เริ่มขึ้นแล้วสำหรับงาน "มหกรรม ศิลปะการแสดง และดนตรีนานาชาติ" ซึ่งจัดให้มีขึ้นทุกปี และในปีนี้ซึ่งนับเป็น ครั้งที่ 4 แล้ว ก็มีทั้งละครร้อง, ซิมโฟนี, และการแสดงจากนานาประเทศ หลายแบบหลากอารมณ์ด้วยการแสดงทั้ง หมดถึง 18 ชุด มากกว่าปีที่ผ่าน ๆ มา ให้ชาวกรุงได้เสพสมอารมณ์ศิลป์กันเต็มที่ สมกับความเป็น 'กรุง' แห่ง 'เทพ'
งานมหกรรมครั้งนี้ เปิดตัวด้วย การแสดงละครร้อง (Operat) เรื่อง "ไอด้า" (Aida) อันเป็นโอเปราที่มีชื่อเสียงมากที่สุดเรื่องหนึ่งของ จูเซปเป แวร์ดี ที่ครั้งนี้ถูกนำ เสนอโดยคณะนักร้อง, นักดนตรี และ นักแสดงกว่า 240 ชีวิต ของคณะ "บูคาเรสต์เนชั่นแนลโอเปรา" จากประเทศโรมาเนีย พร้อมฉากยิ่งใหญ่และ เครื่องแต่งกายงดงามตระการตาในยุคสมัยของ ฟาโรห์ แห่งอียิปต์"ไอด้า" เป็นโอเปรา ที่จัดแสดง ครั้งแรกที่ไคโรโอเปรา เฮ้าส์ในคืน คริสต์มาสอีฟเมื่อ พ.ศ. 2414 ตามพระประสงค์ของกษัตริย์อียิปต์ ที่ปรารถนาให้มีโอเปราซึ่งสะท้อนอดีตกาล แห่งอียิปต์สู่สาธารณชน โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับ ความรักสามเส้าระหว่างจอมทัพแห่ง อียิปต์นาม "ราดาเมส" กับเจ้าหญิงอียิปต์ ที่นอกจากความเหมาะสมกันทางสถานะ สังคมแล้ว เจ้าหญิงเองก็ทรงหลงรัก "ราดาเมส" อย่างจริงจัง ทว่าหญิงที่กุมหัว ใจเขาไว้กลับเป็น "ไอด้า" นางทาส ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นหญิงสูงศักดิ์จากเมืองศัตรู (เอธิโอเปีย) แม้ว่าทั้งไอด้า และ ราดาเมสจะรักกันมากเพียงใด แต่เมื่ออียิปต์และเอธิโอเปียได้ ประกาศสงคราม ต่อกันแล้ว ความรักครั้งนี้จึงถึงทางที่ต้องเลือก ระหว่างชายผู้เป็นที่รัก หรือ ภักดีต่อ บิดาและพี่น้อง, ระหว่างความสุขส่วนตัวและ สมหวังในรัก หรือ ภาระหน้าที่ที่มี ต่อแผ่นดินบ้านเกิด อันเป็นการตัดสินใจที่ไม่ง่ายนัก และฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดต้องทน ทุกข์ต่อไปกับการตัดสินใจในครั้งนี้
แม้ว่าในท้ายที่สุดแล้ว "ไอด้า" เลือกที่จะทำตามที่บิดาขอร้อง ด้วยการ หลอกถามความลับในการศึกจาก "ราดาเมส" ซึ่งทำให้เขาได้ถูกกล่าวโทษกลายเป็น คนทรยศต่อบ้านเกิดเขาเอง และแม้ว่าเจ้าหญิงจะเสนอที่จะช่วยโดยแลกกับการ ต้องตัดใจจาก "ไอด้า" ตลอดไป"ราดาเมส" เลือกที่จะเผชิญหน้ารับโทษทัณฑ์ ในครั้งนี้ "เพราะหากชีวิตที่เหลืออยู่ปราศจาก "ไอด้า" แล้วไซร้ ก็คงเป็นความทุกข์ ทรมานเสียยิ่งกว่าความตาย" อดีตจอมทัพแห่งอียิปต์จึงต้องรับคำพิพากษาจาก นักบวชให้ได้รับโทษสูงสุดด้วยการฝังทั้งเป็นในสุสานทว่าก่อนที่ก้อนหินก้อน สุดท้ายจะถูกปิดตาย เขาได้พบว่า "ไอด้า" ได้แอบลอบเข้ามารอเขาอยู่ในสุสาน รอคอยที่จะได้ครองคู่กับชายที่รักตราบชั่วนิรันดร กาลในสุสานแห่งนั้นเองจากการพูดคุยกับชาวต่างประเทศที่มาชมการแสดง คุณโอลิเวอร์ เอ. เจนเซ่นส์ (กรรมการผู้จัดการคอฟฟี่ เวิลด์) ได้ให้ทัศนะว่ารู้สึกประทับใจที่มีงาน มหกรรมอย่างนี้ขึ้นในเมืองไทย ทำให้ชาวต่างประเทศที่มาทำงานในไทยยังคง ได้รับอรรถรสจากศิลปะการแสดงตามแบบตะวันตกได้บ้าง ซึ่งโอเปราเรื่อง "ไอด้า" ที่ผ่านมา นับว่าสามารถทำได้ดีมาก ซึ่งเขาและภรรยารู้สึกชื่นชอบ และแน่นอนว่า จะต้องกลับมาดูการแสดงอื่น ๆ อีกทั้งที่มีในปีนี้ และในปีถัด ๆ ไป
"ไอด้า" จะเปิดแสดงรอบต่อไปในวันเสาร์ที่ 14 กันยายน 2545 นี้ และ ยังมีการแสดงอีกมากมายหลายชุดที่รอคอยให้คุณสัมผัสได้ตั้งแต่วันนี้ - 13 ตุลาคม 2545 ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ติดต่อจองบัตรได้ที่ 02 - 661 6235-7, เคานท์เตอร์ เซอร์วิส 02 - 631 1100, อเมริกัน เอ็กเพรส 02 - 273 5200 ซึ่งใคร ที่เป็นสมาชิก ยูบีซีสามารถรับส่วนลด 10 % ได้ด้วย แต่ถ้าอยากดูฟรีแบบมีลุ้น ท่านสามารถร่วมสนุกกับทาง M Web ด้วยการตอบคำถามในหน้า "วันว่าง"งานนี้ ต้องรีบ ๆ กันหน่อย เพราะที่นั่งเต็มเกือบทุกรอบการแสดง.
เรียบเรียงโดย: สุทธาสินี พิริยะกร
Leisure Team
เริ่มขึ้นแล้วสำหรับงาน "มหกรรม ศิลปะการแสดง และดนตรีนานาชาติ" ซึ่งจัดให้มีขึ้นทุกปี และในปีนี้ซึ่งนับเป็น ครั้งที่ 4 แล้ว ก็มีทั้งละครร้อง, ซิมโฟนี, และการแสดงจากนานาประเทศ หลายแบบหลากอารมณ์ด้วยการแสดงทั้ง หมดถึง 18 ชุด มากกว่าปีที่ผ่าน ๆ มา ให้ชาวกรุงได้เสพสมอารมณ์ศิลป์กันเต็มที่ สมกับความเป็น 'กรุง' แห่ง 'เทพ'
งานมหกรรมครั้งนี้ เปิดตัวด้วย การแสดงละครร้อง (Operat) เรื่อง "ไอด้า" (Aida) อันเป็นโอเปราที่มีชื่อเสียงมากที่สุดเรื่องหนึ่งของ จูเซปเป แวร์ดี ที่ครั้งนี้ถูกนำ เสนอโดยคณะนักร้อง, นักดนตรี และ นักแสดงกว่า 240 ชีวิต ของคณะ "บูคาเรสต์เนชั่นแนลโอเปรา" จากประเทศโรมาเนีย พร้อมฉากยิ่งใหญ่และ เครื่องแต่งกายงดงามตระการตาในยุคสมัยของ ฟาโรห์ แห่งอียิปต์"ไอด้า" เป็นโอเปรา ที่จัดแสดง ครั้งแรกที่ไคโรโอเปรา เฮ้าส์ในคืน คริสต์มาสอีฟเมื่อ พ.ศ. 2414 ตามพระประสงค์ของกษัตริย์อียิปต์ ที่ปรารถนาให้มีโอเปราซึ่งสะท้อนอดีตกาล แห่งอียิปต์สู่สาธารณชน โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับ ความรักสามเส้าระหว่างจอมทัพแห่ง อียิปต์นาม "ราดาเมส" กับเจ้าหญิงอียิปต์ ที่นอกจากความเหมาะสมกันทางสถานะ สังคมแล้ว เจ้าหญิงเองก็ทรงหลงรัก "ราดาเมส" อย่างจริงจัง ทว่าหญิงที่กุมหัว ใจเขาไว้กลับเป็น "ไอด้า" นางทาส ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นหญิงสูงศักดิ์จากเมืองศัตรู (เอธิโอเปีย) แม้ว่าทั้งไอด้า และ ราดาเมสจะรักกันมากเพียงใด แต่เมื่ออียิปต์และเอธิโอเปียได้ ประกาศสงคราม ต่อกันแล้ว ความรักครั้งนี้จึงถึงทางที่ต้องเลือก ระหว่างชายผู้เป็นที่รัก หรือ ภักดีต่อ บิดาและพี่น้อง, ระหว่างความสุขส่วนตัวและ สมหวังในรัก หรือ ภาระหน้าที่ที่มี ต่อแผ่นดินบ้านเกิด อันเป็นการตัดสินใจที่ไม่ง่ายนัก และฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดต้องทน ทุกข์ต่อไปกับการตัดสินใจในครั้งนี้
แม้ว่าในท้ายที่สุดแล้ว "ไอด้า" เลือกที่จะทำตามที่บิดาขอร้อง ด้วยการ หลอกถามความลับในการศึกจาก "ราดาเมส" ซึ่งทำให้เขาได้ถูกกล่าวโทษกลายเป็น คนทรยศต่อบ้านเกิดเขาเอง และแม้ว่าเจ้าหญิงจะเสนอที่จะช่วยโดยแลกกับการ ต้องตัดใจจาก "ไอด้า" ตลอดไป"ราดาเมส" เลือกที่จะเผชิญหน้ารับโทษทัณฑ์ ในครั้งนี้ "เพราะหากชีวิตที่เหลืออยู่ปราศจาก "ไอด้า" แล้วไซร้ ก็คงเป็นความทุกข์ ทรมานเสียยิ่งกว่าความตาย" อดีตจอมทัพแห่งอียิปต์จึงต้องรับคำพิพากษาจาก นักบวชให้ได้รับโทษสูงสุดด้วยการฝังทั้งเป็นในสุสานทว่าก่อนที่ก้อนหินก้อน สุดท้ายจะถูกปิดตาย เขาได้พบว่า "ไอด้า" ได้แอบลอบเข้ามารอเขาอยู่ในสุสาน รอคอยที่จะได้ครองคู่กับชายที่รักตราบชั่วนิรันดร กาลในสุสานแห่งนั้นเองจากการพูดคุยกับชาวต่างประเทศที่มาชมการแสดง คุณโอลิเวอร์ เอ. เจนเซ่นส์ (กรรมการผู้จัดการคอฟฟี่ เวิลด์) ได้ให้ทัศนะว่ารู้สึกประทับใจที่มีงาน มหกรรมอย่างนี้ขึ้นในเมืองไทย ทำให้ชาวต่างประเทศที่มาทำงานในไทยยังคง ได้รับอรรถรสจากศิลปะการแสดงตามแบบตะวันตกได้บ้าง ซึ่งโอเปราเรื่อง "ไอด้า" ที่ผ่านมา นับว่าสามารถทำได้ดีมาก ซึ่งเขาและภรรยารู้สึกชื่นชอบ และแน่นอนว่า จะต้องกลับมาดูการแสดงอื่น ๆ อีกทั้งที่มีในปีนี้ และในปีถัด ๆ ไป
"ไอด้า" จะเปิดแสดงรอบต่อไปในวันเสาร์ที่ 14 กันยายน 2545 นี้ และ ยังมีการแสดงอีกมากมายหลายชุดที่รอคอยให้คุณสัมผัสได้ตั้งแต่วันนี้ - 13 ตุลาคม 2545 ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ติดต่อจองบัตรได้ที่ 02 - 661 6235-7, เคานท์เตอร์ เซอร์วิส 02 - 631 1100, อเมริกัน เอ็กเพรส 02 - 273 5200 ซึ่งใคร ที่เป็นสมาชิก ยูบีซีสามารถรับส่วนลด 10 % ได้ด้วย แต่ถ้าอยากดูฟรีแบบมีลุ้น ท่านสามารถร่วมสนุกกับทาง M Web ด้วยการตอบคำถามในหน้า "วันว่าง"งานนี้ ต้องรีบ ๆ กันหน่อย เพราะที่นั่งเต็มเกือบทุกรอบการแสดง.
เรียบเรียงโดย: สุทธาสินี พิริยะกร
Leisure Team
