แพผาผึ้ง รีสอร์ท กาญจนบุรี

แพผาผึ้ง รีสอร์ท กาญจนบุรี

แพผาผึ้ง รีสอร์ท กาญจนบุรี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โดย...รีสอร์ทรีวิว

เมื่อประมาณต้นปีที่ผ่านมา ทีมงานรีสอร์ทรีวิว ได้มีโอกาสไปรีวิวรีสอร์ท แถวๆ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี มาแห่งหนึ่ง นั่นก็คือ สวนไทรโยค รีสอร์ท เป็นรีสอร์ทที่ตั้งอยู่ในทำเลที่สวย ริมแม่น้ำแควน้อย ติดกับทางรถไฟสายมรณะ ทางรถไฟที่ได้มาจากการแลกด้วยเลือดเนื้อ และชีวิต ของเหล่าเชลยศึก ในบริเวณนั้นมีภูมิทัศน์ที่งดงาม และอยู่ไม่ไกลจากตัวจังหวัดกาญจนบุรีมากนัก

 

หลายเดือนผ่านไป ทีมงานรีสอร์ทรีวิว มีโอกาสได้ไปเยือนจังหวัดกาญจนบุรีอีกครั้ง ครั้งนี้เราเดินทางกันไกลออกไปอีกหน่อย แต่ขอบอกเลยครับว่า ถึงแม้จะไกลจนได้ชื่อว่าสุดแดนตะวันตก แต่ธรรมชาติที่ได้พบเห็น และการต้อนรับอันแสนจะอบอุ่นนั้น ทำให้เราหายเหนื่อยจากการที่ได้ดั้นด้นเดินทางไปกันเลยทีเดียว

สถานที่ที่จะมาแนะนำกันในวันนี้หลายคนออกจะคุ้นชื่อกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว เพราะเป็นรีสอร์ทที่ได้เปิดให้บริการกันมานาน จนมีชื่อเสียงและความนิยมเป็นที่รู้จักกันไปทั่ว แพผาผึ้ง รีสอร์ท เป็นรีสอร์ทแบบแพพัก ที่ตั้งอยู่ในทะเลสาบวชิราลงกรณ์ หรือ ในชื่อเดิมที่เรียกกันจนคุ้นเคย คือ ทะเลสาบเขาแหลม อยู่ในพื้นที่คาบเกี่ยวกันระหว่างสองอำเภอคือ อำเภอทองผาภูมิ และ อำเภอสังขละบุรี

เนื่องจาก แพผาผึ้งรีสอร์ท มีทำเลที่ตั้งอยู่กลางทะเลสาบ ทีมีพื้นที่คาบเกี่ยวอยู่ระหว่างสองอำเภอชื่อดัง เรื่องทิวทัศน์ความงดงาม และความเงียบสงบ ที่นี่จึงได้เปรียบ การเดินทางจากกรุงเทพฯ ถึงแม้จะไกลไปสักนิด แต่สองข้างทางตั้งแต่ออกจากตัวจังหวัดกาญจนบุรี มาก็ทำให้พวกเราได้เพลิดเพลินไปตลอด ยิ่งเมื่อเดินทางมาถึงอำเภอทองผาภูมิแล้ว ต่อไปเราต้องเปลี่ยนจากรถ มาเป็นเรือด่วน ตรงนี้แหละครับความสนุกตื่นเต้น เกิดขึ้นพร้อมๆ กับความประทับใจในธรรมชาติสองฟากฝั่งที่ได้พบเห็น
ขณะนี้พวกเรากำลังนั่งเรืออยู่เหนือผืนป่าที่จมอยู่ใต้น้ำ หลังการสร้างเขื่อนพื้นที่ป่าในเขตอำเภอทองผาภูมิ และสังขละบุรี บางส่วนต้องจมอยู่ใต้ผืนน้ำใสสะอาดแห่งนี้ ภูเขา เนินเขา มากมายที่ระดับน้ำไม่สามารถท่วมถึง ยังคงเหลือส่วนยอดพ้นผิวน้ำให้เห็นเป็นเกาะแก่งนับร้อยพัน ไม้ใหญ่น้อยเติบโตเบียดเสียดกันเขียวชอุ่มไปสุดตา แล้วเกาะใดแพไหนเล่าที่เป็นจุดหมายปลายทางของเราในวันนี้ ผมคิดค้นหาในระหว่างที่สายตากำลังเพลิดเพลินกับมวลหมู่เกาะในทะเลสาบกว้างใหญ่แห่งนี้
ไม่นานนักระหว่างจิตใจที่กำลังเพลิดเพลินเตลิดละล่องไปบนผิวน้ำ หน้าผาหินปูนมหึมาตัดสูงเสียดฟ้า ได้มาปรากฏอยู่เบื้องหน้าเป็นแนวบังคลื่นลมอยู่ทางทิศตะวันออก ส่วนทางด้านทิศตะวันตกมีเรือนแพพัก มีท่าน้ำให้ลงเล่น มีเรือนอาหารลอยน้ำอยู่ใกล้ๆ กัน ถัดไปบนฝั่งเป็นเกาะมีสวนดอกไม้สีเหลืองสดใส นี่แหละค่ะ เกาะผาผึ้ง และแพผาผึ้ง จุดหมายปลายทางของเราในวันนี้ สาวสวยคนหนึ่งที่นำพาเรามา บอกเราทุกคนให้รู้ว่า เราได้มาถึงแล้ว แพผาผึ้ง แพสุดแดนตะวันตก
นอกจากความงดงาม และความเงียบสงบ สมกับเป็นวันแห่งการพักผ่อน ที่เราได้รับจากเกาะผาผึ้งแห่งนี้แล้ว ด้านอาหารการกิน จากฝีมือแม่ครัวชาวแพแห่งนี้ ผมต้องขอยกนิ้วให้อีกเช่นกัน ปลาตัวโตๆ ที่ว่าหายากอย่าง ปลาชะโด ที่นี่ก็มีไว้รอให้ท่านได้ลองลิ้ม ในเมนู ปลาชะโดเผา และ ต้มยำปลาน้ำจืดอื่นๆ อีกหลายเมนู ที่รอให้ท่านไปพิสูจน์ด้วยตัวเอง
ผมอยากจะใช้ชีวิตนั่งๆ นอนๆ และก็เล่นน้ำ พายเรือ เดินป่า อยู่ที่แพผาผึ้ง อีกสักสองสามวัน ที่นี่ทำให้ผม และทีมงาน มีความรู้สึกได้ว่ามาพักผ่อน แต่ก็ทำไม่ได้เพราะพรุ่งนี้ทางแพผาผึ้งก็มีโปรแกรมเดินทางท่องเที่ยวต่อ ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน คือ การนั่งเรือต่อไปยังอำเภอสังขละบุรี ไปชมวัดจมน้ำ วัดวังวิเวการามเดิม ที่หลวงพ่ออุตมะ เกจิอาจารย์ชาวมอญ ได้สร้างไว้ก่อนการสร้างเขื่อนวชิราลงกรณ์ ซึ่งเมื่อภายหลังการสร้างเขื่อนฯ ทำให้วัดแห่งนี้จมลงสู่ใต้บาดาล กลายเป็นพุทธสถานที่ดูน่าอัศจรรย์เมื่อยามน้ำลดระดับลง ให้นักท่องเที่ยวอย่างเราๆ ได้ยลลวดลายปูนปั้น ตามหน้าต่างประตูที่ยังคงเหลืออยู่ไว้เป็นอนุสรณ์ ณ วัดเก่าแห่งนี้ ได้ถูกจัดให้เป็นหนึ่งใน อันซีน อิน ไทยแลนด์ อีกด้วย
ถึงแม้การท่องเที่ยวทางน้ำของเราจะไปสิ้นสุดที่ อำเภอสังขละบุรี แต่ก็ไม่ได้หมายความถึงการเดินทางจะสิ้นสุดลง เมื่อขึ้นจากเรือแล้ว เราเดินทางไปนมัสการหลวงพ่ออุตมะ ที่วัดวังวิเวการาม วัดใหม่ที่ตั้งอยู่บนฝั่งหมู่บ้านชาวมอญวังกะ นมัสการพระพุทธรูปหยกขาว ที่มีน้ำหนักถึง 9 ตัน และเจดีย์พุทธคยาจำลอง ต่อด้วยเดินทางไปช๊อปปิ้งในฝั่งพม่าบริเวณด่านเจดีย์สามองค์ จากนั้นจึงเดินทางกลับโดยแวะชมน้ำตกเกริงกาเวีย และไปทานอาหารเย็นที่แพอาหารติดกับสะพานข้ามแม่น้ำแคว เป็นมื้ออำลาเมืองกาญจน์

แทบไม่น่าเชื่อครับว่า วันหยุดเสาร์ - อาทิตย์ เพียงสองวัน จะทำให้ผมและเพื่อนๆ ได้เดินทางท่องเที่ยวไปในหลายๆ สถานที่ได้ นี่ถ้าหากผมเดินทางเอง คงได้เที่ยวไม่ครบตามที่เล่ามา นอกจากทริปสองวันหนึ่งคืนแล้ว ทางแพผาผึ้ง และ สวนไทรโยค รีสอร์ท ก็มีทริปสามวันสองคืน ให้คุณๆ ได้เลือกเดินทางให้เหมาะสมกับวันหยุดพักผ่อน ลองโทรไปติดต่อสอบถามกันดูนะครับ การเดินทางท่องเที่ยวแบบคุ้มค่าคุ้มราคารอคุณอยู่ทุกวันครับผม...

 

     ทางรีสอร์ทได้จัดบริการรถรับส่งท่าน จากกรุงเทพฯ โดยจะจอดรอท่านอยู่ที่ห้างเมอร์รี่คิงส์ปิ่นเกล้า รถออกเวลา 7.00 น. และในวันเดินทางกลับ รถจะไปส่งท่านที่ปั๊มเอสโซ่ ตรงข้ามเมอร์รี่คิงส์ปิ่นเกล้า เวลาประมาณ 21.00 น. หากท่านมีความประสงค์จะเดินทางเอง ให้ใช้ ถนนเพชรเกษม ถนนบรมราชชนนี ผ่านเข้านครชัยศรี จังหวัดนครปฐม บ้านโป่ง ท่ามะกา ท่าม่วง ถึงตัวจังหวัดกาญจนบุรี จากนั้นขับผ่านถนนสายหลักในตัวเมืองไปจนถึงสี่แยกแก่งเสี้ยน เลี้ยวซ้ายไปทางที่จะไปอำเภอทองผาภูมิ เพื่อไปลงเรือที่ท่าแพผาผึ้ง หลัง เขื่อนเขาแหลม 

สำนักงานกรุงเทพฯ หมู่บ้านพฤกษ์ภิรมย์ปิ่นเกล้า 28/234 ม.ู่ 7 ถ.ตลิ่งชัน ต.บางม่วง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี 11140 โทร.0-2967-8181-4 แฟกซ์.0-2967-8184 มือถือ 0-1848-4469 , 0-1312-9703 , 0-1944-0898 www.riverkwaicabin.com

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook