แม่น้ำของแผ่นดิน (ปีที่2) ชุดเล่าขานมหานคร

แม่น้ำของแผ่นดิน (ปีที่2) ชุดเล่าขานมหานคร

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ช่วงตลอดระยะเวลา หนึ่งเดือนที่ผ่านมา ท่านผู้อ่านคงได้ผ่านหูผ่านตากันมาบ้างกับ โฆษณาในสื่อโทรทัศน์ ที่ใช้ใช้พญานาคสีทอง พาดผ่านสะพานกรุงธนพร้อมด้วยเสียงประกอบที่ว่า "มหัศจรรย์การแสดงเหนือ แม่น้ำเจ้าพระยา จินตนาการเหนือจริงบนอัฒนจรรย์ลอยน้ำ" ผลสืบเนื่องจากการแสดงชุด "เจ้าพระยา แม่น้ำของแผ่นดิน" ที่จัดขึ้นเมื่อปี 2543 ในรูปแบบของ Theme Park Show โดยจัดแสดง ณ สถานที่สำคัญ 4 แห่งริมผั่งแม่น้ำเจ้าพระยาให้ผู้ชมลงเรือล่องไปชม ตามจุดต่างๆได้แก่ท่าน้ำวัดราชาธิวาส ป้อมพระสุเมรุ ท่าราชวรดิษฐ์ และวัดอรุณราชวราราม ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างงดงามในปีนี้การแสดงเหนือแม่น้ำแห่งวัฒนธรรมของกรุงเทพฯ จึงกลับมาอีกครั้งที่น่าตื่นตาตื่นใจกว่าครั้งที่แล้วด้วย เนื้อเรื่องใหม่ที่สร้างสรรค์จินตนาการเหนือจริง โดยไม่เกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์แต่อย่างใด จัดแสดงบนเวทีริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณท่าราชวรดิฐเพียงจุดเดียว โดยมีพระบรมมหาราชวัง เป็นฉากหลังอันงดงาม จัดที่นั่งให้ผู้ชมบนอัฒจันทร์ลอยน้ำขนาดใหญ่ในแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่จัด บรรยากาศแบบ Outdoor Theatre ในส่วนของ รูปแบบการแสดง นั้นผู้จัดการแสดงได้กล่าวว่า เป็นMagical Show ที่มีเนื้อเรื่อง แนว Fantasy นำเสนอแบบละครเพลง โดยผสมผสานเทคนิคพิเศษต่างๆที่ตื่นเต้นเร้าใจ พร้อมทั้งจัดการแสดง Mini Light & Sound ในบริเวณใกล้เคียง ที่วัดอรุณราชวราราม และป้อมวิชัยประสิทธิ์ กองทัพเรือ เพื่อสร้าง สีสันประกอบ การแสดงในแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วยโครงเรื่อง - เป็นเรื่องสมมุติเกี่ยวกับความเป็นไปของเมืองเทพที่แต่งขึ้นในเทพนิยาย โดยไม่เกี่ยวข้อหรือเชื่อมโยง กับประวัติศาสตร์ใดๆ - แบ่งการแสดงออกเป็น 9 องก์ได้แก่ นครแห่งเทวะ (The City of Angels), คาบสมุทรทองคำ ( Golden Penninsula), คลื่นใต้น้ำ (Under Current), มหาวายุแห่งจักรวรรดินิยม (The Great Colonialism Storm), สู่อารยะ (Civilization), ชะตากรรม (Destiny), ตระหนักรู้ (Realized), การกลับมาของปวงเทพ (Return of the Dheva) และ จากฟากฟ้าสู่แดนดิน (From Heaven to Earth) ตัวแสดงหลัก - สร้างสรรค์ตัวละครใหม่คือเทพเจ้าแห่งธาตุต่างๆ 8 องค์ ที่ปกครอง 8 ทิศในจักรวาลได้แก่ เทพแห่งไฟ, เทพแห่งเหล็ก,เทพแห่งทอง, เทพแห่งดิน, เทพแห่งน้ำ, เทพแห่งไม้, เทพแห่งลม และเทพแห่งภูผาผู้เนคมิตเมือง อันยิ่งใหญ่คือ"เทวนคร" หรือ City of Angelsรายละเอียดด้านการผลิต เทคนิคพิเศษ - Laser Vision & Animation ที่สวยงามและเข้ากับจังหวะดนตรี - ม่านน้ำขนาดใหญ่ กว้าง 32 เมตร เพื่อรองรับภาพ Animationที่ผลิตขึ้นโดยเฉพาะสำหรับการฉายบนม่านแม่น้ำ ซึ่งมีอัตราส่วนของภาพทีแตกต่างจอกภาพปกติทั่วไป - น้ำพุ เต้นระบำที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่มีในประเทศไทย ความสูง 15 เมตร แต่ละจุดสามารถฉีดน้ำได้ตามรูปแบบ ที่กำหนด ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์โดยมีหัวฉีดจำนวนมากถึง 198 หัว ในหนึ่งวันใช้น้ำมากถึง 1,000,000 ลิตร - ระบบแสง สี เสียง ที่ยิ่งใหญ่ตระการตา รวมทั้งระบบ Pyro Technique ที่ทันสมัย - สื่อการแสดงอื่นๆที่หลากหลาย แปลกใหม่ และยิ่งใหญ่ตะการตา ผู้ชมจะได้พบกับความมหัศจรยของการแสดง ที่ไม่จำกัดเฑอาะบนเวทีเท่านั้นแต่สร้างความตื่นเต้นระทึกใจจากใต้น้ำสู่ท้องฟ้าและรายรอบในทุกทิศทาง เป็น มหัศจรรย์การแสดงเหนือแม่น้ำเจ้าพระยา จินตนาการเหนือจริงบนอัฒนจรรย์ลอยน้ำท่านผู้อ่าน หลายๆท่านอาจสงสัยเรื่องของอัฒจรรย์ลอยน้ำว่าจะมีความปลอดภัยเพียงใด อยากให้ท่านผู้อ่าน ได้ลองดูจากรายละเอียดของการจัดสร้างอัฒจรรย์ ลอยน้ำเสียหน่อยว่า มั่นคงเพียงใด อัฒจรรย์ลอยน้ำ จำนวน 4 อัฒนจรรย์มี 12ชั้นที่นั่งด้วยเทคโนโลยีในการสร้างที่ทันสมัย ปลอดภัยแข็งแรง ตามมาตรฐานสากล ทำจากวัสดุ สำเร็จรูปที่มีน้ำหนักเบาแต่แข็งแรง ออกแบบและก่อสร้างโดย วิศวกรผู้เชี่ยวชาญ โครงสร้างเป็นเหล็กชนิดพิเศษที่เบา แต่แข็งแรงรองรับน้ำหนักได้มาก สะดวกต่อการติดตั้งและรื้อถอนด้วยระบบลิ่มล๊อคที่ผ่านการตรวจสอบแลรับรองความ ปลอดภัยแล้ว ทางเดิน ใช้แผ่นรองรับน้ำหนักที่ผลิตจากอลูมินั่ม (Aluminum Deck) จัดแบ่งพื้นที่ในการขึ้นลงอย่างเหมาะสม สะดวกสบาย ระบบที่นั่ง เก้าอี้ PVC แบบแยกส่วน แข็งแรง ติดตั้งง่าย เคลื่อนย้ายสะดวกฐานรองรับน้ำหนัก เป็นแพขนานยนตร์ขนาดใหญ่ จำนวน 4 แพ ต่อเชื่อมกัน สามารถรองรับน้ำหนักได้มากถึง 500 ตัน ในขณะที่ น้ำหนักโครงสร้างของอัฒจันทร์ รวมกับผู้ชมในแต่ละรอบประมาณ 80 ตันเท่านั้น นอกจากนี้ยังได้รับการทดสอบ ก่อนใช้งานจริงเป็นการแสดงที่หาดูได้ยากและ ในหนึ่งปีมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ถ้าเทียบกับราคาบัตร 800 บาท ถือว่าเป็นงาน ที่คุ้มค่ามากเมื่อเทียบกับความตั้งใจของผู้จัดและ การแสดง เพราะรายได้ส่วนหนึ่งจะมอบให้แก่องค์กรการกุศล การเดินทาง สถานที่จอดรถ ผู้เข้าชมสามารถจอดรถรับ-ส่ง ได้ที่บริเวณท่าราชวรดิฐ และนำรถไปจอดได้ที่บริเวณถนนมหาราช สำหรับรอบที่ 1 และ รอบที่ 3 ส่วนผู้เข้าชมในรอบที่ 2 จอดรถได้บริเวณท้องสนามหลวงโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ พร้อมทั้งมีเจ้าหน้าที่ ตำรวจอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยให้ สำหรับผู้เข้าชมที่อยู่บริเวณฝั่งธนบุรี สามารถจอดรถได้ที่กองสารวัตร ทหารเรือ กองทัพเรือ (พรานนก) โดยกองทัพเรือได้จัดเรือรับ-ส่งฟรี เพื่อข้ามฟากมายังบริเวณจัดงานด้วย ระยะเวลาจัดการแสดง 24 มกราคม -1 กุมภาพันธ์ 2544 (รวม 9 วัน ) รอบการแสดง วันละ 3 รอบ รอบที่ 1 เวลา 18.55-19.30 น. รอบที่ 2 เวลา 20.30-21.15 น. รอบที่ 3 เวลา 22.15-23.00 น. ความยาวของการแสดง 45 นาทีการเข้าชม แบ่งเป็น 2 บรรยากาศ 1. นั่งชมบนอัฒจรรย์ ลอยน้ำจำนวน 2000 ที่นั่ง / รอบ 2. นั่งชมบนเรือริเวอร์ไซด์ จำนวน 800 ที่นั่ง / รอบ (ลงเรือจากท่าน้ำของโรงแรงริเวอร์ไซด์ และล่องมาเทียบบริเวณอัฒจรรย์ เพื่อชมการแสดงจากจุดเดียวกัน) ราคาบัตร สำหรับการชมบนอัฒจรรย์ลอยน้ำ ราคา 800 บาท ทุกที่นั่ง (ระบุเลขที่นั่ง) สำหรับการชมบนเรือริเวอร์ไซด์ ราคา 1,000 บาททุกที่นั่ง (ระบุเลขที่นั่งพร้อมบริการอาหารค่ำบนเรือ) รูปแบบบัตร - บัตร PVC ขนาดเท่าบัตรเครดิต ด้านหน้าเป็นภาพ พระบรมมหาราชวัง มองจากแม่น้ำเจ้าพระยาโดยมีเรือ สุพรรณหงส์อยู่บริเวณริมฝั่ง ด้านหลังระบุวันที่ เวลาในรอบการแสดง และเลขที่นั่ง สถานที่จำหน่ายบัตร บริษัทไทยประสิทธิเนชั่นไวด์ จำกัด (สำหรับที่นั่งบนอัฒจรรย์) โทร 632-5565-67 พระบรมมหาราชวัง (สำหรับที่นั่งบนอัฒจรรย์) โทร 623-5500 ต่อ 1120-1122, 3102 และ 222-2208 โรงแรมริเวอร์ไซด์ (สำหรับที่นั่งบนเรือริเวอร์ไซด์) โทร 883-1588-94 ทีมงานวันว่าง ท่านผู้อ่านมีคำแนะนำหรือติชมหรือคุยกับทีมงานวันว่างได้ที่ leisure@th.mweb.com
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook