บัลเลต์ จากคณะโอเปร่า และ บัลเลต์ โนโวซิบิส์ก

บัลเลต์ จากคณะโอเปร่า และ บัลเลต์ โนโวซิบิส์ก

บัลเลต์ จากคณะโอเปร่า และ บัลเลต์ โนโวซิบิส์ก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
รายการที่ 1 พฤหัสบดีที่ 14 และศุกร์ที่ 15 กันยายน 2543 บัลเล่ต์จากคณะโอเปร่าและบัลเล่ต์โนโวซิบิส์ก (Novosibirsk State Academic Opera and Ballet Theatre) คณะโอเปร่าและบัลเลต์โนโวซิบิส์ก เป็นหนึ่งในคณะโอเปร่าที่ใหญ่ที่สุดและมีชื่อเสียง ที่สุด ของรัสเซีย และเป็ที่รู้จักกันในฐานะคณะบอลชอยแห่งไซบีเรีย หลังจากที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2488 คณะฯก็สามารถ สร้างชื่อเป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยนำผลงานไปแสดง ณ โรงละคร ของคณะบอลชอย แห่งมอสโก และ คณะมาริอินสกีแห่ง เซนต์ปีเตอร์เบิร์ก และได้ออกแสดงผลงานในหลาย ประเทศทั่วโลก ได้แก่ สเปน, โปรตุเกส, เยอรมนี, โปแลนด์, ฝรั่งเศส, ฮอลแลนด์, ญี่ปุ่น, เบลเยี่ยม, ออสเตรเลีย, และ อียิปต์ เป็นต้นในปี พ.ศ.2506 คณะโอเปร่า และบัลเลต์ โนโวซิบิส์ก ได้รับเกียรติให้ใช้ชื่อ Academic ประกอบในชื่อ ของคณะ ซึ่งนับว่าเป็นเกียรติยศอย่างสูงอีกอย่างหนึ่งที่ได้รับ และเป็น การพิสูจน์ความสามารถในการพัฒนาทางศิลปะ อย่างต่อ เนื่อง ตลอดหลายปีที่ผ่านมาปัจจุบันโนโวซิบิสก์ ได้ชื่อ ว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดคณะโอเปร่าและบัลเลต์ของ รัสเซีย นักแสดงที่มีชื่อเสียงที่จะมาร่วมสร้าง ความสุข ให้กับคนไทยประกอบด้วย อเล็กซานเดอร์ เลเบดอฟ, โอเลก วีเดมาน, วาเลอรี กุยล์มานอฟ และ ตยานา โวโรชโซวา เป็นต้นตอนที่ 1Sheherazade World Premier เรื่องย่อ สุลต่านชาค (Shak) กำลังเพลิดเพลินอยู่กับนางสนม และ โซไบด้า มเหสีที่ทรงโปรด จากนั้น พระเชษฐาชาเฮซแมน ซึ่งเป็นคนที่มีความเชื่อว่าเพศหญิงนั้นปราศจากความซื่อสัตย์ ก็ก้าวเข้ามาต่อมาสุลต่านและพระเชษฐาก็พากันออกไปล่าสัตว์ ช่วงที่ทั้งคู่ไม่อยู่ที่ฮาเรมก็มีงานรื่นเริงและดื่มกินกันอย่าง สนุกสนาน ขณะที่สุลต่านกลับมาทั้งหมดก็ยังสนุกกันอยู่ พระองค์จึงทรงมีบัญชาให้ประหารชีวิต นางสนมขุนนาง และ ทาสผิวสีทั้งหมด ส่วนโซไบด้า ได้ฆ่าตัวตายในที่สุด จากผลงานการประพันธ์ของ นิโคไล ริมสกี้-คอร์ซาคอฟ นักประพันธ์ชั้นครูผู้โด่งดังชาวรัสเซีย งานที่มีชื่อเสียงของเขา รวมถึง The Spanish Suite (1887) และเรื่อง"Sheherazade Symphonic Suite" ซึ่งเขาแต่งขึ้นในปี ค.ศ. 1888 จากนิยายประโลมโลก ของอาหรับเรื่อง One Thousand and One Nights คณะโอเปร่าและบัลเล่ต์โนโวซิบิส์ก (Novosibirsk State Academic Opera and Ballet Theatre) ทำให้บัลเล่ต์เรื่องนี้มีความบรรเจิดด้วย เครื่องแต่งกาย ตระการตา การจัดเวทีรูปแบบใหม่และหมุนได้ซึ่งจะได้ เห็นเป็นครั้งแรกในการแสดง ณ กรุงเทพมหานครครั้งนี้ งานศิลป์ กำกับ โดย อิกอร์ กริเนวิช เจ้าของรางวัลเกียรติคุณ แห่งประเทศรัสเซีย ซึ่งมีผลงานออกแบบเครื่องแต่งกาย นักแสดงและ การจัดฉากที่ได้รับคำชื่นชมของคนทั่วโลกมาแล้วตอนที่ 2 Polovtsian Dances (From 2nd act of Prince Igor by Alexander Borodin) เรื่องย่อ ระบำโปลอฟต์เตียน (Polovtsian) นำมาจากผลงานเรื่อง เจ้าชายอิกอร์ (Prince Igor) ของ อเล็กซานเดอร์ โบโรดิน (Alexander Borodin) โดยใช้ตอน Chronicles of Prince Igors Detachment ซึ่งเป็นบทกวี ที่มีลักษณะ เฉพาะของวรรณกรรม รัสเซียในสมัยศตวรรษที่ 7 อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ทำงาน ในแวดวงโอเปร่ามาได้ 18 ปี โบโรดินก็เสียชีวิตลงอย่าง กระทันหัน ก่อน ที่ผลงานเรื่อง Prince Igor จะเสร็จ จากนั้นริมสกีคอร์ซาคอฟ และกลาซูนอฟ เป็นผู้สานต่อให้ งานของโบโรดินจนสำเร็จในที่สุด เนื้อเรื่องของ Prince Igor เกี่ยวกับชาวโปลอฟต์เตียน ซึ่งเป็นชนเผ่าเร่ร่อนในรัสเซีย ฉากของเรื่องเกิดขึ้น ณ แคมป์ ของพวกโปลอฟต์เตียน ซึ่งผู้ประพันธ์ได้สร้างสรรค์ท่าเต้น และบทเพลงที่ทั้งป่าเถื่อนและงดงาม บางช่วงก็มีความไพเราะ มากบางช่วงก็ร้อนแรงมากเช่นกัน โบโรดินได้ข้อมูลของพวก โปลอฟต์เตียนจากฮุนฟาลวี นักวิจัยชาวฮังการี ซึ่งได้ให้คำแนะนำ กับเขาว่าลูกหลานของพวกโปลอฟต์เตียนยังคงอาศัยอยู่ ในฮังการี รวมทั้งยังได้พรรณาถึงแนวดนตรีและการร่ายรำ แบบดั้งเดิมให้ทราบอีกด้วย ระบำโปลอฟต์เตียน จะเริ่มเล่นในองก์ที่สองของ Prince Igor ในแคมป์ซึ่งนักโทษและทาสโปลอฟต์เตียน พยายามที่จะสร้างความรื่นรมย์ให้กับเจ้าชายอิกอร์ ด้วยการร่ายรำอันมีเสน่ห์ตรึงตาของ พวกเขาตอนที่ 3Carmina Burana (Carl Orffs cantata-cum-ballet) เรื่องย่อ บัลเล่ต์ประกอบเพลง เรื่อง คาร์มิน่า ของ คาร์ล ออร์ฟ (Carl Orff) มีที่มาจากบทกวีโรแมนติกในยุคกลาง คำว่า คาร์มิน่า บูรานา (Carmina Burana) หมายความว่า บทเพลงของบัวเรน (Songs of Beuren) โดย โยฮันน์ แอนเดรียส์ สเมลเลอร์ (Johann Andreas Schmeller) เมื่อปี ค.ศ. 1847 ซึ่งเป็นบทที่มีที่มาจากโคลงกลอน ในยุคต้นศตวรรษที่ 13 ต้นฉบับที่พบเป็นภาษาเยอรมัน (พบเมื่อปี ค.ศ. 1803) ในโบสถ์เบเนดิคทิน (Benedictine Abbey) ในบาวาเรียน แอลป์ เนื้อเพลงและบทกลอนเหล่านี้ มีจารึกทั้งในภาษาละติน เยอรมัน และฝรั่งเศส ในช่วงสมัยกลาง โดย พวกโกเลีร์ดส (Goliards) ซึ่งเป็นนักบวช ปัญญาชน และพระที่ร่อนเร่พเนจรไปทั่ว เมื่อสมัย 700 กว่าปีที่ผ่านมา เนื้อหาเหล่านี้ประกอบไปด้วย บทเพลง และบทกลอน ประมาณ 200 บท ซึ่งมีทั้งเรื่องน่ากลัว และประโลมโลก มีสไตล์และรายละเอียด ที่แตกต่างกันตั้งแต่การพินิจพิจารณาเรื่องทางโลกไปจนถึงเรื่อง น่าละอายต่างๆ ต้นตอ ของโคลงกลอนนี้มีที่มาจากความมืดมัว คลุมเครือไม่แน่นอน แต่นับจากที่พวกโกเลีร์ดส ได้นำความ เชื่อคริสเตียนของตนมาผสม กับเรื่องราวประโลมโลก ก็ได้ทำให้เนื้อหาของบทกวียังปรากฏอยู่ แม้ในปัจจุบัน เหมือนกับตอนที่เพิ่งถูกเขียนขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การยอมรับ ในเรื่องความสุข ความงดงามแห่งชีวิต ยามฤดูใบไม้ผลิ และความป่าเถื่อนโหดร้ายยามชะตาชีวิตตกต่ำ ออกแบบท่าเต้นโดย อาร์มานโด้ กอร์จี ซึ่งความสำเร็จของเขา มีทั้งได้รับ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ St. Jabs Spade Order จากประเทศโปรตุเกส ละครบัลเล่ต์เรื่องนี้ ใช้นักแสดง และคณะ นักร้องประสานเสียงรวม 240 ชีวิต รวมทั้ง คณะนักร้อง ประสานเสียงเยาวชนด้วยบัลเล่ต์ โดย นักแสดง นักดนตรี และวงประสานเสียง กว่า 240 ชีวิต จากคณะโอเปร่าและบัลเล่ต์โนโวซิบิส์ก (Novosibirsk State Academic Opera and Ballet Theatre)จะแสดงในวันที่ พฤหัสบดีที่ 14 และศุกร์ที่ 15 กันยายน 2543 บัตรราคา 3000/2000/1500/1000/600 บาทรายการแสดงตลอด 2 เดือน บัลเล่ต์ โดยคณะโอเปร่าและบัลเล่ต์โนโวซิบิส์ก ละครโอเปร่า 4 องก์ เรื่อง La Boheme คอนเสิร์ตผสมผสานระหว่างดนตรีร็อคและดนตรีพื้นเมืองจากวง Les Yeux neuf บัลเล่ต์จากเทพนิยายเรื่อง Sleeping Beauty บัลเล่ต์ เรื่อง Legend of Love ออร์เคสตร้า โดยวง State Symphony Orchestra ละครเพลงดาวล้านดวง 3 องก์ ออกแบบโดยวรายุทธ มิลินทจินดา คอนเสิร์ตแจ๊ซ จากวง Pontabox ดนตรีแชมเบอร์ออร์เคสตร้าจากกรุงเบอร์ลิน ระบำฟลามิงโก้ และระบำสเปน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook