Ayutthaya By The River

Ayutthaya By The River

ขณะเขียนเรื่องนี้ พลางก็นึกตลกตัวเอง ด้วยความที่เป็นลูกหลานอยุธยาเมืองเก่าโดยสายเลือดแท้ๆ แต่กลับไม่เคยได้เขียนเรื่องท่องเที่ยวเกี่ยวกับอยุธยาเลยสักครั้ง มัวแต่ไปเขียนถึงที่อื่น ตามป่าตามเขา เข้ารกเข้าพงไปตามเรื่องตามใจตัวเอง แต่บ้านเกิดเมืองที่นอนอยู่ทุกวันคืน กลับไม่ค่อยจะได้มีเวลาไปท่องตระเวนสักเท่าไรนัก       นี่แหละหนาที่เขามักจะบ่นกันว่า ไม่ค่อยเห็นความสำคัญของสิ่งที่อยู่ใกล้ตัว ในทุกวัน ถึงแม้ผมจะพำนักพักพิงเมืองเก่าเมืองนี้เป็นที่หลับนอน แต่ช่วงเวลาการทำงานต้องเดินทางเข้าเมืองหลวง บางวันนั่งรถจากเมืองเก่าเข้ามา ก็ยังคิดเล่นๆ กับตัวเองว่า "ถ้ากรุงศรีอยุธยา ยังไม่แตก ผมคงจะรวยมากกว่านี้ เพราะอย่างน้อย ไร่นาสมบัติเก่าของพ่อแม่ ที่พอมีอยู่นิดหน่อย คงจะแปรเปลี่ยนเป็นดงตึก หรือ ห้างสรรพสินค้า ไปแล้ว"       แต่นั่นก็เป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งของความคิดขำๆ ที่พยายามปลอบใจตัวเอง ความร่ำรวยจะทำให้มนุษย์มีความสุขได้ แต่ไม่กี่วันมานี้ผมก็พึ่งมาบรรลุถึงสิ่งที่มนุษย์ต้องการมากที่สุด ต้องการยิ่งกว่าความร่ำรวยเสียอีก นั่นก็คือ "ความสุข" ลองคิดดูกันดีๆ นะครับว่า ความร่ำรวย นั้นจะบันดาลสุขได้ทุกสิ่งหรือเปล่า..?     กิจกรรมอย่างหนึ่ง ที่สามารถทำให้คนเรามีความสุข มีกำลังใจ มีความหวังอย่างสดชื่น ด้วยความสงบ โดยเฉพาะผู้ที่นับถือพุทธศาสนา นั้นก็คือ การไหว้พระ       การไหว้พระ เป็นกิจกรรมที่พุทธศาสนิกชนทั่วไปสามารถกระทำได้โดยง่าย และสามารถเลือกกระทำได้ทั่วไป เนื่องจากประเทศไทยของเรามีวัดอยู่มากมายทั่วสารทิศ เพียงแต่เราหาเวลาเดินทางไป ความสุขสิริมงคลนั้นรออยู่ตรงหน้า ให้เราไขว่คว้าเพื่อความสบายใจ แต่กระนั้นเราเองก็ยังบ่ายเบี่ยงเส้นทางแห่งความสุข ด้วยคำว่า " ไม่มีเวลา "      วันนี้ผมมีกิจกรรมใหม่มาแนะนำ ซึ่งท่านอาจจะใช้กิจกรรมนี้ ผนวกเข้ากับการไหว้พระด้วยก็น่าจะเข้าที นั่นคือ การท่องเที่ยวอยุธยาทางน้ำ หรือที่ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า "Ayutthaya By The River"      การท่องเที่ยวอยุธยาทางน้ำ เป็นกิจกรรมใหม่ ที่ต้องการให้นักท่องเที่ยวได้พบกับมุมมองใหม่ นักท่องเที่ยวจะได้เห็นวิถีชีวิตของชาวอยุธยาที่อาศัยอยู่ริมน้ำ ได้พบเห็นโบราณสถานที่สำคัญต่างๆ ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำป่าสัก และแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งแม่น้ำทั้งสองสายนี้ นับเป็นเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงชาวอยุธยาเมืองเก่ามานานแสนนาน ก่อนที่จะรวมตัวกันเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาไหลลงสู่มหานครราชธานีใหม่      ที่ผ่านมาในวันหยุดสุดสัปดาห์ ผมมักจะออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานไปรอบๆ เกาะเมือง เมื่อเหนื่อยล้าก็มักจะจอดพักอยู่ริมแม่น้ำ มองสายน้ำที่ไหลผ่านหน้าไป ช่วงเวลานั้นทำให้ได้ทบทวนเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านเข้ามา และกำลังจะเกิดขึ้นต่อไป สายน้ำทั้งสองสายดังกล่าวช่วยให้เกิดจินตนาการ ทั้งการย้อนหาอดีตที่เคยรุ่งโรจน์ และอนาคตที่ศิวิไลย์

   วันนี้ผมได้ลงเรือลำใหญ่ ล่องลอยไปกับผิวน้ำอย่างสงบเงียบ สองฟากฝั่งซ้ายขวาก่อนถึงโบสถ์นักบุญยอแซฟ และวัดไชยวัฒนาราม ผมเห็นบ้านไม้เก่าๆ แต่แข็งแรงตั้งอยู่บนตลิ่ง มีเรือเข็มที่ชายกลางคนตัวดำไม่ใส่เสื้อพายช้าๆ หัวเรือมีคันเบ็ดไม้ไผ่สองลำลากสายเอ็นลอยผ่านไป เด็กน้อยบ้างกระโดดน้ำ บ้างวิ่งเล่นอยู่บนลานหน้าวัดพุทไธศวรรย์ ซึ่งเดิมบริเวณนี้คือ ตำหนักเวียงเหล็ก ของพระเข้าอู่ทอง ก่อนที่จะย้ายไปตั้งพระราชวังใหม่ที่บึงพระราม ต้นกำเนิดเรื่องราวมากมาย อันเป็นประวัติศาสตร์ของชาติไทยในลำดับต่อมา 

    เรือใหญ่ลำนี้ล่องลอยต่อไปในขณะที่แสงแห่งวันค่อยๆ ลดลง ดวงอาทิตย์กลมโต กลมเหมือนวงกลมขนาดใหญ่สีแดงสดสวยงามประหลาดใจ กำลังจะหลบหายไป เหมือนกัปตันเรือจะมีความเจนจัดในเรื่องการกำหนดเวลา ที่ได้ประวิงเวลาให้ผม และคนอื่นๆ ได้พบกับความงดงามอัศจรรย์นี้ พระปรางค์องค์ใหญ่ ของวัดไชยวัฒนาราม ที่สันนิษฐานว่า พระเจ้าปราสาททอง ทรงสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2173 เพื่ออุทิศแด่พระมารดา นามว่า "นางอิน" โดยได้จำลองแบบมาจาก ปราสาทนครวัด ประเทศกัมพูชา เวลานี้พระปรางค์องค์นี้ช่างงดงามเด่น และยิ่งใหญ่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยามหานที 

    ถัดมาเป็นวัดกษัตราธิราชวรวิหาร เป็นวัดเก่าที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยาเป็นราชธานี วัดนี้ได้รับการบูรณะใหม่ ศาลาทาสีขาว หลังคาเหลืองตัดแดงหน้าบันของโบสถ์วิหารมีลวดลายสวยงาม ประดับกระจก แสงยามค่ำกระทบให้เห็นเป็นระยิบแวววาว ฝั่งตรงข้ามเป็นเจดีย์พระศรีสุริโยทัย วีรสตรีไทย ที่ฐานทาสีขาว ตอนกลางถึงยอดเป็นสีทองอร่ามชวนคิดเป็นปริศนา 

    นอกจากวัดที่ผมได้กล่าวมาแล้ว ที่ผ่านมายังมีวัดที่ตั้งอยู่ริมน้ำอีกหลายวัดที่มีความน่าสนใจต่างๆ กันออกไป อาทิ วัดนางกุย ที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตก มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประดิษฐานอยู่ คือ หลวงพ่อยิ้ม ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่แกะจากไม้สักทอง ไม่ทราบที่มาที่ไป เป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงเกี่ยวกับความศักดิ์สิทธิ์ หรือ วัดพนัญเชิง วัดที่มีหลวงพ่อโตประดิษฐาน ซึ่งเป็นที่รู้จักกันทั่วไป 

    จริงอยู่ที่ว่า อยุธยา อยู่ใกล้กรุงเทพฯ จะเดินทางมาเที่ยวเมื่อไหร่ก็แสนจะสะดวก แต่นั่นก็คือการเดินทางแบบเดิมๆ มาอยุธยาคราวหน้าลองมาดูในมุมมองใหม่ วางแผนการเดินทางใหม่ ขับรถมาเหมือนเดิม แล้วกะเวลาอยู่อยุธยาถึงช่วงเย็นๆ จากนั้นขับรถหาร้านอาหารริมน้ำ เลือกดูร้านที่มีบรรยากาศถูกใจ ร้านอาหารส่วนใหญ่เดี๋ยวนี้เขามีบริการล่องเรือชมบรรยากาศอยุธยายามเย็น เวลาที่น่าล่องเรือมากที่สุดคือช่วง 17.00 น. ใช้เวลาล่องประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ค่าใช้จ่ายก็ไม่แพง โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ คนละ 70 บาท (ไม่รวมอาหาร ซึ่งแล้วแต่เราจะสั่ง) หรือหากมากันเยอะๆ จะเหมาลำก็ได้ ราคาก็อยู่ที่ 1,500 - 3,000 บาท แล้วแต่ขนาดของเรือ  

    การเดินทางท่องเที่ยวถึงแม้จะเป็นที่เดิมๆ แต่หากเราเลือกการเดินทางใหม่ที่ต่างออกไปจากที่เคยเป็นเคยไป ความสุขนั้นมักจะเกิดขึ้นเสมอ ไม่เชื่อลองนึกถึงการเดินทางไปเที่ยวครั้งแรกของคุณดูซิ : ) 

ด้วยความรักในบ้านเกิด 

นุ บางบ่อ ... เรื่อง / ภาพ 20 กุมภาพันธ์ 2549 

..........................................................................................

ศูนย์การท่องเที่ยว กีฬา และนันทนาการ จ.พระนครศรีอยุธยา   โทร. 0 3524 5417 บริษัท สตูดิโอ 107 (ไทยแลนด์) จำกัด โทร. 0 2246 1531-2

     ล่องเรือรอบเกาะเมือง   เป็นการล่องเรือตามเส้นทางรอบเกาะเมืองหลวงเก่า ชมวัดต่างๆ ที่ตั้งอยู่รอบเกาะเมืองอยุธยามากกว่า 18 วัด  และชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านตามริมน้ำสองฟากฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ร้านอาหารริมน้ำทั่วไป หรือ ที่โรงแรมที่พัก ดังที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์ด้านล่างนี้

ร้านอาหาร

• เปิบพิสดารแม่ช้อยนางรำ (มีบริการล่องเรือ) ประเภทของร้านอาหาร : อาหารไทย  ต.บ้านป้อม (เข้าทางวัดกษัตราธิราช) โทรศัพท์ : 0 1654 4555 
• บ้านวัชราชัย (มีบริการล่องเรือ) ประเภทของร้านอาหาร : อาหารไทย  9 หมู่ 7 ต.บ้านป้อม (เข้าทางวัดกษัตราธิราช) โทรศัพท์ : 0 3532 1333, 0 3525 5280 
• เจ้าพระยามารวย (มีบริการล่องเรือ) ประเภทของร้านอาหาร : อาหารไทย  9/5 ต.หอรัตนไชย โทรศัพท์ : 0 3521 1692, 0 1852 3079, 0 1948 3585 
• สวนอาหารซุ้มป่าสัก (มีบริการล่องเรือแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำป่าสัก) ประเภทของร้านอาหาร : อาหารตามสั่ง 116 หมู่ 2 ต.บ่อโพง โทรศัพท์ : 0 3572 4504, 0 3572 4519 
• บ้านไม้ริมน้ำ (มีบริการล่องเรือ) ประเภทของร้านอาหาร : อาหารไทย  33 ถ.อู่ทอง ต.ประตูชัย โทรศัพท์ : 0 3521 1516, 0 3521 1526 
• บ้านคุณพระ ประเภทของร้านอาหาร : อาหารไทย/อาหารตามสั่ง  48 ถ.ป่าโทน ต.หอรัตนไชย โทรศัพท์ : 0 3524 1978, 0 1442 2742 
• ก๋วยเตี๋ยววัดใหญ่  ก๋วยเตี๋ยว เนื้อ , หมู , ไก่  ต.คลองสวนพลู โทรศัพท์ : 0 3524 2679 
• ก๋วนเตี๋ยวไก่ฉีก (ขาไก่หม้อดิน) หน้าวัดพนมยงค์  ใกล้กับโรงเรียนประตูชัย  ไปทางเดียวกับเจดีย์ภูเขาทอง
• ก๋วยเตี๋ยววัดจีน  ก๋วยเตี๋ยว เนื้อ , หมู , ไก่ หน้าวัดรัตนชัย (วัดรัตนชัย คนอยุธยาเรียก วัดจีน)
• ส้มตำ อ.ย.ว. บึงพระราม อยู่หน้า ร.ร. อยุธยาวิทยาลัย 

ที่พัก 

• ริเวอร์ วิว เพลส (มีบริการล่องเรือ) ก. 35/5 หมู่ 1 ต.หอรัตนไชย โทร. 0 3524 172930 จำนวน 90 ห้อง ราคา 1,400 - 2,500 บาท 
• กรุงศรีริเวอร์ โฮเต็ล (มีบริการล่องเรือ) 27/2 ถ.โรจนะ (ทางเข้าสถานีรถไฟ) โทร. 0 3524 4703-9, 0 3524 3333 โทรสาร 0 3524 3777 จำนวน 206 ห้อง ราคา 1,500 - 5,000 บาท 
• อู่ทอง อินน์ 210 หมู่ 5 ถ.โรจนะ โทร. 0 3521 2531-40, 0 3524 2236 จำนวน 208 ห้อง ราคา 900 - 3,000 บาท 
• อยุธยา แกรนด์ โฮเต็ล 55/5 หมู่ 1 ถ.โรจนะ โทร. 0 3533 5483-91 โทรสาร 0 3533 5492 จำนวน 158 ห้อง ราคา 500 - 1,800 บาท 
• ศูนย์ฝึกปฏิบัติการวิชาชีพในธุรกิจสวนหลวง (อาคารสวนหลวง) มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนครศรีอยุธยา  ตั้งอยู่ในเกาะเมืองตรงข้ามพิพิธภัณฑ์  ถ.โรจนะ โทร. 0 3524 5537 จำนวน 25 ห้อง ราคา 400 - 600 บาท 
• อยุธยา เกสท์เฮ้าส์ 16/2 ถ.นเรศวร โทร. 0 3523 2658 จำนวน 19 ห้อง ราคา 120 - 450 บาท 
• บ้านคุณพระ (ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงข้ามโรงแรมกรุงศรีริเวอร์) 48 หมู่ 3 ต.ห้วยรัตนชัย ถ.อู่ทอง โทร. 0 3524 1978, 0 1844 2297 จำนวน 14 ห้อง ราคา 150 - 350 บาท อีเมล์ : bannkunpra@ai-ayutthaya.com 

รถยนต์  จากกรุงเทพฯ สามารถเดินทางไปจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้หลายเส้นทางดังนี้  1. ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) ผ่านประตูน้ำพระอินทร์ แล้วแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 32 เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 309 เข้าสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 2. ใช้ทางหลวงหมายเลข 304 (ถนนแจ้งวัฒนะ) หรือทางหลวงหมายเลข 302 (ถนนงามวงศ์วาน) เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 306 (ถนนติวานนท์) แล้วข้ามสะพานนนทบุรีหรือสะพานนวลฉวี ไปยังจังหวัดปทุมธานีต่อด้วยเส้นทาง ปทุมธานี-สามโคก-เสนา (ทางหลวงหมายเลข 3111) เลี้ยวแยกขวาที่อำเภอเสนา เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 3263 เข้าสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา  3. ใช้เส้นทางกรุงเทพฯ-นนทบุรี-ปทุมธานี ทางหลวงหมายเลข 306 ถึงทางแยกสะพานปทุมธานี เลี้ยวเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 347 แล้วไปแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 3309 ผ่านศูนย์ศิลปาชีพบางไทร อำเภอบางปะอิน เข้าสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 

รถไฟ การเดินทางไปจังหวัดพระนครศรีอยุธยาสามารถใช้บริการรถไฟโดยสารที่มีปลายทางสู่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งมีบริการทุกวัน การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. 0 2223 7010, 0 2223 7020, 1690 หรือที่เว็บไซต์ www.railway.co.th   

รถโดยสารประจำทาง  บริษัท ขนส่ง จำกัด มีบริการรถโดยสารธรรมดาและรถโดยสารปรับอากาศไปจังหวัดพระนครศรีอยุธยาทุกวัน วันละหลายเที่ยว โดยออกจากสถานีขนส่งหมอชิต โทร. 0 2936 2852-66 หรือที่เว็บไซต์ www.transport.co.th