

    ก่อนที่จะขึ้นไปบนผิวน้ำในช่วง safely stop ก็ได้เห็นฝูงปลาแจ๊ค (school of big-eye trevallyjack) ว่ายมาเป็นฝูงนับพันตัวเป็นเกลียวหมุนเสมือนพายุทอร์นาโดเด๊ะเลย เขมก็เลยว่ายเข้าไปหมุนตัวเป็นเกลียวอย่างที่เจ้าปลามันทำกันด้วย ทำตัวกลมกลืนสุดฤทธิ์ พวกสัตว์น้ำที่มาเป็นฝูง ๆ ก็คงไม่พ้นฝูงปลาบาราคูด้า (school of barracuda) และฝูงปลานกแก้วหัวโหนก (school of bumphead parrot fish) ที่ออกหากิน เที่ยวกัดปะการังกันส่งเสียงดังด้วยฟันหน้าอันใหญ่ยักษ์ที่ยื่นออกมานอกปากปลามันไม่ได้ดัดฟันอ่ะค่ะ ไม่น่าเชยชมเลยสักนิด

     สัตว์ทะเลตัวใหญ่อื่น ๆ เช่น ปลากระเบนราหู (manta ray) ปลากระเบนนก (eagle ray) ฉลามหัวค้อน (hammerhead shark) หรือฉลามวาฬ (whale shark) ก็มีให้ดูเหมือนกัน แต่นี่ก็ขึ้นอยู่กับความโชคดีแล้วล่ะค่ะ ก็คงรู้ ๆ กันอยู่แล้วว่าเจ้าพวกนี้จะมาตามสภาพสิ่งแวดล้อม สภาพอากาศบังเอิญเขมเป็นคนไม่ค่อยมีโชคเลยไม่ได้เห็น ยิ่งมาคราวนี้ร่างกายก็ไม่อำนวยอีกต่างหากหูก็พัง !

     นอกเหนือที่เล่ามาแล้ว ที่ SWV นี้มีการพานักดำน้ำไปดูเจ้าปลาแมนดารินพบรัก จู๋จี๋กันจนกระทั่งผสมพันธุ์ ซึ่งเวลาที่จะดำลงไปนั้นต้องเป็นเวลาก่อนพระอาทิตย์ตกดินประมาณห้าโมงสี่สิบห้า เราจำเป็นต้องดำลงไปรอก่อนครึ่งชั่วโมงก่อนที่เจ้าปลาแมนดารินตัวผู้จะออกมาจากที่อยู่ของเขาเพื่อมาหาสาวสวยของมัน ในขณะที่เฝ้ามองอยู่นั้น ห้ามทำการถ่ายภาพหรือเคลื่อนไหว เพราะเป็นการรบกวนเจ้าปลา และจะทำให้ไม่มีการผสมพันธุ์เกิดขึ้น นี่ก็เรียกว่าเป็นหนึ่งในไฮไลต์ของ SWV นะค่ะ

     ส่วนหลังพระอาทิตย์ตกก็มี night dive จะดำน้ำอยู่รอบ ๆ รีสอร์ตซึ่งมีอะไรให้ดูเยอะมากที่จะสามารถเก็บภาพมาได้หลาย ๆ เลยล่ะค่ะ กฎของรัฐบาลมาเลเซียก็มีอยู่ว่าห้ามนำเรือดำน้ำออกตระเวนหลังพระอาทิตย์ตก เพราะฉะนั้นจะไม่มีการออกเรือดำน้ำกลางทะเลในตอนกลางคืนที่แสนจะ 'มืดสนิท' ที่เน้นคำว่ามืดสนิทนั้นก็เพราะว่าเราอยู่ในที่ที่ปลอดมลพิษขนาดนี้ ท้องฟ้าตอนกลางคืนก็ต้องเป็นสีดำที่ปกคลุมไปด้วยดาวระยิบระยับ

     โอ๊ย...โรแมนติกอีกแล้วล่ะค่ะคุณขา ทำยังไงได้ล่ะคะ ลงไปดำน้ำสนุกกับการดูสัตว์ทะเลต่าง ๆ ที่มีทั้งกำลังพักผ่อน กำลังออกหาเหยื่อ หรือกำลังทำกิจกรรมส่วนตัว ข้างใต้น้ำก็เย็น มืดก็มืด แต่พอมาโผล่เหนือน้ำเงยหน้าขึ้นก็เห็นดาวล้านดวงอย่างนั้นเลย ลองนึกดูซิคะว่าจะไม่ให้พูดอะไรสักคำออกมาจากปากก็คงเป็นไปไม่ได้อ่ะนะ!

      ดำน้ำมาตั้งหลายวัน มีแต่ความสุขสนุกสนาน พอรู้ว่าใกล้จะถึงวันกลับก็รู้สึกเศร้าเล็กน้อยเหมือนว่ายังพบเห็นสัตว์ทะเลไม่ครบเลย ยังไงก็ไม่รู้สินะ จะอยู่กี่วันก็คงไม่ครบอยู่ดี เพราะมันเยอะชะจนหาคำมาเปรียบเปรยไม่ได้ ลัตว์ทะเลมีนับพันชนิด หลายตระกูล ซึ่งแยกออกไปเป็นตามสายพันธุ์อีกต่างหาก มานึกดูอีกที dive leader เนี่ยต้องมีความจำดีมาก ๆ เลยล่ะ สงสัยบำรุงสมองด้วยการกินแปะก๊วย

      ได้ออกมาพักผ่อนอย่างนี้ ทำให้รู้สึกว่าตัวเองได้หลุดออกจากโลกหนึ่งไปอีกโลกหนึ่ง ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ทีวีก็ไม่มีให้ดู ถูกตัดออกจากการสื่อสารโดยแท้ ชีวิตวัน ๆ นั้นล้วนแต่มีสัตว์ทะเล น้ำทะเล และท้องฟ้าอันโปร่งใส เพื่อนนักดำน้ำจากทั่วโลก พอตกลางคืนก็มีแสงพระจันทร์สาดส่องสว่างสะท้อนน้ำทะเล บรรยากาศและความสงบของธรรมชาติเหล่านี้ เป็นการให้ความสุขแก่มนุษย์ที่ไม่มีวันสิ้นสุด ซึ่งในทางกลับกันมนุษย์อย่างเราก็ควรที่จะช่วยกันดูแลรักษาธรรมชาติไว้ให้นานเท่าที่จะทำได้ ถ้าไม่ได้ถูกทำลายจากภัยธรรมชาติไปเลียก่อน

ติดต่อสอบถามแพ็กเกจดำน้ำได้ที่ คุณบารี ซุง โทร. 08-1431-4838

สนับสนุนข้อมูลจาก นิตยาสารเปรียว ปักษ์หลังเมษายน 2550 ออนไลน์วันที่ 14 กันยายน 2550

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook