ลำคลองงู กาญจนบุรี

ลำคลองงู กาญจนบุรี

ลำคลองงู กาญจนบุรี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เปิดถ้ำเมืองกาญจน์พิสูจน์ทราบ "เสาหินที่สูงที่สุดในโลก"

ความมืดมิดยังคงปิดบังซ่อนเร้นให้เป็นปริศนาว่า...ทำไมที่แห่งนี้ถึงเป็นที่หนึ่งในโลก

โดย...นุ บางบ่อ 04/06/2546

สองปีก่อนทีมงานสบายดอทคอมได้นำเสนอเรื่องราว และภาพของถ้ำลึกลับแห่งหนึ่ง ในจังหวัดแม่ฮ่องสอนไปแล้ว ณ ถ้ำแห่งนั้นเราได้พบกับความงดามอย่างน่าอัศจรรย์ ที่ธรรมชาติได้บรรจงซ่อนเร้นไว้ภายในพื้นพิภพอย่างน่าอัศจรรย์

มาถึงวันนี้กระแสเสียงการต่อต้าน การเดินทางเข้าไปชมความงดงามภายในถ้ำนั้นมีมากมายเหลือเกิน ผมรู้สึกดีใจที่หลายคนมีความสำนึกรักษ์ธรรมชาติที่เราไม่ควรไปแตะต้อง เพื่อให้ความงดงามของโลกใต้พิภพนั้นได้ดำรงอยู่อย่างสมบูรณ์ตลอดไปชั่วนิรันด์

ลำคลองงู กาญจนบุรี แต่เรื่องที่ผมจะนำเสนอต่อไปนี้ ผมมิได้มีความต้องการนำเสนอเพื่อให้เกิดกระแสการท่องเที่ยว หรือแนะนำให้ไปชมกันจนทำให้เกิดความเสียหาย หรือการทำลายธรรมชาติโดยการรู้เท่าไม่ถึงการ ทั้งโดยการตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจก็ตาม ผมเพียงต้องการนำเสนอเพื่อให้รับรู้โดยทั่วกันว่า ประเทศไทยของเรานั้นมีความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ ที่ติดอันดับหนึ่งของโลกที่ซ่อนตัวอยู่ ผมเพียงต้องการนำภาพความงดงามเหล่านั้นมาให้ชมกัน แทนการเดินทางที่ยากลำบาก ซึ่งบางคนอาจจะไม่พร้อมที่จะเดินทางเข้าไป และในวันนี้สถานที่ที่ผมจะกล่าวถึงต่อไปก็ได้ปิดประตูไปแล้ว โดยไม่มีใครเลยจะรู้ว่าประตูสองสามบานนี้จะเปิดอีกเมื่อไหร่
เพื่อเป็นการป้องกันการทำลายธรรมชาติโดยการรู้เท่าไม่ถึงการ และเพื่อความปลอดภัยของทีมงาน เราได้ขอความร่วมมือไปยังผู้เชี่ยวชาญการสำรวจถ้ำ โดยมีคุณอนุกูล เป็นหัวหน้าทีม ผู้ซึ่งเคยร่วมงานกับทีมดีนสมาร์ท นักสำรวจถ้ำชาวอังกฤษ และเจ้าหน้าที่ป่าไม้จากอุทยานแห่งชาติลำคลองงู จ.กาญจนบุรี คอยดูแลเรื่องความปลอดภัย ลำคลองงู กาญจนบุรี
ลำคลองงู กาญจนบุรี อุทยานแห่งชาติลำคลองงู ตั้งอยู่ในบริเวณเทือกเขาตะนาวศรีติดต่อกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร และอุทยานแห่งชาติเขาแหลม มีเนื้อที่ประมาณ 375,500 ไร่ สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสลับซับซ้อน ถูกปกคลุมด้วยป่าดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณ ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำที่สำคัญ เช่น ห้วยทองผาภูมิ ห้วยเกริงกระเวีย ห้วยคลีตี้ และห้วยลำคลองงู ลำคลองงู กาญจนบุรี

ในส่วนของห้วยลำคลองงูนั้น เป็นลำห้วยที่ไหลคดเคี้ยวไปมาไหลผ่านพื้นที่ที่เป็นเขาหินปูน และถ้ำมากมาย ซึ่งมีหินงอกหินย้อยที่สวยงาม ควรค่าแก่การศึกษาและอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างยิ่ง

ในทริปนี้ ผมและคณะได้วางแผนการเดินทางเพื่อการถ่ายภาพไว้ท้งหมดสามถ้ำ อันได้แก่ ถ้ำนกนางแอ่น ถ้ำเสาหิน และถ้ำน้ำตก ซึ่งเราจะใช้เวลาหนึ่งวันต่อหนึ่งถ้ำ โดยใช้ที่ทำการอุทยานแห่งชาติลำคลองงูเป็นศูนย์กลางในการกลับมาพัก และเตรียมอาหารของทุกวัน

ลำคลองงู กาญจนบุรี การเดินทางไปในแต่ละถ้ำนั้นมีลักษณะคล้ายๆ กัน คือเริ่มจากรถยนต์ และควรเป็นรถกระบะที่ขับเคลื่อนสี่ล้อ เพราะถนนส่วนใหญ่จะเป็นถนนลำลอง เป็นเพียงทางแคบๆ ลัดเลาะเข้าไปในป่า บางช่วงนักเดินป่าก็ต้องลงมาช่วยกันออกแรงเข็นให้รถฝ่าบ่อโคลนทะยานต่อไปข้างหน้า อุปกรณ์สัมภาระของแต่ละคนต้องจัดเตรียมขึ้นรถไปให้พร้อม แต่ก็ไม่มากมายอะไรนัก เนื่องจากแต่ละคนรู้ดีว่ารถยนต์ไม่สามารถไปส่งได้ถึงปากถ้ำ จากจุดจอดรถต้องเดินเท้าขึ้นเขาบ้างลงเขาบ้าง บางครั้งต้องลุยข้ามลำห้วย ฉะนั้นอุปกรณ์สำคัญที่ทุกคนต้องมีคือ ไฟฉาย อุปกรณ์กันน้ำ เสื้อชูชีพ และอาหาร ลำคลองงู กาญจนบุรี
ลำคลองงู กาญจนบุรี ในสามวันของการเดินทางเข้าไปถ่ายภาพนั้น ดูเหมือนเราจะผูกพันกับอุปกรณ์พวกนี้ เนื่องจากเราต้องใช้ทุกวัน ในวันแรกผมรู้สึกตลกตัวเองยังไงชอบกลอยู่ ที่ต้องมาใส่เสื้อชูชีพแล้วเดินป่า ดูแล้วมันไม่ค่อยจะเข้ากันสักเท่าไร มันน่าจะใช้เมื่ออยู่บนเรือในทะเลเสียมากกว่า แต่เมื่อเดินมาเจอลำห้วยที่มีน้ำไหลเชี่ยวขวางอยู่ตรงหน้า แล้วจึงได้ใช้ประโยชน์จากมัน การเที่ยวเชิงผจญภัยเป็นเรื่องที่ไม่ควรประมาทเป็นอย่างยิ่ง ทุกก้าวการเดินทางอาจะเกิดอุบัติเหตุได้เสมอ กระแสน้ำที่เชี่ยวกราดเข้ามาบางช่วงสามารถพัดพาร่างที่เหนื่อยล้าจากการเดินให้ไหลไปตามกระแสได้ไม่ยาก
วันแรก ถ้ำนกนางแอ่น จากจุดจอดรถเราต้องเดินกันต่ออีกประมาณ 3 กม. จึงมาถึงบริเวณที่เรียกว่า คาสต์วินโดว์ ที่ 4 (Kast Window) คาสต์วินโดว์ มีลักษณะคล้ายเป็นหน้าต่าง หรือปล่องที่ยุบตัวลง ถ้ำนกนางแอ่นนี้จะประกอบไปด้วยคาสต์วินโดว์ทั้งหมด 6 จุด ด้วยกัน สำหรับจุดที่ 1 3 นั้น ต้องใช้เวลาค่อนข้างมากเพราะต้องผ่ากระแสน้ำเข้าไปในถ้ำที่มืดสนิท แม้แต่เจ้าหน้าที่นำทางยังคงเกรงเรื่องเวลา หากว่าเราออกจากถ้ำในช่วงเวลาที่เย็นมากเกินไป ในทริปนี้คงต้องมีการเดินป่ากลางคืนเกิดขึ้นแน่นอน ลำคลองงู กาญจนบุรี
ลำคลองงู กาญจนบุรี ฉะนั้นเราจึงเริ่มต้นกันที่คาสต์วินโดว์ที่ 4 โดยการเดินลงไปในลำห้วยลำคลองงูแล้วลอยคอไปตามกระแสน้ำให้พัดไหลไป นับเป็นการเดินทางที่สนุกและประหยัดพลังงานได้มากทีเดียว หากเป็นการเดินคงต้องใช้เวลาและพลังงานมากกว่า เราจึงได้ใช้ประโยชน์ของเสื้อชูชีพเป็นครั้งแรกในทริปนี้
บางช่วงที่กระแสน้ำไหลแรง เราต้องเปลี่ยนจากการล่องเป็นการเดินลัดเลาะไปตามริมๆ ลำห้วย สายน้ำลำคลองงูช่วงนี้มีความงดงาม ต้นไม้มากมายให้ความร่มรื่นฉ่ำเย็น ตามผนังและเพดานถ้ำมีหินงอกหินย้อยรูปร่างแปลกตาและมีขนาดใหญ่ ความมหัศจรรย์ที่อยู่รอบตัวตอนนี้ ทำให้ผมเริ่มรู้สึกหายเหนื่อยจากการเดินทาง ลำคลองงู กาญจนบุรี

ผมมีเวลาชื่นชมกับธรรมชาติรอบตัวไม่มากนัก เวลาของวันนี้กำลังใกล้จะหมดไป เราทุกคนต้องรีบเดินกลับมาที่จุดจอดรถ เพื่อเดินทางกลับที่ทำการอุทยานฯ ที่นั่น อาหาร และ เต้นท์ รอเราอยู่

ลำคลองงู กาญจนบุรี วันที่สอง ถ้ำเสาหิน รอยแผล และรอยฟกช้ำตามแขนและขา ที่เป็นของที่ระลึกจากถ้ำนกนางแอ่น ทำให้รู้สึกเป็นกังวลอยู่บ้าง วันนี้เราต้องเดินลงเนินกัน 4 กม. คุณกื๋อ หรือ คุณอนุกูล นักสำรวจถ้ำรุ่นเก๋าเอ่ยปากให้ทุกคนเตรียมใจ สิ่งที่ทำให้ผมต้องคิดหนักคือ วันนี้คงต้องรักษาขาของตัวเองให้ดีที่สุด เพราะ 4 กม. ถึงแม้ว่าเป็นการเดินลงเขา เพื่อเข้าสู่ปากถ้ำเสาหิน ที่ดูเหมือนจะอยู่ในหุบลึกโดยมีทิวไม้ใหญ่ปกปิดอยู่ จะเป็นเรื่องง่าย แต่หากลองคิดต่ออีกนิดถึงขากลับขึ้นมา โดยใช้เส้นทางเดิม และในขณะที่ร่างกายอ่อนเพลียจากการที่ต้องฝ่ากับกระแสน้ำภายในถ้ำแล้วนั้น เป็นเรื่องที่น่าห่วงอยู่ไม่น้อย
ถ้ำเสาหิน ดูเหมือนจะเป็นไฮไลท์ของทริปนี้ สิ่งที่เคยความลับมืดสนิทภายในถ้ำแห่งนี้ ได้ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อประมาณ 10 ปี ที่ผ่านมานี้เอง ในยุคแรกมีผู้ที่ต้องการเข้าไปสำรวจความมหัศจรรย์ ที่เล่ากันว่า ณ ถ้ำแห่งนี้ มีสายน้ำลำคลองงูไหลผ่าน ซึ่งเป็นสายเดียวกับที่ถ้ำนกนางแอ่น และภายในถ้ำบริเวณเพดาน มีน้ำที่ผสมกับสารหินปูนหยดย้อยลงมาเป็นเวลานับล้านๆ ปี ก่อตัวไปเป็นเสาหิน มีลวดลายงดงามคล้ายกับกลีบดอกไม้ที่กำลังเบ่งบาน ก่อตัวเป็นแท่ง เป็นเสาสูงจรดเพดานถ้ำ หลายคนเคยพยายามเดินทางเข้ามาพิสูจน์แต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะต้องประสบกับกระแสน้ำตกที่ไหลเชี่ยวบริเวณปากถ้ำ ลำคลองงู กาญจนบุรี

การเดินทางฝ่ากระแสน้ำเข้าไปจึงเป็นเรื่องยากลำบาก และท้าทายนักสำรวจคนแล้วคนเล่า จนมาถึงวันหนึ่งคณะของทีมดีนสมาร์ท นักสำรวจถ้ำชาวอังกฤษ และคณะของเจ้าหน้าที่ป่าไม้จากอุทยานฯ ลำคลองงู ก็ประสบความสำเร็จ ในปี 2538 ที่ผ่านมานี่เอง

ลำคลองงู กาญจนบุรี จากที่ทำการอุทยานฯ เรามุ่งหน้าลงไปทางทิศใต้ รถกระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ ของเพื่อนร่วมทางต้องบุกป่าฝ่าโคลนอยู่นับชั่วโมงกว่าจะมถึงจุดจอดรถจำเป็น (จำเป็นต้องจอด) จากนั้นเราต้องเดินเท้าต่อคล้ายๆ กับการเดินลงไปในหุบเขา ที่มีลำห้วยเป็นจุดหมายอยู่เบื้องล่าง
หมดระยะการเดินป่า ช่วงสุดท้ายก่อนถึงปากถ้ำเป็นสายน้ำตก ไหลออกมาจากปากถ้ำ ซึ่งก็คือสายน้ำลำคลองงู นี่เอง ความตื่นเต้นที่จะได้พบกับสิ่งมหัศจรรย์ ซึ่งผมเองก็พึ่งเดินทางมาที่นี่เป็นครั้งแรก เคยเห็นก็เพียงในภาพที่ได้เสาะหาข้อมูลก่อนเดินทางก็เท่านั้นเอง ทำให้ต้องรีบก้าวตามคนอื่นๆ ข้ามสายน้ำตกไป ตอนนี้อุปกรณ์ทุกอย่างที่ติดตัวมาได้ใช้งานหมดทุกชิ้น ตั้งแต่เสื้อชูชีพ ถุงกันน้ำ เชือก สนับแข้ง และต่อไปก็คงเป็นไฟฉาย ลำคลองงู กาญจนบุรี
ลำคลองงู กาญจนบุรี การว่ายน้ำฝ่ากระแสน้ำภายในถ้ำเป็นเรื่องที่ค่อนข้างลำบาก บางช่วงลึกจนหยั่งไม่ถึง บางช่วงตื้นจนยืนได้อย่างสบายๆ แต่ที่สม่ำเสมอคือ ความเย็นยะเยือก และความมืดมิด ที่เราไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่รอบตัวได้ถนัดชัดเจนนัก สำหรับคนที่มีความเชื่อในเรื่องสัมผัสที่ 6 อย่างผมแล้ว สภาพเหตุการณ์ในตอนนี้ทำให้คิดถึงความลี้ลับไปต่างๆ นานา หากยังนึกไม่ออกว่าผมคิดถึงอะไร หลังข่าวภาคค่ำวันพุทธ พฤหัส ลองเปิดช่อง 7 สี ทีวีของคุณดูนะครับ เกล็ดมรกต อย่างไงอย่างงั้นเลย ....!!?!!?!

นอกจากการทวนกระแสน้ำแล้ว บางช่วงเราต้องเดินไปบนหินที่มีเหลี่ยมมุมคมกริบ หากลื่นล้มลงไปตอนนี้คงได้เลือดตกยางออกกันบ้าง ฉะนั้นทุกก้าวควรเดินทับรอยเท้าเก่า หรือเดินตามเจ้าหน้าที่ นอกจากจะปลอดภัยแล้ว ยังเป็นการช่วยป้องกันการทำลายสมดุลในถ้ำได้อีกด้วย

ในความมืดมิด แสงจากไฟฉายติดหมวกนิรภัยของทุกคน กวัดแกว่งไปมา บ้างลำแสงกระทบเข้ากับหินย้อยบางจุด เกิดเป็นประกายระยิบแวววาวราวกับอัญมณี บ้างก็ก้มมองลงที่พื้นเพื่อหาสิ่งมีชีวิต บางครั้งลำแสงก็กระทบกับผิวน้ำที่ไหลเชี่ยว ทำให้เห็นถึงความรุนแรงของกระแสน้ำที่ดูเหมือนเป็นเกราะป้องกันการเข้ามาเยือน ตอนนี้ผมเริ่มมีความหวาดระแวงมากขึ้นเรื่อยๆ การทำงานในความมืดเป็นเรื่องที่ลำบากเอาเรื่อง ไหนจะต้องดูแลตัวเอง และอุปกรณ์ และจะต้องรักษาเวลาเพื่อป้องกันการออกจากถ้ำช้าไป อันจะนำความยากลำบากมากยิ่งขึ้น ลำคลองงู กาญจนบุรี
ลำคลองงู กาญจนบุรี ในขณะที่ผมกำลังเพลลิดเพลินกับกับริ้วหินปูนตามผนังถ้ำอยู่ .. เพื่อนๆ ในคณะสามสี่คนกำลังยืนช่วยกันส่องแสงขึ้นๆ ลงๆ ไปที่จุดๆ หนึ่ง มันช่างเป็นภาพที่น่าทึ่งมากกว่าความงดงาม เสาหินที่ว่ายาวๆ ในชีวิตผมที่เคยเห็นมา ก็คงเป็นเสาเข็มคอนกรีตที่เขาใช้ปั้นจั่นตอกลงไปในพื้นดินก่อนการสร้างอาคาร แต่ที่นี่...ลำคลองงู...เสาหินปูน ที่ไม่มีความแข็งแรงอะไรมากนัก ถูกธรรมชาติก่อตัวด้วยหยดน้ำที่ผสมสารหินปูน ก่อตัวขึ้นในความมืดนับเป็นเวลาล้านๆ ปี หรือมากกว่านั้นก็ไม่หารู้ได้ หากยอดของเสาหินต้นนี้ไม่ไปชนเพดานถ้ำเสียก่อน มันคงจะเจริญเติบโตสูงขึ้นไปเรื่อยๆ
จากบันทึกของดีนสมาร์ท บอกว่า เสาหิน ที่ถ้ำแห่งนี้ เป็นเสาหินที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีการสำรวจมา จากการวัดความสูงของทางเจ้าหน้าที่เมื่อครั้งค้นพบใหม่ๆ นั้น วิธีแรกใช้วิธีทางเลขาคณิตวัด และวิธีที่สองคือการใช้ลูกโป่งอัดแก๊ส ผูกเชือกแล้วปล่อยให้ลอยขึ้นไป ทั้งสองวิธีได้ความสูงใกล้เคียงกันคือ 62.5 ม. นับเป็นสถิติความสูงของเสาหิน ที่ยังไม่มีเสาหินในถ้ำไหนๆ ในโลก ที่ออกมายืนยันว่า มีความสูงมากกว่านี้ และในปีนี้ ททท. ได้นำเสาหิน ณ ถ้ำแห่งนี้ บรรจุลงเป็นหนึ่งใน Unseen In Thailand อีกด้วย ลำคลองงู กาญจนบุรี
ลำคลองงู กาญจนบุรี ขาออกจากถ้ำเป็นเรื่องง่ายกว่าขาเข้า เราใช้วิธีเดิมคือการลอยคอในช่วงที่มีกระแสน้ำไหล ตอนนี้ผมลืมเรื่องราวหรือสิ่งเร้นลับต่างๆ หมดสิ้นแล้ว เพราะก้อนหินตรงหน้านั้นน่ากลัวกว่าเยอะ .... หลังจากที่ออกมาถึงปากถ้ำกันอย่างปลอดภัยกันทุกคน ต่างก็เล่นน้ำตกบริเวณหน้าถ้ำเป็นการพักผ่อนหย่อนใจไปในตัว การเดินทางในความมืดสร้างความเครียดความอึดอัดได้อย่างไม่ทันรู้ตัว เมื่อพวกเรามาเจอแสงสว่างและความสดชื่นเย็นฉ่ำอย่างน้ำตกหน้าถ้ำเสาหินแห่งนี้ จึงเป็นเรื่องครื้นเครงสนุกสนานสบายใจกันอย่างน่าจดจำ.....

วันที่สาม ถ้ำน้ำตก สองวันที่ผ่านมา การเดินทางเข้าชมถ้ำทั้งสองทำให้ขาซ้ายของผมแย่ลงไปเยอะ ขณะที่เพื่อนๆ ทุกคนกำลังเตรียมตัวกันไปถ้ำน้ำตก ถ้ำที่มีความเปราะบางสูง ถ้ำที่ทางอุทยานฯ ไม่ค่อยปล่อยให้เข้าไปได้ง่ายๆ นัก และในวันนี้ วันที่ผมเขียนเรื่องอยู่นี้ ถ้ำน้ำตก ก็ได้ปิดประตูแบบปิดตายไปแล้ว โดยจะไม่เปิดให้ใครได้เข้าไปอีก

เช้าตรู่ผมถอดใจเรื่องการเดินทางเข้าถ้ำน้ำตก เพราะเกรงว่าขาข้างซ้ายจะระบมขึ้นมาอีก และจะเป็นการสร้างความลำบากให้แก่เพื่อนๆ และเจ้าหน้าที่ จึงตัดสินใจนอนในเปลดูเพื่อนๆ เตรียมตัวออกเดินทางกันอีกครั้ง ... หลังมื้อเช้าผ่านไป ผมได้รับคำแซว และชักชวนจากเพื่อนๆ ทุกคน แต่อะไรก็ไม่น่าสนใจเท่าคำว่า ชุดนี้เป็นชุดสุดท้ายแล้วนะ เพราะทางอุทยานฯ จะไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปอีก เท่านั้นแหละ...ไม่ต้องคิดอีกต่อไปให้เสียเวลา ผมตัดสินใจพรวดพราดเก็บอุปกรณ์ลงถุงกันน้ำอีกครั้ง พยายามระงับอาการปวดขาข้างซ้ายสัก 1 วัน .... โอยๆ ... แล้วก็เดินโขยกเขยกตะเกียกตะกายขึ้นรถตามไปกับเขาอีกครั้ง

เป็นถ้ำที่มีการเดินทางเหมือนกับถ้ำทั้งสองวันก่อน คือในช่วงแรกใช้รถขับไปตามถนนลำลอง แล้วต่อด้วยการเดินป่า แต่วันนี้เราเดินกันน้อยหน่อย เพราะรถมาส่งได้ไกลกว่าที่คิดไว้ การที่รถมาส่งได้ไกลๆ อย่างนี้มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือทำให้ระยะทางการเดินเท้าลงไปในหุบของเราสั้นลงหน่อย เป็นการประหยัดพลังงาน แต่ข้อเสียคือ เจ้าของรถต้องเสียตังค์ไปกับการดูแลรักษารถคันเก่ง ที่ตลอดทางทั้งโคลนไปอัดในผ้าเบรค กิ่งไม้ และหนามที่คอยขีดข่วนจนเป็นรอยเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจอยู่ไม่น้อย ลำคลองงู กาญจนบุรี

พูดถึงเรื่องรถ เราไม่ได้มากันแค่รถกระบะคันเดียว ถึงแม้จำนวนทีมงานในวันนี้จะไม่ถึงสิบคน แต่เรามีรถมาด้วยกันสองคัน แต่อีกคันที่ว่านั้นเป็นรถตู้ คงจะไม่เหมาะที่จะพาเข้าป่าอย่างนี้ และเป็นเรื่องบังเอิญเหลือเกิน ที่รถตู้คันนั้นได้เสียตั้งแต่วันมาถึง และได้ฝากไว้ที่บ้านห้วยอูล่องรีสอร์ท รีสอร์ทที่ให้ความช่วยเหลือหลายอย่างในทริปนี้ เราจึงเหลือรถที่เป็นกำลังสำคัญเพียงคันเดียวคือรถกระบะ

ลำคลองงู กาญจนบุรี ถ้ำน้ำตกอยู่ทางด้านทิศเหนือ อยู่เหนือถ้ำทั้งสองที่ได้ไปมา หลังจากเดินลงมาถึงลำห้วยลำคลองงู ต้องเดินย้อนกระแสน้ำขึ้นไป ช่วงนี้ถ้าใครเหนื่อยก็โดดลงไปในลำห้วยนั่นแหละ น้ำที่ใสเย็นช่วยดับความร้อนได้ดีนัก ปากทางเข้าถ้ำน้ำตกอยู่ทางขวามือ เห็นเป็นน้ำตกไหลลงมารวมกับลำคลองงู ดูเป็นเพียงน้ำตกเล็ก มีต้นไม้ปิดปากถ้ำเล็กๆ ไว้ได้อย่างมิดชิด ต้องเดินไปใกล้ๆ ปากถ้ำจึงได้เห็นว่ามีทางเข้าไป ลำคลองงู กาญจนบุรี
ลำคลองงู กาญจนบุรี ปากถ้ำค่อนข้างแคบ เพดานถ้ำเตี้ย บางช่วงต้องคลาน ทุกคนต้องระวังตัวกันอย่างที่สุด เพราะถ้ำแห่งนี้เป็นถ้ำที่เปราะบาง ยังมีความสมบูรณ์ของหินปูนค่อนข้างมาก เราต้องเดินทับรอยเก่า ค่อยเหยียบรอยเท้ากันไปทีละคน คนหน้าและคนหลังต้องคอยดูแลความเรียบร้อยของคนที่เดินกลางๆ ป้องการการไปถูกหินที่ย้อยลงมาอย่างไม่ตั้งใจ การเดินทางเป็นไปด้วยความล้าช้า ภายในถ้ำมีจุดที่งดงามหลายจุด มีทางแยกไปทางซ้ายมือ และขวามือ เราเลือกทางขวา เพราะเป็นบริเวณที่มีน้ำตกอยู่ใกล้ที่สุด หากไปทางซ้าย คงต้องเดินทางกันอีกไกลมากทีเดียว ลำคลองงู กาญจนบุรี
ลำคลองงู กาญจนบุรี จากบันทึกของดีนสมาร์ท กล่าวว่า ถ้ำน้ำตกแห่งนี้ มีน้ำตกภายในถ้ำอยู่ด้วยกันถึง 17 ชั้น เป็นถ้ำที่มีความน่าสนใจมากถ้ำหนึ่ง ผมเพียงแค่เดินมาถึบริเวณชั้นแรกๆ ก็พบน้ำตกที่มีความสูงถึง 7 ม. ก็รู้สึกประทับใจ และพร้อมที่จะกลับออกไปด้วยความประทับใจแล้ว
ลำคลองงู กาญจนบุรี เราค่อยๆ เดินกลับออกมาด้วยความระมัดระวังเหมือนกับขาเข้าไป ระวังตัวของเราเองที่จะได้รับบาดเจ็บ และระวังธรรมชาติจะได้รับบาดเจ็บเช่นกัน ทั้งสามถ้ำแห่งลำคลองงูนั้น ล้วนมีความงดงามไม่แพ้กัน ในป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ยังมีถ้ำอีกมากมายนับร้อยถ้ำ แต่ละถ้ำก็ยังคงมีความงดงาม ลำคลองงู กาญจนบุรี
ลำคลองงู กาญจนบุรี สามถ้ำที่ผมได้กล่าวถึงนี้ดูเหมือนกับเป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น ยังมีเรื่องราวเร้นลับอีกมากมาย ที่ซ่อนอยู่ในร่มเงาไม้ใหญ่ ในถ้ำที่มืดสนิท ในสายน้ำ หากคุณลองเดินเข้าไปหามันอย่างเงียบๆ แล้วใช้ความคิดอันบริสุทธิ์ไร้เล่ห์เหลี่ยม คุยกับสิ่งที่คุณต้องการอยากจะรู้ ผมมั่นใจว่า คุณจะได้รับคำตอบเข้ามาทางความคิด แล้วไปตกตะกอนฝังรากอยู่ในจิตสำนึกของคุณเองอย่างไม่ยากนัก ลำคลองงู กาญจนบุรี

ผมเขียนเรื่องนี้เพื่อให้คุณผู้อ่าน ผู้ที่สนใจเกิดความบันเทิง เผื่อว่าโอกาสหน้าทางอุทยานฯ จะมีมติเปิดให้เข้าไปเที่ยวกันจะได้ใช้เป็นข้อมูลพื้นฐาน และเผื่อว่าทางอุทยานฯ จะไม่เปิดให้เข้าไปชมอีก เรื่องนี้คงเป็นเรื่องที่เก็บไว้ดูเมื่อคราวคิดถึง หรือไม่ อีกอย่างผมเขียนเพื่อผู้ที่ไม่สามารถเดินทางไปด้วยตนเองได้ อาจจะด้วยปัญหาต่างๆ เรื่องนี้ก็คงเป็นเรื่องที่นำมาบอกเล่าแทนการเดินทางไปเอง

พบกันใหม่ทริปหน้า

นุ บางบ่อ

ขอขอบคุณ อุทยานแห่งชาติลำคลองงู จ.กาญจนบุรี คุณอนุกูล และทีมสำรวจถ้ำจาก Hyperventure คุณจิ๊ป (รถกระบะตลอดการเดินทาง) คุณโจ บ้านห้วยอูล่องรีสอร์ท กล้องดิจิตอลจาก Canon

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook